สวัสดีครับ สาวๆ ppantip.com และ หนุ่มๆผู้ที่สนใจดูแลเส้นผม ทุกคนนะครับ
ยุคนี้ดูแลแค่หน้าและผิวพรรณมันไม่พออีกต่อไป เส้นผมก็สำคัญ
ใครเส้นผมสวยก็ดูมีเสน่ห์มากขึ้น แต่สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม
วันนี้ผมจะเขียน Content ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะครับ
จากร้าน Daiso หรือที่ทุกคนรู้จักกันในร้าน 60 บาทนะครับ
หยิบมาเขียน 2 ตัวนะครับวันนี้
ตัวนึงบำรุงหนังศรีษะ ส่วนอีกตัวนึงบำรุงเส้นผม
Daiso Dry Scalp Hair Spray
Daiso Leave On Treatment Hair Spray
ทั้งคู่ราคาเท่ากันครับคือ 60 บาท
มีขนาดต่อขวดหรือปริมาณสุทธิ 150 มล. ถือว่าสามารถใช้ได้นานเลยครับ
Daiso Dry Scalp Hair Spray
ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะโดยไม่ต้องล้างออก พิเศษสำหรับ
" ผู้ที่มีปัญหาหนังศรีษะและเส้นผมแห้ง " ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื่น เช่น น้ำมันอาร์แกน และ คอลลาเจน เป็นต้น
ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนียวเหนอะแหนะหลังการใช้งาน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ควรใช้ตอนที่ผมเปียกหมาดๆ
Daiso Leave On Treatment Hair Spray
ผลิตภัณฑ์บำรุงผมและหนังศรีษะโดยไม่ต้องล้างออก ออกแบบพิเศษ " สำหรับมอบความนุ่มลื่นเงางามให้เส้นผม พร้อมทั้งช่วยลดการพันกันของเส้นผม " ผสานการทำงานกับสารบำรุงผมนานาชนิด ได้แก่โปรตีนจากนมและน้ำมันมะกอก
ที่ช่วยให้ผมเงางาม นุ่มลื่นดุจกำมะหยี่ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ควรใช้ตอนที่ผมเปียกหมาดๆ
บรรจุภัณฑ์ : เป็นขวดพลาสติก มาพร้อมกับหัวสเปรย์ ที่กดสะดวก คุมปริมาณได้และฉีดฝอยกระจายตัวได้ดีครับ
วิธีใช้ : สเปรย์ผลิตภัณฑ์ลงบนหนังศรีษะและเส้นผม หลังสระผม
(แต่โดยส่วนตัวแล้วจะใช้ขวดสีฟ้าสูตร Dry Scalp เฉพาะหนังศรีษะ แหวกๆฉีดที่โคนเส้นผมและหนังศรีษะเลยครับ สูตรสีฟ้าฉีดที่เส้นผมก็ได้เหมือนกัน ,, ส่วนขวดสีส้มๆเหลืองๆ สูตร Leave On Treatment สูตรนี้จะฉีดเฉพาะบริเวณเส้นผมครับ)
ประสบการณ์จากการใช้จริง
ผลลัพธ์ถือว่าเป็นที่พอใจครับ ชอบอยู่ครับ เนื่องจากความชอบส่วนตัวที่ไม่ได้อยากได้บำรุงผมอะไรที่หนักๆ 2 ตัวนี้ถือว่าเป็นบำรุงที่เบาๆหัวเบาๆเส้นผม ฉีดไปก็ไม่ทำให้ผมมันเยิ้มอะไร เส้นผมลื่นขึ้นจริงๆแต่ไม่ได้ลื่นอะไรมากมาย ฟิลลิ่งธรรมชาติๆเคลือบผมเบาๆ ลื่นไม่พันกันครับ ส่วนหนังศรีษะก็ไม่แห้งอีกด้วย (ซึ่งต่างจากแฮร์โทนิกบางยี่ห้อ ที่มีแอลกอฮอล์ผสมแล้วอาจจะทำให้แสบหนังศรีษะ หรือ เกิดปัญหาแห้งคันตามมา ,, ผลิตภันฑ์ของไดโซ 2 ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์นะครับ No Alcohol ครับ)
เราไปวิเคราะห์ส่วนผสมกันดีกว่าครับ
Daiso Dry Scalp Hair Spray
Ingredients : Water, Glycerin, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Phenoxyethanol, Sodium Benzoate, Citric Acid, Tocopheryl Acetate, Imperata Cylindrica Root Extract, Fragrance, Argania Spinosa Kernel Oil, Tetrasodium EDTA, Soluble Collagen, BHT, Capylyl Glycol, Carbomer, Sodium Citrate, Chlorphenesin, Methylparaben, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Biotin.
ส่วนผสมสูตรสีฟ้านี้เน้นบำรุงให้ความชุ่มชื่นเป็นหลัก ด้วย Glycerin จะช่วยดึงน้ำให้หนังศรีษะและเส้นผมชุ่มชื้น + สารออกฤทธิ์อื่นๆนิดหน่อย ใส่มาไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เดาว่าน้อยกว่า 1 % ของสูตรแน่นอน เช่น วิตามิน E ให้หนังศรีษะชุ่มชื่นและเคลือบหนังศรีษะและเส้นผมไว้ + Imperata Cylindrica Root Extract เป็นสารสกัดจากพืชที่มีสารสำคัญช่วยให้ความชุ่มชื่นที่ยาวนาน 24 ชม. โอบอุ้มน้ำให้ชุ่มชื้นขึ้น + น้ำมันอาร์แกน ช่วยเคลือบเส้นผมและหนังศรีษะ เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยบำรุงป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่นไป อีกทั้งยังช่วยให้ผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู มีน้ำหนัก หวีง่าย + คอลลาเจน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น + ไบโอติน ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม ลดผมร่วง
สารออกฤทธิ์ทั้งหมดไม่ได้ใส่มาเยอะ จึงบอกได้ยากถ้าคิดจะหวังผลอย่าง ไบโอตินที่ช่วยให้ผมถูกกระตุ้นและลดผมร่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคลและการที่ใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องประกอบด้วยนะครับ
มีน้ำหอมในส่วนผสม + สารกันเสียหลายชนิด อาจจะทำให้หนังศรีษะระคายเคืองได้ในบางคน
Daiso Leave On Treatment Hair Spray
Ingredients : Water, Amodimethicone, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Phenoxyethanol, Sodium Benzoate, Glycerin, Fragrance, Citric Acid, Cetrimonium Chloride, Panthenol, Tetrasodium EDTA, Trideceth-12, Persea Gratissima (Avocado) Oil, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Hydrolyzed Milk Protein, BHT.
ส่วนผสมสูตรสีเหลืองนี้จะเน้นไปทางด้านเคลือบเส้นผม ซึ่งต่างจากสูตรสีฟ้านะครับ
สูตรนี้จะเป็นเหมือนซิลิโคลนละลายน้ำ+สารบำรุง สำหรับเส้นผมครับ สูตรนี้จะมีตัวหลักๆชูโรงอย่าง Amodimethicone ซึ่งเป็นซิลิโคลนที่มีประจุบวก(+) ผสมกับ Cetrimonium Chloride ตัวนี้ก็เคลือบเส้นผมเพราะตัวมันเองมีประจุบวก(+)เหมือนกัน เมื่อเส้นผมถูกเคลือบไว้เส้นผมก็จะนุ่มลื่น ไม่พันกัน มีน้ำหนักขึ้น เงาดูสุขภาพดีขึ้นครับ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้สูตรนี้ยังใส่สารดึงน้ำช่วยให้ความชุ่มชื่นอีก + วิตามิน B5 บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะให้ชุ่มชื่น + น้ำมันอโวคาโด้และน้ำมันมะกอก น้ำมันธรรมชาติ บำรุงเส้นผม และช่วยเคลือบเส้นผม + โปรตีนจากนม ให้ความชุ่มชื่น
และเช่นเคยครับ ไม่ได้ใส่สารสกัดเข้มข้นอะไร อาจจะหวังผลในตัวสารสกัดได้ยากหน่อย
(เหตผลที่ไม่ฉีดสูตรนี้ลงบนหนังศรีษะเพราะว่ามีน้ำมันธรรมชาติในสูตร 2 ตัวและทั้ง 2 ตัวก็เป็นน้ำมันที่เนื้อหนัก อาจจะทำให้หนังศรีษะมันจนเกินไปได้ + ไม่อยากให้ฉีดไปแล้วซิลิโคลนกองอยู่ที่หนังศรีษะปิดเคลือบหนังศรีษะด้วย ดังนั้นจึงเลือกฉีดแค่เส้นผมพอครับ)
มีน้ำหอมในส่วนผสม + สารกันเสียหลายชนิด อาจจะทำให้หนังศรีษะระคายเคืองได้ในบางคน
หลายคนสงสัยว่าพวกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทำงานยังไง ?
อธิบายแบบหลักการ การทำงานง่ายๆนะครับเพื่อความเข้าใจ ในส่วนผสมของครีมนวดผมหรือทรีทเม้นท์ผมโดยทั่วไปแล้วจะมีส่วนผสมทางเครื่องสำอางที่ส่วนใหญ่เป็นสารเคลือบจำพวกสารที่มีประจุบวก และ สารกลุ่มซิลิโคลน อย่างพวกสารกลุ่มซิลิโคลนหลายคนคงรู้จักเพราะเป็นสารที่ทำให้รู้สึกนุ่ม ลื่น แต่สารประจุบวกบางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ,, ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วผิวหนังและเส้นผมของคนเรานั้นจะมีสถาณะเป็นประจุ ลบ อยู่แล้ว การใช้สารประจุบวกเข้ามาเพื่อให้มันดูดจับกับเส้นผมเราได้ สารประจุบวกที่จะเจอบ่อยๆในครีมนวด/ทรีทเม้นต์ผมคือ Behentrimonium Chloride , Cetrimonium Chloride และพวก Polyquaternium เป็นต้น สารเหล่านี้จะช่วยให้ผมมีน้ำหนัก (สารพวกนี้ไปจับ/เกาะเส้นผมเราเลยทำให้มีน้ำมันเพิ่ม)
สำหรับบางคนที่ผมเสีย จับแล้วสากๆทำไมใช้ครีมนวด/ทรีทเม้นท์แล้วเส้นผมดีขึ้นเลยทันที ?
นั่นก็เพราะสารทั้ง 2 ไปช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมที่เปิดเนื่องจากผมเสีย ผลพวกนี้ให้ผลแค่เพียงชั่วคราวครับ ไม่ได้แก้ไขให้ผมกลับมาสุขภาพดีได้เหมือนเดิม
แต่ทั้งนี้นี่เป็นเพียงแค่ผลของเบสทางเครื่องสำอางยังไม่รวมสารออกฤทธิ์หรือพวก Active Ingredients ที่จะเข้ามาช่วยบำรุงเส้นผมเราอีกทีนึงนะครับ ส่วนน้ำมันธรรมชาติก็ทำหน้าที่เหมือนกับสารกลุ่มซิลิโคลนครับแต่เนื้อเขาจะหนักกว่า มันกว่า ฟิลลิ่งไม่ดีเท่าสารกลุ่มซิลิโคลน
การรีวิวในครั้งนี้ Base on ความเห็นส่วนตัว + ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
สุดท้ายแล้วผมไม่ทราบได้นะครับ ว่าสิ่งนี้เหมาะกับทุกคนไหม ใช้แล้วจะแพ้ไหม ผลลัพธ์ในการใช้จะเหมือนกับผมรึเปล่า
ผมไม่สามารถตอบได้จริงๆครับ เพราะผิวของแต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน อยากให้ลองทดสอบและทดลองก่อนใช้ด้วยตัวเองนะครับ
และการวิเคราะห์ส่วนผสมเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวในการวิเคราะห์ ไม่ได้ชี้นำว่าทุกอย่างถูกหรือผิด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ
ขอบคุณครับ
Disclaimer : Self Bought
Thank You ~* xoxo
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สามารถติดต่อ พูดคุย แลกเปลี่ยน และติดตามผ่านทางช่องทางข้างล่างได้นะครับ
★ Blog ★ : https://jamesbadbitch.wordpress.com
♔ Facebook ♔ : https://www.facebook.com/jamesbaddude
♕ E-mail ♕ : jamesbadb.tch@gmail.com
ติดต่อผ่านหลังไมค์ / inbox ก็ได้นะครับ
[CR] วิเคราะห์ส่วนผสมและรีวิว | ✱ Daiso ✱ | Hair Spray สเปรย์บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะ ด้วยเงิน 60 บาท
หยิบมาเขียน 2 ตัวนะครับวันนี้
ตัวนึงบำรุงหนังศรีษะ ส่วนอีกตัวนึงบำรุงเส้นผม
Daiso Dry Scalp Hair Spray
Daiso Leave On Treatment Hair Spray
ทั้งคู่ราคาเท่ากันครับคือ 60 บาท
มีขนาดต่อขวดหรือปริมาณสุทธิ 150 มล. ถือว่าสามารถใช้ได้นานเลยครับ
ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะโดยไม่ต้องล้างออก พิเศษสำหรับ " ผู้ที่มีปัญหาหนังศรีษะและเส้นผมแห้ง " ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื่น เช่น น้ำมันอาร์แกน และ คอลลาเจน เป็นต้น
ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนียวเหนอะแหนะหลังการใช้งาน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ควรใช้ตอนที่ผมเปียกหมาดๆ
ผลิตภัณฑ์บำรุงผมและหนังศรีษะโดยไม่ต้องล้างออก ออกแบบพิเศษ " สำหรับมอบความนุ่มลื่นเงางามให้เส้นผม พร้อมทั้งช่วยลดการพันกันของเส้นผม " ผสานการทำงานกับสารบำรุงผมนานาชนิด ได้แก่โปรตีนจากนมและน้ำมันมะกอก
ที่ช่วยให้ผมเงางาม นุ่มลื่นดุจกำมะหยี่ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ควรใช้ตอนที่ผมเปียกหมาดๆ
บรรจุภัณฑ์ : เป็นขวดพลาสติก มาพร้อมกับหัวสเปรย์ ที่กดสะดวก คุมปริมาณได้และฉีดฝอยกระจายตัวได้ดีครับ
วิธีใช้ : สเปรย์ผลิตภัณฑ์ลงบนหนังศรีษะและเส้นผม หลังสระผม
(แต่โดยส่วนตัวแล้วจะใช้ขวดสีฟ้าสูตร Dry Scalp เฉพาะหนังศรีษะ แหวกๆฉีดที่โคนเส้นผมและหนังศรีษะเลยครับ สูตรสีฟ้าฉีดที่เส้นผมก็ได้เหมือนกัน ,, ส่วนขวดสีส้มๆเหลืองๆ สูตร Leave On Treatment สูตรนี้จะฉีดเฉพาะบริเวณเส้นผมครับ)
ประสบการณ์จากการใช้จริง
ผลลัพธ์ถือว่าเป็นที่พอใจครับ ชอบอยู่ครับ เนื่องจากความชอบส่วนตัวที่ไม่ได้อยากได้บำรุงผมอะไรที่หนักๆ 2 ตัวนี้ถือว่าเป็นบำรุงที่เบาๆหัวเบาๆเส้นผม ฉีดไปก็ไม่ทำให้ผมมันเยิ้มอะไร เส้นผมลื่นขึ้นจริงๆแต่ไม่ได้ลื่นอะไรมากมาย ฟิลลิ่งธรรมชาติๆเคลือบผมเบาๆ ลื่นไม่พันกันครับ ส่วนหนังศรีษะก็ไม่แห้งอีกด้วย (ซึ่งต่างจากแฮร์โทนิกบางยี่ห้อ ที่มีแอลกอฮอล์ผสมแล้วอาจจะทำให้แสบหนังศรีษะ หรือ เกิดปัญหาแห้งคันตามมา ,, ผลิตภันฑ์ของไดโซ 2 ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์นะครับ No Alcohol ครับ)
เราไปวิเคราะห์ส่วนผสมกันดีกว่าครับ
Daiso Dry Scalp Hair Spray
Ingredients : Water, Glycerin, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Phenoxyethanol, Sodium Benzoate, Citric Acid, Tocopheryl Acetate, Imperata Cylindrica Root Extract, Fragrance, Argania Spinosa Kernel Oil, Tetrasodium EDTA, Soluble Collagen, BHT, Capylyl Glycol, Carbomer, Sodium Citrate, Chlorphenesin, Methylparaben, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Biotin.
ส่วนผสมสูตรสีฟ้านี้เน้นบำรุงให้ความชุ่มชื่นเป็นหลัก ด้วย Glycerin จะช่วยดึงน้ำให้หนังศรีษะและเส้นผมชุ่มชื้น + สารออกฤทธิ์อื่นๆนิดหน่อย ใส่มาไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เดาว่าน้อยกว่า 1 % ของสูตรแน่นอน เช่น วิตามิน E ให้หนังศรีษะชุ่มชื่นและเคลือบหนังศรีษะและเส้นผมไว้ + Imperata Cylindrica Root Extract เป็นสารสกัดจากพืชที่มีสารสำคัญช่วยให้ความชุ่มชื่นที่ยาวนาน 24 ชม. โอบอุ้มน้ำให้ชุ่มชื้นขึ้น + น้ำมันอาร์แกน ช่วยเคลือบเส้นผมและหนังศรีษะ เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยบำรุงป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่นไป อีกทั้งยังช่วยให้ผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู มีน้ำหนัก หวีง่าย + คอลลาเจน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น + ไบโอติน ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม ลดผมร่วง
สารออกฤทธิ์ทั้งหมดไม่ได้ใส่มาเยอะ จึงบอกได้ยากถ้าคิดจะหวังผลอย่าง ไบโอตินที่ช่วยให้ผมถูกกระตุ้นและลดผมร่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคลและการที่ใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องประกอบด้วยนะครับ
มีน้ำหอมในส่วนผสม + สารกันเสียหลายชนิด อาจจะทำให้หนังศรีษะระคายเคืองได้ในบางคน
Daiso Leave On Treatment Hair Spray
Ingredients : Water, Amodimethicone, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Phenoxyethanol, Sodium Benzoate, Glycerin, Fragrance, Citric Acid, Cetrimonium Chloride, Panthenol, Tetrasodium EDTA, Trideceth-12, Persea Gratissima (Avocado) Oil, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Hydrolyzed Milk Protein, BHT.
ส่วนผสมสูตรสีเหลืองนี้จะเน้นไปทางด้านเคลือบเส้นผม ซึ่งต่างจากสูตรสีฟ้านะครับ
สูตรนี้จะเป็นเหมือนซิลิโคลนละลายน้ำ+สารบำรุง สำหรับเส้นผมครับ สูตรนี้จะมีตัวหลักๆชูโรงอย่าง Amodimethicone ซึ่งเป็นซิลิโคลนที่มีประจุบวก(+) ผสมกับ Cetrimonium Chloride ตัวนี้ก็เคลือบเส้นผมเพราะตัวมันเองมีประจุบวก(+)เหมือนกัน เมื่อเส้นผมถูกเคลือบไว้เส้นผมก็จะนุ่มลื่น ไม่พันกัน มีน้ำหนักขึ้น เงาดูสุขภาพดีขึ้นครับ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้สูตรนี้ยังใส่สารดึงน้ำช่วยให้ความชุ่มชื่นอีก + วิตามิน B5 บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะให้ชุ่มชื่น + น้ำมันอโวคาโด้และน้ำมันมะกอก น้ำมันธรรมชาติ บำรุงเส้นผม และช่วยเคลือบเส้นผม + โปรตีนจากนม ให้ความชุ่มชื่น
และเช่นเคยครับ ไม่ได้ใส่สารสกัดเข้มข้นอะไร อาจจะหวังผลในตัวสารสกัดได้ยากหน่อย
(เหตผลที่ไม่ฉีดสูตรนี้ลงบนหนังศรีษะเพราะว่ามีน้ำมันธรรมชาติในสูตร 2 ตัวและทั้ง 2 ตัวก็เป็นน้ำมันที่เนื้อหนัก อาจจะทำให้หนังศรีษะมันจนเกินไปได้ + ไม่อยากให้ฉีดไปแล้วซิลิโคลนกองอยู่ที่หนังศรีษะปิดเคลือบหนังศรีษะด้วย ดังนั้นจึงเลือกฉีดแค่เส้นผมพอครับ)
มีน้ำหอมในส่วนผสม + สารกันเสียหลายชนิด อาจจะทำให้หนังศรีษะระคายเคืองได้ในบางคน
หลายคนสงสัยว่าพวกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทำงานยังไง ?
อธิบายแบบหลักการ การทำงานง่ายๆนะครับเพื่อความเข้าใจ ในส่วนผสมของครีมนวดผมหรือทรีทเม้นท์ผมโดยทั่วไปแล้วจะมีส่วนผสมทางเครื่องสำอางที่ส่วนใหญ่เป็นสารเคลือบจำพวกสารที่มีประจุบวก และ สารกลุ่มซิลิโคลน อย่างพวกสารกลุ่มซิลิโคลนหลายคนคงรู้จักเพราะเป็นสารที่ทำให้รู้สึกนุ่ม ลื่น แต่สารประจุบวกบางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ,, ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วผิวหนังและเส้นผมของคนเรานั้นจะมีสถาณะเป็นประจุ ลบ อยู่แล้ว การใช้สารประจุบวกเข้ามาเพื่อให้มันดูดจับกับเส้นผมเราได้ สารประจุบวกที่จะเจอบ่อยๆในครีมนวด/ทรีทเม้นต์ผมคือ Behentrimonium Chloride , Cetrimonium Chloride และพวก Polyquaternium เป็นต้น สารเหล่านี้จะช่วยให้ผมมีน้ำหนัก (สารพวกนี้ไปจับ/เกาะเส้นผมเราเลยทำให้มีน้ำมันเพิ่ม)
สำหรับบางคนที่ผมเสีย จับแล้วสากๆทำไมใช้ครีมนวด/ทรีทเม้นท์แล้วเส้นผมดีขึ้นเลยทันที ?
นั่นก็เพราะสารทั้ง 2 ไปช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมที่เปิดเนื่องจากผมเสีย ผลพวกนี้ให้ผลแค่เพียงชั่วคราวครับ ไม่ได้แก้ไขให้ผมกลับมาสุขภาพดีได้เหมือนเดิม
แต่ทั้งนี้นี่เป็นเพียงแค่ผลของเบสทางเครื่องสำอางยังไม่รวมสารออกฤทธิ์หรือพวก Active Ingredients ที่จะเข้ามาช่วยบำรุงเส้นผมเราอีกทีนึงนะครับ ส่วนน้ำมันธรรมชาติก็ทำหน้าที่เหมือนกับสารกลุ่มซิลิโคลนครับแต่เนื้อเขาจะหนักกว่า มันกว่า ฟิลลิ่งไม่ดีเท่าสารกลุ่มซิลิโคลน
การรีวิวในครั้งนี้ Base on ความเห็นส่วนตัว + ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
สุดท้ายแล้วผมไม่ทราบได้นะครับ ว่าสิ่งนี้เหมาะกับทุกคนไหม ใช้แล้วจะแพ้ไหม ผลลัพธ์ในการใช้จะเหมือนกับผมรึเปล่า
ผมไม่สามารถตอบได้จริงๆครับ เพราะผิวของแต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน อยากให้ลองทดสอบและทดลองก่อนใช้ด้วยตัวเองนะครับ
และการวิเคราะห์ส่วนผสมเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวในการวิเคราะห์ ไม่ได้ชี้นำว่าทุกอย่างถูกหรือผิด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ
ขอบคุณครับ
Disclaimer : Self Bought
Thank You ~* xoxo
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้