คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 95
ล่าสุดก็เห็นบทความอันนี้
http://www.tcdc.or.th/articles/business-industrial/24405/#-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87--tieweng-com-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C
ก็ระบุเลยว่าเขียนรีวิวลงในพันทิฟ เพื่อดึงคนเข้ามาในเพจ ก็จะมีรายได้จากสปอนเซอร์โฆษณาเข้ามา
ก็ไม่ได้อะไรกับเจ้านี้หรือรายอื่นๆนะ คิดว่าคงมาแนวเดียวกันหมด
รีวิวสร้างตัวตน ให้คนตามเพจ สร้างรายได้ แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรกับพันทิฟอีก
สังคมพันทิฟก็คงเปลี่ยนไปจากสังคมแห่งการแบ่งปันเป็นสังคมแห่งการสร้างรายได้
คงต้องทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง
http://www.tcdc.or.th/articles/business-industrial/24405/#-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87--tieweng-com-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C
ก็ระบุเลยว่าเขียนรีวิวลงในพันทิฟ เพื่อดึงคนเข้ามาในเพจ ก็จะมีรายได้จากสปอนเซอร์โฆษณาเข้ามา
ก็ไม่ได้อะไรกับเจ้านี้หรือรายอื่นๆนะ คิดว่าคงมาแนวเดียวกันหมด
รีวิวสร้างตัวตน ให้คนตามเพจ สร้างรายได้ แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรกับพันทิฟอีก
สังคมพันทิฟก็คงเปลี่ยนไปจากสังคมแห่งการแบ่งปันเป็นสังคมแห่งการสร้างรายได้
คงต้องทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ตั้งแต่พันทิปเปลี่ยนโฉมใหม่ ไม่แน่ใจว่าทีมแอดมินใหม่ด้วยหรือเปล่า บอกตรงๆว่าคุณภาพเว็บหดหายไปมากอย่างน่าใจหาย
กลายเป็นบอร์ดสำหรับ กระทู้คำถาม ที่ถามๆๆๆๆอย่างเดียวซ้ำกันไปมา ถามไก้ถามดี ถามมันทุกเรื่อง ทั้งที่มีข้อมูลเยอะแยะให้ทำการบ้านก่อนถาม แถมพอมีคนใจดีมาตอบ ได้คำตอบแล้วหนีหาย ไม่แม้แต่จะขอบคุณ จนคนตอบเริ่มเอือมระอา จนบางคนไม่สนใจเข้ามาเลย
กลายเป็นบอร์ดที่เอื้อ สนับสนุน ให้พวกอาชีพ สปอนเซอร์รีวิว มาหากินแบบเกินพอดี และใกล้จะเป็นบอร์ดเชิงพานิชย์เข้าไปทุกขณะ
กลายเป็นบอร์ดที่ สมาชิกชอบสร้างเรื่องดราม่า ชอบใส่ไข่ ชอบอวดภูมิ ชอบแบ่งแยก จนเกือบจะหมดคำว่ามิตรภาพและการแบ่งบันแล้ว หรือนี้คือสิ่งที่พันทิปต้องการ ยิ่งมีกระทู้พวกนี้ดังบ่อยๆ คนยิ่งเข้ามาเยอะ สมาชิกก็เยอะตามไปด้วย ผลประโยชน์แฝงหรือการโฆษณาย่อมได้ประโยชน์มากขึ้น
กลายเป็นบอร์ด เวิ่นเว้อ ประกาศหาคู่ หาคนร่วมทริป โชว์หนังหน้า อย่างตั้งใจโจ่งแจ้ง จนเกินพอดี ใกล้จะเป็นมาลัยเสี่ยงรักเข้าไปทุกที
แน่นอนว่าเว็บเป็นของแอดมิน อยากทำอะไรก็ได้ ย่อมเป็นสิทธิ์ของแอดมิน เพียงแค่เสียดายที่แต่ก่อนกับตอนนี้จุดประสงค์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นช่างแตกต่างกันมากมายเหลือเกิน สมาชิกเก่าๆที่เคยมาแบ่งปะนเรื่องราวดีๆหนีหายเกือบหมด เหลือแค่นักรีวิวสปอนเซอร์ที่อาศัยถ่ายรูปสวยๆเป็นหลัก หรือต้องการให้เป็นเว็บเชิงพานิชย์เต็มตัวก็ประกาศมาชัดๆเลยครับ จะได้รู้จุดยืน และจะไม่ได้คาดหวังอะไรอีก ในเมื่อเป็นบ้านของท่านท่านจะทำยังไงก็ได้ เพียงแต่คอนเซปของบ้านก็จะคัดคุณภาพของสมาชิกเองโดยอัตโนมัติ
กลายเป็นบอร์ดสำหรับ กระทู้คำถาม ที่ถามๆๆๆๆอย่างเดียวซ้ำกันไปมา ถามไก้ถามดี ถามมันทุกเรื่อง ทั้งที่มีข้อมูลเยอะแยะให้ทำการบ้านก่อนถาม แถมพอมีคนใจดีมาตอบ ได้คำตอบแล้วหนีหาย ไม่แม้แต่จะขอบคุณ จนคนตอบเริ่มเอือมระอา จนบางคนไม่สนใจเข้ามาเลย
กลายเป็นบอร์ดที่เอื้อ สนับสนุน ให้พวกอาชีพ สปอนเซอร์รีวิว มาหากินแบบเกินพอดี และใกล้จะเป็นบอร์ดเชิงพานิชย์เข้าไปทุกขณะ
กลายเป็นบอร์ดที่ สมาชิกชอบสร้างเรื่องดราม่า ชอบใส่ไข่ ชอบอวดภูมิ ชอบแบ่งแยก จนเกือบจะหมดคำว่ามิตรภาพและการแบ่งบันแล้ว หรือนี้คือสิ่งที่พันทิปต้องการ ยิ่งมีกระทู้พวกนี้ดังบ่อยๆ คนยิ่งเข้ามาเยอะ สมาชิกก็เยอะตามไปด้วย ผลประโยชน์แฝงหรือการโฆษณาย่อมได้ประโยชน์มากขึ้น
กลายเป็นบอร์ด เวิ่นเว้อ ประกาศหาคู่ หาคนร่วมทริป โชว์หนังหน้า อย่างตั้งใจโจ่งแจ้ง จนเกินพอดี ใกล้จะเป็นมาลัยเสี่ยงรักเข้าไปทุกที
แน่นอนว่าเว็บเป็นของแอดมิน อยากทำอะไรก็ได้ ย่อมเป็นสิทธิ์ของแอดมิน เพียงแค่เสียดายที่แต่ก่อนกับตอนนี้จุดประสงค์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นช่างแตกต่างกันมากมายเหลือเกิน สมาชิกเก่าๆที่เคยมาแบ่งปะนเรื่องราวดีๆหนีหายเกือบหมด เหลือแค่นักรีวิวสปอนเซอร์ที่อาศัยถ่ายรูปสวยๆเป็นหลัก หรือต้องการให้เป็นเว็บเชิงพานิชย์เต็มตัวก็ประกาศมาชัดๆเลยครับ จะได้รู้จุดยืน และจะไม่ได้คาดหวังอะไรอีก ในเมื่อเป็นบ้านของท่านท่านจะทำยังไงก็ได้ เพียงแต่คอนเซปของบ้านก็จะคัดคุณภาพของสมาชิกเองโดยอัตโนมัติ
ความคิดเห็นที่ 36
กระทู้ที่น่าเบื่อคือพวกมาโชว์หนังหน้าครับ ที่มาฟอร์มเดียวกันเลยก็คือ "กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา"
แล้วก็จะเต็มไปด้วยรูปสีซีดๆ เหมือนหมอกลง ทำท่าแบบฮิปสเตอร์ ทำหน้านิ่งๆ เอามือปิดตาข้างนึง เขียน caption รำพึงรำพันแบบที่คิดเท่ๆ
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ facebook, IG, twitter, blog มากันให้ follow ครบแทบทุกสถาบัน
แล้วก็จะเต็มไปด้วยรูปสีซีดๆ เหมือนหมอกลง ทำท่าแบบฮิปสเตอร์ ทำหน้านิ่งๆ เอามือปิดตาข้างนึง เขียน caption รำพึงรำพันแบบที่คิดเท่ๆ
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ facebook, IG, twitter, blog มากันให้ follow ครบแทบทุกสถาบัน
ความคิดเห็นที่ 42
ผมสังเกตมานานแล้วเหมือนกันครับ
คือคนพวกนี้มารีวิวเพื่อยอดเพจของตัวเอง
สเตปของเค้าคือ เอาสถานที่ เอารายละเอียดมาก่อน รูปสวยๆ จากนั้นก็โพสเป็นระยะๆ ให้คนเริ่มติดตาม
อาจแบ่งซอยย่อยๆเป็นภาคๆ เนื้อเรื่องขั้นแรกอาจเด็ดมาก เป็นสถานที่ๆคนไม่เคยไป ภาพสวยแบบผ่านโฟโตชอป
จะทำแบบนี้ได้วนๆ สามสี่เรื่อง พอยอดคนเข้าเพจเค้าได้หลักหมื่นอัพ คราวนี้อยู่ตัว ก็จะไม่มาโพสอะไรอีกแล้ว
นอกจากมีเชื้อเพลิงใหม่ๆ อยากเพิ่มยอดเพจแบบกะทัน หรือเพจเงียบเหงา
คนพวกนี้เค้าจะได้ผลประโยชน์จากยอดไลค์ พอดังก็ออกหนังสือ ไปขึ้นเวทีตามงานต่างๆ บางทีก็เอาสินค้ามาโฆษณา
บางคนก็ทำสนองต่อความอยากดังของตัวเอง
ไปดูได้เลย หลายล็อกอิน หลายเพจเอาที่นี่แจ้งเกิด แล้วหายหัวทั้งนั้น
เช่นพวก ลุยโลก หรือเป็นช่างภาพก็เอาเมีย เอาผัวมาอวด ว่าตัวเองถ่ายรูปเก่ง ตามเรื่องตามราว
ไอ้พวกน่ารังเกียจเลยคือพวกอวดอันซีน เพราะคนพวกนี้ ยอมทำลายธรรมชาติ บุกรุก พื้นที่ที่มีเจ้าของ
เพื่อให้ตัวเองได้มุมใหม่ๆ ของสดๆ จะได้ปั่นกระทู้ง่ายขึ้น สุดท้ายสถานที่นั้นๆก็เละเทะไป แต่ตัวเองดัง มันคิดแค่นั้นจริงๆ
หลายคนมารีวิวเกิดประโยชน์จริงๆครับ ถ้าไม่มาโฆษณาเพจ ผมก็ขอบคุณ ผมถือว่าเค้าบริสุทธิ์ ใจจริงๆ
แต่ไอ้พวก ติดตาม การเดินทางของเราได้ที่ ... แบบนี้ ผมขอเสพเนื้อหาฟรีๆ แต่ไม่สนับสนุนอะไรดีกว่าครับ พาณิชย์จ๋ามาเลย
คือคนพวกนี้มารีวิวเพื่อยอดเพจของตัวเอง
สเตปของเค้าคือ เอาสถานที่ เอารายละเอียดมาก่อน รูปสวยๆ จากนั้นก็โพสเป็นระยะๆ ให้คนเริ่มติดตาม
อาจแบ่งซอยย่อยๆเป็นภาคๆ เนื้อเรื่องขั้นแรกอาจเด็ดมาก เป็นสถานที่ๆคนไม่เคยไป ภาพสวยแบบผ่านโฟโตชอป
จะทำแบบนี้ได้วนๆ สามสี่เรื่อง พอยอดคนเข้าเพจเค้าได้หลักหมื่นอัพ คราวนี้อยู่ตัว ก็จะไม่มาโพสอะไรอีกแล้ว
นอกจากมีเชื้อเพลิงใหม่ๆ อยากเพิ่มยอดเพจแบบกะทัน หรือเพจเงียบเหงา
คนพวกนี้เค้าจะได้ผลประโยชน์จากยอดไลค์ พอดังก็ออกหนังสือ ไปขึ้นเวทีตามงานต่างๆ บางทีก็เอาสินค้ามาโฆษณา
บางคนก็ทำสนองต่อความอยากดังของตัวเอง
ไปดูได้เลย หลายล็อกอิน หลายเพจเอาที่นี่แจ้งเกิด แล้วหายหัวทั้งนั้น
เช่นพวก ลุยโลก หรือเป็นช่างภาพก็เอาเมีย เอาผัวมาอวด ว่าตัวเองถ่ายรูปเก่ง ตามเรื่องตามราว
ไอ้พวกน่ารังเกียจเลยคือพวกอวดอันซีน เพราะคนพวกนี้ ยอมทำลายธรรมชาติ บุกรุก พื้นที่ที่มีเจ้าของ
เพื่อให้ตัวเองได้มุมใหม่ๆ ของสดๆ จะได้ปั่นกระทู้ง่ายขึ้น สุดท้ายสถานที่นั้นๆก็เละเทะไป แต่ตัวเองดัง มันคิดแค่นั้นจริงๆ
หลายคนมารีวิวเกิดประโยชน์จริงๆครับ ถ้าไม่มาโฆษณาเพจ ผมก็ขอบคุณ ผมถือว่าเค้าบริสุทธิ์ ใจจริงๆ
แต่ไอ้พวก ติดตาม การเดินทางของเราได้ที่ ... แบบนี้ ผมขอเสพเนื้อหาฟรีๆ แต่ไม่สนับสนุนอะไรดีกว่าครับ พาณิชย์จ๋ามาเลย
ความคิดเห็นที่ 77
คือ .. โลกมันเปลี่ยนไปครับ
บ่นไปก็เท่านั้น
ผมเห็นด้วยกับบางเรื่อง แต่ไม่กล้าบอกว่า คุณภาพแย่ลง เพราะทุกวันนี้ผมก็ยังหาเสพเรื่องดีๆ จาก Pantip ได้ตลอด
อย่าเอา Pantip ไปเทียบกับสมัยก่อน ทุกอย่างมันก็หมุนเดินไปข้างหน้าของมันเอง
ถ้าเทียบแบบนั้น ผมก็ต้องบ่นบ้างว่า Pantip ยุคนี้และยุคก่อน ไม่เห็นเหมือนยุคแรกเริ่มเลย
ผมยังจำวันที่นั่งคุยกับคุณวันฉัตรเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้ว่า เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจให้เว็บ Pantip เป็นแบบนี้
(ตอนนั้นนั่งคุยกันสามสี่คน มีอดีตเจ้าของ Sanook อยู่ในนั้นด้วย)
เหมือนกับเว็บพอร์ทัลที่เมื่อก่อนเป็นศูนย์กลาง ตอนนี้ถูกตราหน้าเป็น Web 1.0
อีกเรื่องที่อยากแย้งคือ คุณอาจไม่ชอบดูภาพ แต่ผมชอบดูภาพครับ มีคนชอบดูภาพ
นึกถึงคนที่พยายามเขียนรายละเอียด แต่เขียนหรือเรียบเรียงไม่เป็น
สำหรับผม อ่านกระทู้ที่มีภาพเยอะๆ แต่ไม่มีข้อมูล ยังสบายใจกว่าอ่านกระทู้ที่มีข้อมูลแต่สะกดผิดเต็มไปหมด
นานาจิตังครับ ต่างคนต่างชอบ
ในเมื่อพื้นที่นี้เปิดเป็นพื้นที่สาธารณธ ก็ปล่อยให้มันดำเนินไปครับ
พวกที่แอบสวม commercial เข้ามา เค้ามองว่า Pantip คือโอกาส
ถ้า Pantip จะปิดกั้นพวกนี้ ผมว่าทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว
แต่ทั้งหมดก็แค่เรื่อง "ธุรกิจ" -- เราจะเป็นศัตรูกับคนอื่นทำไม
ถ้าพออยู่ในข่ายยอมได้ ไม่น่าเกลียด ก็ยอมไป ธุรกิจยังต้องเดินหน้าต่อไป
เอาง่ายๆ ว่า .. ทุกวันนี้ Pantip ไม่เก็บเงินค่าใช้บริการ ผมก็ขอบคุณเป็นการใหญ่แล้วครับ
ขณะเดียวกัน กระทู้ไหนที่คุณไม่ชอบ ก็กด Report ได้ถ้ามันเข้าข่ายผิดกติกา
แต่ถ้ายังอยู่ในกติกา -- ก็คงต้องนั่งทำใจเปิดอ่านผ่านๆ ไป
พฤติกรรมการอ่านกระทู้บน Pantip ของผมก็เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ ครับ ไม่ได้อ่านแบบเมื่อก่อนที่ไล่ทุกกระทู้
แต่วันนี้ .. Pantip ก็ยังถือว่าดีกว่าบอร์ดอื่นๆ ที่ผมใช้บริการ
เรียกว่าที่นี่เป็นแหล่งความรู้อันหลากหลายและอัดแน่นที่สุดที่นึง
(และมีเรื่องขำขันให้ได้เห็นได้อ่านกันอยู่เป็นประจำ -- ไม่ได้หมายถึงกระทู้นี้นะครับ)
บ่นไปก็เท่านั้น
ผมเห็นด้วยกับบางเรื่อง แต่ไม่กล้าบอกว่า คุณภาพแย่ลง เพราะทุกวันนี้ผมก็ยังหาเสพเรื่องดีๆ จาก Pantip ได้ตลอด
อย่าเอา Pantip ไปเทียบกับสมัยก่อน ทุกอย่างมันก็หมุนเดินไปข้างหน้าของมันเอง
ถ้าเทียบแบบนั้น ผมก็ต้องบ่นบ้างว่า Pantip ยุคนี้และยุคก่อน ไม่เห็นเหมือนยุคแรกเริ่มเลย
ผมยังจำวันที่นั่งคุยกับคุณวันฉัตรเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้ว่า เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจให้เว็บ Pantip เป็นแบบนี้
(ตอนนั้นนั่งคุยกันสามสี่คน มีอดีตเจ้าของ Sanook อยู่ในนั้นด้วย)
เหมือนกับเว็บพอร์ทัลที่เมื่อก่อนเป็นศูนย์กลาง ตอนนี้ถูกตราหน้าเป็น Web 1.0
อีกเรื่องที่อยากแย้งคือ คุณอาจไม่ชอบดูภาพ แต่ผมชอบดูภาพครับ มีคนชอบดูภาพ
นึกถึงคนที่พยายามเขียนรายละเอียด แต่เขียนหรือเรียบเรียงไม่เป็น
สำหรับผม อ่านกระทู้ที่มีภาพเยอะๆ แต่ไม่มีข้อมูล ยังสบายใจกว่าอ่านกระทู้ที่มีข้อมูลแต่สะกดผิดเต็มไปหมด
นานาจิตังครับ ต่างคนต่างชอบ
ในเมื่อพื้นที่นี้เปิดเป็นพื้นที่สาธารณธ ก็ปล่อยให้มันดำเนินไปครับ
พวกที่แอบสวม commercial เข้ามา เค้ามองว่า Pantip คือโอกาส
ถ้า Pantip จะปิดกั้นพวกนี้ ผมว่าทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว
แต่ทั้งหมดก็แค่เรื่อง "ธุรกิจ" -- เราจะเป็นศัตรูกับคนอื่นทำไม
ถ้าพออยู่ในข่ายยอมได้ ไม่น่าเกลียด ก็ยอมไป ธุรกิจยังต้องเดินหน้าต่อไป
เอาง่ายๆ ว่า .. ทุกวันนี้ Pantip ไม่เก็บเงินค่าใช้บริการ ผมก็ขอบคุณเป็นการใหญ่แล้วครับ
ขณะเดียวกัน กระทู้ไหนที่คุณไม่ชอบ ก็กด Report ได้ถ้ามันเข้าข่ายผิดกติกา
แต่ถ้ายังอยู่ในกติกา -- ก็คงต้องนั่งทำใจเปิดอ่านผ่านๆ ไป
พฤติกรรมการอ่านกระทู้บน Pantip ของผมก็เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ ครับ ไม่ได้อ่านแบบเมื่อก่อนที่ไล่ทุกกระทู้
แต่วันนี้ .. Pantip ก็ยังถือว่าดีกว่าบอร์ดอื่นๆ ที่ผมใช้บริการ
เรียกว่าที่นี่เป็นแหล่งความรู้อันหลากหลายและอัดแน่นที่สุดที่นึง
(และมีเรื่องขำขันให้ได้เห็นได้อ่านกันอยู่เป็นประจำ -- ไม่ได้หมายถึงกระทู้นี้นะครับ)
ความคิดเห็นที่ 31
ส่วนตัวมองว่ากระทู้คุณภาพมันไม่ได้ลดลง มันก็มีมาให้เสพทุกๆวันนั่นแหล่ะ แต่ว่าสังคมมันใหญ่ขึ้นผู้คนมันมากขึ้นกระทู้มันก็เลยมากขึ้นทั้งกระทู้ขยะและกระทู้คุณภาพ ซึ่งจริงๆแล้วคุณภาพหรือขยะมันแค่ความรู้สึกของแต่ละคนไม่ใช่เกณฑ์มาตรฐาน อันที่เราไม่ชอบมันอาจเป็นที่ต้องการของคนอีกกลุ่มมันถึงมีมาเรื่อยๆ ที่เป็นที่น่ารำคาญของแต่ละคนน่าจะมาจากกระทู้แนวที่ตัวเองชอบมันปนเปื้อนจากกระทู้อื่นๆง่ายขึ้นมากกว่า อันนี้ต้องอยู่ที่การจัดการผังเมือง เหมือนกทม.ที่เราต้องช่วยกันจัดโซน โซนร้านอาหาร โซนธุรกิจ โซนที่อยู่อาศัย ฯลฯ เพื่อให้ผู้อาศัยทุกคนได้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ง่ายๆและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มากกว่าปิดกั้นว่าชั้นอยู่มาก่อนหรือใครอยากเข้าสังคมต้องทำตามชั้น สังคมพันทิปไม่ควรเป็นสังคมปิดแต่ต้องมีวิธีรองรับผู้มาใหม่ โดยแอดมินเป็นผู้ว่าซึ่งผู้ว่าคนเดียวต้องดูแลเมืองทั้งเมืองคงยากอยู่ที่ผู้อาศัยช่วยกันเสนอแนวทางมากกว่า
ระบบแท็กที่เพิ่มมาเป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆได้ ยิ่งมีแบบแยกประเภทกระทู้ยิ่งทำให้อยู่ง่าย ผมชอบตอบคำถามผมก็สามารถกรองกระทู้คำถามได้ง่ายๆ ส่วนรีวิวถ้าไม่จับผิดกระทู้คำถามจะพบว่าแม้แต่รีวิวมันก็เยอะขึ้นมากๆ สถานที่เดียวกันบางวันมีมากกว่าสามสี่รีวิว ซึ่งมันไปหารคนที่เข้าไปเสพต่อกระทู้น้อยและบั่นทอนกำลังใจคนทำ ซึ่งถ้าปัญหามันอยู่ที่กำลังใจเราต้องมองว่าการแก้ไม่ใช่การลดกระทู้ลงแต่ทำไงให้นักทำรีวิวได้มีแรงจูงใจ การมีกระทู้แนะนำก็เป็นสิ่งที่ดีเพียงแต่การที่มันรวมกันกระทู้ที่จะได้ขึ้นจึงไม่พ้นรีวิวที่มันไปยากๆหรือรูปสวยๆ คนที่ไปที่เดิมๆคนรู้จักหรือถ่ายภาพไม่สวยเลยถูกมองข้าม หลายคนจึงมุ่งทำรูปมากกว่าการทำข้อมูลเพราะมันเสพได้ง่ายไม่ต้องใช้เวลาอ่าน อย่างที่ด้านบนเสนอก็ดีนะคือแจกแจงไปเลยยอดเยี่ยมด้านภาพ ด้านข้อมูล หรือมีเรตติ้งมีแรงกิ้งในแต่ละแท็กให้เห็นคนทำก็ได้ชาเล้นท์ตัวเองดีเหมือนกันอยากอยู่ทอปชาร์ตก็ต้องยกระดับ เพราะเอาจริงๆหลายคนที่จะมาหารีวิวต่อเมื่อจะไปเที่ยว พอแท็กแล้วรีวิวดีๆของสถานที่นั้นๆมันตกไปนานแล้ว หลายคนจึงมาตั้งกระทู้คำถามใหม่ให้หลายคนรำคาญ ผมเชื่อว่ากระทู้นี้เดี๋ยวคงมีหลายๆไอเดียออกมาแก้ปัญหามากกว่าการบ่นไปเฉยๆและหาทางหลบปัญหา
ส่วนคำถามประเภทไม่คิดอะไรเลยนั่นพอเข้าใจได้นะ คือเด็กเจนวายเจนแซดเริ่มโตมากับการที่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากก็ได้สิ่งที่ต้องการ ดูทีวียังกดแค่รีโมทภาพก็มาไม่ต้องลุกไปกดเอง การมีกูเกิ้ลมาแต่เด็กอาจมองว่ามันคือมาตรฐานที่โลกให้เขามาอยู่แล้ว ไม่เหมือนเจนเบบี้หรือเอ็กซ์ที่มองว่ามันคือเครื่องมือวิเศษต่างจากยุคที่ยังเด็กที่เขาอยากรู้อะไรต้องค้นนั้นค้นนี่เองหรือไปด้วยตัวเอง การที่เด็กพวกนี้ยิงคำถามแล้วมีคำตอบอาจดูไม่ทันใจหลายคนเลยหาเครื่องมือวิเศษ(ของยุคเขา)คือแสดงความต้องการแล้วมีคนมาประเคนให้เลือกเลย ซึ่งในยุคถัดไป(เจนไรอีกฟ่ะ)มันอาจจะดูไม่ทันการเด็กๆยุคนั้นอีกก็ได้แต่คนที่จะคอยไปประเคนแทนยุคเราๆก็พวกเจนวายแซดปัจจุบันที่คุ้นเคยกับวิถีแบบนี้นี่แหล่ะที่ไปถ่ายทอดต่ออีกที เราๆได้แค่ช่วยเหลือในแนวทางของเราอันไหนที่มันดูไม่เมกเซนส์ในฐานะเราก็ปล่อยให้พวกเจนเดียวกันตอบกันเอง คือเข้าใจแต่ไม่อยากตอบ 55
ระบบแท็กที่เพิ่มมาเป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆได้ ยิ่งมีแบบแยกประเภทกระทู้ยิ่งทำให้อยู่ง่าย ผมชอบตอบคำถามผมก็สามารถกรองกระทู้คำถามได้ง่ายๆ ส่วนรีวิวถ้าไม่จับผิดกระทู้คำถามจะพบว่าแม้แต่รีวิวมันก็เยอะขึ้นมากๆ สถานที่เดียวกันบางวันมีมากกว่าสามสี่รีวิว ซึ่งมันไปหารคนที่เข้าไปเสพต่อกระทู้น้อยและบั่นทอนกำลังใจคนทำ ซึ่งถ้าปัญหามันอยู่ที่กำลังใจเราต้องมองว่าการแก้ไม่ใช่การลดกระทู้ลงแต่ทำไงให้นักทำรีวิวได้มีแรงจูงใจ การมีกระทู้แนะนำก็เป็นสิ่งที่ดีเพียงแต่การที่มันรวมกันกระทู้ที่จะได้ขึ้นจึงไม่พ้นรีวิวที่มันไปยากๆหรือรูปสวยๆ คนที่ไปที่เดิมๆคนรู้จักหรือถ่ายภาพไม่สวยเลยถูกมองข้าม หลายคนจึงมุ่งทำรูปมากกว่าการทำข้อมูลเพราะมันเสพได้ง่ายไม่ต้องใช้เวลาอ่าน อย่างที่ด้านบนเสนอก็ดีนะคือแจกแจงไปเลยยอดเยี่ยมด้านภาพ ด้านข้อมูล หรือมีเรตติ้งมีแรงกิ้งในแต่ละแท็กให้เห็นคนทำก็ได้ชาเล้นท์ตัวเองดีเหมือนกันอยากอยู่ทอปชาร์ตก็ต้องยกระดับ เพราะเอาจริงๆหลายคนที่จะมาหารีวิวต่อเมื่อจะไปเที่ยว พอแท็กแล้วรีวิวดีๆของสถานที่นั้นๆมันตกไปนานแล้ว หลายคนจึงมาตั้งกระทู้คำถามใหม่ให้หลายคนรำคาญ ผมเชื่อว่ากระทู้นี้เดี๋ยวคงมีหลายๆไอเดียออกมาแก้ปัญหามากกว่าการบ่นไปเฉยๆและหาทางหลบปัญหา
ส่วนคำถามประเภทไม่คิดอะไรเลยนั่นพอเข้าใจได้นะ คือเด็กเจนวายเจนแซดเริ่มโตมากับการที่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากก็ได้สิ่งที่ต้องการ ดูทีวียังกดแค่รีโมทภาพก็มาไม่ต้องลุกไปกดเอง การมีกูเกิ้ลมาแต่เด็กอาจมองว่ามันคือมาตรฐานที่โลกให้เขามาอยู่แล้ว ไม่เหมือนเจนเบบี้หรือเอ็กซ์ที่มองว่ามันคือเครื่องมือวิเศษต่างจากยุคที่ยังเด็กที่เขาอยากรู้อะไรต้องค้นนั้นค้นนี่เองหรือไปด้วยตัวเอง การที่เด็กพวกนี้ยิงคำถามแล้วมีคำตอบอาจดูไม่ทันใจหลายคนเลยหาเครื่องมือวิเศษ(ของยุคเขา)คือแสดงความต้องการแล้วมีคนมาประเคนให้เลือกเลย ซึ่งในยุคถัดไป(เจนไรอีกฟ่ะ)มันอาจจะดูไม่ทันการเด็กๆยุคนั้นอีกก็ได้แต่คนที่จะคอยไปประเคนแทนยุคเราๆก็พวกเจนวายแซดปัจจุบันที่คุ้นเคยกับวิถีแบบนี้นี่แหล่ะที่ไปถ่ายทอดต่ออีกที เราๆได้แค่ช่วยเหลือในแนวทางของเราอันไหนที่มันดูไม่เมกเซนส์ในฐานะเราก็ปล่อยให้พวกเจนเดียวกันตอบกันเอง คือเข้าใจแต่ไม่อยากตอบ 55
แสดงความคิดเห็น
บางครังก็รู้สึกบอกไม่ถูกว่าบางโพสต์ในพันทิฟต้องการแบ่งปันจริงๆหรือต้องการอยากดัง
เห็นแล้วนับถือในความพยายามของเจ้าของกระทู้จริงๆ เสียสละมาก
แต่ปัจจุบันหาได้น้อยลงมาก มีแต่กระทู้อวดรูปซึ่งก็สวยจริงๆ แต่ก็คงผ่านการแต่งรูปมาไม่มากก็น้อย
แต่กระทู้พวกนี้ก็มักเป็นกระทู้แนะนำ เพราะรูปสวย คนชอบ
แต่แทบจะไม่มีรายละเอียดอะไรเลย อวดรูปอย่างเดียว กับฝาก facebook ส่วนตัว
คือเข้าใจว่าเป็นสิทธิส่วนตัวผู้รีวิวไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทุกอย่าง แต่อย่างน้อยมีรายละเอียดประกอบการเดินทางบ้างก็ดี
บางคนอวดรูปอย่างเดียว มีคนถามว่าไปยังไง ถ่ายตรงไหนก็เงียบ
หลังจากนั้นก็เห็นหลายรายดัง มีชื่อเสียง ไปทำ facebook ส่วนตัว ออกหนังสือ ขายคอร์สท่องเที่ยว ฯลฯ
กระทู้ดีๆ รายละเอียดครบ แต่อาจจะถ่ายรูปไม่สวย ตกไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีคนกด like, reply
บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนทีมารีวิวเนี่ยต้องการแบ่งปันจริงๆหรือต้องการสร้างตัวตน อยากดัง จะได้ไปต่อยอด หารายได้อย่างอื่นแทน
หลายรายดังจากพันทิฟก็ไม่เคยกลับมารีวิวอีกเลย เหมือนใช้พันทิพเป็นทางผ่านเฉยๆ
อยากให้พันทิพกลับมาเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน แต่คงทำได้แค่บ่นเฉยๆ