สวัสดีค่ะ
เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เจอมาอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆฟังและข้อคิดจากความรักครั้งนี้ค่ะ
ดิฉันกับแฟนเริ่มต้นคุยกันปกติเหมือนคนทั่วไป และเมื่อคุยได้ไม่นานก็นัดเจอกันค่ะ เจอกันครั้งแรกฉันรู้สึกว่าหน้าเขาก็ปกติธรรมดา ไม่ได้ถึงขั้นหล่ออะไร ก็ปกติเลยค่ะ ครั้งแรกเขาพูดเรื่องแฟนเก่าของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันเบื่อมากกับการเจอผู้ชายที่ยังไม่ลืมแฟนเก่า ตอนนั้นดิฉันคิดว่าคงเป็นพี่น้องกันแหละเพราะเขาน่าจะยังไม่ลืมแฟนเก่า หลังจากที่กลับไปดิฉันคิดว่าเขาอาจจะไม่คุยกับดิฉันอีก เพราะดิฉันหน้าตาไม่ได้น่ารักเหมือนในรูป ฮ่าๆ และเคยมีประสบการณ์นัดเจอ ผช แล้วเจอตัวจริงก็ไม่ได้คุยกันอีก ทำให้ดิฉันต้องมานั่งลุ้นทุกครั้งว่า ครั้งนี้จะโดนชิ่งอีกมั้ย แต่เขาก็ตอบกลับมาปกติ ดิฉันก็รู้สึกดีใจที่เขาไม่ได้เป็นแบบคนอื่น เราคุยกันและมีช่วงนึงที่เขาหายๆไป แต่ฉันก็ไม่รู้ทำไมทักเขาไปทุกวัน บ่นนู่นนี่ให้เขาฟัง ทั้งๆที่จริงฉันมีคนคุยอีกหลายคนให้บ่น จนเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เขาเริ่มมารับฉันไปกินข้าวข้างนอกบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จากสัปดาห์ละ2 วัน กลายเป็น 4 วัน และบางสัปดาห์ก็เจอกันทุกวัน เขาเข้ามาในชีวิตประจำวันของฉัน ฉันห่างออกมาจากเพื่อนของฉันเพราะเริ่มไปกับเขาบ่อยขึ้น เขาพาดิฉันไปทุกที่ที่เขาไป ตัวติดกันมากๆ จากที่เขาไม่ได้หล่อในสายตาฉัน เขาหล่อขึ้นทุกวันอาจจะเป็นเพราะฉันเริ่มชอบเขา เขาก็เป็นคนที่มีคุณสมบัติแบบที่ ผญ ในกระทู้พันทิปเคยตั้งค่ะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน วันหยุดไปกับแม่ถ้าไม่มีแฟน อยู่บ้าน เล่นกีฬา เขาชอบชมเราน่ารัก นู่นนี่นั่น เขาดูเป็น ผช อบอุ่นมากๆ ดูเป็นผู้นำพึ่งพาได้ค่ะ ตอนนั้นฉันรู้สึกชอบเขามากอยู่เหมือนกัน และเขาก็ดูชอบฉันนะคะ ในวันที่เราเป็นแฟนกันวันนั้นเราจับมือกันครั้งแรก ฉันไม่เคยรู้สึกว่าการจับมือกันจะตื่นเต้นขนาดนั้น ตื่นเต้นแบบหัวใจโครมคราม สาวแรกแย้มก็แบบนี้แหละค่ะ แ-ดเนอะ คืนนั้นฉันถามเขาตกลงเราเป็นอะไรกัน เขาบอกเป็นแฟนไง อุ๊ป!! อยู่ดีๆฉันก็มีแฟนค่ะ เขินไปสามบ้านแปดบ้าน แคปแชทไว้ด้วย หลักฐานว่าคุณพูดเองนะว่าแฟน ฉันไม่ได้พูด เริ่มเป็นแฟนกันก็ตามสเตปค่ะ ดีเหลือล้น ปกติดิฉันแต่งหน้าบางมากค่ะใสๆแอ๊บเด็กเสมอแต่แต่งนิดหน่อยก็จะต่างกับหน้าสดมากอยู่ค่ะ วันไหนดิฉันกรีดอายไลเนอร์ซักหน่อย ชมทั้งวัน น่ารักจังวันนี้ อ่าคนไม่สวยก็ฟินกันไป ก็ผ่านไปด้วยดีในช่วงแรกๆก็เป็นกันทุกคู่แหละค่ะ ดิฉันเข้าใจโปรโมชั่นนี้ดี และดิฉันก็คิดไว้แล้วว่าถ้าช่วงหมดโปรไปอะไรที่ไม่ดีของเขาดิฉันก็ต้องยอมรับ แฟนกันนี่คะจะรักแต่ข้อดีก็คงไม่ได้ ต้องรักข้อเสียของกันด้วย
จนมีเหตุการณ์แรกแฟนดิฉันไปงานศพพ่อของเพื่อน (แฟนดิฉันมีแต่เพื่อนสนิทเป็น ผญ ค่ะ) และเขาได้ไปเจอพี่สาวของเพื่อน ซึ่งสวยมากๆ ก็ถ้าเทียบกับดิฉันเหมือนฉันเป็นแกนโลกแล้วเขาเป็นดาวพลูโตค่ะ ห่างไกลกันมากเลยทีเดียว ฉันรู้เพราะเขามาเม้นในเฟสบุ๊คของแฟนดิฉัน เม้นทุกตัส ลงรูปก็เม้น ฉันเลยพูดกับเขาว่า ไม่ชอบนะ ดูก็รู้ว่า ผญ คนนี้ชอบเขา เขาบอกว่าไม่ได้มาชอบหรอก คิดมาก (เกลียดคำนี้) ผญ ดู ผญ ด้วยกันออกค่ะ มันเป็นเซ้นอย่างนึง(จริงๆนะ) ว่ามาถึงเรื่องเฟสบุ๊คแฟนดิฉันไม่ลงรูปคู่กับดิฉันเลย และยังคงตั้งเป็นโสด ซึ่งฉันก็ถามนะไม่ลงรูปคู่หน่อยหรอ เขาบอกเขาไม่ชอบลง เราก็อ่ะ น้อยใจแต่ก็ยอมไป เพราะแฟนคนก่อนลงรูปคู่กะดิฉันยังไปมีคนอื่นได้เลย มันเกี่ยวกับนิสัยมากกว่า ก็ไว้ใจค่ะ ฉันก็ปล่อยไปไม่ได้คิดอะไร ช่วงนั้นฉันกลับบ้านต่างจังหวัด กลับมาอีกทีเขาก็มารับฉันที่สนามบินไปทานข้าวกันปกติดี จนฉันลองเช็คโทรศัพท์ในแชทไม่มีความผิดปกติใดๆในทุกแอพ ฉันก็วางลงแต่ด้วยความอะไรไม่รู้ฉันเอาขึ้นมากดูสายโทรออกโทรเข้า แจ๊คพอตค่ะเจอชื่อของเพื่อนเขาที่พี่สาวของเพื่อนนั้นมาชอบแฟนดิฉัน แต่ยังค่ะ ฉันยังไม่ตัดสิน ฉันดูเวลาคุย มันเป็นแค่ไม่ถึง1 นาที แต่ 2 -3 สายติดกัน ชัวว์เลยค่ะ นัดเจอแน่นอน ฉันวางโทรศัพท์และถามตรงๆว่าไปนัดเจอพี่คนนั้นมาหรอ เขาบอกว่าแค่ไปคุยด้วยเฉยๆ พี่คนนั้นเพิ่งเลิกกับแฟนมา โทรมาหาเขาเล่าให้เขาฟัง เขาก็ฟังเฉยๆ ไปเจอก็มีเพื่อนไปด้วยไม่ได้ไปกันแค่สองคน ฉันก็ถามว่าทำไมต้องเจอล่ะ เขาก็บอกเจอเฉยๆ แล้วทำไมต้องเจอ คำถามนี้ก็ค้างคาใจกันไป เขาก็บอกเชื่อเขา เขามีเราแค่คนเดียว เราก็อ่ะเชื่อต่อ(โง่ล้วน) เราก็บอกว่าอย่าให้มีอีกนะแบบนี้ ที่เราเชื่อใจเขาอย่างนึงมาจากพื้นฐานครอบครัวเขามีปัญหาเรื่องการไปมีคนอื่นพูดง่ายๆคือมีสองบ้าน เขาก็รู้ผลของปัญหานี้ว่าไม่มีใครมีความสุขถ้าอีกคนมีความรักให้สองคน เขารู้ปัญหาและไม่น่าทำแบบนี้ เป็นเหตุให้เราเชื่อใจเขามากค่ะ
เหตุการณ์ก็ปกติเรื่อยมามีความสุขกันดีค่ะ ทะเลาะบ้างเล็กน้อยตามประสาแฟน เขาก็ดีกับฉันฉันก็ดีกับเขาค่ะ ฉันไม่ได้เป็น ผญ เอาแต่ใจ เป็น ผญ อะไรก็ได้ เป็น ผญ ตลก แ-ดหน่อยๆ ถ้าอยู่กับเพื่อนก็ แ-ด มาก เป็นคนไม่เรื่องมาก ใส่ใจในทุกๆเรื่องที่แฟนพูด สนใจในสิ่งที่เขาชอบ เป็นที่ปรึกษาในทุกเรื่อง คนคอยหาข้อมูลให้เขา และเป็นห่วงเขาอยู่เสมอ ไม่เป็นคนจุกจิกค่ะ ส่วนเรื่องเฟสบุ๊คก็ยังมีสาวๆมาเม้นก็มีทะเลาะกันบ้างเพราะฉันขี้หึงแต่ฉันก็จะโดนว่ากลับมาทุกครั้งว่างี่เง่า ฉันก็ไม่ได้อะไร เราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเขาก็มีลงรูปกันฉันบ้างวับๆแวมๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะ วับแวมเฉยๆ แต่ในชีวิตจริงเขาก็ดีเหมือนตอนแรก ดิฉันก็คิดนะคะเอ๊ะ นี่โปรมันปีนึงเลยหรอ เพราะผ่านไป 1 ปี เขาก็ดีเหมือนเดิม จนเขาบวช ฉันก็มีคนเข้ามาชอบตอนเขาบวชนะคะแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจก็บอกไปตรงๆว่าเรามีแฟนแล้วนะ และเราจะไม่นอกใจแฟน เขาก็เข้าใจ เราก็คุยเป็นเพื่อนปกติ ฉันมีเพื่อนสนิททั้ง ผญ และ ผช ค่ะ และฉันคุยกับเพื่อนก็มักจะส่งรูปไปอวดว่าทำอะไรอยู่เสมอ ลอยทะเลอีกแล้ว เข้าเรื่อง หลังจากแฟนบวชออกมา เขาเปลี่ยนไปค่ะ ดูสงบขึ้น และเขาไม่ได้ดีเหมือนเดิม เขานั่งสมาธิทุกเช้า เขาบอกเขาตั้งใจจะนั่งไปเรื่อยๆ อ่ะนั่นเป็นสิ่งที่ดีค่ะ ส่งเสริมกันไป แต่เขาก็มักจะมาบังคับให้ฉันนั่งด้วยอยู่เสมอ ฉันก็พยายามค่ะ เพราะว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย เราก็อยู่ในช่วงทางธรรมอยู่ ประกอบกับทะเลาะกันแรงขึ้นๆ เพราะการกระทำของเขาไม่เหมือนเดิม จะเลิกกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เลิกซักครั้ง ฉันอดทนมาก อดทนรอว่าซักวันเขาอาจจะกลับมาโอเคขึ้น ไม่ดีเหมือนเดิมก็ได้แต่ไม่ใช่แบบนี้ มีครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันจนฉันยอมเลิก และในรุ่งเช้าเขาก็โทรมาว่าไม่เลิกแล้วได้มั้ย ทรมาน ฉันก็โอเค เห็นได้ชัดว่าเราเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของกันและกันเรียบร้อย จนเลิกกันยาก
ในช่วงปลายๆของการคบกันก็ฉันอดทนกับการที่เขาเปลี่ยนไปจากบวชประมาณ 6 เดือน เขาเปลี่ยนไปยังไง เขาว่าฉันเสมอ และฉันก็พยายามปรับปรุงในสิ่งที่เขาว่า เขาบอกฉันโทรมเพราะฉันนอนดึก ฉันก็ไม่นอนดึกจะได้ไม่โทรม เขาว่าฉันเป็นคนไม่เรียบร้อย ห้องไม่เรียบร้อย ฉันก็เก็บห้องมากขึ้น จัดห้องใหม่เสมอๆ มันก็ดีกับตัวฉันเองด้วยฉันโอเคถ้าสิ่งที่เขาว่าทำให้ฉันดีขึ้น และเขาก็ว่าฉันไม่เอาไหน ฉันเพิ่งเรียนจบ(ไม่ถึงเดือนตอนที่เขาว่า)และคณะดิฉันงานตรงสายส่วนมากเป็นงานธนาคาร และดิฉันไม่ชอบจึงต้องหางานที่เขียนว่ารับทุกสาขา เหมือนเขาเอาฉันไปเทียบกับพี่คนสวยคนนั้นที่เคยมีเรื่องว่า เขาทำธุรกิจนู่นนี่ไปถึงไหนๆแล้ว(พี่คนสวยอายุ25) ฉันเลยพูดกับเขาว่าฉันเพิ่งเรียนจบ ฉันขอเวลาก่อนได้มั้ย เขาว่าฉันขี้เกียจ ฉันเลยขายของออนไลน์และได้เงินเป็นหมื่นในเดือนเดียว เดือนที่ว่างงาน ฉันหมกมุ่นกับการหาลูกค้า แต่ฉันก็ไม่ได้บอกเขาว่าฉันทำอะไรบ้าง ฉันเป็นคนที่ไม่กล้าบอกว่าตัวเองทำอะไรดีๆ เพราะถ้าวันนึงมันล้มเหลว จะมีคนมาว่าท่าดีทีเหลวแบบที่คุณครูมอต้นเคยว่าฉันตอนฉันตั้งใจเรียนแต่คะแนนออกมาไม่ดี ฮ่าๆ เขาเลยเข้าใจว่าวันๆฉันไม่ทำอะไร นี่ฉันผิดเองที่ไม่บอก และหลังๆ เขาว่าฉันว่าฉันไม่สวย คำนี้เป็นคำที่ฉันจุกอยู่เหมือนกัน เพราะแม่ฉันก็พูดว่าฉันไม่สวยเหมือนตอนเด็กๆ โตมาก็อายญาติๆ พอมาเพื่อน เพื่อนอาจจะพูดพลั้งปากแต่สำหรับคนคิดมากแบบฉันก็เก็บมา เพื่อนฉันบอกฉันไม่สวยไปเที่ยวด้วย ผช ไม่ค่อยมาติด ฮ่าๆ ไปกับเพื่อนสวยๆดีกว่า มันคงเป็นปมด้อยของดิฉันเอง คิดว่าตัวเองไม่สวยแต่ก็พัฒนาเรื่อยๆ แต่งหน้าให้ดูดี เข้าไว้ แต่พอแฟนมาพูดวันนั้นฉันรู้สึกเสียใจมากๆ เขาบอกที่เขาไม่ได้ชอบหน้าตาฉันตั้งแต่ทีแรก แต่เขาเห็นฉันดีเลยคบ ฉันใส่ใจเขา ห่วงใย เป็นแฟนที่ดีมาก (แล้วที่ชมว่าน่ารักทีแรกล่ะ?) ดิฉันควรเลิกกับเขา เพราะเขามองคนที่ภายนอก เขาพูดกับฉันแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่เลิก ฉันพยายามหาข้ออ้างต่างๆนาๆให้ฉันไม่ได้เลิกกับเขา ฉันก็เห็นแก่ตัวด้วยแหละที่ไม่อยากอยู่คนเดียว เอาทุกอย่างไปเกี่ยวกับแฟนหมด ทำให้เลิกไม่ได้และไม่มีคุณค่าในตัวเองเลย (ข้อคิดข้อหนึ่งที่ได้จากความรักครั้งนี้) เขาก็ขอโทษฉันกับเหตุการณ์ที่เขาว่าฉัน หลังจากนั้นฉันก็พยายามแต่งตัวใหม่ ไปซื้อครีมแพงๆมาทา แต่งหน้าให้สวยขึ้น พยายามเป็นทุกอย่างในสิ่งที่เขาว่า จนบางทีฉันก็เหนื่อยนะ เพราะจริงๆฉันเป็นคนไม่เยอะเรื่องการแต่งตัวหรือความสวยงาม ฉันชอบใส่แค่เสื้อยืดสบายๆกับกางเกงยีนขาสั้น แต่พอฉันโดนว่าฉันคงหมดความมั่นใจในตัวเอง แต่งตัวเยอะเข้าไว้ ดูในอินสตาแกรมคนน่ารักๆเขาแต่งตัวกันยังไง แต่งตาม เปลี่ยนสีผม ทำคิ้ว นู่นนี่นั่น ถึงขั้นจะไปทำตา ทำจมูก เงินที่หามาหมดไปกับการแต่งตัว(ความโง่ล้วน) ระหว่างนั้นฉันก็ทะเลาะกับแฟนเรื่อยๆ เขาเป็นคนบอกเลิกฉันทุกครั้งทั้งๆที่บางทีเขาผิด เขาแสดงความเห็นแก่ตัวที่ไม่น่าเชื่ออกมาหลายครั้ง แต่ฉันก็ไม่ได้เลิก เขาห้ามไม่ให้ฉันยุ่งกับเฟสบุ๊คของเขา ฉันไม่ได้เช็คอะไรเลยเกือบปี พอฉันเม้น เขาก็จะมาว่าฉันว่าอยากให้คนรู้หรอว่าเราเป็นแฟนกัน ทั้งๆที่บางทีฉันเม้นแค่สติ้กเกอร์ตลกๆ ฉันเม้นเหมือนน้องคนนึง ไม่เหมือนแฟน ฉันโดนว่าจนฉันกดเลิกติดตามเขาและไม่ยุ่งอะไรอีก เพื่อนดิฉันเตือนดิฉันอยู่หลายครั้ง ว่า เขาอาจจะมีคนอื่น แต่ฉันก็ไม่เคยเชื่อ คนมันรักมันเชื่อใจ อะไรพูดมาก็คงไม่เชื่อทั้งนั้น รักแบบนี้ไม่ดีค่ะ คือรักไม่ลืมหูลืมตา ฮ่าๆ ในขณะที่ฉันกำลังพัฒนาตัวเอง เขาก็ยุ่งกับงาน งานของเขาฉันก็เป็นคนช่วยหลายๆอย่าง จนเขามีงาน มีเงินเข้ามา ก็มีฉันที่คอยให้คำปรึกษา คอยหาข้อมูล และบอกเขาจนเขาได้เงินจากอาชีพนั้น หลายครั้งที่เขาบอกว่ายุ่งงานมากเลยไม่ได้ตอบ ฉันก็เข้าใจ และไม่ได้ว่าอะไรเขาเท่าไหร่
ความไม่สวยของฉันหรือความไม่รู้จักพอของเธอเป็นสาเหตุ (แบบนี้ก็ได้หรอ)
เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เจอมาอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆฟังและข้อคิดจากความรักครั้งนี้ค่ะ
ดิฉันกับแฟนเริ่มต้นคุยกันปกติเหมือนคนทั่วไป และเมื่อคุยได้ไม่นานก็นัดเจอกันค่ะ เจอกันครั้งแรกฉันรู้สึกว่าหน้าเขาก็ปกติธรรมดา ไม่ได้ถึงขั้นหล่ออะไร ก็ปกติเลยค่ะ ครั้งแรกเขาพูดเรื่องแฟนเก่าของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันเบื่อมากกับการเจอผู้ชายที่ยังไม่ลืมแฟนเก่า ตอนนั้นดิฉันคิดว่าคงเป็นพี่น้องกันแหละเพราะเขาน่าจะยังไม่ลืมแฟนเก่า หลังจากที่กลับไปดิฉันคิดว่าเขาอาจจะไม่คุยกับดิฉันอีก เพราะดิฉันหน้าตาไม่ได้น่ารักเหมือนในรูป ฮ่าๆ และเคยมีประสบการณ์นัดเจอ ผช แล้วเจอตัวจริงก็ไม่ได้คุยกันอีก ทำให้ดิฉันต้องมานั่งลุ้นทุกครั้งว่า ครั้งนี้จะโดนชิ่งอีกมั้ย แต่เขาก็ตอบกลับมาปกติ ดิฉันก็รู้สึกดีใจที่เขาไม่ได้เป็นแบบคนอื่น เราคุยกันและมีช่วงนึงที่เขาหายๆไป แต่ฉันก็ไม่รู้ทำไมทักเขาไปทุกวัน บ่นนู่นนี่ให้เขาฟัง ทั้งๆที่จริงฉันมีคนคุยอีกหลายคนให้บ่น จนเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เขาเริ่มมารับฉันไปกินข้าวข้างนอกบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จากสัปดาห์ละ2 วัน กลายเป็น 4 วัน และบางสัปดาห์ก็เจอกันทุกวัน เขาเข้ามาในชีวิตประจำวันของฉัน ฉันห่างออกมาจากเพื่อนของฉันเพราะเริ่มไปกับเขาบ่อยขึ้น เขาพาดิฉันไปทุกที่ที่เขาไป ตัวติดกันมากๆ จากที่เขาไม่ได้หล่อในสายตาฉัน เขาหล่อขึ้นทุกวันอาจจะเป็นเพราะฉันเริ่มชอบเขา เขาก็เป็นคนที่มีคุณสมบัติแบบที่ ผญ ในกระทู้พันทิปเคยตั้งค่ะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน วันหยุดไปกับแม่ถ้าไม่มีแฟน อยู่บ้าน เล่นกีฬา เขาชอบชมเราน่ารัก นู่นนี่นั่น เขาดูเป็น ผช อบอุ่นมากๆ ดูเป็นผู้นำพึ่งพาได้ค่ะ ตอนนั้นฉันรู้สึกชอบเขามากอยู่เหมือนกัน และเขาก็ดูชอบฉันนะคะ ในวันที่เราเป็นแฟนกันวันนั้นเราจับมือกันครั้งแรก ฉันไม่เคยรู้สึกว่าการจับมือกันจะตื่นเต้นขนาดนั้น ตื่นเต้นแบบหัวใจโครมคราม สาวแรกแย้มก็แบบนี้แหละค่ะ แ-ดเนอะ คืนนั้นฉันถามเขาตกลงเราเป็นอะไรกัน เขาบอกเป็นแฟนไง อุ๊ป!! อยู่ดีๆฉันก็มีแฟนค่ะ เขินไปสามบ้านแปดบ้าน แคปแชทไว้ด้วย หลักฐานว่าคุณพูดเองนะว่าแฟน ฉันไม่ได้พูด เริ่มเป็นแฟนกันก็ตามสเตปค่ะ ดีเหลือล้น ปกติดิฉันแต่งหน้าบางมากค่ะใสๆแอ๊บเด็กเสมอแต่แต่งนิดหน่อยก็จะต่างกับหน้าสดมากอยู่ค่ะ วันไหนดิฉันกรีดอายไลเนอร์ซักหน่อย ชมทั้งวัน น่ารักจังวันนี้ อ่าคนไม่สวยก็ฟินกันไป ก็ผ่านไปด้วยดีในช่วงแรกๆก็เป็นกันทุกคู่แหละค่ะ ดิฉันเข้าใจโปรโมชั่นนี้ดี และดิฉันก็คิดไว้แล้วว่าถ้าช่วงหมดโปรไปอะไรที่ไม่ดีของเขาดิฉันก็ต้องยอมรับ แฟนกันนี่คะจะรักแต่ข้อดีก็คงไม่ได้ ต้องรักข้อเสียของกันด้วย
จนมีเหตุการณ์แรกแฟนดิฉันไปงานศพพ่อของเพื่อน (แฟนดิฉันมีแต่เพื่อนสนิทเป็น ผญ ค่ะ) และเขาได้ไปเจอพี่สาวของเพื่อน ซึ่งสวยมากๆ ก็ถ้าเทียบกับดิฉันเหมือนฉันเป็นแกนโลกแล้วเขาเป็นดาวพลูโตค่ะ ห่างไกลกันมากเลยทีเดียว ฉันรู้เพราะเขามาเม้นในเฟสบุ๊คของแฟนดิฉัน เม้นทุกตัส ลงรูปก็เม้น ฉันเลยพูดกับเขาว่า ไม่ชอบนะ ดูก็รู้ว่า ผญ คนนี้ชอบเขา เขาบอกว่าไม่ได้มาชอบหรอก คิดมาก (เกลียดคำนี้) ผญ ดู ผญ ด้วยกันออกค่ะ มันเป็นเซ้นอย่างนึง(จริงๆนะ) ว่ามาถึงเรื่องเฟสบุ๊คแฟนดิฉันไม่ลงรูปคู่กับดิฉันเลย และยังคงตั้งเป็นโสด ซึ่งฉันก็ถามนะไม่ลงรูปคู่หน่อยหรอ เขาบอกเขาไม่ชอบลง เราก็อ่ะ น้อยใจแต่ก็ยอมไป เพราะแฟนคนก่อนลงรูปคู่กะดิฉันยังไปมีคนอื่นได้เลย มันเกี่ยวกับนิสัยมากกว่า ก็ไว้ใจค่ะ ฉันก็ปล่อยไปไม่ได้คิดอะไร ช่วงนั้นฉันกลับบ้านต่างจังหวัด กลับมาอีกทีเขาก็มารับฉันที่สนามบินไปทานข้าวกันปกติดี จนฉันลองเช็คโทรศัพท์ในแชทไม่มีความผิดปกติใดๆในทุกแอพ ฉันก็วางลงแต่ด้วยความอะไรไม่รู้ฉันเอาขึ้นมากดูสายโทรออกโทรเข้า แจ๊คพอตค่ะเจอชื่อของเพื่อนเขาที่พี่สาวของเพื่อนนั้นมาชอบแฟนดิฉัน แต่ยังค่ะ ฉันยังไม่ตัดสิน ฉันดูเวลาคุย มันเป็นแค่ไม่ถึง1 นาที แต่ 2 -3 สายติดกัน ชัวว์เลยค่ะ นัดเจอแน่นอน ฉันวางโทรศัพท์และถามตรงๆว่าไปนัดเจอพี่คนนั้นมาหรอ เขาบอกว่าแค่ไปคุยด้วยเฉยๆ พี่คนนั้นเพิ่งเลิกกับแฟนมา โทรมาหาเขาเล่าให้เขาฟัง เขาก็ฟังเฉยๆ ไปเจอก็มีเพื่อนไปด้วยไม่ได้ไปกันแค่สองคน ฉันก็ถามว่าทำไมต้องเจอล่ะ เขาก็บอกเจอเฉยๆ แล้วทำไมต้องเจอ คำถามนี้ก็ค้างคาใจกันไป เขาก็บอกเชื่อเขา เขามีเราแค่คนเดียว เราก็อ่ะเชื่อต่อ(โง่ล้วน) เราก็บอกว่าอย่าให้มีอีกนะแบบนี้ ที่เราเชื่อใจเขาอย่างนึงมาจากพื้นฐานครอบครัวเขามีปัญหาเรื่องการไปมีคนอื่นพูดง่ายๆคือมีสองบ้าน เขาก็รู้ผลของปัญหานี้ว่าไม่มีใครมีความสุขถ้าอีกคนมีความรักให้สองคน เขารู้ปัญหาและไม่น่าทำแบบนี้ เป็นเหตุให้เราเชื่อใจเขามากค่ะ
เหตุการณ์ก็ปกติเรื่อยมามีความสุขกันดีค่ะ ทะเลาะบ้างเล็กน้อยตามประสาแฟน เขาก็ดีกับฉันฉันก็ดีกับเขาค่ะ ฉันไม่ได้เป็น ผญ เอาแต่ใจ เป็น ผญ อะไรก็ได้ เป็น ผญ ตลก แ-ดหน่อยๆ ถ้าอยู่กับเพื่อนก็ แ-ด มาก เป็นคนไม่เรื่องมาก ใส่ใจในทุกๆเรื่องที่แฟนพูด สนใจในสิ่งที่เขาชอบ เป็นที่ปรึกษาในทุกเรื่อง คนคอยหาข้อมูลให้เขา และเป็นห่วงเขาอยู่เสมอ ไม่เป็นคนจุกจิกค่ะ ส่วนเรื่องเฟสบุ๊คก็ยังมีสาวๆมาเม้นก็มีทะเลาะกันบ้างเพราะฉันขี้หึงแต่ฉันก็จะโดนว่ากลับมาทุกครั้งว่างี่เง่า ฉันก็ไม่ได้อะไร เราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเขาก็มีลงรูปกันฉันบ้างวับๆแวมๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะ วับแวมเฉยๆ แต่ในชีวิตจริงเขาก็ดีเหมือนตอนแรก ดิฉันก็คิดนะคะเอ๊ะ นี่โปรมันปีนึงเลยหรอ เพราะผ่านไป 1 ปี เขาก็ดีเหมือนเดิม จนเขาบวช ฉันก็มีคนเข้ามาชอบตอนเขาบวชนะคะแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจก็บอกไปตรงๆว่าเรามีแฟนแล้วนะ และเราจะไม่นอกใจแฟน เขาก็เข้าใจ เราก็คุยเป็นเพื่อนปกติ ฉันมีเพื่อนสนิททั้ง ผญ และ ผช ค่ะ และฉันคุยกับเพื่อนก็มักจะส่งรูปไปอวดว่าทำอะไรอยู่เสมอ ลอยทะเลอีกแล้ว เข้าเรื่อง หลังจากแฟนบวชออกมา เขาเปลี่ยนไปค่ะ ดูสงบขึ้น และเขาไม่ได้ดีเหมือนเดิม เขานั่งสมาธิทุกเช้า เขาบอกเขาตั้งใจจะนั่งไปเรื่อยๆ อ่ะนั่นเป็นสิ่งที่ดีค่ะ ส่งเสริมกันไป แต่เขาก็มักจะมาบังคับให้ฉันนั่งด้วยอยู่เสมอ ฉันก็พยายามค่ะ เพราะว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย เราก็อยู่ในช่วงทางธรรมอยู่ ประกอบกับทะเลาะกันแรงขึ้นๆ เพราะการกระทำของเขาไม่เหมือนเดิม จะเลิกกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เลิกซักครั้ง ฉันอดทนมาก อดทนรอว่าซักวันเขาอาจจะกลับมาโอเคขึ้น ไม่ดีเหมือนเดิมก็ได้แต่ไม่ใช่แบบนี้ มีครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันจนฉันยอมเลิก และในรุ่งเช้าเขาก็โทรมาว่าไม่เลิกแล้วได้มั้ย ทรมาน ฉันก็โอเค เห็นได้ชัดว่าเราเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของกันและกันเรียบร้อย จนเลิกกันยาก
ในช่วงปลายๆของการคบกันก็ฉันอดทนกับการที่เขาเปลี่ยนไปจากบวชประมาณ 6 เดือน เขาเปลี่ยนไปยังไง เขาว่าฉันเสมอ และฉันก็พยายามปรับปรุงในสิ่งที่เขาว่า เขาบอกฉันโทรมเพราะฉันนอนดึก ฉันก็ไม่นอนดึกจะได้ไม่โทรม เขาว่าฉันเป็นคนไม่เรียบร้อย ห้องไม่เรียบร้อย ฉันก็เก็บห้องมากขึ้น จัดห้องใหม่เสมอๆ มันก็ดีกับตัวฉันเองด้วยฉันโอเคถ้าสิ่งที่เขาว่าทำให้ฉันดีขึ้น และเขาก็ว่าฉันไม่เอาไหน ฉันเพิ่งเรียนจบ(ไม่ถึงเดือนตอนที่เขาว่า)และคณะดิฉันงานตรงสายส่วนมากเป็นงานธนาคาร และดิฉันไม่ชอบจึงต้องหางานที่เขียนว่ารับทุกสาขา เหมือนเขาเอาฉันไปเทียบกับพี่คนสวยคนนั้นที่เคยมีเรื่องว่า เขาทำธุรกิจนู่นนี่ไปถึงไหนๆแล้ว(พี่คนสวยอายุ25) ฉันเลยพูดกับเขาว่าฉันเพิ่งเรียนจบ ฉันขอเวลาก่อนได้มั้ย เขาว่าฉันขี้เกียจ ฉันเลยขายของออนไลน์และได้เงินเป็นหมื่นในเดือนเดียว เดือนที่ว่างงาน ฉันหมกมุ่นกับการหาลูกค้า แต่ฉันก็ไม่ได้บอกเขาว่าฉันทำอะไรบ้าง ฉันเป็นคนที่ไม่กล้าบอกว่าตัวเองทำอะไรดีๆ เพราะถ้าวันนึงมันล้มเหลว จะมีคนมาว่าท่าดีทีเหลวแบบที่คุณครูมอต้นเคยว่าฉันตอนฉันตั้งใจเรียนแต่คะแนนออกมาไม่ดี ฮ่าๆ เขาเลยเข้าใจว่าวันๆฉันไม่ทำอะไร นี่ฉันผิดเองที่ไม่บอก และหลังๆ เขาว่าฉันว่าฉันไม่สวย คำนี้เป็นคำที่ฉันจุกอยู่เหมือนกัน เพราะแม่ฉันก็พูดว่าฉันไม่สวยเหมือนตอนเด็กๆ โตมาก็อายญาติๆ พอมาเพื่อน เพื่อนอาจจะพูดพลั้งปากแต่สำหรับคนคิดมากแบบฉันก็เก็บมา เพื่อนฉันบอกฉันไม่สวยไปเที่ยวด้วย ผช ไม่ค่อยมาติด ฮ่าๆ ไปกับเพื่อนสวยๆดีกว่า มันคงเป็นปมด้อยของดิฉันเอง คิดว่าตัวเองไม่สวยแต่ก็พัฒนาเรื่อยๆ แต่งหน้าให้ดูดี เข้าไว้ แต่พอแฟนมาพูดวันนั้นฉันรู้สึกเสียใจมากๆ เขาบอกที่เขาไม่ได้ชอบหน้าตาฉันตั้งแต่ทีแรก แต่เขาเห็นฉันดีเลยคบ ฉันใส่ใจเขา ห่วงใย เป็นแฟนที่ดีมาก (แล้วที่ชมว่าน่ารักทีแรกล่ะ?) ดิฉันควรเลิกกับเขา เพราะเขามองคนที่ภายนอก เขาพูดกับฉันแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่เลิก ฉันพยายามหาข้ออ้างต่างๆนาๆให้ฉันไม่ได้เลิกกับเขา ฉันก็เห็นแก่ตัวด้วยแหละที่ไม่อยากอยู่คนเดียว เอาทุกอย่างไปเกี่ยวกับแฟนหมด ทำให้เลิกไม่ได้และไม่มีคุณค่าในตัวเองเลย (ข้อคิดข้อหนึ่งที่ได้จากความรักครั้งนี้) เขาก็ขอโทษฉันกับเหตุการณ์ที่เขาว่าฉัน หลังจากนั้นฉันก็พยายามแต่งตัวใหม่ ไปซื้อครีมแพงๆมาทา แต่งหน้าให้สวยขึ้น พยายามเป็นทุกอย่างในสิ่งที่เขาว่า จนบางทีฉันก็เหนื่อยนะ เพราะจริงๆฉันเป็นคนไม่เยอะเรื่องการแต่งตัวหรือความสวยงาม ฉันชอบใส่แค่เสื้อยืดสบายๆกับกางเกงยีนขาสั้น แต่พอฉันโดนว่าฉันคงหมดความมั่นใจในตัวเอง แต่งตัวเยอะเข้าไว้ ดูในอินสตาแกรมคนน่ารักๆเขาแต่งตัวกันยังไง แต่งตาม เปลี่ยนสีผม ทำคิ้ว นู่นนี่นั่น ถึงขั้นจะไปทำตา ทำจมูก เงินที่หามาหมดไปกับการแต่งตัว(ความโง่ล้วน) ระหว่างนั้นฉันก็ทะเลาะกับแฟนเรื่อยๆ เขาเป็นคนบอกเลิกฉันทุกครั้งทั้งๆที่บางทีเขาผิด เขาแสดงความเห็นแก่ตัวที่ไม่น่าเชื่ออกมาหลายครั้ง แต่ฉันก็ไม่ได้เลิก เขาห้ามไม่ให้ฉันยุ่งกับเฟสบุ๊คของเขา ฉันไม่ได้เช็คอะไรเลยเกือบปี พอฉันเม้น เขาก็จะมาว่าฉันว่าอยากให้คนรู้หรอว่าเราเป็นแฟนกัน ทั้งๆที่บางทีฉันเม้นแค่สติ้กเกอร์ตลกๆ ฉันเม้นเหมือนน้องคนนึง ไม่เหมือนแฟน ฉันโดนว่าจนฉันกดเลิกติดตามเขาและไม่ยุ่งอะไรอีก เพื่อนดิฉันเตือนดิฉันอยู่หลายครั้ง ว่า เขาอาจจะมีคนอื่น แต่ฉันก็ไม่เคยเชื่อ คนมันรักมันเชื่อใจ อะไรพูดมาก็คงไม่เชื่อทั้งนั้น รักแบบนี้ไม่ดีค่ะ คือรักไม่ลืมหูลืมตา ฮ่าๆ ในขณะที่ฉันกำลังพัฒนาตัวเอง เขาก็ยุ่งกับงาน งานของเขาฉันก็เป็นคนช่วยหลายๆอย่าง จนเขามีงาน มีเงินเข้ามา ก็มีฉันที่คอยให้คำปรึกษา คอยหาข้อมูล และบอกเขาจนเขาได้เงินจากอาชีพนั้น หลายครั้งที่เขาบอกว่ายุ่งงานมากเลยไม่ได้ตอบ ฉันก็เข้าใจ และไม่ได้ว่าอะไรเขาเท่าไหร่