สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วกับรีวิวทริปหรรษา เน้นฮา ไม่เน้นวิว (อาจจะมีภาพสวยบ้าง ไม่สวยบ้างตามประสาคนหัดถ่ายรูปถ้าสวยก็ฟลุ๊คไป ไม่สวยก็อย่าด่ากันเนาะ) ทริปนี้มีจุดเริ่มต้นจากเมื่อปีที่แล้วเราไปจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ที่อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เลยบอกกับแม่ว่าเดี๋ยวปีหน้าหนูพาไปเที่ยวนะแม่ พอปลายปีก็เริ่มมีประชาสัมพันธ์จากเพจจิม ทอมป์สัน ว่าเริ่มเปิดฟาร์มแล้วเลยแพลนว่าจะไปช่วงวันหยุดเพราะสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ไม่ต้องค้างคืน หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนอยากสมัผัสอากาศเย็นแบบเต็มที่อาจจะจองที่พักในจ.นครราชสีมาแล้วเดินทางเที่ยวเล่นไปเรื่อย ๆ แบบชิล ๆ ก็ได้นะคะเราก็ล็อควันกับแม่ว่าจะไป วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2559 เอาฤกษ์สะดวกเลยจ้าาาา
อ้อ ลืมบอกไป เราซื้อบัตรเข้างานล่วงหน้าที่ช้อปขายผ้าของจิม ทอมป์สัน จะลดราคาจาก 220 บาท เหลือ 180 บาท นอกจากจ่ายน้อยลงแล้ว จะได้ไม่ต้องไปเข้าคิวซื้อตั๋ว สามารถเดินเข้าฟาร์มได้เลยค่ะ
เราเดินทางออกจากกทม. เวลา 5.30 น.ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ สระบุรีแล้วกะเลี้ยวขวาเลยจ้าพี่น้อง
ขับมุ่งหน้าตามถนนมิตรภาพไปเรื่อย ๆ ผ่านลำตะคองไป พอลงจากลำตะคองมาสักพักใหญ่ ๆ จะเริ่มเห็นป้ายจิม ทอมป์สัน ฟาร์มสีแดง ต้องยูเทิร์นเพราะทางเข้าอยู่อีกฝั่ง พอยูเทิร์นแล้วแล้งซ้ายจะขับต่อไปอีกประมาณ 30 กว่ากิโลได้ พอใกล้จะถึงจะมีป้ายบอกทาง ก็ตามป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ
พอถึงฟาร์มแม่ก็ตื่นตาตื่นใจใหญ่ เติมหน้าเติมปากเพราะนั่งรถมาจนหน้าเยิ้มแล้ว 5555
คนสวย หันหน้ามาหน่อยจ้าาาา
มาถึงจิม ทอมป์สันก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปกับป้ายด้านหน้าก่อนเข้าฟาร์มจ้า
พอผ่านจุดตรวจบัตรเข้ามาแล้วจะมีรถรางมารอรับเราเข้าฟาร์มไม่ขาดสาย โดยมีน้องมัคคุเทศก์ที่เป็นนักเรียนในโรงเรียนแถว ๆ นั้นมารับจ็อบพิเศษพูดจาฉะฉานคอยอธิบายประวัติความเป็นมาของฟาร์ม สิ่งเดียวที่เราจำได้คือ "จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าคุณ จิม ทอปม์สัน ท่านหายไปไหน และท่านก็ยังคงเป็นตำนานตราบถึงปัจจุบัน" มาทุกปีได้ยินประโยคนี้ทุกปี
จุดแรกที่ลงไปคือทุ่งฟักทอง
เรา : แม่ ๆ ไปยืนกับฟักทองหน่อย
แม่ : แม่จะกลมกลืนกับฟักทองมั๊ยอ่ะ
ในใจเรา แหม แต่งเต็มซะขนาดนั้คงกลืนแหละมั้ง 555
เลยหามุมเหม่อปลอบใจซะหน่อย
เดินผ่านทุ่งฟักทองไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นทุ่งดอกไม้สีเหลือง อ่ะเอารูปดอกไม้กับแมลงตัวน้อยมาฝากกันค่าาา
อ้าว ๆ ไม่ใช่ ๆ นั่นแม่เราเอง ภาพนี้ต่างหากแมลงตัวน้อยกับดอกไม้สีเหลือง
ในบริเวณเดียวกันทางฟาร์มเขาต่อสแตนขึ้นไปเป็นเหมือนหอคอย ให้มองภาพไร่ในมุมสูงขึ้นมาอีกนิดนึง
แม่เราก็หนู ๆ เราไปถ่ายรูปข้างบนนั้นดีมั๊ย เราก็อ่ะ ๆ ไปก็ไป ปรากฏตอนเดินขึ้นบันได้ค่อนข้างชันแต่แม่เราใส่ส้นสูงไปไง จ้ะสวยเนาะ
แต่ลำบากเชียวคนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเองนะแม่ นางก็เดินขึ้นหอคอยแบบทุลักทุเล พอขึ้นไปทีมกำกับภาพโดยแม่เราก็ให้โจทย์มาว่า หนู ๆ แม่อยากได้ภาพแบบเหมือนมีแม่คนเดียว เหมือนยืนอยู่กลางหุบเขาอากาศหนาว ๆ ในใจอิลูกนี่แบบไปเขาใหญ่มั๊ยล่ะจ๊ะคนสวย
และภาพที่ได้คืออออออ
สแตน อะโลน วนไปค่ะ 5555
พอลงมาจากหอคอยด้านล่างมีการเอาผ้าขาวม้าสีสันสดใสมาล้อมไว้ เพื่อให้เข้ากับธีมงาน "คักแท้แท้ แพรอีโป้"
ผ้าแพรอีโป้เป็นภาษาอีสานแปลว่าผ้าขาวม้า รายละเอียดที่มาของแพราอีโป้น้องมัคคุเทศก์ก็อธิบายให้ฟังตอนนั่งรถรางนะคะ แต่เราจำไม่ได้อ่ะ 555 ยังไงใครที่มีโอกาสไปลองตั้งใจฟังแล้วเอามาแชร์กันได้นะคะ
แม่เราก็ฮิปสเตอร์ได้นะยูววววว
ทีนี้เดอะเบสท์ออฟจิม ทอมป์สัน ฟาร์มปีนี้ ต้องยกให้บ้านคำแก้วนางเอกเรื่อง "นาคี" คนล้นมาก เราสามารถเดินจากจุดแรกมาได้แบบไม่เหนื่อยมากนะคะ ประมาณ 200 เมตร (ตามคำบอกเล่าของน้องมัคคุเทศก์) มาถึงทั้งทีก็เลยไม่อยากจะพลาด ขอเดินไปเยี่ยมชมซะหน่อย ปรากฏว่าคนเยอะมากค่ะแทบจะล้นบ้านเลยไม่รู้จะให้แม่ถ่ายรูปกับบ้านคำแก้วยังไง ก็เลยได้ภาพประมาณนี้ แค่นี้ก็พอนะแม่นะ หนูสู้คนไม่ไหวจริง ๆ
ฮักที่แลกด้วยแหกกฎฟ้า ถึงมีน้ำตาเข้ามาแต่งเติม ความปวดร้าวสิเข้ามาเสริมบ่เคยคิดย่าน ว่าจั๋งได๋คำแก้วววววววววว
พอชื่นชมบ้านคำแก้วเรียบร้อยแล้วก็ไปที่สถานีต่อไปเป็น หมู่บ้านอิสาน
สถานีนี้ฟินเป็นพิเศษมีของกินอิสานขายมากมาย อิ่มหนำสำราญ ข้าวจี่ ข้าวโป่ง (ข้าวเกรียบว่าว) ไข่ปิ้ง มีหนังกลางแปลงด้วยนะเออ
โปสเตอร์หนังทำดีมาก สีสวยสดเชียว
มีสาวสาวหนุ่มหล่อฟ้อนรำต้อนรับสไลต์อิสาน เรานี่สงบใจไม่รำตามกลองเกือบไม่ไหว ดนตรีสนุกมาก น้อง ๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสดี
มีคณะหมอลำด้วยนะ เราว่าปีนี้ทางฟาร์มจัดงานได้ดี มีกิจกรรมหลากหลายตื่นตาไปหมด แม่เราก็ชวนเราไปนั่งดูคณะหมอลำเนี่ยแหละ มีตลกคั่นเวลา เป็นตลกเล่นมุกภาษาอิสาน แม่เรานั่งดูแล้วก็ขำใหญ่ หันมาถามเราว่า "แม่ขำแรงไปมั๊ย" เขาคงรู้หมดว่าแม่ดูเข้าใจ หืมมม ใจเย็น ๆ เนาะเขารู้ตั้งแต่แม่เดินเข้ามานั่งดูแล้วจ้ะ
ถัดจากเวทีหมอลำไปจะเป็น "สิมน้ำ" สิมน้ำเป็นภาษาอิสาน ถ้าจะอธิบายก็น่าจะเป็นหอพระที่อยู่กลางน้ำบรรยากาศโดยรอบดีมากค่ะ วิวข้างหลังเป็นภูเขาไปยืนอยู่ตรงนั้นแล้วรู้สึกสดชื่นมาก เหมือนได้ฟอกปอดที่เราสูดแต่มลพิษมาตลอดทั้งปี
บรรยากาศดีจริง ๆ นะคะ
ในหมู่บ้านอิสานจะมีการจำลองวิถีชีวิตของคนอิสานแท้ ๆ อันนี้น่าจะเป็นการโม่ข้าว เป็นวิธีการสีข้าวแบบคนโบราณว่ากันว่าข้าวที่ชาวบ้านสีเองแบบนี้อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมายเชียวแหละ
มีสาธิตการย้อมผ้าด้วยเปลือกไม้ ภูมิปัญญาชางบ้านนี่มหัศจรรย์จริง ๆ นะ
มีการนำรวงข้าวมาจัดทำเป็นเจดีย์ ความคิดสร้างสรรค์ดีมาก
แม่ขอแชะภาพหน่อยยยยย
ในเจดีย์สามารถเข้าไปได้ด้วยนะคะ เขาเอาผ้าขาว ๆ มาบุ เลยให้แม่ไปยืนถ่าย ให้โจทย์แม่ว่าถ่ายแบบแอบ ๆ
อ่ะแม่โผล่หน้าจากผ้ามานิดนึงและภาพที่ได้คือออออ
นี่แม่เราจะ 50 ปีแล้วนะ พอถ่ายออกมาเหมือนเด็กอายุ 20 ปีเลย รูปนี้แม่ปลาบปลื้มเป็นพิเศษเพราะดูเด็ก 5555
มีโมบายน่ารัก ๆ ด้วยแม่ขอถ่ายอีกแล้ววววว
สถานีถัดไปกันเลยดีกว่าาาาาาาา เป็นทุ่งดอกคอสมอส ซึ่งเป็น Signature ของที่นี่เลยแหละ เราอยากมาที่จิม ทอมป์สัน ก็เพราะดอกคอสมอสนี่แหละ เรากับแม่ก็สลับกับถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ภาพที่เราถ่ายให้แม่
สวยเนาะ สวยเลยแหละ แม่เราเลยอาสาว่า มา ๆ หนูเดี๋ยวแม่ถ่ายให้หนูบ้าง หนูไม่ค่อยมีรูปเลย เดี๋ยวแม่จะถ่ายแบบอาร์ต ๆ ให้เลยนะที่เขาชอบลงกันในเฟสบุ๊คและนี่คือภาพที่แม่ถ่ายให้เรา
แม่ ๆ เดี๋ยวนะ อะไรคืออาร์ต อะไรคือการถ่ายให้ดอกไม้บังหน้าลูกหมดเลย แม่เราเลยขอแก้ตัว เดี๋ยวรอบนี้แม่ถ่ายให้สวย ๆ เลยนะและรูปที่ได้
เอิ่มมมม หนักกว่าเดิมอีก ไหนหน้าลูก โฟกัสอยู่ที่ภูเขาโน่นนนนนหน้าเน่อนี่เบลอโหม้ดดดดดดดด
ไม่เป็นไรแม่ แม่อาจจะเหมาะกับการเป็นแบบเท่านั้น 55555 และทริปนี้ก็ปิดตัวลงด้วยความเยินและเมาแดดของทั้งแม่และลูก
พร้อมด้วยประโยคปิดท้ายทริปของแม่ ดัง ๆ ว่า "นี่ถ้าเป็นหน้าร้อนแม่ไม่มานะ" จ้ะหญิง ถึงหญิงจะมาเขาก็ไม่เปิดจ้ะ
เขาเปิดแค่ถึง 8 มกราคม 2560 เท่านั้น ใครสนใจอยากมาสูดอากาศดี ๆ ชมดอกไม้สวย ๆ สามารถตัดจบให้เสร็จได้ภายใน 1 วัน รีบ ๆ มากันนะคะ สำหรับรีวิวนี้ขอปิดท้ายลงด้วยภาพดอกคอสมอสน่ารัก ๆ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
[CR] เมื่อฉันพาแม่เที่ยว Jim Thomson Farm 2559
อ้อ ลืมบอกไป เราซื้อบัตรเข้างานล่วงหน้าที่ช้อปขายผ้าของจิม ทอมป์สัน จะลดราคาจาก 220 บาท เหลือ 180 บาท นอกจากจ่ายน้อยลงแล้ว จะได้ไม่ต้องไปเข้าคิวซื้อตั๋ว สามารถเดินเข้าฟาร์มได้เลยค่ะ
เราเดินทางออกจากกทม. เวลา 5.30 น.ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ สระบุรีแล้วกะเลี้ยวขวาเลยจ้าพี่น้อง
ขับมุ่งหน้าตามถนนมิตรภาพไปเรื่อย ๆ ผ่านลำตะคองไป พอลงจากลำตะคองมาสักพักใหญ่ ๆ จะเริ่มเห็นป้ายจิม ทอมป์สัน ฟาร์มสีแดง ต้องยูเทิร์นเพราะทางเข้าอยู่อีกฝั่ง พอยูเทิร์นแล้วแล้งซ้ายจะขับต่อไปอีกประมาณ 30 กว่ากิโลได้ พอใกล้จะถึงจะมีป้ายบอกทาง ก็ตามป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ
พอถึงฟาร์มแม่ก็ตื่นตาตื่นใจใหญ่ เติมหน้าเติมปากเพราะนั่งรถมาจนหน้าเยิ้มแล้ว 5555
คนสวย หันหน้ามาหน่อยจ้าาาา
มาถึงจิม ทอมป์สันก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปกับป้ายด้านหน้าก่อนเข้าฟาร์มจ้า
พอผ่านจุดตรวจบัตรเข้ามาแล้วจะมีรถรางมารอรับเราเข้าฟาร์มไม่ขาดสาย โดยมีน้องมัคคุเทศก์ที่เป็นนักเรียนในโรงเรียนแถว ๆ นั้นมารับจ็อบพิเศษพูดจาฉะฉานคอยอธิบายประวัติความเป็นมาของฟาร์ม สิ่งเดียวที่เราจำได้คือ "จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าคุณ จิม ทอปม์สัน ท่านหายไปไหน และท่านก็ยังคงเป็นตำนานตราบถึงปัจจุบัน" มาทุกปีได้ยินประโยคนี้ทุกปี
จุดแรกที่ลงไปคือทุ่งฟักทอง
เรา : แม่ ๆ ไปยืนกับฟักทองหน่อย
แม่ : แม่จะกลมกลืนกับฟักทองมั๊ยอ่ะ
ในใจเรา แหม แต่งเต็มซะขนาดนั้คงกลืนแหละมั้ง 555
เลยหามุมเหม่อปลอบใจซะหน่อย
เดินผ่านทุ่งฟักทองไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นทุ่งดอกไม้สีเหลือง อ่ะเอารูปดอกไม้กับแมลงตัวน้อยมาฝากกันค่าาา
อ้าว ๆ ไม่ใช่ ๆ นั่นแม่เราเอง ภาพนี้ต่างหากแมลงตัวน้อยกับดอกไม้สีเหลือง
ในบริเวณเดียวกันทางฟาร์มเขาต่อสแตนขึ้นไปเป็นเหมือนหอคอย ให้มองภาพไร่ในมุมสูงขึ้นมาอีกนิดนึง
แม่เราก็หนู ๆ เราไปถ่ายรูปข้างบนนั้นดีมั๊ย เราก็อ่ะ ๆ ไปก็ไป ปรากฏตอนเดินขึ้นบันได้ค่อนข้างชันแต่แม่เราใส่ส้นสูงไปไง จ้ะสวยเนาะ
แต่ลำบากเชียวคนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเองนะแม่ นางก็เดินขึ้นหอคอยแบบทุลักทุเล พอขึ้นไปทีมกำกับภาพโดยแม่เราก็ให้โจทย์มาว่า หนู ๆ แม่อยากได้ภาพแบบเหมือนมีแม่คนเดียว เหมือนยืนอยู่กลางหุบเขาอากาศหนาว ๆ ในใจอิลูกนี่แบบไปเขาใหญ่มั๊ยล่ะจ๊ะคนสวย
และภาพที่ได้คืออออออ
สแตน อะโลน วนไปค่ะ 5555
พอลงมาจากหอคอยด้านล่างมีการเอาผ้าขาวม้าสีสันสดใสมาล้อมไว้ เพื่อให้เข้ากับธีมงาน "คักแท้แท้ แพรอีโป้"
ผ้าแพรอีโป้เป็นภาษาอีสานแปลว่าผ้าขาวม้า รายละเอียดที่มาของแพราอีโป้น้องมัคคุเทศก์ก็อธิบายให้ฟังตอนนั่งรถรางนะคะ แต่เราจำไม่ได้อ่ะ 555 ยังไงใครที่มีโอกาสไปลองตั้งใจฟังแล้วเอามาแชร์กันได้นะคะ
แม่เราก็ฮิปสเตอร์ได้นะยูววววว
ทีนี้เดอะเบสท์ออฟจิม ทอมป์สัน ฟาร์มปีนี้ ต้องยกให้บ้านคำแก้วนางเอกเรื่อง "นาคี" คนล้นมาก เราสามารถเดินจากจุดแรกมาได้แบบไม่เหนื่อยมากนะคะ ประมาณ 200 เมตร (ตามคำบอกเล่าของน้องมัคคุเทศก์) มาถึงทั้งทีก็เลยไม่อยากจะพลาด ขอเดินไปเยี่ยมชมซะหน่อย ปรากฏว่าคนเยอะมากค่ะแทบจะล้นบ้านเลยไม่รู้จะให้แม่ถ่ายรูปกับบ้านคำแก้วยังไง ก็เลยได้ภาพประมาณนี้ แค่นี้ก็พอนะแม่นะ หนูสู้คนไม่ไหวจริง ๆ
ฮักที่แลกด้วยแหกกฎฟ้า ถึงมีน้ำตาเข้ามาแต่งเติม ความปวดร้าวสิเข้ามาเสริมบ่เคยคิดย่าน ว่าจั๋งได๋คำแก้วววววววววว
พอชื่นชมบ้านคำแก้วเรียบร้อยแล้วก็ไปที่สถานีต่อไปเป็น หมู่บ้านอิสาน
สถานีนี้ฟินเป็นพิเศษมีของกินอิสานขายมากมาย อิ่มหนำสำราญ ข้าวจี่ ข้าวโป่ง (ข้าวเกรียบว่าว) ไข่ปิ้ง มีหนังกลางแปลงด้วยนะเออ
โปสเตอร์หนังทำดีมาก สีสวยสดเชียว
มีสาวสาวหนุ่มหล่อฟ้อนรำต้อนรับสไลต์อิสาน เรานี่สงบใจไม่รำตามกลองเกือบไม่ไหว ดนตรีสนุกมาก น้อง ๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสดี
มีคณะหมอลำด้วยนะ เราว่าปีนี้ทางฟาร์มจัดงานได้ดี มีกิจกรรมหลากหลายตื่นตาไปหมด แม่เราก็ชวนเราไปนั่งดูคณะหมอลำเนี่ยแหละ มีตลกคั่นเวลา เป็นตลกเล่นมุกภาษาอิสาน แม่เรานั่งดูแล้วก็ขำใหญ่ หันมาถามเราว่า "แม่ขำแรงไปมั๊ย" เขาคงรู้หมดว่าแม่ดูเข้าใจ หืมมม ใจเย็น ๆ เนาะเขารู้ตั้งแต่แม่เดินเข้ามานั่งดูแล้วจ้ะ
ถัดจากเวทีหมอลำไปจะเป็น "สิมน้ำ" สิมน้ำเป็นภาษาอิสาน ถ้าจะอธิบายก็น่าจะเป็นหอพระที่อยู่กลางน้ำบรรยากาศโดยรอบดีมากค่ะ วิวข้างหลังเป็นภูเขาไปยืนอยู่ตรงนั้นแล้วรู้สึกสดชื่นมาก เหมือนได้ฟอกปอดที่เราสูดแต่มลพิษมาตลอดทั้งปี
บรรยากาศดีจริง ๆ นะคะ
ในหมู่บ้านอิสานจะมีการจำลองวิถีชีวิตของคนอิสานแท้ ๆ อันนี้น่าจะเป็นการโม่ข้าว เป็นวิธีการสีข้าวแบบคนโบราณว่ากันว่าข้าวที่ชาวบ้านสีเองแบบนี้อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมายเชียวแหละ
มีสาธิตการย้อมผ้าด้วยเปลือกไม้ ภูมิปัญญาชางบ้านนี่มหัศจรรย์จริง ๆ นะ
มีการนำรวงข้าวมาจัดทำเป็นเจดีย์ ความคิดสร้างสรรค์ดีมาก
แม่ขอแชะภาพหน่อยยยยย
ในเจดีย์สามารถเข้าไปได้ด้วยนะคะ เขาเอาผ้าขาว ๆ มาบุ เลยให้แม่ไปยืนถ่าย ให้โจทย์แม่ว่าถ่ายแบบแอบ ๆ
อ่ะแม่โผล่หน้าจากผ้ามานิดนึงและภาพที่ได้คือออออ
นี่แม่เราจะ 50 ปีแล้วนะ พอถ่ายออกมาเหมือนเด็กอายุ 20 ปีเลย รูปนี้แม่ปลาบปลื้มเป็นพิเศษเพราะดูเด็ก 5555
มีโมบายน่ารัก ๆ ด้วยแม่ขอถ่ายอีกแล้ววววว
สถานีถัดไปกันเลยดีกว่าาาาาาาา เป็นทุ่งดอกคอสมอส ซึ่งเป็น Signature ของที่นี่เลยแหละ เราอยากมาที่จิม ทอมป์สัน ก็เพราะดอกคอสมอสนี่แหละ เรากับแม่ก็สลับกับถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ภาพที่เราถ่ายให้แม่
สวยเนาะ สวยเลยแหละ แม่เราเลยอาสาว่า มา ๆ หนูเดี๋ยวแม่ถ่ายให้หนูบ้าง หนูไม่ค่อยมีรูปเลย เดี๋ยวแม่จะถ่ายแบบอาร์ต ๆ ให้เลยนะที่เขาชอบลงกันในเฟสบุ๊คและนี่คือภาพที่แม่ถ่ายให้เรา
แม่ ๆ เดี๋ยวนะ อะไรคืออาร์ต อะไรคือการถ่ายให้ดอกไม้บังหน้าลูกหมดเลย แม่เราเลยขอแก้ตัว เดี๋ยวรอบนี้แม่ถ่ายให้สวย ๆ เลยนะและรูปที่ได้
เอิ่มมมม หนักกว่าเดิมอีก ไหนหน้าลูก โฟกัสอยู่ที่ภูเขาโน่นนนนนหน้าเน่อนี่เบลอโหม้ดดดดดดดด
ไม่เป็นไรแม่ แม่อาจจะเหมาะกับการเป็นแบบเท่านั้น 55555 และทริปนี้ก็ปิดตัวลงด้วยความเยินและเมาแดดของทั้งแม่และลูก
พร้อมด้วยประโยคปิดท้ายทริปของแม่ ดัง ๆ ว่า "นี่ถ้าเป็นหน้าร้อนแม่ไม่มานะ" จ้ะหญิง ถึงหญิงจะมาเขาก็ไม่เปิดจ้ะ
เขาเปิดแค่ถึง 8 มกราคม 2560 เท่านั้น ใครสนใจอยากมาสูดอากาศดี ๆ ชมดอกไม้สวย ๆ สามารถตัดจบให้เสร็จได้ภายใน 1 วัน รีบ ๆ มากันนะคะ สำหรับรีวิวนี้ขอปิดท้ายลงด้วยภาพดอกคอสมอสน่ารัก ๆ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น