เดือนธันวาคม เดือนโปรดของใครหลายๆคน และเดือนนี้ก็เป็นเดือนโปรดของพวกเราเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเดือนเกิดของน้องมูจิ ใกล้จะ 1 ขวบแล้วครับ (17 ธันวาคม 2559) เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง วันหยุดยาวก็เยอะ จำนวนวันทำงานก็น้อย อากาศก็เย็นสบาย โปรโมชั่นลดแลกแจกแถมจากร้านค้าให้ชอปปิ้งกันได้อย่างจุใจ ใครหล่ะจะไม่ชอบจริงไหมครับ
ไม่ทันไรนี่ก็เวียนมาจะครบอีกหนึ่งปีแล้ว วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมรับน้องมูจิมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นี่เราอยู่ด้วยกันมาก็ใกล้จะครบ 1 ปีแล้ว เดือนนี้จริงๆแล้วเป็นเดือนที่ยุ่งมากๆของพวกเรา ไม่ใช่ว่ามีปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงเฉลิมฉลองอะไรหรอกนะครับ แต่งานที่กองอยู่เต็มไปหมดต่างหากที่ทำให้พวกเรารู้สึกว่าเดือนนี้มันช่างยุ่งซะเหลือเกิน แต่แผนนการเที่ยวครั้งนี้เกิดขึ้นรวดเร็วอราวกับจรวด เมื่อปลายเดือนที่แล้วหลังเรากลับมาจากเที่ยวที่ X2 กุยบุรี ได้ไม่นาน พี่จ๋าก็มาชวนว่าพาน้องๆไปเที่ยวชมดอกไม้ที่ Jim Thompson Farm กันใหม่เพราะฟาร์มเพิ่งเปิดเลย อากาศก็เริ่มดีแล้วด้วย โดยส่วนตัวแล้วพวกเราไม่เคยได้ยินหรือทราบรายละเอียดเกี่ยวกับฟาร์มนี้มาก่อน พอพี่จ๋าชวน เราเลยลองเสริชหาข้อมูล นั่งดูรูปภาพแล้วก็ตัดสินใจในทันที เพราะอยากพาน้องมูจิกับมิกุไปถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์มานานแล้ว แต่สวนสาธารณะในกรุงเทพก็มักจะไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปวิ่งเล่นถ่ายรูปได้ พอโอกาสนี้มาถึงมีหรือที่พวกเราจะพลาด การได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ ภาพที่ออกมาต้องน่ารักมากแน่ๆเลย เราเลยทำการจองที่พักระบุวัน แพคกระเป๋าแล้วออกเดินทาง
Jim Thompson Farm ตั้งอยู่ในจังหวัด นครราชสีมา ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง การเดินทางค่อนข้างสะดวก แต่ถนนเข้าฟาร์มช่วงนี้มีการทำถนนเป็นระยะ สำหรับคนที่คิดว่าจะแวะมาลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางฟาร์มดูนะครับว่าเส้นทางไหนสะดวกที่สุด Jim Thompson ฟาร์มจะเปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปีเท่านั้น และที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราคนเลี้ยงสัตว์ก็คือฟาร์มเปิดต้อนรับสัตว์เลี้ยง ใครมีน้องหมา น้องกระต่าย น้องแมว หรืออื่นๆ ก็สามารถนำเด็กๆมาเที่ยวที่นี่ได้นะครับ ลองเชคเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกทีนะครับเพราะผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทางฟาร์มจำกัดน้ำหนักตัวหรือชนิดของสัตว์ด้วยหรือเปล่า
พวกเราเดินทางมาถึงประมาณบ่ายโมง วันนี้อากาศดีมากๆ ท้องฟ้าแจ่มใส มีเมฆประปราย แม้แดดจะแรงไปสักหน่อย แต่ลมเย็นๆก็พัดมาให้ชื่นใจได้อยู่เรื่อยๆ ค่าเข้าฟาร์มพวกเราจ่ายไปกันคนละ 180 บาท จ่ายเงินเสร็จก็เข้าไปนั่งรถนำทัวร์ได้เลย รถมีให้บริการอยู่ตลอดเวลาก ขึ้นลงที่สถานีไหนก็ได้ แต่สามารถนั่งวนรอบได้แค่หนึ่งรอบเท่านั้น ระหว่างสถานีแรกเราจะผ่านทุ่งดอกทานตะวันจำนวนมากอยู่ทางฝั่งขวามือ แต่รถจะจอดเลยไปหน่อย
ใครที่อยากจะมาถ่ายกับทุ่งดอกทานตะวัน อาจต้องเดินออกกำลังกายย้อนกลับมาประมาณสองร้อยเมตรจากสถานี ที่สถานีแรกนั้นจะเป็นสถานีที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ซิกเนเจอร์ของสถานีนี้คือฟักทองลูกใหญ่ สถานีเหมาะมากๆสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป แต่พวกเราไปถึงช่วยบ่าย แดดตอนบ่ายค่อนข้างแรงทำให้เวลาถ่ายภาพนั้นค่อนข้างลำบากเพราะแสงจะโอเว่อร์ เราเลยหลบในที่ร่มเป็นระยะ พอเมฆบังดวงอาทิตย์ พวกเราก็รีบวิ่งไปถ่ายรูปกัน ช่วงไหนแดดแรงก็แอบหลบแดดในที่ร่ม ตรงบริเวณนี้มีที่นั่งพักร้อนแวะกินน้ำกินขนมได้ตามอัธยาศัย สำหรับคนที่จะมา Jim Thompson Farm และอยากถ่ายรูปได้แสงสวยๆ แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเช้า 9-10 โมง หรือจะเป็นช่วงเย็น 3-4 โมง แดดอ่อนๆ อากาศไม่ร้อนจนเกินไป
หลังจากเราถ่ายรูปที่สถานีแรกเสร็จ เราก็นั่งรถต่อไปยังสถานีถัดไป จริงๆแล้วถ้าใครไม่อยากขึ้นรถ การเดินเล่นไปเรื่อยๆยังสถานีถัดไปก็ทำได้ง่ายและไม่ได้ใช้เวลานานเลยครับ แต่พวกเราขอเลือกขึ้นรถครับ สถานีถัดไปเป็นสถานีที่แสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวอีสาน
เราก็จะเห็นทุ่งนา บ้านไทยดั้งเดิมของชาวชนบท การย้อมคราม ดูวงจรชีวิตของหนอนไหมและการทอเส้นใย สถานีเน้นอาหารการกิน ใครหิวก็สามารถเลือกสรรอาหารต่างๆได้ตามใจชอบ ส่วนพวกเรานั้นเลือกจกตำปูปลาร้า กับยำต่างๆ กัน พอท้องอิ่มเราก็พร้อมลุยกันต่อ
สถานีต่อไปเป็นหมู่บ้านจิม สถานีนี้จะเน้นไปที่การเดินเยี่ยมชมและเรียนรู้ขั้นตอนต่างๆเกี่ยวกับการทอผ้าไหม ด้วยความที่เราไม่ค่อยใฝ่ที่จะรู้มากนักว่าขั้นตอนการทำผ้าไหมตั้งแต่ต้นจนสำเร็จเป็นผ้าไหม Jim Thompson นั้นเป็นยังไง เราจึงข้ามสถานีนี้ไปเพื่อจะไปเน้นถ่ายรูปรัวๆเพื่อเอารูปมาฝากพี่ๆเพื่อนๆกันแทน
สถานีสุดท้าย คือ ตลาดจิม สถานีนี้เป็นแหล่งขายสินค้าของฝากผลิตภัณฑ์จาก Jim Thompson ฟาร์ม บริเวณใกล้เคียงเป็นทุ่งดอกไม้สูงระดับเอว สีสันสวยงามของดอกไม้ทำให้พวกเราอดใจไม่ไหว รีบวิ่งเข้าใส่แล้วรัวชัตเตอร์แบบไม่หยุดใส่น้องมูจิ ณ ขณะนั้น แดดเริ่มร่มแล้วเลยทำให้ภาพที่ถ่ายได้ออกมาดูสวยละมุนเข้ากับชุดของน้องมูจิที่ใส่มาวันนี้มากๆ ทุ่งกว้างๆ อากาศเย็นสบาย แสงแดดอ่อนๆ แค่นี้เราก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
หลังจากจุดนี้เราก็เดินลัดเลาะผ่านทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่เพื่อไปยังจุดสุดท้ายนั่นคือทางเข้าด้านหน้าฟาร์ม เราผ่านรถทัวร์จำลองและรถขยายเสียง ทำให้นึกถึงบรรยากาศงานเทศกาลรื่นเริงของชาวชนบทได้เป็นอย่างดี เราหยุดแวะพักและจับน้องมูจิถ่ายรูปบนรถทัวร์ บรรยากาศลูกทุ่งเหล่านี้แหละที่เป็นเสน่ห์ที่เราจะได้พบได้เห็นเวลาที่เราเดินทางมาเที่ยวต่างจังหวัดเท่านั้น
เราจบทริป Jim Thompson Farm ด้วยความรู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นบรรยากาศสบายๆ และสีสันที่สดใสของดอกไม้นานาพันธุ์ สำหรับคนที่สนใจจะเดินทางมาที่นี่ ต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะฟาร์มจะเปิดให้บริการถึงแค่วันที่ 8 มกราคม 2560 นี้เท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผู้คนไม่พลุกพล่านเพื่อที่จะได้โพสท์ท่าท่ายรูปได้แบบจุใจ แนะนำให้มาวันธรรมดาครับ หรือลองเชคกับทางฟาร์มเพิ่มเติมดูนะครับว่าวันที่เราจะไปนั้นมีทัวร์มาลงหรือเปล่า เพราะถ้าบังเอิญมาเจอกับกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ ความวุ่นวายของผู้คนจำนวนมากอาจทำให้เรารู้สึกไม่ผ่อนคลายได้อย่างใจ พวกเราออกจากฟาร์มประมาณ 5 โมงครึ่ง เพื่อเดินทางต่อไปยังที่พัก
******************************* มีต่อ *******************************
**ภาพทั้งหมดนี้ผมใช้กล้อง FUJI XT2 เลนส์ Kit และ 23mm wr f2 ครับ
ทริปการเดินทางที่แล้วของน้องมูจิไปหัวหิน ดูได้ที่ลิ้งนี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/35442054
ทริปการเดินทางที่แล้วของน้องมูจิไปเขาใหญ่ ดูได้ที่ลิ้งนี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/35618551
กระทู้รวมพัฒนาการ ของกระต่ายน้อย "มิกุ" ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน 🐰
http://ppantip.com/topic/35676126
สามารถดูภาพน่ารักๆทั้งหมด ของน้องมูจิได้จาก แฟนเพจ
http://www.facebook.com/mujisama
และ IG
http://www.instagram.com/mujisama นะครับ
นี่เป็นเพจของน้องกระต่ายครับ
https://www.facebook.com/Ferfunny
และ IG
http://www.instagram.com/fer_funny นะครับ
[CR] พาเที่ยวสวนดอกไม้ กับหมาน้อยมูจิและกระต่ายน้อยมิกุ หนาวแรกของพวกเรา 🌸🌼🌷🌹🌻🌺
เดือนธันวาคม เดือนโปรดของใครหลายๆคน และเดือนนี้ก็เป็นเดือนโปรดของพวกเราเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเดือนเกิดของน้องมูจิ ใกล้จะ 1 ขวบแล้วครับ (17 ธันวาคม 2559) เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง วันหยุดยาวก็เยอะ จำนวนวันทำงานก็น้อย อากาศก็เย็นสบาย โปรโมชั่นลดแลกแจกแถมจากร้านค้าให้ชอปปิ้งกันได้อย่างจุใจ ใครหล่ะจะไม่ชอบจริงไหมครับ
ไม่ทันไรนี่ก็เวียนมาจะครบอีกหนึ่งปีแล้ว วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมรับน้องมูจิมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นี่เราอยู่ด้วยกันมาก็ใกล้จะครบ 1 ปีแล้ว เดือนนี้จริงๆแล้วเป็นเดือนที่ยุ่งมากๆของพวกเรา ไม่ใช่ว่ามีปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงเฉลิมฉลองอะไรหรอกนะครับ แต่งานที่กองอยู่เต็มไปหมดต่างหากที่ทำให้พวกเรารู้สึกว่าเดือนนี้มันช่างยุ่งซะเหลือเกิน แต่แผนนการเที่ยวครั้งนี้เกิดขึ้นรวดเร็วอราวกับจรวด เมื่อปลายเดือนที่แล้วหลังเรากลับมาจากเที่ยวที่ X2 กุยบุรี ได้ไม่นาน พี่จ๋าก็มาชวนว่าพาน้องๆไปเที่ยวชมดอกไม้ที่ Jim Thompson Farm กันใหม่เพราะฟาร์มเพิ่งเปิดเลย อากาศก็เริ่มดีแล้วด้วย โดยส่วนตัวแล้วพวกเราไม่เคยได้ยินหรือทราบรายละเอียดเกี่ยวกับฟาร์มนี้มาก่อน พอพี่จ๋าชวน เราเลยลองเสริชหาข้อมูล นั่งดูรูปภาพแล้วก็ตัดสินใจในทันที เพราะอยากพาน้องมูจิกับมิกุไปถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์มานานแล้ว แต่สวนสาธารณะในกรุงเทพก็มักจะไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปวิ่งเล่นถ่ายรูปได้ พอโอกาสนี้มาถึงมีหรือที่พวกเราจะพลาด การได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ ภาพที่ออกมาต้องน่ารักมากแน่ๆเลย เราเลยทำการจองที่พักระบุวัน แพคกระเป๋าแล้วออกเดินทาง
Jim Thompson Farm ตั้งอยู่ในจังหวัด นครราชสีมา ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง การเดินทางค่อนข้างสะดวก แต่ถนนเข้าฟาร์มช่วงนี้มีการทำถนนเป็นระยะ สำหรับคนที่คิดว่าจะแวะมาลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางฟาร์มดูนะครับว่าเส้นทางไหนสะดวกที่สุด Jim Thompson ฟาร์มจะเปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปีเท่านั้น และที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราคนเลี้ยงสัตว์ก็คือฟาร์มเปิดต้อนรับสัตว์เลี้ยง ใครมีน้องหมา น้องกระต่าย น้องแมว หรืออื่นๆ ก็สามารถนำเด็กๆมาเที่ยวที่นี่ได้นะครับ ลองเชคเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกทีนะครับเพราะผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทางฟาร์มจำกัดน้ำหนักตัวหรือชนิดของสัตว์ด้วยหรือเปล่า
พวกเราเดินทางมาถึงประมาณบ่ายโมง วันนี้อากาศดีมากๆ ท้องฟ้าแจ่มใส มีเมฆประปราย แม้แดดจะแรงไปสักหน่อย แต่ลมเย็นๆก็พัดมาให้ชื่นใจได้อยู่เรื่อยๆ ค่าเข้าฟาร์มพวกเราจ่ายไปกันคนละ 180 บาท จ่ายเงินเสร็จก็เข้าไปนั่งรถนำทัวร์ได้เลย รถมีให้บริการอยู่ตลอดเวลาก ขึ้นลงที่สถานีไหนก็ได้ แต่สามารถนั่งวนรอบได้แค่หนึ่งรอบเท่านั้น ระหว่างสถานีแรกเราจะผ่านทุ่งดอกทานตะวันจำนวนมากอยู่ทางฝั่งขวามือ แต่รถจะจอดเลยไปหน่อย
ใครที่อยากจะมาถ่ายกับทุ่งดอกทานตะวัน อาจต้องเดินออกกำลังกายย้อนกลับมาประมาณสองร้อยเมตรจากสถานี ที่สถานีแรกนั้นจะเป็นสถานีที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ซิกเนเจอร์ของสถานีนี้คือฟักทองลูกใหญ่ สถานีเหมาะมากๆสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป แต่พวกเราไปถึงช่วยบ่าย แดดตอนบ่ายค่อนข้างแรงทำให้เวลาถ่ายภาพนั้นค่อนข้างลำบากเพราะแสงจะโอเว่อร์ เราเลยหลบในที่ร่มเป็นระยะ พอเมฆบังดวงอาทิตย์ พวกเราก็รีบวิ่งไปถ่ายรูปกัน ช่วงไหนแดดแรงก็แอบหลบแดดในที่ร่ม ตรงบริเวณนี้มีที่นั่งพักร้อนแวะกินน้ำกินขนมได้ตามอัธยาศัย สำหรับคนที่จะมา Jim Thompson Farm และอยากถ่ายรูปได้แสงสวยๆ แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเช้า 9-10 โมง หรือจะเป็นช่วงเย็น 3-4 โมง แดดอ่อนๆ อากาศไม่ร้อนจนเกินไป
หลังจากเราถ่ายรูปที่สถานีแรกเสร็จ เราก็นั่งรถต่อไปยังสถานีถัดไป จริงๆแล้วถ้าใครไม่อยากขึ้นรถ การเดินเล่นไปเรื่อยๆยังสถานีถัดไปก็ทำได้ง่ายและไม่ได้ใช้เวลานานเลยครับ แต่พวกเราขอเลือกขึ้นรถครับ สถานีถัดไปเป็นสถานีที่แสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวอีสาน
เราก็จะเห็นทุ่งนา บ้านไทยดั้งเดิมของชาวชนบท การย้อมคราม ดูวงจรชีวิตของหนอนไหมและการทอเส้นใย สถานีเน้นอาหารการกิน ใครหิวก็สามารถเลือกสรรอาหารต่างๆได้ตามใจชอบ ส่วนพวกเรานั้นเลือกจกตำปูปลาร้า กับยำต่างๆ กัน พอท้องอิ่มเราก็พร้อมลุยกันต่อ
สถานีต่อไปเป็นหมู่บ้านจิม สถานีนี้จะเน้นไปที่การเดินเยี่ยมชมและเรียนรู้ขั้นตอนต่างๆเกี่ยวกับการทอผ้าไหม ด้วยความที่เราไม่ค่อยใฝ่ที่จะรู้มากนักว่าขั้นตอนการทำผ้าไหมตั้งแต่ต้นจนสำเร็จเป็นผ้าไหม Jim Thompson นั้นเป็นยังไง เราจึงข้ามสถานีนี้ไปเพื่อจะไปเน้นถ่ายรูปรัวๆเพื่อเอารูปมาฝากพี่ๆเพื่อนๆกันแทน
สถานีสุดท้าย คือ ตลาดจิม สถานีนี้เป็นแหล่งขายสินค้าของฝากผลิตภัณฑ์จาก Jim Thompson ฟาร์ม บริเวณใกล้เคียงเป็นทุ่งดอกไม้สูงระดับเอว สีสันสวยงามของดอกไม้ทำให้พวกเราอดใจไม่ไหว รีบวิ่งเข้าใส่แล้วรัวชัตเตอร์แบบไม่หยุดใส่น้องมูจิ ณ ขณะนั้น แดดเริ่มร่มแล้วเลยทำให้ภาพที่ถ่ายได้ออกมาดูสวยละมุนเข้ากับชุดของน้องมูจิที่ใส่มาวันนี้มากๆ ทุ่งกว้างๆ อากาศเย็นสบาย แสงแดดอ่อนๆ แค่นี้เราก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
หลังจากจุดนี้เราก็เดินลัดเลาะผ่านทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่เพื่อไปยังจุดสุดท้ายนั่นคือทางเข้าด้านหน้าฟาร์ม เราผ่านรถทัวร์จำลองและรถขยายเสียง ทำให้นึกถึงบรรยากาศงานเทศกาลรื่นเริงของชาวชนบทได้เป็นอย่างดี เราหยุดแวะพักและจับน้องมูจิถ่ายรูปบนรถทัวร์ บรรยากาศลูกทุ่งเหล่านี้แหละที่เป็นเสน่ห์ที่เราจะได้พบได้เห็นเวลาที่เราเดินทางมาเที่ยวต่างจังหวัดเท่านั้น
เราจบทริป Jim Thompson Farm ด้วยความรู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นบรรยากาศสบายๆ และสีสันที่สดใสของดอกไม้นานาพันธุ์ สำหรับคนที่สนใจจะเดินทางมาที่นี่ ต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะฟาร์มจะเปิดให้บริการถึงแค่วันที่ 8 มกราคม 2560 นี้เท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผู้คนไม่พลุกพล่านเพื่อที่จะได้โพสท์ท่าท่ายรูปได้แบบจุใจ แนะนำให้มาวันธรรมดาครับ หรือลองเชคกับทางฟาร์มเพิ่มเติมดูนะครับว่าวันที่เราจะไปนั้นมีทัวร์มาลงหรือเปล่า เพราะถ้าบังเอิญมาเจอกับกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ ความวุ่นวายของผู้คนจำนวนมากอาจทำให้เรารู้สึกไม่ผ่อนคลายได้อย่างใจ พวกเราออกจากฟาร์มประมาณ 5 โมงครึ่ง เพื่อเดินทางต่อไปยังที่พัก
******************************* มีต่อ *******************************
**ภาพทั้งหมดนี้ผมใช้กล้อง FUJI XT2 เลนส์ Kit และ 23mm wr f2 ครับ
ทริปการเดินทางที่แล้วของน้องมูจิไปหัวหิน ดูได้ที่ลิ้งนี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/35442054
ทริปการเดินทางที่แล้วของน้องมูจิไปเขาใหญ่ ดูได้ที่ลิ้งนี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/35618551
กระทู้รวมพัฒนาการ ของกระต่ายน้อย "มิกุ" ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน 🐰
http://ppantip.com/topic/35676126
สามารถดูภาพน่ารักๆทั้งหมด ของน้องมูจิได้จาก แฟนเพจ
http://www.facebook.com/mujisama
และ IG http://www.instagram.com/mujisama นะครับ
นี่เป็นเพจของน้องกระต่ายครับ
https://www.facebook.com/Ferfunny
และ IG http://www.instagram.com/fer_funny นะครับ