คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 52
เราไม่มีอะไรจะต่อสู้กับพวกคุณหรอก เราไม่มีอาวุธ เว้นแต่ธรรมวุธ เราไม่มีกองกำลัง มีแต่คนที่รักการทำความดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุ เราไม่มีอำนาจใดๆ มีแต่เสียงสวดมนต์ เราไม่มีสื่อแบบคุณ ที่คอยรุมกัดพร้อมจะขย่ำกลืนกินเรา สื่อเราก็โดนปิด เราไม่มีกฎหมู่อยู่ในมือเหมือนคุณ มีแต่ความจริงที่รู้ว่าไม่ผิด เราไม่มีผู้นำที่เป็นทหารหรือตำรวจ ผู้นำเราก็เป็นแค่พระสูงอายุและอาพาธ แต่เรามีสิ่งที่เหนือกว่าคุณคือ ศรัทธาที่เชื่อมั่นในความดีของหลวงพ่อธัมมชโย ศรัทธาที่ไม่มีใครพรากไปได้แม้ด้วยชีวิต วันนี้ยังมีโอกาสในการประนีประนอม โปรดอย่าใช้ความรุนแรง โปรดอย่ามีธงในการสึกหลวงพ่อ หากคุณต้องการอยากให้หลวงพ่อเข้ากระบวนการพิสูจน์ความยุติธรรมมันก็ไม่ยาก ขอแค่ความจริงใจ ไม่ต้องยกกองกำลังมา แค่ยกเลิกหมายจับ เดินมาที่วัดดีๆแล้วมามอบหมายเรียกให้กับหลวงพ่อ จากนั้นให้ประกันตัว กระบวนการยุติธรรมก็จะดำเนินต่อไปได้ อย่าเสี่ยงโดยการต่อสู้กับความศรัทธาเลยนะ มันอันตรายมาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
ผมรักหลวงพ่อธัมมชโย เพราะท่านสอนให้จนเปลี่ยนจากคนที่กินเหล้าเที่ยวเตร่ไปวันๆ ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม รักการสร้างบุญ มีความสุขจากการปฏิบัติธรรม และมองย้อนไปในอดีตก็เข้าไปทำบุญหลายวัด อ่านธรรมะจากพระอาจารย์ดังๆ หลายท่านก็ดี แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนผมได้ และจากการที่ผมได้เข้าวัดและพิสูจน์ด้วยตัวเองมายี่สิบปีแล้วว่าหลวงพ่อท่านตั้งใจทำงานเพื่อให้ทุกคนมีศีลธรรมจริงๆ ไม่ได้อยุ่สบายๆ ทั้งที่ถ้าท่านจะนั่งสมาธิเงียบๆ คนเดียวก็ได้ ซึ่งถ้าท่านทำอย่างนั้นก็คงไม่มีผมในวันนี้ ผมอาจจะไปจบที่เมรุ หรือคุกไปแล้ว แต่ท่านกลับมุ่งมั่นที่จะทำงานพระศาสนาโดยไม่สนความเหนื่อยยาก ดังนั้นผมจึงมอบตัวเป็นศิษย์ของท่าน ผมและคณะศิษย์หลายหมื่นคนพร้อมจะปกป้องพระอาจารย์ของผมด้วยชีวิต ไม่คิดอะไรมากหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 29
แถลงข่าวเครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2559
ณ วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี
เนื่องด้วยขณะนี้ สถานการณ์ส่อว่าจะบังเกิดเหตุรุนแรง ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับสถาบันพระพุทธศาสนา อันเนื่องมาจากการดำเนินการโดยไม่เป็นธรรม ดังนี้
1. การดำเนินการของพนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และคดีอื่นที่เกี่ยวโยงกัน มีความไม่เป็นธรรมหลายประการ อาทิ มีการแจ้งความดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาคณะศิษยานุศิษย์ที่ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อเยียวยาแก่สหกรณ์ฯคลองจั่น ว่ามีความผิดข้อหาเรี่ยไร ทั้งที่เงินนั้นก็เป็นเงินของศิษยานุศิษย์แต่ละท่าน และเสียสละมาเยียวยาแก่สหกรณ์ฯตามข้อตกลงในศาล และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องทั้งวัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนี อีกทั้งสหกรณ์ฯ มีหนังสือขอบคุณแก่คณะศิษยานุศิษย์ เจ้าหน้าที่ของรัฐแทนที่จะมอบรางวัลแสดงความชื่นชมในน้ำใจเสียสละให้กับศิษยานุศิษย์ แต่คณะศิษยานุศิษย์กลับถูกดำเนินคดีตกเป็นผู้ต้องหา แสดงถึงเจตนาในการหาเรื่องกลั่นแกล้ง ไม่เป็นธรรม
2. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ได้ดำเนินคดีพระเทพญาณมหามุนี ข้อหาบุกรุกป่า และข้อหาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับลำรางสาธารณะ ที่สวนป่าหิมวันต์ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์ พีซ จังหวัดนครราชสีมา ตามลำดับ โดยอ้างอิงความเห็นของนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของศาล ทั้งที่นายวิฑูรย์ฯ ซึ่งเคยเป็นอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เพราะทำความผิดฐานวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศบิดเบือนความจริง สร้างความเสียหายต่อราชการหลายกรรมหลายวาระ และสำนักงานศาลยุติธรรมไม่ต่อทะเบียนการเป็นผู้เชี่ยวชาญฯของศาล นายวิฑูรย์ฯ จึงมิได้เป็นผู้เชี่ยวชาญฯของศาลแล้ว ซึ่งทางวัดพระธรรมกายได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญฯของศาลที่แท้จริง วิเคราะห์ตรวจสอบด้วยแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร ปรากฏผลการตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตป่า และไม่มีลำรางสาธารณะแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. กลับเลือกที่จะเชื่อผลการวิเคราะห์ฯของนายวิฑูรย์ฯ ซึ่งมีพฤติกรรมมัวหมองร้ายแรงจนถูกไล่ออกจากราชการ ไม่เชื่อผลการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญฯของศาลที่แท้จริง และไปขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี
3. กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขอให้ กสทช.สั่งหยุดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DMC โดยไม่มีการไต่สวน ทั้งที่เนื้อหามีแต่การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนธรรมะให้ประชาชนเป็นคนดี
4. พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.โดยการนำของพลตำรวจเอกศรีวราห์ฯ ทำให้คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายพิจารณาแล้วเห็นว่าพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม สร้างความรู้สึกทุกข์ร้อนคับแค้นใจอย่างแสนสาหัส
https://goo.gl/I9K0Gv
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2559
ณ วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี
เนื่องด้วยขณะนี้ สถานการณ์ส่อว่าจะบังเกิดเหตุรุนแรง ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับสถาบันพระพุทธศาสนา อันเนื่องมาจากการดำเนินการโดยไม่เป็นธรรม ดังนี้
1. การดำเนินการของพนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และคดีอื่นที่เกี่ยวโยงกัน มีความไม่เป็นธรรมหลายประการ อาทิ มีการแจ้งความดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาคณะศิษยานุศิษย์ที่ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อเยียวยาแก่สหกรณ์ฯคลองจั่น ว่ามีความผิดข้อหาเรี่ยไร ทั้งที่เงินนั้นก็เป็นเงินของศิษยานุศิษย์แต่ละท่าน และเสียสละมาเยียวยาแก่สหกรณ์ฯตามข้อตกลงในศาล และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องทั้งวัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนี อีกทั้งสหกรณ์ฯ มีหนังสือขอบคุณแก่คณะศิษยานุศิษย์ เจ้าหน้าที่ของรัฐแทนที่จะมอบรางวัลแสดงความชื่นชมในน้ำใจเสียสละให้กับศิษยานุศิษย์ แต่คณะศิษยานุศิษย์กลับถูกดำเนินคดีตกเป็นผู้ต้องหา แสดงถึงเจตนาในการหาเรื่องกลั่นแกล้ง ไม่เป็นธรรม
2. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ได้ดำเนินคดีพระเทพญาณมหามุนี ข้อหาบุกรุกป่า และข้อหาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับลำรางสาธารณะ ที่สวนป่าหิมวันต์ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์ พีซ จังหวัดนครราชสีมา ตามลำดับ โดยอ้างอิงความเห็นของนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของศาล ทั้งที่นายวิฑูรย์ฯ ซึ่งเคยเป็นอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เพราะทำความผิดฐานวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศบิดเบือนความจริง สร้างความเสียหายต่อราชการหลายกรรมหลายวาระ และสำนักงานศาลยุติธรรมไม่ต่อทะเบียนการเป็นผู้เชี่ยวชาญฯของศาล นายวิฑูรย์ฯ จึงมิได้เป็นผู้เชี่ยวชาญฯของศาลแล้ว ซึ่งทางวัดพระธรรมกายได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญฯของศาลที่แท้จริง วิเคราะห์ตรวจสอบด้วยแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร ปรากฏผลการตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตป่า และไม่มีลำรางสาธารณะแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. กลับเลือกที่จะเชื่อผลการวิเคราะห์ฯของนายวิฑูรย์ฯ ซึ่งมีพฤติกรรมมัวหมองร้ายแรงจนถูกไล่ออกจากราชการ ไม่เชื่อผลการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญฯของศาลที่แท้จริง และไปขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี
3. กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขอให้ กสทช.สั่งหยุดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DMC โดยไม่มีการไต่สวน ทั้งที่เนื้อหามีแต่การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนธรรมะให้ประชาชนเป็นคนดี
4. พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.โดยการนำของพลตำรวจเอกศรีวราห์ฯ ทำให้คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายพิจารณาแล้วเห็นว่าพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม สร้างความรู้สึกทุกข์ร้อนคับแค้นใจอย่างแสนสาหัส
https://goo.gl/I9K0Gv
แสดงความคิดเห็น
ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมเป็นทุกข์ ใช้ "สันติสนทนา" เป็นทางออกร่วมกันดีมั้ย?
ฉันเป็นผู้หญิงตัวน้อย ขอมีเสียงสักหน่อยจะได้ไหม
ขอบอกว่ารักพ่อสุดหัวใจ เพราะเหตุใดขอได้โปรดมารับฟัง
ตีวงเข้ามาสาธุชน ถั่วข้าวโพดโค้กขนเอามาตั้ง
ผู้หญิงจะออกจากที่กำบัง เล่าเรื่องปางหลังรจนา
ที่มีชีวิตได้ถึงวันนี้ ใครที่มีพระคุณจนล้นค่า
เตรียมโอ่งมารองรับน้ำตา จะรู้ว่าพระพ่อนั้นคือใคร
ร่างฉันไม่ทนกระสุนปืน จะถองทุบยุบยืนก็ตายได้
จะขู่เข็ญทุกคืนค่ำไปทำไม ไม่มีใครกลัวสักคนที่ขนมา
บทกลอนท่อนสุดท้ายของแถลงการณ์ของเครือข่ายศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเมื่อวานนี้ บ่งบอกถึงความรู้สึกของอุบาสิกาตัวเล็กๆ ท่านหนึ่ง ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระเทพญาณมหามุนีอย่างมาก ก็เพราะคำสอนของท่านได้ชุบชีวิตของตนให้เป็นคนดี รักพระพุทธศาสนา บทกลอนนี้สำหรับคนที่รักหลวงพ่อธัมมชโยแล้วใครอ่านน้ำตาไม่ซึมคงไม่มี
ชยํ เวรํ ปสวติ ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต
อุปสนฺโต สุขํ เสติ หิตฺวา ชยปราชยํ.
ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ คนละความชนะและความแพ้ได้แล้ว สงบใจได้ ย่อมนอนเป็นสุข.
(พุทฺธ) ขุ.ธ. ๒๕/๔๒.
ความแตกต่างทางความคิด เป็นสาเหตุทำให้มนุษย์ขัดแย้งกัน เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว การทำลายเพื่อเอาชนะจึงเป็นทางเลือกสำหรับบางคน อะไรคือสิ่งบันดาลให้คนเป็นเช่นนั้น พระพุทธศาสนาถือว่า “กิเลส” เป็นตัวบังคับให้คนทำกรรม และกรรมก็เป็นตัวจำแนกสัตว์เป็นไปแตกต่างกัน ใครทำความดีก็ได้รับผลดีเป็นความสุข ใครทำความชั่ว ก็จะได้รับผลชั่วเป็นความทุกข์ เมื่อฝ่ายหนึ่งมีเป้าหมายที่จะทำลายล้างอีกฝ่ายหนึ่งให้ย่อยยับ ย่อมจะมีฝ่ายชนะกับฝ่ายแพ้เป็นธรรมดา ฝ่ายชนะก็จะดีใจ ฝ่ายพ่ายแพ้ก็จะเสียใจ เท่ากับฝ่ายชนะทำเวร ฝ่ายแพ้ได้จองเวรผลัดกันไปเรื่อยเป็นดุจลูกโซ่ ฝ่ายพ่ายแพ้เมื่อกลับไปบ้านย่อมนอนเป็นทุกข์ เพราะสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก หากเกิดความเคียดแค้นและมีความมุ่งหวังที่จะแก้แค้นให้ได้ เขาย่อมประสบกับความทุกข์ตลอดไป
วัดพระธรรมกาย เป็นสถานที่สำหรับผู้แสวงบุญมาสั่งสมบุญ สร้างคุณความดีให้กับชีวิต เป็นสถานที่อบรมบ่มนิสัยขัดเกลาให้กิเลสเบาบางลง มุ่งหวังให้เกิดสันติสุขบนโลกใบนี้ โดยเริ่มจากการสร้างสันติภาพในใจของทุกคนก่อน ด้วยการปฏิบัติธรรมตามหลักวิชชาธรรมกาย ซึ่งหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้ค้นพบและถ่ายทอดมา โดยมีหลวงพ่อธัมมชโย เป็นผู้นำการปฏิบัติธรรมให้กับสานุศิษย์ จนเกิดผลการปฏิบัติธรรมที่ดี หลายคนเข้าถึงความสุขภายใน หลายคนมีนิสัยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทำให้ชีวิตตนเองและครอบครัวมีความสุขตราบจนทุกวันนี้
แต่ในช่วงที่ผ่านมา ไม่เข้าใจว่าเหตุใด จึงมีหน่วยงานบางหน่วยงาน ตามจ้องทำลายล้างหลวงพ่อธัมมชโยอย่าง "เอาเป็นเอาตาย ดุจปีศาจร้ายกระหายเลือด" ทั้ง ๆ ที่ท่านก็อายุ ๗๒ ปีแล้ว ถือได้ว่าเป็นพระชราภาพและขณะนี้ท่านก็อาพาธอยู่ การจัดสรรพกำลังเยี่ยงการทำสงครามกับผู้ก่อการร้ายที่มีอาวุธสะสมมากมายนั้น เพียงเพื่อจะมาจับพระชรารูปหนึ่ง ที่ไม่มีอาวุธ ไม่ทางต่อสู้ เป็นการกระทำของชายชาตินักรบงั้นหรือ? ดูสง่างามและน่าภูมิใจงั้นหรือ?
ไม่ว่าท่านจะจับได้หรือไม่ได้ ผลที่ได้หากใช้กำลังเข้ามา สิ่งที่เห็นชัด ๆ คือการสูญเสียอย่างแน่นอน
ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง เสียเลือด เสียเนื้อ เสียชีวิต มันมีอะไรคุ้มค่าความสูญเสียเหล่านี้บ้าง มีใครรับผิดชอบตรงนี้ สำหรับสาธุชนที่มาปฏิบัติธรรม เขายอมสละชีวิตเพื่อปกป้องหลวงพ่อแน่ ๆ หากเสียชีวิต ก็คงทำพิธีศพตามอัตภาพอย่างสมเกียรติที่ได้ปกป้องพระพุทธศาสนา แต่สำหรับทางการ ท่านภูมิใจแล้วหรือกับผลลัพธ์ที่ท่านอาจจะได้ตามคาดหวัง คือ “การจับหลวงพ่อสึกจากความเป็นพระ” ท่านแน่ใจหรือว่าท่านจะตายตาหลับได้อย่างสบายใจ
หากท่านใช้กำลังสำเร็จนั่นหมายความว่าเรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้แน่ ๆ แต่หากท่านใช้กำลังไม่สำเร็จ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการสูญเสียแน่ ๆ เช่นกัน
จะดีกว่ามั้ย? ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยการใช้ "ปัญญา" ไม่ใช้ "กำลัง หรือ การข่มขู่"
ไม่เคยเห็นว่าการแก้ปัญหาด้วยกำลัง จะสามารถทำให้มีผู้ชนะได้จริง จะดีกว่ามั้ย? หากมีการใช้ "สันติสนทนา" (Peace Dialogue) เป็นทางออกร่วมกัน ด้วยการพูดคุยแบบมีเหตุมีผล ยอมรับฟังเหตุผลและแนวคิดของแต่ละฝ่าย เพื่อสร้างสันติ กระชับมิตรภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย หากมีอะไรที่ล่วงเกินกันไปก็ขอโทษ ให้อภัยซึ่งกันและกัน หากต้องการให้ทำอะไรก็ขอร้องคุยกันดี ๆ วิธีนี้ ทำให้แต่ละฝ่ายดูสง่างาม เกิดภาพลักษณ์ที่ดีงาม ต่างฝ่ายต่างก็ชนะใจกันทั้งคู่ และนำไปสู่ความปรองดองได้ในที่สุด
ในขณะเดียวกัน สื่อมวลชนก็ต้องเป็น Peace Media ด้วย คือ ไม่อคติอันจะนำมาสร้างความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงประทุษวาจา (Hate Speech) เหยียดชนชาติ เผ่าพันธุ์และศาสนา ซึ่งจะทำให้คนสามารถออกมาฆ่ากันได้ในสงครามกลางเมือง ขอให้เป็นสื่อสันติภาพ สื่ออย่างสร้างสรรค์ เสนอข่าวอย่างเที่ยงตรง รอบด้าน (พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส :โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา : 20161203)
เราต่างก็เป็นพี่น้องเพื่อนร่วมโลกที่ต้องการสันติสุขและสันติภาพร่วมกัน
เราต่างก็ตกเป็นบ่าวเป็นทาสพญามาร เราจึงไม่ใช่ศัตรูกันมาตั้งแต่กำเนิด เราตกอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมเดียวกัน เราอาจมีความต่างกัน แต่เราไม่ควรมาหวาดระแวงกัน เพราะเราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ต้องดำรงชีพ ด้วยการกินกันเองเป็นอาหาร เราเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น เราใช้ดวงตะวันดวงเดียวกัน เราดื่มน้ำจากฟ้าเดียวกัน เราหายใจก็ใช้อากาศร่วมกัน และเราต้องอยู่ร่วมกันบนโลกนี้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
เราอยากได้ยินข่าวดีที่สร้างสรรค์ จรรโลงใจ ทำให้ชีวิตคนไทยสดใสสดชื่น ด้วยการ "หยุดทำร้ายพระสงฆ์ หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา"
อีกไม่กี่วันก็จะเป็นเทศกาลปีใหม่แล้ว ต้อนรับปีใหม่นี้ ด้วยข่าวดีที่ทำให้คนไทยมีความสุข เริ่มต้นจาก "สันติสนทนา" กันดีมั้ย?