<<<<<<<<<ขอออกตัวก่อนเลยว่างานนี้>>>>>>>>>>>
..............เป็นครั้งเเรกกับการบินสายการบิน full service
(อยากให้พ่อกับน้องนั่งสบายๆ เเละรู้สึกดีกับการนั่งเครื่องบินครั้งเเรก)
..............เป็นครั้งเเรกกับการขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ
(เพราะปกตินั่งเเต่โลวคอร์สเลยเจอเเต่ดอนเมือง)
..............เป็นครั้งเเรกกับการพาครอบครัวเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเอง
(อยากให้พ่อกับน้องได้เที่ยวต่างประเทศครั้งเเรกในชีวิต โครตตื่นเต้นกับการที่ต้องเป็นผู้นำ )
..............เเละเป็นครั้งเเรกของการนั่งเเบบต่อเครื่อง !!!!!!!!
(Via คือ อะไร เป็นศัพท์ใหม่ในสมอง ฮัลโหลวววววว)
ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นย่าน Kansai เพราะเคยไปเที่ยวย่าน Kanto ไปเเล้วเมื่อสองปีก่อน เลยมีจริตคิดอยากเห็นใบไม้เเดงฟูเป็นเเบล็คกราวด์อยู่ด้านหลังในรูป จึงจัดทริปนี้ขึ้น โดยไปวันที่ 28 November 2016 - 3 December 2016 เเละเนื่องด้วยการที่พาครอบครัวไปด้วยนี้ เราจึงต้องทำการบ้านเรื่องสายการบินอย่างหนักเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่กลัวเครื่องบินเเละไม่เคยขึ้นเครื่องบินอย่างพ่อเเละน้อง โจทย์คือ ต้องมีชื่อเสียงติดอันดับ Top 5 , ต้องบริการดีแอร์ยิ้มเเย้มเเจ่มจิต , ต้องมีราคาที่พอรับได้เพราะว่าอิฉันต้องX3 เเละที่สำคัญต้องมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งอยากนั่งการบินไทยเเบบบินตรงนะ เเต่โปรไม่ลั่น !!!! ออกมาเสียที เฝ้ารอมา 3 เดือน ยังคงอยู่ที่ 19000 กว่าๆ ต่อคน ค้นไปค้นมากว่า 1 เดือน มาโป๊ะเชะที่สายการบิน Cathay Pacific ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลกมาโดยตลอดในมาตรฐานการบริการเเละความปลอดภัย ที่ราคา 15,600 บาท ต่อหัว เเต่ !!!! ต้องไปต่อเครื่องนะคะ เราเลือกเวลาต่อเครื่องไฟลท์ขาไปเเค่ 1 ชม. !!!! แถมออกจาก กทม. 11:45 AM ถึง 09:00 PM คือเรียกได้ว่าเวลาไม่ดีเลย เเต่ต้องเลือกเพราะอยากบินกลางวันพ่อกับน้องจะได้รู้สึกเพลิดเพลินกับวิวบวกกับที่นั่งกว้างๆ กับบริการดีๆ พวกเขาจะได้ลืมกลัวชั่วขณะ !!!! ตอนเเรกคิดมากเรื่องเวลาสุดๆ เพราะเวลาถึงใกล้เคียงกับของเเอร์เอเชียมากเลย(เเต่หางเเดงราคา 14,000 บาท เลยเพิ่มอีกเเค่ 1,600 บาทได้ full service) กว่าจะออก ตม. กว่าจะต่อรถไฟ กระเตงๆ ไป 3 คน โรงเเรมที่จองย่าน Tennoji ก็บอกอีกว่าถ้าเกินเที่ยงคืน Check in ไม่ได้นะ เเล้วถ้าเครื่องดีเลย์หละ เเล้วถ้ากระเป๋าหายระหว่างเปลี่ยนเครื่องหละ โอ้ยยย !!!! คือจนในที่สุดเราตัดสินใจใช้กรรมฐานหลวงพ่อจรัญฯ เข้าข่ม คิดมากหนอ คิดมากหนอ สายการบินดีหนอ สายการบินดีหนอ ทันหนอ ทันหนอออออออ...........เเละเเล้วการผจญภัยของครอบครัวเราก็ได้เริ่มต้นขึ้น
FIRST FLIGHT>>>>>
CX 750 : BANGKOK - HONGKONG
AIRCRAFT : BOEING 777-200Z
SEAT : 63 A,B,C
TAKE OFF : 11:40 AM
LANDING : 03:30 PM
มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 9 โมงเช้าเป๊ะ !!! เสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องเป๊ะ !!! เเละเอกสารทุกอย่างเป๊ะ !!! เเละได้ทำการ Check in online เพื่อเลือกที่นั่งมาก่อนหน้านี้เเล้ว 24 ชม. มาถึงเค้าท์เตอร์จึงมีเวลาโพสท่าเเบบ เบาๆ นิสๆ !!!
หลังจากทำเรื่องผ่าน ตม. เสร็จก็รีบเดินหา Gate F6 เลยคะ ได้ข่าวว่าไกลมาก !!! พอมาถึง Gate ก็กำลังโหลดผู้โดยสารเข้าพอดี เเละก็เห็นเจ้ายักษ์แปรงพู่กันเขียวมารอรับเราอยู่ ก็ได้เเต่เดาว่าเป็น Aircraft รุ่นไหนฟระ เห็นในตั๋วบอก Airbus A330 เเต่มันไม่เหมือนเเหะ หรือจะเป็นอย่างที่ Seatguru.com บอกมาว่าเป็นเครื่อง Boeing 772 สรุปเชื่อไรได้คะ !!!! พูดดดด !!! ปล.กระจกสุวรรณภูมิสะอ๊าดสะอาด อิอิ
Economy อย่างเราก็เดินเบียดเข้าไปสิคะ คนจีนเเทบยกลำเลยคะ มีโบ้งเบ้งบ้างเเต่ไม่มากจนเกินงาม อย่าลืมหยิบหนังสือพิมพ์ไปอ่านบนเครื่องหล่ะ ( ภาษาจีน คือระ ??? )
เราเลือกที่นั่ง 63 A B เเละ C ตามลำดับ ตอน Check-in online เพราะทุกคนอยากจะนั่งมองหน้าต่างกันเหลือเกิน ไหนบอกกลัวไงค่ะ !!! อะๆ ไหนๆ ขึ้นมาเเล้วก็ต้องชักภาพ Family กันหน่อย " พ่อ ลูกตุ๊ด ลูกชะนี " ส่วนเเม่พยายามลากมาเเล้วนางบอกไม่เอานางกลัวเครื่องบิน งั้นส่งพ่อไปลองทดสอบนั่งเครื่องบินก่อน พ่อบอกว่า อ้าว !!! นี่คือรักกันจริงหรือเปล่าเนี่ย ??? ลูกๆ ก็ขำกันสิค่ะ 555 ( ขอโชว์หน้านะคะเพราะไม่มีอะไรให้ปิดบัง เป็นคนใจใจค่ะ )
และเเล้วก็เป็นเครื่อง Boeing 772 Z จริงๆ ด้วย คือ เป็นเครื่องรุ่นลายครามของสายการบินนี้เลยก็ว่าได้ เเต่เก้าอ้งเก้าอี้อะไรก็ดูใหม่ดีนะ คงได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดนั่นเเหละ เคยเจอรีวิวบ่นเครื่องนี้อยู่นะ เเต่พอเจอเข้าก็ไม่ขนาดนั้นป่ะ
นี่คือระยะความกว้างเเละยาวระหว่างขาเเละเก้าอี้ที่อิฉันพบว่า !!!! สบายม๊ากเลยค่ะ ไซต์กระเทยควายสูง 180 ซม. อย่างอิฉันเหยียดเข้าไปสิคะขานั่นนะ ความกว้างระหว่างเเขนก็โอเค 17 นิ้วครึ่ง ถึอว่าเริสสส เเต่เอนเบาะไม่ได้นะจะ ต้องสไลด์ตูดเอานี่อาจเป็นข้อเสีย ก็..... เป็น...... ด้ายยยยยย ........
มาโป๊ะเเตกตรงหน้าจอที่ดูๆ เเล้วจะเป็นรุ่นเก่าถึงเเม้จะ Touch screen ได้ก็เถอะ ก็เเอบเล็กนะ เเต่ก็พอได้อยู่ หนังใหม่ดีมีอัพเดทนะจะ เเถมมีรูเล็กๆ ไว้สำหรับเสียบสาย USB ชาร์จโทรศัพท์อีกด้วย เกร๋ๆ อ้าาาา ส่วนตรงมุมปุ่มสีเทาๆ นั้นเอาไว้สำหรับเเขวนเสื้อโค๊ตกันหนาว
ส่วนตรงนี้เป็นที่ใส่แก้วน้ำเหมือนรถทัวร์ นครชัยเเอร์ บ้านเราเลย^ ^
พอกางออกมาก็เป็นโต๊ะเเบบกระทัดรัดเอนกประสงค์ดูเเข็งเเรงดี เป็นเเบบพับสองตอนประหยัดเนื้อที่
ความปังคือ มีเเจกหมอนมุ้งมิ้งน่ารักด้วยอ้าาา คนติดหมอนอย่างอิฉันก็ปิติสิคะ ในส่วนของหูฟังนั้น....ไปซื้อเเถวคลองถมมาเหรอคะ !!!
เห็นหมอนหนูไหม เห็นหมอนหนูไหม เห็นหมอนหนูมั่ง......ม่ายยยยย
พอเครื่องทำระดับชั้นสตราโตสเฟียร์ (โครตมั่วอ่ะ ) ที่ 38,000 feet ได้เเล้ว แอร์สาวก็ทำหน้าที่ทันทีอย่างขมักเขม่น คือ ตกใจมากต้องเข็นเสิร์ฟกันขนาดนี้เลย ??? มีให้เลือกทุกอย่าง ไวน์เเดง ไวน์ขาว เบียร์ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม โค้กซีโร่ ชา กาแฟ นมสดอุ่นๆ อะไรที่มีบนรถคันนี้เชิญเลยค่ะผู้โดยสาร แอร์นางให้หมดใจเลยค่ะ อิฉันเลยจัดไปครบทุกอย่างหลายระลอก เเต่เเอร์นางก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ไม่ได้เจือยิ้มให้ หรือเเอบเหวี่ยง ไม่มีเลยสักนิดพร้อมกับถามเรากลับว่า มาจากไทยใช่ไหมคะ ??? นางทำงานสมดาวจริงๆ ยอมรับเลย เเต่เอ๋.....นางรู้ได้ไงว่าเรามาจากไทยเเลนด์เเดนสไมล์....หรือหน้าเราชัด ???
ในระหว่างที่พวกเรากำลังชมวิวข้างหน้าต่างๆ เพลินๆ อยู่นั้น เเอร์สาวก็ได้นำอาหารมาเสิร์ฟ ซึ่งเคยมีการลือกันว่าอาหาร Cathay Pacific ไม่อร่อยบ้างเเหละ จืดบ้างเเหละขอบอกเลยนะคะว่า สตรอว์มากๆ อีพวกนั้น อร่อยใช้ได้เลยนะคะ นี่ขนาดว่ามีกฎเกณฑ์หลายๆ อย่างบนเครื่องที่เป็นปัจจัยทำให้ต่อมรับรสของอาหารเเย่ลงเเล้วนะ มื้อนี้เมนู คือ หมูซอสพริกไทยดำกับไก่ซอสพริกไทยดำอุ่นร้อนๆ อิฉันเลือกหมูค่ะ เพราะจะกินกับไวน์เเดงเเสนเกร๋ ขนมปังก็อุ่นนะคะกินเเกล้มเนยอร่อยหอม ฟินนาเร่ค่ะมื้อนี้
เดี๋ยวจะไม่เชื่อว่าฟิน คือ มันดีงามอะคะ จิ๊บไวน์แดง ฟังเพลง กินอาหารบนภัตตาคารที่สูงที่สุดในโลก มันสุดค่ะ คือ ขอเติมไวน์จนเมา จนพ่อบอก " พอก่อนลูก พ่อขอ "
ในที่สุดก็ถึงเสียที แผ่นดินฮ่องกง ตรงเวลามากๆ ค่ะ ต่อไปตั้งสติให้มั่นเพื่อรีบทำเวลาเปลี่ยนเครื่องภาย 1 ชั่วโมง โชคดีนะที่เครื่องบินไม่ดีเลย์อะไรเลย เเถมเเลนด์ดิ้งนุ่มมาก กับตันเค้าเทรนด์มาดีจริงๆ ปกติตอนขึ้นลงเครื่องบินจะชอบเสียวท้อง เเต่ไม่เกิดขึ้นเลยสำหรับสายการบินนี้ นิ่งจนกระทั่งพ่อเอ่ยว่า "การขึ้นเครื่องบิน มันเเค่นี้เหรอ ??? " เราเลยบอกอย่าชะล่าใจไปค่ะ ยังมีอีกลำพ่อ อาจไม่นิ่มเเบบนี้ด็ได้ หนูเคยเจอเครื่องร่อนมาเเล้ว !!!!!
ต่อไปจะเป็นการต่อเครื่องจากสนามบิน ฮ่องกงนะคะ
V
V
V
V
[SR] รีวิว สายการบิน Cathay Pacific : Osaka - Bangkok (via Hongkong) ไม่บินตรงเพราะไม่มีตังค์ !!!!
..............เป็นครั้งเเรกกับการบินสายการบิน full service
(อยากให้พ่อกับน้องนั่งสบายๆ เเละรู้สึกดีกับการนั่งเครื่องบินครั้งเเรก)
..............เป็นครั้งเเรกกับการขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ
(เพราะปกตินั่งเเต่โลวคอร์สเลยเจอเเต่ดอนเมือง)
..............เป็นครั้งเเรกกับการพาครอบครัวเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเอง
(อยากให้พ่อกับน้องได้เที่ยวต่างประเทศครั้งเเรกในชีวิต โครตตื่นเต้นกับการที่ต้องเป็นผู้นำ )
..............เเละเป็นครั้งเเรกของการนั่งเเบบต่อเครื่อง !!!!!!!!
(Via คือ อะไร เป็นศัพท์ใหม่ในสมอง ฮัลโหลวววววว)
ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นย่าน Kansai เพราะเคยไปเที่ยวย่าน Kanto ไปเเล้วเมื่อสองปีก่อน เลยมีจริตคิดอยากเห็นใบไม้เเดงฟูเป็นเเบล็คกราวด์อยู่ด้านหลังในรูป จึงจัดทริปนี้ขึ้น โดยไปวันที่ 28 November 2016 - 3 December 2016 เเละเนื่องด้วยการที่พาครอบครัวไปด้วยนี้ เราจึงต้องทำการบ้านเรื่องสายการบินอย่างหนักเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่กลัวเครื่องบินเเละไม่เคยขึ้นเครื่องบินอย่างพ่อเเละน้อง โจทย์คือ ต้องมีชื่อเสียงติดอันดับ Top 5 , ต้องบริการดีแอร์ยิ้มเเย้มเเจ่มจิต , ต้องมีราคาที่พอรับได้เพราะว่าอิฉันต้องX3 เเละที่สำคัญต้องมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งอยากนั่งการบินไทยเเบบบินตรงนะ เเต่โปรไม่ลั่น !!!! ออกมาเสียที เฝ้ารอมา 3 เดือน ยังคงอยู่ที่ 19000 กว่าๆ ต่อคน ค้นไปค้นมากว่า 1 เดือน มาโป๊ะเชะที่สายการบิน Cathay Pacific ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลกมาโดยตลอดในมาตรฐานการบริการเเละความปลอดภัย ที่ราคา 15,600 บาท ต่อหัว เเต่ !!!! ต้องไปต่อเครื่องนะคะ เราเลือกเวลาต่อเครื่องไฟลท์ขาไปเเค่ 1 ชม. !!!! แถมออกจาก กทม. 11:45 AM ถึง 09:00 PM คือเรียกได้ว่าเวลาไม่ดีเลย เเต่ต้องเลือกเพราะอยากบินกลางวันพ่อกับน้องจะได้รู้สึกเพลิดเพลินกับวิวบวกกับที่นั่งกว้างๆ กับบริการดีๆ พวกเขาจะได้ลืมกลัวชั่วขณะ !!!! ตอนเเรกคิดมากเรื่องเวลาสุดๆ เพราะเวลาถึงใกล้เคียงกับของเเอร์เอเชียมากเลย(เเต่หางเเดงราคา 14,000 บาท เลยเพิ่มอีกเเค่ 1,600 บาทได้ full service) กว่าจะออก ตม. กว่าจะต่อรถไฟ กระเตงๆ ไป 3 คน โรงเเรมที่จองย่าน Tennoji ก็บอกอีกว่าถ้าเกินเที่ยงคืน Check in ไม่ได้นะ เเล้วถ้าเครื่องดีเลย์หละ เเล้วถ้ากระเป๋าหายระหว่างเปลี่ยนเครื่องหละ โอ้ยยย !!!! คือจนในที่สุดเราตัดสินใจใช้กรรมฐานหลวงพ่อจรัญฯ เข้าข่ม คิดมากหนอ คิดมากหนอ สายการบินดีหนอ สายการบินดีหนอ ทันหนอ ทันหนอออออออ...........เเละเเล้วการผจญภัยของครอบครัวเราก็ได้เริ่มต้นขึ้น
FIRST FLIGHT>>>>>
CX 750 : BANGKOK - HONGKONG
AIRCRAFT : BOEING 777-200Z
SEAT : 63 A,B,C
TAKE OFF : 11:40 AM
LANDING : 03:30 PM
มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 9 โมงเช้าเป๊ะ !!! เสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องเป๊ะ !!! เเละเอกสารทุกอย่างเป๊ะ !!! เเละได้ทำการ Check in online เพื่อเลือกที่นั่งมาก่อนหน้านี้เเล้ว 24 ชม. มาถึงเค้าท์เตอร์จึงมีเวลาโพสท่าเเบบ เบาๆ นิสๆ !!!
หลังจากทำเรื่องผ่าน ตม. เสร็จก็รีบเดินหา Gate F6 เลยคะ ได้ข่าวว่าไกลมาก !!! พอมาถึง Gate ก็กำลังโหลดผู้โดยสารเข้าพอดี เเละก็เห็นเจ้ายักษ์แปรงพู่กันเขียวมารอรับเราอยู่ ก็ได้เเต่เดาว่าเป็น Aircraft รุ่นไหนฟระ เห็นในตั๋วบอก Airbus A330 เเต่มันไม่เหมือนเเหะ หรือจะเป็นอย่างที่ Seatguru.com บอกมาว่าเป็นเครื่อง Boeing 772 สรุปเชื่อไรได้คะ !!!! พูดดดด !!! ปล.กระจกสุวรรณภูมิสะอ๊าดสะอาด อิอิ
Economy อย่างเราก็เดินเบียดเข้าไปสิคะ คนจีนเเทบยกลำเลยคะ มีโบ้งเบ้งบ้างเเต่ไม่มากจนเกินงาม อย่าลืมหยิบหนังสือพิมพ์ไปอ่านบนเครื่องหล่ะ ( ภาษาจีน คือระ ??? )
เราเลือกที่นั่ง 63 A B เเละ C ตามลำดับ ตอน Check-in online เพราะทุกคนอยากจะนั่งมองหน้าต่างกันเหลือเกิน ไหนบอกกลัวไงค่ะ !!! อะๆ ไหนๆ ขึ้นมาเเล้วก็ต้องชักภาพ Family กันหน่อย " พ่อ ลูกตุ๊ด ลูกชะนี " ส่วนเเม่พยายามลากมาเเล้วนางบอกไม่เอานางกลัวเครื่องบิน งั้นส่งพ่อไปลองทดสอบนั่งเครื่องบินก่อน พ่อบอกว่า อ้าว !!! นี่คือรักกันจริงหรือเปล่าเนี่ย ??? ลูกๆ ก็ขำกันสิค่ะ 555 ( ขอโชว์หน้านะคะเพราะไม่มีอะไรให้ปิดบัง เป็นคนใจใจค่ะ )
และเเล้วก็เป็นเครื่อง Boeing 772 Z จริงๆ ด้วย คือ เป็นเครื่องรุ่นลายครามของสายการบินนี้เลยก็ว่าได้ เเต่เก้าอ้งเก้าอี้อะไรก็ดูใหม่ดีนะ คงได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดนั่นเเหละ เคยเจอรีวิวบ่นเครื่องนี้อยู่นะ เเต่พอเจอเข้าก็ไม่ขนาดนั้นป่ะ
นี่คือระยะความกว้างเเละยาวระหว่างขาเเละเก้าอี้ที่อิฉันพบว่า !!!! สบายม๊ากเลยค่ะ ไซต์กระเทยควายสูง 180 ซม. อย่างอิฉันเหยียดเข้าไปสิคะขานั่นนะ ความกว้างระหว่างเเขนก็โอเค 17 นิ้วครึ่ง ถึอว่าเริสสส เเต่เอนเบาะไม่ได้นะจะ ต้องสไลด์ตูดเอานี่อาจเป็นข้อเสีย ก็..... เป็น...... ด้ายยยยยย ........
มาโป๊ะเเตกตรงหน้าจอที่ดูๆ เเล้วจะเป็นรุ่นเก่าถึงเเม้จะ Touch screen ได้ก็เถอะ ก็เเอบเล็กนะ เเต่ก็พอได้อยู่ หนังใหม่ดีมีอัพเดทนะจะ เเถมมีรูเล็กๆ ไว้สำหรับเสียบสาย USB ชาร์จโทรศัพท์อีกด้วย เกร๋ๆ อ้าาาา ส่วนตรงมุมปุ่มสีเทาๆ นั้นเอาไว้สำหรับเเขวนเสื้อโค๊ตกันหนาว
ส่วนตรงนี้เป็นที่ใส่แก้วน้ำเหมือนรถทัวร์ นครชัยเเอร์ บ้านเราเลย^ ^
พอกางออกมาก็เป็นโต๊ะเเบบกระทัดรัดเอนกประสงค์ดูเเข็งเเรงดี เป็นเเบบพับสองตอนประหยัดเนื้อที่
ความปังคือ มีเเจกหมอนมุ้งมิ้งน่ารักด้วยอ้าาา คนติดหมอนอย่างอิฉันก็ปิติสิคะ ในส่วนของหูฟังนั้น....ไปซื้อเเถวคลองถมมาเหรอคะ !!!
เห็นหมอนหนูไหม เห็นหมอนหนูไหม เห็นหมอนหนูมั่ง......ม่ายยยยย
พอเครื่องทำระดับชั้นสตราโตสเฟียร์ (โครตมั่วอ่ะ ) ที่ 38,000 feet ได้เเล้ว แอร์สาวก็ทำหน้าที่ทันทีอย่างขมักเขม่น คือ ตกใจมากต้องเข็นเสิร์ฟกันขนาดนี้เลย ??? มีให้เลือกทุกอย่าง ไวน์เเดง ไวน์ขาว เบียร์ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม โค้กซีโร่ ชา กาแฟ นมสดอุ่นๆ อะไรที่มีบนรถคันนี้เชิญเลยค่ะผู้โดยสาร แอร์นางให้หมดใจเลยค่ะ อิฉันเลยจัดไปครบทุกอย่างหลายระลอก เเต่เเอร์นางก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ไม่ได้เจือยิ้มให้ หรือเเอบเหวี่ยง ไม่มีเลยสักนิดพร้อมกับถามเรากลับว่า มาจากไทยใช่ไหมคะ ??? นางทำงานสมดาวจริงๆ ยอมรับเลย เเต่เอ๋.....นางรู้ได้ไงว่าเรามาจากไทยเเลนด์เเดนสไมล์....หรือหน้าเราชัด ???
ในระหว่างที่พวกเรากำลังชมวิวข้างหน้าต่างๆ เพลินๆ อยู่นั้น เเอร์สาวก็ได้นำอาหารมาเสิร์ฟ ซึ่งเคยมีการลือกันว่าอาหาร Cathay Pacific ไม่อร่อยบ้างเเหละ จืดบ้างเเหละขอบอกเลยนะคะว่า สตรอว์มากๆ อีพวกนั้น อร่อยใช้ได้เลยนะคะ นี่ขนาดว่ามีกฎเกณฑ์หลายๆ อย่างบนเครื่องที่เป็นปัจจัยทำให้ต่อมรับรสของอาหารเเย่ลงเเล้วนะ มื้อนี้เมนู คือ หมูซอสพริกไทยดำกับไก่ซอสพริกไทยดำอุ่นร้อนๆ อิฉันเลือกหมูค่ะ เพราะจะกินกับไวน์เเดงเเสนเกร๋ ขนมปังก็อุ่นนะคะกินเเกล้มเนยอร่อยหอม ฟินนาเร่ค่ะมื้อนี้
เดี๋ยวจะไม่เชื่อว่าฟิน คือ มันดีงามอะคะ จิ๊บไวน์แดง ฟังเพลง กินอาหารบนภัตตาคารที่สูงที่สุดในโลก มันสุดค่ะ คือ ขอเติมไวน์จนเมา จนพ่อบอก " พอก่อนลูก พ่อขอ "
ในที่สุดก็ถึงเสียที แผ่นดินฮ่องกง ตรงเวลามากๆ ค่ะ ต่อไปตั้งสติให้มั่นเพื่อรีบทำเวลาเปลี่ยนเครื่องภาย 1 ชั่วโมง โชคดีนะที่เครื่องบินไม่ดีเลย์อะไรเลย เเถมเเลนด์ดิ้งนุ่มมาก กับตันเค้าเทรนด์มาดีจริงๆ ปกติตอนขึ้นลงเครื่องบินจะชอบเสียวท้อง เเต่ไม่เกิดขึ้นเลยสำหรับสายการบินนี้ นิ่งจนกระทั่งพ่อเอ่ยว่า "การขึ้นเครื่องบิน มันเเค่นี้เหรอ ??? " เราเลยบอกอย่าชะล่าใจไปค่ะ ยังมีอีกลำพ่อ อาจไม่นิ่มเเบบนี้ด็ได้ หนูเคยเจอเครื่องร่อนมาเเล้ว !!!!!
ต่อไปจะเป็นการต่อเครื่องจากสนามบิน ฮ่องกงนะคะ
V
V
V
V
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น