“ฉันเที่ยวอยู่ในซูดานเดือนนึง แต่เชื่อไหมฉันไปไม่ถึงไหนเลย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของซูดานไปด้วยรถขนส่งสาธารณะไม่สะดวก แต่ฉันชอบประเทศนี้มากๆ ฉันใช้เวลาอยู่กับคนที่นั่นไปเรื่อยๆ พวกเขาเป็นมิตรที่สุดเท่าที่ฉันเคยไปเที่ยวมาเลย”
นักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นเล่าให้ฟังตอนที่เราเจอกันที่เอธิโอเปียเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มสนใจในประเทศนี้ ประสบการณ์การท่องเที่ยวในกาฬทวีปของเรายังน้อยนักเมื่อตอนนั้นแต่ก็พอที่จะทำให้ฉงนว่าทำไมเธอถึงรู้สึกดีได้มากขนาดนั้น
มีข้อมูลอีกหลายๆอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับซูดานหลังจากที่เราพยายามหาข้อมูลมากขึ้น หนึ่งข้อเด่นๆที่ทำให้เราค่อยๆเลื่อนประเทศนี้ขึ้นมาในประเทศที่ต้องไปเยือนในชีวิตนี้ก็คือ ซูดานเป็นประเทศที่มีปิรามิดมากที่สุดในโลก มากกว่าที่อียิปต์เกือบสามเท่าเลยทีเดียว อาจจะไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อลังการเหมือนที่อียิปต์แต่บรรยากาศนั้นไม่เป็นรองใครแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศนึงที่เราอยากไปมานานแล้ว แต่เราก็รอโอกาสที่ค่าใช้จ่ายจะถูกลงบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีวันนั้น พร้อมกับเรามาคิดว่าเราควรจะต้องรีบไปที่ที่เราอยากไป ก่อนที่จะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราเสียใจที่ไม่ได้ไป อย่างเช่น ซีเรีย เยเมน เราหาเพื่อนร่วมทริปได้อีกสามคน รวมเราเป็นสี่คน ค่าใช้จ่ายเลยถือว่าโอเคเลยทีเดียว ทริปนี้เลยเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
สาธารณรัฐซูดานเคยเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ในอดีตซูดานเคยตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษสองรอบด้วยกัน มาได้เอกราชในที่สุดเมื่อวันที่๑มกราคม พ.ศ.๒๔๙๙ แต่นับตั้งแต่ได้เอกราชซูดานเหนือและซูดานใต้ก็มีการต่อสู้กันมาตลอดด้วยความขัดแย้งทางศาสนา ซูดานเหนือนับถือศาสนาอิสลาม แต่ทางซูดานใต้นับถือศาสนาคริสต์ จึงมีสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ๆขึ้นสองครั้งด้วยกัน และในที่สุดดินแดนทางตอนใต้ก็ได้แยกออกมากเป็นประเทศสาธารณรัฐเซาท์ซูดานเมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๔ และทำให้ซูดานกลายเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามในแอฟริการองจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรียและประเทศสาธารรณัฐประชาธิปไตยคองโก และถึงแม้ทางใต้จะแยกประเทศไปแล้วซูดานก็ยังคงมีความขัดแย้งต่อเนื่องในประเทศต่อไป สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปมักจะนึกถึงเวลาเอ่ยชื่อประเทศซูดานขึ้นมาก็น่าจะเป็นผู้ลี้ภัย หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ The Lost Boys มีภาพยนตร์ออกมาหลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของเด็กซูดานที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าและลี้ภัยไปอยู่ที่อื่นในช่วงที่มีสงครามกลางเมือง ซูดานจัดว่ามีจำนวนผู้ลี้ภัยเป็นอันดับต้นๆทีเดียว
มาคุยมาเป็นเพื่อนกันได้ที่
http://www.facebook.com/thelittlevoice ไม่มีเพจเพราะความขี้เกียจสูงค่า
[CR] Incredible Sudan
นักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นเล่าให้ฟังตอนที่เราเจอกันที่เอธิโอเปียเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มสนใจในประเทศนี้ ประสบการณ์การท่องเที่ยวในกาฬทวีปของเรายังน้อยนักเมื่อตอนนั้นแต่ก็พอที่จะทำให้ฉงนว่าทำไมเธอถึงรู้สึกดีได้มากขนาดนั้น
มีข้อมูลอีกหลายๆอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับซูดานหลังจากที่เราพยายามหาข้อมูลมากขึ้น หนึ่งข้อเด่นๆที่ทำให้เราค่อยๆเลื่อนประเทศนี้ขึ้นมาในประเทศที่ต้องไปเยือนในชีวิตนี้ก็คือ ซูดานเป็นประเทศที่มีปิรามิดมากที่สุดในโลก มากกว่าที่อียิปต์เกือบสามเท่าเลยทีเดียว อาจจะไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อลังการเหมือนที่อียิปต์แต่บรรยากาศนั้นไม่เป็นรองใครแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศนึงที่เราอยากไปมานานแล้ว แต่เราก็รอโอกาสที่ค่าใช้จ่ายจะถูกลงบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีวันนั้น พร้อมกับเรามาคิดว่าเราควรจะต้องรีบไปที่ที่เราอยากไป ก่อนที่จะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราเสียใจที่ไม่ได้ไป อย่างเช่น ซีเรีย เยเมน เราหาเพื่อนร่วมทริปได้อีกสามคน รวมเราเป็นสี่คน ค่าใช้จ่ายเลยถือว่าโอเคเลยทีเดียว ทริปนี้เลยเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
สาธารณรัฐซูดานเคยเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ในอดีตซูดานเคยตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษสองรอบด้วยกัน มาได้เอกราชในที่สุดเมื่อวันที่๑มกราคม พ.ศ.๒๔๙๙ แต่นับตั้งแต่ได้เอกราชซูดานเหนือและซูดานใต้ก็มีการต่อสู้กันมาตลอดด้วยความขัดแย้งทางศาสนา ซูดานเหนือนับถือศาสนาอิสลาม แต่ทางซูดานใต้นับถือศาสนาคริสต์ จึงมีสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ๆขึ้นสองครั้งด้วยกัน และในที่สุดดินแดนทางตอนใต้ก็ได้แยกออกมากเป็นประเทศสาธารณรัฐเซาท์ซูดานเมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๔ และทำให้ซูดานกลายเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามในแอฟริการองจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรียและประเทศสาธารรณัฐประชาธิปไตยคองโก และถึงแม้ทางใต้จะแยกประเทศไปแล้วซูดานก็ยังคงมีความขัดแย้งต่อเนื่องในประเทศต่อไป สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปมักจะนึกถึงเวลาเอ่ยชื่อประเทศซูดานขึ้นมาก็น่าจะเป็นผู้ลี้ภัย หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ The Lost Boys มีภาพยนตร์ออกมาหลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของเด็กซูดานที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าและลี้ภัยไปอยู่ที่อื่นในช่วงที่มีสงครามกลางเมือง ซูดานจัดว่ามีจำนวนผู้ลี้ภัยเป็นอันดับต้นๆทีเดียว
มาคุยมาเป็นเพื่อนกันได้ที่ http://www.facebook.com/thelittlevoice ไม่มีเพจเพราะความขี้เกียจสูงค่า