ตามดูมาทุกภาค ส่วนนึงเพราะนางเอกด้วย(อิ อิ )
ช่างใจอยุ่นานว่าจะไปดูดีมั้ย เพราะได้อ่านกระทุ้วิจารณ์จากหลายคนแล้วใจแป้วครับ
ทั้งที่ รอข่าวมาตลอดว่าถ้าฉายเมื่อไหร่คงต้องเข้าไปดูในโรง แต่เจอหลายเสียงบอกหนังห่วยกว่าภาค4อีก มีแต่แอคชั่น เนื้อเรี่องไม่ไปไหน
ทีแรกผมงี้ เกือบตัดใจ กลัวว่าจะเป็นเหมือนRESIDENT EVIL ยิ่งทำยิ่งเลอะเทอะ ที่หลังจบภาค2ผมดูภาค3 4 5 ไม่สนุกเลย
แต่สุดท้ายก็ยอมเสี่ยงดูครับ เพราะได้ยินว่าทั้งเรื่องมืดตลอด ถ้าขืนรอดูออนไลน์หน้าจอคอม หรือซื้อแผ่นมาเปิดดูที่บ้าน(ซึ่งคงนานอีกหลายเดือน) สายตาผมคงไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้มากนัก
วันนี้ผมไปดูรอบสองทุ่มมาที่MBK คับ พูดเลยคนน้อยมาก ทั้งที่ห้างจัดฉายในโรง3 ห้องอยู่ชั้นบน ซึ่งเป็นโรงที่ใหญ่กว่าห้องชั้นล่างอีกนะ แต่เปิดประตูเข้าไปทั้งโรงมีอยู่สิบกว่าคนเองมั้ง ผมเลือกนั่งเก้าอี้แถวE ซึ่งฝั่งของผมมีคนนั่งกันแค่3คนครับ (แต่ตอนซื้อตั๋วผมจำได้ว่า ยังมีอีก2ท่านจองเก้าอี้ข้างๆผมไว้ด้วย แต่ถึงเวลาฉายจริง เก้าอี้2ตัวนั้นว่างแฮะ )
ทีนี้เมื่อหนังเริ่มฉาย ได้ดูไปจนจบ ก็รู้สึกโอเคกับเนื้อเรื่องและหลายๆฉากนะครับ
มันคงไม่ถึงกับดีเท่า 2ภาคแรก แต่มันก็ไม่ใช่ภาคที่แย่ที่สุดล่ะครับ ผมคิดว่ายังสนุกกว่าภาค3-4อีกนะ
โทนเรื่อง เป็นสูตรสำเร็จเดิมๆ ดูไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกลุ้นระทึกใจหายใจคว่ำเท่าไหร่ แต่ผมมองว่าโทนหนังดูคล้ายภาคแรกอยู่ครับ ไม่หวือหวาอลังการไรมาก ก็แค่เรื่องของ2แก๊งค์แวมไพร์กับหมาป่าไล่ตบตีกัน ฉากฉากแอคชั่นอาจจะน้อยกว่าภาคก่อนด้วยซ้ำ แต่หนังก็ยังมีอย่างอื่นที่ดึงดูดให้ผมโฟกัสดูมันต่อไปได้โดยไม่รู้สึกว่ามีฉากไหนน่าเบื่อเลย
แต่ที่หลายคนผิดหวัง คงเพราะคาดหวังกับตัวหนังว่าจะสเกลใหญ่กว่านี้หรือเปล่า แต่สำหรับผมไม่เคยคิดแบบนั้นแต่แรกครับ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มาจากค่ายอะไร ภาคแรกตั้งต้นมาจากหนังเกรดไหน ก็รู้อยู่แล้ว เพราะงั้นการที่ภาคนี้สเกลหนังไม่ได้ใหญ่เหมือนภาค2 แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรครับ อย่างดีก็แค่เสมอตัว แต่เอาเป็นว่าผมดูแล้ว รู้สึกดีกว่าตอนดูภาค3-4ครับ
หลายคนบอก หนังตัดฉากเร็วมาก สลับภาพไปมาจนดูไม่รู้เรื่อง อันนี้ไม่จริงเลย หนังไม่ได้ไปไวขนาดนั้น พวกฉากระลึกอดีตก็เอาภาพแฟลตแบคจากภาคก่อนๆมาทั้งนั้น ถ้าเคยดูและจำเนื้อเรื่องภาคก่อนๆมาได้ ก้ดูเข้าใจครับ
จุดที่ว่าหนังสั้นลง ยาวไม่ถึง2ชม. อันนี้จริงครับ จบเร็วไป แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมเหมือนกันที่เคยชินกับการดุหนังญี่ปุ่นซึ่งเวลาฉายเฉลี่ยอยุ่ที่ 75-90นาที จะว่าไปการที่หนังเรื่องนี้สั้นลงอาจเป็นข้อดีก็ได้ ที่ทำให้เนื้อเรื่องไปไว ไม่มีฉากน่าเบื่อน่ารำคาญให้คนดูง่วงนะครับ
ตัวละครในเรื่องนี้ หากไม่นับนางเอก ทั้งหมดเป็นตัวละครใหม่หมดเลย (แวมไพร์ที่ชื่อเดวิด ผมไม่แน่ใจว่าภาคที่แล้วมีบทไรมั่งมั้ย จำไม่ได้ละ) อาจเพราะจุดนี้ก็ได้ ที่ทำให้ตัวละครส่วนใหญ่ไม่มีปมน่าสนใจไรมาก คนดูยังไม่รูสึกผูกพันธ์ เพราะงั้นจะให้พวกมันมีบทอยู่ หรือตาย หรือหายไปไหน ก็ไม่ได้อิมแพคความรู้สึกคนดูทั้งนั้น ( แต่ตัวละครสาวๆในภาคนี้ ยังน่าดึงดูดอยู่เหมือนเดิม อิ อิ )
เนื้อหาส่วนที่น่าสนใจจริงๆ คือ การกล่าวถึงทายาทของเอมิเลีย 1ใน3ผู้อาวุโสของแวมไพร์ ซึ่งในภาค1-2 มีบทแทบจะเรียกได้ว่าตัวประกอบมากๆ ถูกเขียนบทให้โผล่มาแป๊บเดียวตายเลย แต่ภาคนี้มีการเฉลยปูมหลังของเอมีเลียเพิ่มมาทำให้มีหนังมีน้ำมีเนื้อไปบันทึกอยู่ในtimeline เพิ่มได้อีกครับ
ตัวร้ายในเรื่องนี้ หลายคนบอกตายง่ายเกิน ตายแบบไม่สมศักดิ์ศรีตัวร้ายเลย อันนี้ผมวิเคราะห์แบบแฟร์ๆนะครับ คือ ยังไงเสียผุ้ร้ายภาคนี้ เลเวลมันก็แค่ไลเคนธรรมดาตัวหนึ่งที่อัพพลังเพิ่มขึ้นได้ชั่วขณะจากการกินเลือดของไฮบริดจ์แค่นั้นเอง แต่ตัวตนจริงระดับความสามารถมันต่ำกว่าบอสภาค1-2 อยู่แล้วนะครับ การที่มันไล่ต้อนนางเอกจนตายไปรอบนึงได้ แค่นี้ก็ถือว่าพอแล้วล่ะ
แต่ใจจริงผมอยากให้ตัวบอสภาคนี้คือคุณป้าแวมไพร์เจ้าเล่ห์เสียมากกว่า เพราะเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แถมมีปมจากการที่พ่อตัวเองคือหนึ่งใน3ผู้อาวุโสแวมไพร์ถูกเซลีนฆ่าอีก ถ้าหนังโฟกัสบทมาที่คุณป้าคนนี้แทนไลแคน หนังจะมีอะไรๆเพิ่มกว่านี้อีกหลายเท่า
ส่วนจุดที่ดูตลกจริงๆ คือ ฉากทำสงครามของ2เผ่า ซึ่งท่าทีที่ฝั่งไลแคนพูดถึงการบุกป้อมปรากการของพวกแวมไพร์ดูจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก ราวกับต้องเตรียมจัดทัพวางกลยุทธ์ทำสงครามข้ามอาณาจักรไรขนาดนั้น แต่พอเอาเข้าจริง ก็เหมือนที่กระทู้ท่านนึงบอก ว่ามันก็แค่แก็งค์2เจ้าพ่อยกพวกตะลุมบอนกันเฉยๆมากกว่า ซึ่งก็ไม่ต่างจากสเกลภาคแรกเท่าไหร่นัก
รังของแวมไพร์ก็แค่คฤหาสน์ใหญ่ๆลังนึง ไม่ใช่ปราสาทบนภูเขามีป่ามีคลองมีกับดักหลายชั้นป้องกันข้าศึกไร แล้วด้วยศักยภาพของฝั่งไลแคนตอนเนี้ย ถ้ารีบบุกไปซะทีแรกก่อนนางเอกจะถูกเชิญตัวมา ยังไงก็ชนะได้ตั้งนานแล้ว ก็ไม่รู้จะมัวไปตามล่าหาลูกนางเอกก่อนทำไม ในเมื่อภาพที่เห็นคือ ลำพังพวกไลแคนกับหัวหน้ามันก็สามารถถล่มรังของแวมไพร์ในตอนนี้ได้อยู่แล้ว หากนางเอกไม่ตามมาช่วยครับ
แต่สรุปโดยรวม เป็นหนังที่ดูได้ ไม่รู้สึกเสียดายเงินนะครับ เนื้อเรื่องไม่ออกทะเลเละเทะอย่างเฟรนไชน์หนังบางเรื่อง ฉากแอคชั่นไม่จัดหนักเท่าไหร่แต่ก็ไม่น่าเกลียดครับ ดุได้สนุกๆ เนื้อหาในหนังก็ยังมีน้ำมีเนื้อให้น่าติดตามครับ ไม่มีฉากที่ดูแล้วผิดหวัง แต่ก็ไม่มีฉากไหนที่ทำให้อ้าปากค้างร้องอู้หู ซี้ดซ้าดอะไร
กับภาคนี้ผมให้ว่า ทำออกมาแล้วเสมอตัวครับ ไม่ดีไม่แย่ แต่เจ๊เคทยังสวยเหมือนเดิม โอเคละ
สปอยล์เรื่องลูกสาวนางเอก ที่ผมเห็นต่างจากคนอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลายคนบอกลูกสาวนางเอกมาตอนจบในฉากที่นางเอกกำลังนั่งอยู่บนน้ำแข็ง แต่ผมคิดว่า...
ลูกสาวนางเอกโผล่ามาตั้งแต่ฉากในคฤหาสน์ตอนที่นางเอกกำลังดื่มเลือดเข้าเป็นผุ้อาวุโสของแวมไพร์แล้วนะครับ
ลูกสาวนางเอกคือคนที่อยู่ในอาณาจักรวอดอร์ แล้วเก็บเส้นผมไว้ในแขนเสื้อ ตอนนางเอกดื่มเลือด เธอหยิบเส้นผมออกมาให้นางเอกเห็นตอนท้ายครับ
ฝากกระทู้ไว้ สำหรับท่านที่จำเนื้อเรื่อง4ภาคแรกไม่ได้ หรือจำชื่อความเป็นมาของตัวละครในอดีตไม่ได้แล้ว แนะนำให้อ่านกระทู้สรุปเหตุการณ์เรื่องราวของUNDERWORLD ภาคเก่าๆก่อนครับ แล้วจะดูภาคนี้ได้เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น
http://ppantip.com/topic/35900842
UNDERWORLD5 ดูมาแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะแย่เท่าที่หลายคนวิจารณ์นะครับ
ช่างใจอยุ่นานว่าจะไปดูดีมั้ย เพราะได้อ่านกระทุ้วิจารณ์จากหลายคนแล้วใจแป้วครับ
ทั้งที่ รอข่าวมาตลอดว่าถ้าฉายเมื่อไหร่คงต้องเข้าไปดูในโรง แต่เจอหลายเสียงบอกหนังห่วยกว่าภาค4อีก มีแต่แอคชั่น เนื้อเรี่องไม่ไปไหน
ทีแรกผมงี้ เกือบตัดใจ กลัวว่าจะเป็นเหมือนRESIDENT EVIL ยิ่งทำยิ่งเลอะเทอะ ที่หลังจบภาค2ผมดูภาค3 4 5 ไม่สนุกเลย
แต่สุดท้ายก็ยอมเสี่ยงดูครับ เพราะได้ยินว่าทั้งเรื่องมืดตลอด ถ้าขืนรอดูออนไลน์หน้าจอคอม หรือซื้อแผ่นมาเปิดดูที่บ้าน(ซึ่งคงนานอีกหลายเดือน) สายตาผมคงไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้มากนัก
วันนี้ผมไปดูรอบสองทุ่มมาที่MBK คับ พูดเลยคนน้อยมาก ทั้งที่ห้างจัดฉายในโรง3 ห้องอยู่ชั้นบน ซึ่งเป็นโรงที่ใหญ่กว่าห้องชั้นล่างอีกนะ แต่เปิดประตูเข้าไปทั้งโรงมีอยู่สิบกว่าคนเองมั้ง ผมเลือกนั่งเก้าอี้แถวE ซึ่งฝั่งของผมมีคนนั่งกันแค่3คนครับ (แต่ตอนซื้อตั๋วผมจำได้ว่า ยังมีอีก2ท่านจองเก้าอี้ข้างๆผมไว้ด้วย แต่ถึงเวลาฉายจริง เก้าอี้2ตัวนั้นว่างแฮะ )
ทีนี้เมื่อหนังเริ่มฉาย ได้ดูไปจนจบ ก็รู้สึกโอเคกับเนื้อเรื่องและหลายๆฉากนะครับ
มันคงไม่ถึงกับดีเท่า 2ภาคแรก แต่มันก็ไม่ใช่ภาคที่แย่ที่สุดล่ะครับ ผมคิดว่ายังสนุกกว่าภาค3-4อีกนะ
โทนเรื่อง เป็นสูตรสำเร็จเดิมๆ ดูไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกลุ้นระทึกใจหายใจคว่ำเท่าไหร่ แต่ผมมองว่าโทนหนังดูคล้ายภาคแรกอยู่ครับ ไม่หวือหวาอลังการไรมาก ก็แค่เรื่องของ2แก๊งค์แวมไพร์กับหมาป่าไล่ตบตีกัน ฉากฉากแอคชั่นอาจจะน้อยกว่าภาคก่อนด้วยซ้ำ แต่หนังก็ยังมีอย่างอื่นที่ดึงดูดให้ผมโฟกัสดูมันต่อไปได้โดยไม่รู้สึกว่ามีฉากไหนน่าเบื่อเลย
แต่ที่หลายคนผิดหวัง คงเพราะคาดหวังกับตัวหนังว่าจะสเกลใหญ่กว่านี้หรือเปล่า แต่สำหรับผมไม่เคยคิดแบบนั้นแต่แรกครับ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มาจากค่ายอะไร ภาคแรกตั้งต้นมาจากหนังเกรดไหน ก็รู้อยู่แล้ว เพราะงั้นการที่ภาคนี้สเกลหนังไม่ได้ใหญ่เหมือนภาค2 แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรครับ อย่างดีก็แค่เสมอตัว แต่เอาเป็นว่าผมดูแล้ว รู้สึกดีกว่าตอนดูภาค3-4ครับ
หลายคนบอก หนังตัดฉากเร็วมาก สลับภาพไปมาจนดูไม่รู้เรื่อง อันนี้ไม่จริงเลย หนังไม่ได้ไปไวขนาดนั้น พวกฉากระลึกอดีตก็เอาภาพแฟลตแบคจากภาคก่อนๆมาทั้งนั้น ถ้าเคยดูและจำเนื้อเรื่องภาคก่อนๆมาได้ ก้ดูเข้าใจครับ
จุดที่ว่าหนังสั้นลง ยาวไม่ถึง2ชม. อันนี้จริงครับ จบเร็วไป แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมเหมือนกันที่เคยชินกับการดุหนังญี่ปุ่นซึ่งเวลาฉายเฉลี่ยอยุ่ที่ 75-90นาที จะว่าไปการที่หนังเรื่องนี้สั้นลงอาจเป็นข้อดีก็ได้ ที่ทำให้เนื้อเรื่องไปไว ไม่มีฉากน่าเบื่อน่ารำคาญให้คนดูง่วงนะครับ
ตัวละครในเรื่องนี้ หากไม่นับนางเอก ทั้งหมดเป็นตัวละครใหม่หมดเลย (แวมไพร์ที่ชื่อเดวิด ผมไม่แน่ใจว่าภาคที่แล้วมีบทไรมั่งมั้ย จำไม่ได้ละ) อาจเพราะจุดนี้ก็ได้ ที่ทำให้ตัวละครส่วนใหญ่ไม่มีปมน่าสนใจไรมาก คนดูยังไม่รูสึกผูกพันธ์ เพราะงั้นจะให้พวกมันมีบทอยู่ หรือตาย หรือหายไปไหน ก็ไม่ได้อิมแพคความรู้สึกคนดูทั้งนั้น ( แต่ตัวละครสาวๆในภาคนี้ ยังน่าดึงดูดอยู่เหมือนเดิม อิ อิ )
เนื้อหาส่วนที่น่าสนใจจริงๆ คือ การกล่าวถึงทายาทของเอมิเลีย 1ใน3ผู้อาวุโสของแวมไพร์ ซึ่งในภาค1-2 มีบทแทบจะเรียกได้ว่าตัวประกอบมากๆ ถูกเขียนบทให้โผล่มาแป๊บเดียวตายเลย แต่ภาคนี้มีการเฉลยปูมหลังของเอมีเลียเพิ่มมาทำให้มีหนังมีน้ำมีเนื้อไปบันทึกอยู่ในtimeline เพิ่มได้อีกครับ
ตัวร้ายในเรื่องนี้ หลายคนบอกตายง่ายเกิน ตายแบบไม่สมศักดิ์ศรีตัวร้ายเลย อันนี้ผมวิเคราะห์แบบแฟร์ๆนะครับ คือ ยังไงเสียผุ้ร้ายภาคนี้ เลเวลมันก็แค่ไลเคนธรรมดาตัวหนึ่งที่อัพพลังเพิ่มขึ้นได้ชั่วขณะจากการกินเลือดของไฮบริดจ์แค่นั้นเอง แต่ตัวตนจริงระดับความสามารถมันต่ำกว่าบอสภาค1-2 อยู่แล้วนะครับ การที่มันไล่ต้อนนางเอกจนตายไปรอบนึงได้ แค่นี้ก็ถือว่าพอแล้วล่ะ
แต่ใจจริงผมอยากให้ตัวบอสภาคนี้คือคุณป้าแวมไพร์เจ้าเล่ห์เสียมากกว่า เพราะเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แถมมีปมจากการที่พ่อตัวเองคือหนึ่งใน3ผู้อาวุโสแวมไพร์ถูกเซลีนฆ่าอีก ถ้าหนังโฟกัสบทมาที่คุณป้าคนนี้แทนไลแคน หนังจะมีอะไรๆเพิ่มกว่านี้อีกหลายเท่า
ส่วนจุดที่ดูตลกจริงๆ คือ ฉากทำสงครามของ2เผ่า ซึ่งท่าทีที่ฝั่งไลแคนพูดถึงการบุกป้อมปรากการของพวกแวมไพร์ดูจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก ราวกับต้องเตรียมจัดทัพวางกลยุทธ์ทำสงครามข้ามอาณาจักรไรขนาดนั้น แต่พอเอาเข้าจริง ก็เหมือนที่กระทู้ท่านนึงบอก ว่ามันก็แค่แก็งค์2เจ้าพ่อยกพวกตะลุมบอนกันเฉยๆมากกว่า ซึ่งก็ไม่ต่างจากสเกลภาคแรกเท่าไหร่นัก
รังของแวมไพร์ก็แค่คฤหาสน์ใหญ่ๆลังนึง ไม่ใช่ปราสาทบนภูเขามีป่ามีคลองมีกับดักหลายชั้นป้องกันข้าศึกไร แล้วด้วยศักยภาพของฝั่งไลแคนตอนเนี้ย ถ้ารีบบุกไปซะทีแรกก่อนนางเอกจะถูกเชิญตัวมา ยังไงก็ชนะได้ตั้งนานแล้ว ก็ไม่รู้จะมัวไปตามล่าหาลูกนางเอกก่อนทำไม ในเมื่อภาพที่เห็นคือ ลำพังพวกไลแคนกับหัวหน้ามันก็สามารถถล่มรังของแวมไพร์ในตอนนี้ได้อยู่แล้ว หากนางเอกไม่ตามมาช่วยครับ
แต่สรุปโดยรวม เป็นหนังที่ดูได้ ไม่รู้สึกเสียดายเงินนะครับ เนื้อเรื่องไม่ออกทะเลเละเทะอย่างเฟรนไชน์หนังบางเรื่อง ฉากแอคชั่นไม่จัดหนักเท่าไหร่แต่ก็ไม่น่าเกลียดครับ ดุได้สนุกๆ เนื้อหาในหนังก็ยังมีน้ำมีเนื้อให้น่าติดตามครับ ไม่มีฉากที่ดูแล้วผิดหวัง แต่ก็ไม่มีฉากไหนที่ทำให้อ้าปากค้างร้องอู้หู ซี้ดซ้าดอะไร
กับภาคนี้ผมให้ว่า ทำออกมาแล้วเสมอตัวครับ ไม่ดีไม่แย่ แต่เจ๊เคทยังสวยเหมือนเดิม โอเคละ
สปอยล์เรื่องลูกสาวนางเอก ที่ผมเห็นต่างจากคนอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝากกระทู้ไว้ สำหรับท่านที่จำเนื้อเรื่อง4ภาคแรกไม่ได้ หรือจำชื่อความเป็นมาของตัวละครในอดีตไม่ได้แล้ว แนะนำให้อ่านกระทู้สรุปเหตุการณ์เรื่องราวของUNDERWORLD ภาคเก่าๆก่อนครับ แล้วจะดูภาคนี้ได้เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น
http://ppantip.com/topic/35900842