Macau Master Hotel ตั้งอยู่ฝั่งเกาะมาเก๊า
เจ้าของกระทู้และครอบครัว รวม 4 ชิวิต ได้ไปเข้าพักเมื่อ 25-27 พย. 2559 ครั้งแรกตั้งใจจะหาโรงแรมที่มีห้องแบบครอบครัว เข้าพักได้ 4 คน ในห้องเดียว แต่ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจจองห้องพักที่นี่ เป็นห้องพัก แบบ Twin bed จำนวน 2 ห้อง เจ้าของกระทู้ได้มาที่ราคาเฉลี่ย คืนละ 2,533.83 บาท ต่อห้อง
ที่นี้ส่วนของห้องพักจะอยู่ที่ชั้น 5 และ 6 เวลาจะขึ้นลิฟท์ไปที่พักต้องเสียบคีย์การ์ดก่อน ห้องพักที่จองเป็นเตียงเดียว 2 เตียง ให้หมอนมาเตียงละ 3 ใบ เตียงไม่ยวบ ไม่แข็งกำลังดี หมอนก็นอนสบาย เสียอย่างเดียวห้องมีกลิ่นอับนิดหน่อย น่าจะเป็นเพราะห้องปูพรม หน้าต่างห้องพักเปิดไม่ได้ ทำให้ไม่ค่อยได้ระบายอากาศสักเท่าไร
แขกก็พักเต็มตลอด ตอนที่เจ้าของกระทู้ไปพักเห็นที่โต๊ะ Front ตั้งป้าย Full ทั้ง 2 วัน (รูปจากในเว็บไซต์ตอนจองกับของจริงไม่ต่างกัน) ที่นี้คิดค่ามัดจำกุญแจห้องเดียว 300 เหรียญ ของเจ้าของกระทู้จองไป 2 ห้อง ค่ามัดจำ 500 เหรียญ ได้คืนตอนเช็คเอาท์ออก ต้องเก็บใบเสร็จรับเงินมัดจำไว้ให้ดี
อุปกรณ์ที่ให้มา มี (ของใช้ทุกอย่าง เวลาพนักงานมาเก็บขยะ ทำความสะอาดห้อง จะเติมใหม่ให้ทุกครั้ง)
- น้ำเปล่า 2 ขวด กาแฟสำเร็จรูป 2 ซอง ชา 2 ซอง (พนักงานมาเติมเพิ่มให้ทุกวัน)
- กาน้ำร้อน แก้วน้ำ 2 ใบ แก้วกาแฟ 2 ใบ (อยู่ในลิ้นชักโต๊ะ)
- รองเท้าใส่เดินในห้อง ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ (แต่ไม่มีผ้าเช็ดเท้าในห้องน้ำให้)
- สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู แปรงสีฟัน พร้อมยาสีฟัน หวี หมวกคลุมผม
- ไดร์ทเป่าผมติดผนังอยู่ในห้องน้ำ
- ตู้เซฟ และตู้เย็น อยู่ด้านในตู้เสื้อผ้า
- ไวไฟฟรีให้ใช้ในห้อง สัญญาณก็ดีใช้ได้ รหัสไวไฟจะมีวางไว้ให้ในห้อง
- แอร์ที่นี้สามารถเปลี่ยนเป็นฮีทเตอร์ได้ด้วย
จากหน้าต่างห้องพัก มองไปทางซ้าย จะเห็นตึกโรงแรม Sofitel Macau at Ponte 16 ทะเล และฝั่งจีน มองไปทางขวา จะเห็นถนน Rua Das Lorchas ซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งโรงแรม Hou Kong และเดินทะลุไปเป็นโรงแรม 2 ดาวอีกหลายโรงแรม เช่น Man va Hotel, Ole Tai Sam Un Hotel, Vila Universal เป็นต้น (รูปมัวเล็กน้อยเนื่องจากมีไอน้ำเกาะที่กระจกหน้าต่าง)
ป้ายรถเมย์อยู่หน้าโรงแรม เดินทางไปสนามบิน ท่าเรือ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สะดวกมาก เช่น
จากท่าเรือไทปา หรือสนามบิน : สามารถนั่งรถเมย์สาย 26 และ MT4 มาลงป้าย Rau Das Lorchas (M137) ที่อยู่หน้าโรงแรมได้เลย
จากโรงแรมไปท่าเรือไทปา หรือสนามบิน : สามารถนั่งสาย 26 หรือ MT4 จากป้าย Ponte 14 ไปได้
จากท่าเรือมาเก๊า : สามารถนั่งรถเมย์สาย 10 มาลงป้าย Ponte 14 แล้วเดินขึ้นมาประมาณ 130 เมตร หรือ 3A มาลงป้าย Praca Ponte Horta/ Terminal และเดินย้อนกลับมาประมาณ 120 เมตร ก็ถึงโรงแรม
จากโรงแรมไปท่าเรือมาเก๊า : สามารถนั่งสาย 3A จากป้าย Rau Das Lorchas หน้าโรงแรมไปลงที่ท่าเรือได้ หรือจะนั่งแท๊กซี่ไปแบบเจ้าของกระทู้ก็สะดวกดี เรียกจากหน้าโรงแรมไป ราคาประมาณ 45 เหรียญ
การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สะดวกจากโรงแรมสามารถเดินไป วัดอาม่า หรือเซนาโด้ สแคร์ว และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนั้นได้เลย
H1 Hotel ตั้งอยู่ที่ Mong Kok ฝั่งเกาลูน ฮ่องกง
สำหรับที่ฮ่องกง เจ้าของกระทู้ก็หาโรงแรมที่มีห้องพักแบบครอบครัว สามารถเข้าพักได้ 4 คนอีก โดยเข้าพักเมื่อวันที่ 27-30 พย. 59 มีเงื่อนไขจากสมาชิกในครอบครัวว่าไม่เอาเกรสเฮาท์แล้ว เนื่องจากเคยไปพักเมื่อหลายปีก่อนแล้วห้องมันเล็กมาก แทบจะไม่มีที่ให้วางของ และสภาพอาคารก็น่ากลัวเล็กน้อย หาไปหามาจนมาลงตัวที่นี้ ได้เป็นห้องแบบ Deluxe Quad Room จองตรงกับโรงแรม เพราะไม่มีให้จองตามเว็บเอเจ้นท์ต่างๆ ราคาคืนละ 1,300 HKD ชำระผ่านบัตรเครดิต โดยโรงแรมจะตัดบัตรเลย (อัตราแลกเปลี่ยนตอนที่จอง 6,093 บาท ต่อห้อง ต่อคืน)
เมื่อมาเช็คอินโรงแรมจะเก็บค่ามัดจำ 500 เหรียญ และให้รหัสไวไฟมา ต้องเก็บใบเสร็จค่ามัดจำไว้ให้ดี
ห้องพักจะอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม คือ ชั้น 15 ออกจากลิฟท์มาก็เจอห้องเลย (ทั้งชั้นมีห้องพักอยู่ 2 ห้อง) พอเปิดประตูห้องมาจะเจอตู้เสื้อผ้า อยู่ขวามือ ในตู้เสื้อผ้ามีตู้เซฟให้ 1 อัน และเตียงเดียว 2 เตียง ตามรูป
มองไปทางซ้ายของประตูห้องจะเจอโซฟายาว (สภาพเก่าเล็กน้อย) จอทีวี และเตียงคู่อีก 1 เตียง ห้องที่นี่ไม่มีกลิ่นอับ
หน้าประตูห้องน้ำ มีโต๊ะ 1 ตัว วางเครื่องทำกาแฟ มีผงกาแฟสดให้ 2 ถ้วย 2 แบบ ชา น้ำตาล และครีมเทียม แต่ที่นี่ไม่มีน้ำเปล่าให้ต้องซื้อเอง มีกาน้ำร้อน และแก้วกาแฟ 4 ใบ นอกจากนี้มีสายชาร์ทโทรศัพท์มาให้ด้วย ตู้เย็นวางอยู่ใต้โต๊ะ
เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องกระจกสำหรับอาบน้ำแบบฝักบัว ด้านขวามือของประตู เป็นกระจกยาว พร้อมไดร์ทเป่าผมแบบติดผนัง จากประตูห้องน้ำมองตรงไปเป็นอ่างล้างหน้า พร้อมกระจก ชักโครก (ไม่มีสายชำระ) และอ่างอาบน้ำ
โดยโรงแรมมีอุปกรณ์ให้ครบตามจำนวนผู้เข้าพัก 4 คน ได้แก่ ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู แปรงสีฟัน พร้อมยาสีฟัน หวี สำลีแผ่น และสำลีก้าน หมวกคลุมผม มีดโกนหนวด พร้อมครีมโกนหนวด มีผ้าเช็ดเท้าให้ 2 ผืน (ของใช้ทุกอย่างเติมให้ทุกวัน)
จากหน้าต่างห้องพัก (ตามรูปด้านซ้าย) มองไปจะเห็นตึกโรงแรม Cordis และห้าง Langham Place การเดินทางสะดวกมาก
(ตามรูปด้านขวา) จากโรงแรมเลี้ยวมุมถนนตรงสี่แยกด้านถนน Argyle St. ไปทางขวามือก็เจอรถไฟใต้ดินสถานีมงก๊ก ทางออก C4 เลย และจากสี่แยกถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายก็จะเจอตลาดสด มีผลไม้ราคาไม่แพงขายเยอะมาก เลยตลาดสดก็เป็นป้ายรถเมย์สำหรับนั่งสาย A21 ไปสนามบินได้
อาหารการกินอุดมสมบูรณ์มาก แต่เวลาสั่งอาหารอาจต้องเตรียมรูปภาพ หรือคำศัพท์ภาษาจีนไป เพราะบางร้านก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
สำหรับคนที่ข้ามฟากมาจากมาเก๊าเหมือนเจ้าของกระทู้ ถ้ามาลงที่ท่าเรือ China Ferry นั่งแท๊กซี่มาลงที่โรงแรม ราคาประมาณ 55 เหรียญ (เจ้าของกระทู้มีกระเป๋า 3 ใบ วีลแชร์อีก 1 คัน) เวลาเรียกแท๊กซี่ก็เอาแผนที่ให้คนขับดูได้เลย
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาโรงแรมที่มาเก๊า และฮ่องกงอยู่นะคะ
[CR] รีวิว Macau Master Hotel @ Macau Island และ H1 Hotel @ Mong kok, Hongkong
เจ้าของกระทู้และครอบครัว รวม 4 ชิวิต ได้ไปเข้าพักเมื่อ 25-27 พย. 2559 ครั้งแรกตั้งใจจะหาโรงแรมที่มีห้องแบบครอบครัว เข้าพักได้ 4 คน ในห้องเดียว แต่ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจจองห้องพักที่นี่ เป็นห้องพัก แบบ Twin bed จำนวน 2 ห้อง เจ้าของกระทู้ได้มาที่ราคาเฉลี่ย คืนละ 2,533.83 บาท ต่อห้อง
ที่นี้ส่วนของห้องพักจะอยู่ที่ชั้น 5 และ 6 เวลาจะขึ้นลิฟท์ไปที่พักต้องเสียบคีย์การ์ดก่อน ห้องพักที่จองเป็นเตียงเดียว 2 เตียง ให้หมอนมาเตียงละ 3 ใบ เตียงไม่ยวบ ไม่แข็งกำลังดี หมอนก็นอนสบาย เสียอย่างเดียวห้องมีกลิ่นอับนิดหน่อย น่าจะเป็นเพราะห้องปูพรม หน้าต่างห้องพักเปิดไม่ได้ ทำให้ไม่ค่อยได้ระบายอากาศสักเท่าไร
แขกก็พักเต็มตลอด ตอนที่เจ้าของกระทู้ไปพักเห็นที่โต๊ะ Front ตั้งป้าย Full ทั้ง 2 วัน (รูปจากในเว็บไซต์ตอนจองกับของจริงไม่ต่างกัน) ที่นี้คิดค่ามัดจำกุญแจห้องเดียว 300 เหรียญ ของเจ้าของกระทู้จองไป 2 ห้อง ค่ามัดจำ 500 เหรียญ ได้คืนตอนเช็คเอาท์ออก ต้องเก็บใบเสร็จรับเงินมัดจำไว้ให้ดี
อุปกรณ์ที่ให้มา มี (ของใช้ทุกอย่าง เวลาพนักงานมาเก็บขยะ ทำความสะอาดห้อง จะเติมใหม่ให้ทุกครั้ง)
- น้ำเปล่า 2 ขวด กาแฟสำเร็จรูป 2 ซอง ชา 2 ซอง (พนักงานมาเติมเพิ่มให้ทุกวัน)
- กาน้ำร้อน แก้วน้ำ 2 ใบ แก้วกาแฟ 2 ใบ (อยู่ในลิ้นชักโต๊ะ)
- รองเท้าใส่เดินในห้อง ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ (แต่ไม่มีผ้าเช็ดเท้าในห้องน้ำให้)
- สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู แปรงสีฟัน พร้อมยาสีฟัน หวี หมวกคลุมผม
- ไดร์ทเป่าผมติดผนังอยู่ในห้องน้ำ
- ตู้เซฟ และตู้เย็น อยู่ด้านในตู้เสื้อผ้า
- ไวไฟฟรีให้ใช้ในห้อง สัญญาณก็ดีใช้ได้ รหัสไวไฟจะมีวางไว้ให้ในห้อง
- แอร์ที่นี้สามารถเปลี่ยนเป็นฮีทเตอร์ได้ด้วย
จากหน้าต่างห้องพัก มองไปทางซ้าย จะเห็นตึกโรงแรม Sofitel Macau at Ponte 16 ทะเล และฝั่งจีน มองไปทางขวา จะเห็นถนน Rua Das Lorchas ซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งโรงแรม Hou Kong และเดินทะลุไปเป็นโรงแรม 2 ดาวอีกหลายโรงแรม เช่น Man va Hotel, Ole Tai Sam Un Hotel, Vila Universal เป็นต้น (รูปมัวเล็กน้อยเนื่องจากมีไอน้ำเกาะที่กระจกหน้าต่าง)
ป้ายรถเมย์อยู่หน้าโรงแรม เดินทางไปสนามบิน ท่าเรือ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สะดวกมาก เช่น
จากท่าเรือไทปา หรือสนามบิน : สามารถนั่งรถเมย์สาย 26 และ MT4 มาลงป้าย Rau Das Lorchas (M137) ที่อยู่หน้าโรงแรมได้เลย
จากโรงแรมไปท่าเรือไทปา หรือสนามบิน : สามารถนั่งสาย 26 หรือ MT4 จากป้าย Ponte 14 ไปได้
จากท่าเรือมาเก๊า : สามารถนั่งรถเมย์สาย 10 มาลงป้าย Ponte 14 แล้วเดินขึ้นมาประมาณ 130 เมตร หรือ 3A มาลงป้าย Praca Ponte Horta/ Terminal และเดินย้อนกลับมาประมาณ 120 เมตร ก็ถึงโรงแรม
จากโรงแรมไปท่าเรือมาเก๊า : สามารถนั่งสาย 3A จากป้าย Rau Das Lorchas หน้าโรงแรมไปลงที่ท่าเรือได้ หรือจะนั่งแท๊กซี่ไปแบบเจ้าของกระทู้ก็สะดวกดี เรียกจากหน้าโรงแรมไป ราคาประมาณ 45 เหรียญ
การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สะดวกจากโรงแรมสามารถเดินไป วัดอาม่า หรือเซนาโด้ สแคร์ว และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนั้นได้เลย
สำหรับที่ฮ่องกง เจ้าของกระทู้ก็หาโรงแรมที่มีห้องพักแบบครอบครัว สามารถเข้าพักได้ 4 คนอีก โดยเข้าพักเมื่อวันที่ 27-30 พย. 59 มีเงื่อนไขจากสมาชิกในครอบครัวว่าไม่เอาเกรสเฮาท์แล้ว เนื่องจากเคยไปพักเมื่อหลายปีก่อนแล้วห้องมันเล็กมาก แทบจะไม่มีที่ให้วางของ และสภาพอาคารก็น่ากลัวเล็กน้อย หาไปหามาจนมาลงตัวที่นี้ ได้เป็นห้องแบบ Deluxe Quad Room จองตรงกับโรงแรม เพราะไม่มีให้จองตามเว็บเอเจ้นท์ต่างๆ ราคาคืนละ 1,300 HKD ชำระผ่านบัตรเครดิต โดยโรงแรมจะตัดบัตรเลย (อัตราแลกเปลี่ยนตอนที่จอง 6,093 บาท ต่อห้อง ต่อคืน)
เมื่อมาเช็คอินโรงแรมจะเก็บค่ามัดจำ 500 เหรียญ และให้รหัสไวไฟมา ต้องเก็บใบเสร็จค่ามัดจำไว้ให้ดี
ห้องพักจะอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม คือ ชั้น 15 ออกจากลิฟท์มาก็เจอห้องเลย (ทั้งชั้นมีห้องพักอยู่ 2 ห้อง) พอเปิดประตูห้องมาจะเจอตู้เสื้อผ้า อยู่ขวามือ ในตู้เสื้อผ้ามีตู้เซฟให้ 1 อัน และเตียงเดียว 2 เตียง ตามรูป
มองไปทางซ้ายของประตูห้องจะเจอโซฟายาว (สภาพเก่าเล็กน้อย) จอทีวี และเตียงคู่อีก 1 เตียง ห้องที่นี่ไม่มีกลิ่นอับ
หน้าประตูห้องน้ำ มีโต๊ะ 1 ตัว วางเครื่องทำกาแฟ มีผงกาแฟสดให้ 2 ถ้วย 2 แบบ ชา น้ำตาล และครีมเทียม แต่ที่นี่ไม่มีน้ำเปล่าให้ต้องซื้อเอง มีกาน้ำร้อน และแก้วกาแฟ 4 ใบ นอกจากนี้มีสายชาร์ทโทรศัพท์มาให้ด้วย ตู้เย็นวางอยู่ใต้โต๊ะ
เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องกระจกสำหรับอาบน้ำแบบฝักบัว ด้านขวามือของประตู เป็นกระจกยาว พร้อมไดร์ทเป่าผมแบบติดผนัง จากประตูห้องน้ำมองตรงไปเป็นอ่างล้างหน้า พร้อมกระจก ชักโครก (ไม่มีสายชำระ) และอ่างอาบน้ำ
โดยโรงแรมมีอุปกรณ์ให้ครบตามจำนวนผู้เข้าพัก 4 คน ได้แก่ ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู แปรงสีฟัน พร้อมยาสีฟัน หวี สำลีแผ่น และสำลีก้าน หมวกคลุมผม มีดโกนหนวด พร้อมครีมโกนหนวด มีผ้าเช็ดเท้าให้ 2 ผืน (ของใช้ทุกอย่างเติมให้ทุกวัน)
จากหน้าต่างห้องพัก (ตามรูปด้านซ้าย) มองไปจะเห็นตึกโรงแรม Cordis และห้าง Langham Place การเดินทางสะดวกมาก
(ตามรูปด้านขวา) จากโรงแรมเลี้ยวมุมถนนตรงสี่แยกด้านถนน Argyle St. ไปทางขวามือก็เจอรถไฟใต้ดินสถานีมงก๊ก ทางออก C4 เลย และจากสี่แยกถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายก็จะเจอตลาดสด มีผลไม้ราคาไม่แพงขายเยอะมาก เลยตลาดสดก็เป็นป้ายรถเมย์สำหรับนั่งสาย A21 ไปสนามบินได้
อาหารการกินอุดมสมบูรณ์มาก แต่เวลาสั่งอาหารอาจต้องเตรียมรูปภาพ หรือคำศัพท์ภาษาจีนไป เพราะบางร้านก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
สำหรับคนที่ข้ามฟากมาจากมาเก๊าเหมือนเจ้าของกระทู้ ถ้ามาลงที่ท่าเรือ China Ferry นั่งแท๊กซี่มาลงที่โรงแรม ราคาประมาณ 55 เหรียญ (เจ้าของกระทู้มีกระเป๋า 3 ใบ วีลแชร์อีก 1 คัน) เวลาเรียกแท๊กซี่ก็เอาแผนที่ให้คนขับดูได้เลย