สวัสดีค่าทุกคนน !
หลังจากที่ห่างนานไปนานมากกก วันนี้ KT ก็ขอต้อนรับทุกคนกับเดือนแห่งความสุข
ซึ่งแน่นอนว่า ลมหนาวก็ได้ย่างกรายเข้าสู่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
กระทู้นี้เลยอยากจะมาแนะนำ Skin Care สำหรับหน้าหน๊าวหนาวที่คิดว่าสาวๆหลายคนอาจจะมีอยู่แล้ว
และควรจะมีเพิ่ม เพราะว่าใช้ดีมากกก คอนเฟิร์ม! ฮ่าา
ปล. KT เป็นสาวผิวผสม แพ้ง่าย ผิวหน้าจะแสบเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะงั้นถ้าใครผิวหน้าแข็งแรง (แอบอิจฉา เชอะ!) ใช้ได้ทุกตัวแน่นอนค่ะ คอนเฟิร์ม!
ถ้าพร้อมแล้ว ไปโลดด..
ปล2. ลืมบอกไป! กระทู้นี้ KT จะแนบส่วนประกอบที่สำคัญให้ดูนะคะ เผื่อสาวๆจะได้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าแต่ละคนได้ (สาระก็มาแหะ)
ไปจริงๆแล้ว
Smooth E Cream
ตัวแรกขอประเดิม
เจ้าเก่าเจ้าดังรายแรกของสกินแคร์อันดับต้นๆ คงจะหนีไม่พ้น Smooth E Cream ในตำนานตัวนี้แน่นอนค่ะ
เนื่องจากว่า สาวๆหลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีธรรมชาติ
และ KT มักจะใช้เสมอเวลาที่มีรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว หรือรอยแผลเป็น
มักจะทาทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ (ทาตอนหน้าสะอาดด้วยเด้ออ) ภายในไม่เกิน 2 อาทิตย์
รับรองจุดด่างดำจางลง หน้าจะไม่แห้งแน่นอน
ส่วนใครที่กังวลในเรื่องของความชุ่มชื้นบอกได้เลยว่าสามารถทาระหว่างวันได้บ่อยๆ
กลิ่นก็หอมแบบยา แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกไม่อยากใช้ อธิบายยังไงดี เอาเป็นว่าผ่านค่ะ ฮ่าาา
ตัวแพคเกจก็สะอาด พกพาสะดวก เทียบกับราคาแล้ว คุ้มแน่นอน
ติดอยู่อย่างหนึ่ง เวลาจะหมุนฝาปิด ฝาชอบลื่นตลอดดด ก้มเก็บแทบไม่ทัน
ส่วนประกอบสำคัญ
Centella Essence - เสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้าง Collagen ตามธรรมชาติ
Allium Cepa Extract - ลดการอักเสบและลดเลือนรอยแผลเป็น
Natural Alpha-Tocopherol -ให้ความชุ่มชื่น ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็น
Jojoba oil - บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม คงความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง สุขภาพดี
Aloe Vera - ลดเลือนรอยแผลเป็น เติมความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้ผิวเรียบเนียนละเอียด
เนื้อครีม MES (Multi-layer Emulsion System) - เป็นเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงที่ช่วยให้เนื้อครีมสามารถซึมซาบลงสู่ผิวชั้นในได้มากกว่าครีมทั่วไป ซึมซาบอย่างล้ำลึกเข้าสู่ผิวชั้นในสุดที่เกิดปัญหาแผลเป็น ริ้วรอย และจุดด่างดำต่างๆ
ขนาด 40 กรัม ราคา 295 บาท
Hada Labo Perfect Gel
งานเกาหลีชุ่มน้ำก็มาแบบไม่ต้องเสียเวลากับ Hada Labo Perfect Gel
ตัวนี้ซื้อมาตอนที่ไปญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ใช้คุ้มมาก
เพราะเชื่อว่าหลายคนคงได้ลองมาแล้ว และแน่นอนว่าคงไม่ได้แค่ทาบางๆ
สำหรับตัว KT นั้น ถ้าขี้เกียจลงครีมบำรุงตัวอื่น ก็ใช้ตัวนี้โบกแทนมาร์คเลยค่ะ
ตื่นเช้ามา หน้ามันเชียว อ่ะ! ล้อเล่นน ตื่นมาจะรู้สึกได้ทันทีว่า หน้า มี น้ำ
แล้วก็ใสขึ้น ความชุ่มชื้นมีคะแนนเต็มเท่าไหร่ให้เท่านั้น กลิ่นหอมมาก ที่สำคัญมีขนาดพกพาซื้อง่ายมาก
ซื้อไปวางไปที่ที่ทำงานยังไม่เสียดายเลย แต้มๆเวลาหน้าเป็นขุย จะช่วยได้
ตัวแพคเกจถึงแม้จะเป็นพลาสติก แต่ก็แข็งแรงมาก ผ่านค่ะ!
ส่วนราคาถ้ารอโปรโมชั่นดีๆ KT เห็นว่าลดเกือบร้อย ไปสอยสิคะเลดี้!
ส่วนประกอบสำคัญ
3 types of Hyaluronic Acid: เติมเต็มความชุ่มชื่นล้ำลึก และกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่มยาวนานขึ้น
Collagen: เพิ่มคุณค่าการบำรุงผิว เพื่อผิวกระชับเรียบเนียน เปล่งประกายความอ่อนเยาว์
Ceramide: รักษาระดับความชุ่มชื่น ฟื้นบำรุงผิวแห้งเสียให้กลับเรียบเนียนนุ่ม รูขุมขนแลดูเล็กลง
pH balanced: ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอมและสี
ขนาด 80 กรัม ราคา 790 บาท
Lanolin Oil Moisturising Day Cream
ถัดมาตัวนี้คือ Lanolin Oil Moisturising Day Cream
เขาบอกว่าตัวนี้จะปกป้องผิวหน้าช่วงกลางวัน เพราะว่าเวลาเราเจอแดดทำให้ผิวขาดน้ำและคอลลาเจนก็ถูกทำลายช่วยเสริมประสิทธิภาพครีมกันแดดในส่วนที่ครีมกันแดดทำไม่ได้
ประเด็นที่สนใจทำให้ใช้คืออะไรคะ แกะ ค่ะ! ฟังไม่ผิดค่ะ
สนใจเพราะว่าพออ่านส่วนประกอบเขาบอก ครีมถูกสกัดโปรตีนจากต่อมใต้ไขมันแกะ
ซึ่ง KT บอกเลยว่าไม่เคยใช้อะไรแบบนี้มาก่อนและด้วยความที่ว่าตัวนี้ขวดค่อนข้างใหญ่
KT เลยเอามาทาตัวด้วย ฮ่าา
ทีแรกก็คิดว่าคงเหมือนครีมทั่วไป แต่พอใช้ปุ๊บ คือครีมเบามาก
ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งเหมือนสะท้อนแสงน้อยๆ (ฮิ้วว ไม่เบา)
และช่วยให้ผิวติดแป้งตลอดทั้งวัน ที่สำคัญผิวไม่แห้งด้วย
กลิ่นหอมมากกกกก เมื่อเทียบกับราคา ขอบอกเลยว่า ถูกและดี ยังมีอยู่จริง
ถ้าเกิดไม่มีแฮนด์ครีม ตัวนี้ก็อาจจะเป็นทางเลือกไว้พกได้เลย เยี่ยมม!
ส่วนประกอบสำคัญ
Lanolin Oil - สารสกัดโปรตีนจากต่อมใต้ไขมันแกะ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)
ปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวตามธรรมชาติบวกวิตามินอี
ซ่อมแซมเซลผิวที่เสียหายจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยร่องลึก ให้ผิวเต่งตึง อ่อนนุ่มและชุ่มชื้น
ขนาด 100 กรัม ราคา 490 บาท
COS Coseutics HydroMoist
และแน่นอนว่าประเภทน้ำตบก็ต้องมา หลักๆเวลาที่ KT จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
มักจะดูส่วนประกอบเป็นหลักเลย เพราะกลัวแพ้ อีกอย่างคือมันมีอะไรแบบนี้เยอะมากกก
ตอนซื้อเลยถามเภสัชกรเลยว่า อยากลองน้ำตบแบบนี้อ่ะค่ะ เอาถูกๆ แล้วก็ไม่แพ้
เขาเลยแนะนำตัวนี้ (ราคาแอบแรง)
COS Coseutics HydroMoist เป็นมอยส์เจอร์ที่เหมือนน้ำเลย แต่มีความชุ่มชื้น
ตัวนี้ไม่แพ้แน่นอน นั่งยัน นอนยัน ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี
ส่วนตัว KT จะเทใส่ขวดสเปรย์เล็กๆพกไว้ติดกระเป๋า เอาไว้ฉีดเวลาที่ร้อนหรือว่าหน้ามัน แล้วก็ซับออก
เพคแกจสะอาด แต่เปิดยาก เวลาเปิดจะมีเสียง ป๊อก! ต้องใช้แรงนิดนึง
ส่วนประกอบสำคัญ
มอยส์เจอร์ช่วยเติมน้ำเข้าสู่ผิวหน้าด้วย Very Low Molecular Weight Hyaluronan ไฮยาลูโรแนน
โมเลกุลเล็กพิเศษกว่าทั่วไป 190 เท่า ประกอบด้วย Sodium PCA ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีกว่าสารเพิ่มความชุ่มชื้นอื่นถึง 2 เท่า และช่วยปรับสมดุลความมันบนผิว อีกทั้งปราศจากส่วนประกอบของน้ำมัน จึงลดปัญหาความมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้
ขนาด 125 ml. ราคา 320 บาท
Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion
ชื่อยาวมากกับ Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion โลชั่นน้ำนั่นเอง
ทุกคนต้องมีแน่นอน แพร์รี่พายยังใช้ นับภาษาอะไรกับ KT ที่เป็นแฟนคลับนาง
เอาเป็นว่าใช้คู่กับ Hada Labo Perfect Gel หน้าหนาวนี้ หน้าเกาหลีแน่นอน
ราคาไม่แพงเทียบกับปริมาณ แพคเกจสวย ความชุ่มชื้นดีมาก
ปล. ไม่รู้จะอธิบายยังไง เอางี้ละกัน มันดีอ่ะ
ส่วนประกอบสำคัญ
โลชั่นบำรุงผิวหน้า มาพร้อมเทคโนโลยี HPP&Mเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงจากไฮยาลูโรนิค แอซิด ถึง 4 ชนิดที่มีขนาดโมเลกุลต่างกัน ทั้ง Large-size Hyaluronic Acid, Medium-size Hyaluronic Acid, Super Hyaluronic Acid และ Nano Hyaluronic Acid แทรกซึมเข้าเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื่นได้ล้ำลึก ถึงทุกชั้นผิว เพื่อผิวเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ให้ผิวเนียนนุ่มยาวนานกว่า และช่วยปรับสมดุลให้พร้อมรับการบำรุงด้วยเอสเซนต์และมอยเจอร์ไรเซอร์
ขนาด 170 มล. ราคา 520 บาท
Smith Klarifique Serum
Smith Klarifique Serum เซรั่มที่ไปถอยมา
เนื่องจากดูรายการโมเมพาเพลิน แล้วอยากได้ครีมกันแดดของคุณหมอโอ๊ค แต่ก็ได้ตัวนี้มาด้วย (เสียเงินเพื่ออะไรร ทำไมม) ก็ช่วยไม่ได้หนิหนา ตอนนั้นมีโปร เห็นมันลดเลยซื้อกัน
เก๊าขอโทษ
คือจริงๆแล้วหลายคน (รวมถึงตัวเอง) อาจจะคิดว่า เซรั่ม คงไม่ได้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นสักเท่าไหร่
แต่ปรากฎว่าเซรั่มตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดีมาก เรื่องหน้าแห้งนี่หายห่วง
ทาก่อนแต่งหน้าตัวเดียวก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าหน้าแห้งจนเกินไป อยู่ได้นาน
ส่วนในเรื่องของริ้วรอยยังไม่ค่อยรู้สึกอาจจะเป็นเพราะหน้าเด็ก (ล้อเล่นนะ)
ใช้กับตัวเองแล้วไม่เห็นผลเรื่องนี้เท่าไหร่
แต่เนื่องจากมันมีราคาค่อนข้างสูงมาก สาวๆที่มีกำลังซื้อน้อยกว่า อาจจะลองใช้ตัวอื่นทดแทนก่อนก็ได้
ตัวแพคเกจสะอาด แข็งแรง
ส่วนประกอบสำคัญ
สารสกัดจากมะนาวคาร์เวียร์ - ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ช่วยขับผิวให้ดูสว่างใสแบบมีออร่า
สารสกัดอูเมะจากประเทศญี่ปุ่น - ช่วยต้านกระบวนการ glycation ที่เป็นต้นกำเนิดหนึ่งของริ้วรอยของผิวชั้นใน พร้อมฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ผิว
สารสกัดจากมะขามอินเดีย - ช่วยเก็บน้ำที่หล่อเลี้ยงผิวไว้ได้นานขึ้น ผิวจึงแลดูสุขภาพดี นุ่มนวลและเรียบเนียนขึ้น
เทคโนโลยีที่ช่วยยับยั้งกระบวนการส่งของเม็ดสีไปสู่เซลล์ผิวหนัง พร้อมปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
ขนาด 30 ml ราคา 1,350 บาท
Bio-Essence Lanolin Oil
และตัวสุดท้าย Bio-essence Lanolin Oil ตัวนี้เหมาะมากสำหรับใครก็ตามที่กำลังจะขึ้นเหนือหรือไปต่างประเทศ ที่มีหิมะ อุณหภูมิต่ำ หนาวจัด บลาๆแต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่อยู่แทบอื่นจะใช้ไม่ได้
ตัวนี้ KT แนะนำมาก สำหรับสาวๆที่ต้องการความชุ่มชื้นเต็มร้อย
ตอนแรกกังวลมาก เพราะว่าตัวเองเป็นคนแพ้ง่าย จะหลีกเลี่ยงการใช้ออยล์เสมอ
พอได้ลองใช้ตัวนี้ กลับรู้สึกว่าใช้ง่าย ทำความสะอาดง่าย
ตัวขวดที่มันเป็นสเปรย์ ฉีดครั้งสองครั้งก็สามารถทาทั่วหน้าได้แล้ว
แต่ถ้าจะใช้ตัวนี้ ก็แนะนำว่าไม่ควรทาครีมอะไรเลยเพิ่มเพราะเนื่องจากมันเป็นน้ำมัน
ถ้าเกิดใช้ครีมตัวอื่นอาจจะเยอะไป
ส่วนตัว KT ลองเอามาทำสปาหน้าให้ตัวเอง เวลาที่เราอยากจะพักหน้า เช่น วันไหนที่แต่งหน้าจัด
อาจจะนวดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกหรือทาทิ้งไว้ทั้งคืน พอตื่นมาก หน้านี่จะใส ดิวอี้มาก ไปสอย!
ปล. ตัวนี้แอบเอามาทาตัว ทาขาด้วย อยู่ได้ทั้งวัน ขาเงามาแต่ไกล ผ่านค่ะ!
ส่วนประกอบสำคัญ
Lanolin Oil เป็นน้ำมันนำเข้ามาจากออสเตรเลีย จากศูนย์วิจัยเฉพาะด้านผิวหนัง จี แอนด์ เอ็ม คอสเมติกส์ ซึ่งเปิดมากว่า 20 ปี ต่างจาก Lanolin ทั่วไป คือสกัดนานขึ้นเพื่อนำไขมันโมเลกุลใหญ่ออก ทั้ง Fat Lipid Ester เหลือแต่ในส่วนของ Oil ที่มีโมเลกุลเล็ก จึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย เร็วและลึกถึงชั้นคอลลาเจน สารอาหารในนั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินขึ้นใหม่ ทำให้ริ้วรอยดูลดลง ผิวเปล่งปลั่งขึ้น คืนความอ่อนเยาว์ให้คุณอีกครั้ง
ขนาด 125 ml ราคา 1100 บาท
Skin Care Textures
ก่อนปาด จะสังเกตุได้ว่าเนื้อครีม ต่างกัน มีทั้ง เจล น้ำ ครีม ออย
และนี่ก็เป็นหน้าตา หลังปาด ผลิตภัณฑ์แต่ละตัว
เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน
กลับมาคราวนี้ ตั้งใจมากกว่าเดิม ส่วนตัวไม่อยากจัดอันดับว่า ใครดีกว่าใคร
เพราะทุกตัวที่เลือกมา ชอบหมดเลย
และเท่าที่รีวิวไป ก็น่าจะไปประกอบการตัดสินใจของทุกคนได้แล้ว
บอกเลยว่าทุกตัวที่เลือกมา ใช้จริง ดีจริง ราคาแล้วแต่ความสบายใจของคนซื้อ
ความชุ่มชื้นสำหรับหน้าหนาวนี้ ก็ผ่านทุกตัว
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะไม่มีของ Hi-End เนื่องจากว่า อยากให้จัด Skin Care แบบ Drugstore ทั้งหมดเลย
สำหรับเพื่อนๆคนไหน อยากแนะนำหรืออยากคอนเฟิร์มผลิตภัณฑ์ตัวไหน ก็อย่าลืมแบ่งปัน KT บ้างนะคะ
ไปละ
จุ๊บ
[CR] Skin care Items for Winter 2016: รีวิว สกินแคร์หน้าหนาว
สวัสดีค่าทุกคนน !
หลังจากที่ห่างนานไปนานมากกก วันนี้ KT ก็ขอต้อนรับทุกคนกับเดือนแห่งความสุข
ซึ่งแน่นอนว่า ลมหนาวก็ได้ย่างกรายเข้าสู่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
กระทู้นี้เลยอยากจะมาแนะนำ Skin Care สำหรับหน้าหน๊าวหนาวที่คิดว่าสาวๆหลายคนอาจจะมีอยู่แล้ว
และควรจะมีเพิ่ม เพราะว่าใช้ดีมากกก คอนเฟิร์ม! ฮ่าา
ปล. KT เป็นสาวผิวผสม แพ้ง่าย ผิวหน้าจะแสบเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะงั้นถ้าใครผิวหน้าแข็งแรง (แอบอิจฉา เชอะ!) ใช้ได้ทุกตัวแน่นอนค่ะ คอนเฟิร์ม!
ถ้าพร้อมแล้ว ไปโลดด..
ปล2. ลืมบอกไป! กระทู้นี้ KT จะแนบส่วนประกอบที่สำคัญให้ดูนะคะ เผื่อสาวๆจะได้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าแต่ละคนได้ (สาระก็มาแหะ)
ไปจริงๆแล้ว
Smooth E Cream
ตัวแรกขอประเดิม
เจ้าเก่าเจ้าดังรายแรกของสกินแคร์อันดับต้นๆ คงจะหนีไม่พ้น Smooth E Cream ในตำนานตัวนี้แน่นอนค่ะ
เนื่องจากว่า สาวๆหลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีธรรมชาติ
และ KT มักจะใช้เสมอเวลาที่มีรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว หรือรอยแผลเป็น
มักจะทาทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ (ทาตอนหน้าสะอาดด้วยเด้ออ) ภายในไม่เกิน 2 อาทิตย์
รับรองจุดด่างดำจางลง หน้าจะไม่แห้งแน่นอน
ส่วนใครที่กังวลในเรื่องของความชุ่มชื้นบอกได้เลยว่าสามารถทาระหว่างวันได้บ่อยๆ
กลิ่นก็หอมแบบยา แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกไม่อยากใช้ อธิบายยังไงดี เอาเป็นว่าผ่านค่ะ ฮ่าาา
ตัวแพคเกจก็สะอาด พกพาสะดวก เทียบกับราคาแล้ว คุ้มแน่นอน
ติดอยู่อย่างหนึ่ง เวลาจะหมุนฝาปิด ฝาชอบลื่นตลอดดด ก้มเก็บแทบไม่ทัน
ส่วนประกอบสำคัญ
Centella Essence - เสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้าง Collagen ตามธรรมชาติ
Allium Cepa Extract - ลดการอักเสบและลดเลือนรอยแผลเป็น
Natural Alpha-Tocopherol -ให้ความชุ่มชื่น ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็น
Jojoba oil - บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม คงความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง สุขภาพดี
Aloe Vera - ลดเลือนรอยแผลเป็น เติมความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้ผิวเรียบเนียนละเอียด
เนื้อครีม MES (Multi-layer Emulsion System) - เป็นเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงที่ช่วยให้เนื้อครีมสามารถซึมซาบลงสู่ผิวชั้นในได้มากกว่าครีมทั่วไป ซึมซาบอย่างล้ำลึกเข้าสู่ผิวชั้นในสุดที่เกิดปัญหาแผลเป็น ริ้วรอย และจุดด่างดำต่างๆ
ขนาด 40 กรัม ราคา 295 บาท
Hada Labo Perfect Gel
งานเกาหลีชุ่มน้ำก็มาแบบไม่ต้องเสียเวลากับ Hada Labo Perfect Gel
ตัวนี้ซื้อมาตอนที่ไปญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ใช้คุ้มมาก
เพราะเชื่อว่าหลายคนคงได้ลองมาแล้ว และแน่นอนว่าคงไม่ได้แค่ทาบางๆ
สำหรับตัว KT นั้น ถ้าขี้เกียจลงครีมบำรุงตัวอื่น ก็ใช้ตัวนี้โบกแทนมาร์คเลยค่ะ
ตื่นเช้ามา หน้ามันเชียว อ่ะ! ล้อเล่นน ตื่นมาจะรู้สึกได้ทันทีว่า หน้า มี น้ำ
แล้วก็ใสขึ้น ความชุ่มชื้นมีคะแนนเต็มเท่าไหร่ให้เท่านั้น กลิ่นหอมมาก ที่สำคัญมีขนาดพกพาซื้อง่ายมาก
ซื้อไปวางไปที่ที่ทำงานยังไม่เสียดายเลย แต้มๆเวลาหน้าเป็นขุย จะช่วยได้
ตัวแพคเกจถึงแม้จะเป็นพลาสติก แต่ก็แข็งแรงมาก ผ่านค่ะ!
ส่วนราคาถ้ารอโปรโมชั่นดีๆ KT เห็นว่าลดเกือบร้อย ไปสอยสิคะเลดี้!
ส่วนประกอบสำคัญ
3 types of Hyaluronic Acid: เติมเต็มความชุ่มชื่นล้ำลึก และกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่มยาวนานขึ้น
Collagen: เพิ่มคุณค่าการบำรุงผิว เพื่อผิวกระชับเรียบเนียน เปล่งประกายความอ่อนเยาว์
Ceramide: รักษาระดับความชุ่มชื่น ฟื้นบำรุงผิวแห้งเสียให้กลับเรียบเนียนนุ่ม รูขุมขนแลดูเล็กลง
pH balanced: ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอมและสี
ขนาด 80 กรัม ราคา 790 บาท
Lanolin Oil Moisturising Day Cream
ถัดมาตัวนี้คือ Lanolin Oil Moisturising Day Cream
เขาบอกว่าตัวนี้จะปกป้องผิวหน้าช่วงกลางวัน เพราะว่าเวลาเราเจอแดดทำให้ผิวขาดน้ำและคอลลาเจนก็ถูกทำลายช่วยเสริมประสิทธิภาพครีมกันแดดในส่วนที่ครีมกันแดดทำไม่ได้
ประเด็นที่สนใจทำให้ใช้คืออะไรคะ แกะ ค่ะ! ฟังไม่ผิดค่ะ
สนใจเพราะว่าพออ่านส่วนประกอบเขาบอก ครีมถูกสกัดโปรตีนจากต่อมใต้ไขมันแกะ
ซึ่ง KT บอกเลยว่าไม่เคยใช้อะไรแบบนี้มาก่อนและด้วยความที่ว่าตัวนี้ขวดค่อนข้างใหญ่
KT เลยเอามาทาตัวด้วย ฮ่าา
ทีแรกก็คิดว่าคงเหมือนครีมทั่วไป แต่พอใช้ปุ๊บ คือครีมเบามาก
ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งเหมือนสะท้อนแสงน้อยๆ (ฮิ้วว ไม่เบา)
และช่วยให้ผิวติดแป้งตลอดทั้งวัน ที่สำคัญผิวไม่แห้งด้วย
กลิ่นหอมมากกกกก เมื่อเทียบกับราคา ขอบอกเลยว่า ถูกและดี ยังมีอยู่จริง
ถ้าเกิดไม่มีแฮนด์ครีม ตัวนี้ก็อาจจะเป็นทางเลือกไว้พกได้เลย เยี่ยมม!
ส่วนประกอบสำคัญ
Lanolin Oil - สารสกัดโปรตีนจากต่อมใต้ไขมันแกะ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)
ปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวตามธรรมชาติบวกวิตามินอี
ซ่อมแซมเซลผิวที่เสียหายจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยร่องลึก ให้ผิวเต่งตึง อ่อนนุ่มและชุ่มชื้น
ขนาด 100 กรัม ราคา 490 บาท
COS Coseutics HydroMoist
และแน่นอนว่าประเภทน้ำตบก็ต้องมา หลักๆเวลาที่ KT จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
มักจะดูส่วนประกอบเป็นหลักเลย เพราะกลัวแพ้ อีกอย่างคือมันมีอะไรแบบนี้เยอะมากกก
ตอนซื้อเลยถามเภสัชกรเลยว่า อยากลองน้ำตบแบบนี้อ่ะค่ะ เอาถูกๆ แล้วก็ไม่แพ้
เขาเลยแนะนำตัวนี้ (ราคาแอบแรง)
COS Coseutics HydroMoist เป็นมอยส์เจอร์ที่เหมือนน้ำเลย แต่มีความชุ่มชื้น
ตัวนี้ไม่แพ้แน่นอน นั่งยัน นอนยัน ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี
ส่วนตัว KT จะเทใส่ขวดสเปรย์เล็กๆพกไว้ติดกระเป๋า เอาไว้ฉีดเวลาที่ร้อนหรือว่าหน้ามัน แล้วก็ซับออก
เพคแกจสะอาด แต่เปิดยาก เวลาเปิดจะมีเสียง ป๊อก! ต้องใช้แรงนิดนึง
ส่วนประกอบสำคัญ
มอยส์เจอร์ช่วยเติมน้ำเข้าสู่ผิวหน้าด้วย Very Low Molecular Weight Hyaluronan ไฮยาลูโรแนน
โมเลกุลเล็กพิเศษกว่าทั่วไป 190 เท่า ประกอบด้วย Sodium PCA ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีกว่าสารเพิ่มความชุ่มชื้นอื่นถึง 2 เท่า และช่วยปรับสมดุลความมันบนผิว อีกทั้งปราศจากส่วนประกอบของน้ำมัน จึงลดปัญหาความมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้
ขนาด 125 ml. ราคา 320 บาท
Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion
ชื่อยาวมากกับ Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion โลชั่นน้ำนั่นเอง
ทุกคนต้องมีแน่นอน แพร์รี่พายยังใช้ นับภาษาอะไรกับ KT ที่เป็นแฟนคลับนาง
เอาเป็นว่าใช้คู่กับ Hada Labo Perfect Gel หน้าหนาวนี้ หน้าเกาหลีแน่นอน
ราคาไม่แพงเทียบกับปริมาณ แพคเกจสวย ความชุ่มชื้นดีมาก
ปล. ไม่รู้จะอธิบายยังไง เอางี้ละกัน มันดีอ่ะ
ส่วนประกอบสำคัญ
โลชั่นบำรุงผิวหน้า มาพร้อมเทคโนโลยี HPP&Mเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงจากไฮยาลูโรนิค แอซิด ถึง 4 ชนิดที่มีขนาดโมเลกุลต่างกัน ทั้ง Large-size Hyaluronic Acid, Medium-size Hyaluronic Acid, Super Hyaluronic Acid และ Nano Hyaluronic Acid แทรกซึมเข้าเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื่นได้ล้ำลึก ถึงทุกชั้นผิว เพื่อผิวเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ให้ผิวเนียนนุ่มยาวนานกว่า และช่วยปรับสมดุลให้พร้อมรับการบำรุงด้วยเอสเซนต์และมอยเจอร์ไรเซอร์
ขนาด 170 มล. ราคา 520 บาท
Smith Klarifique Serum
Smith Klarifique Serum เซรั่มที่ไปถอยมา
เนื่องจากดูรายการโมเมพาเพลิน แล้วอยากได้ครีมกันแดดของคุณหมอโอ๊ค แต่ก็ได้ตัวนี้มาด้วย (เสียเงินเพื่ออะไรร ทำไมม) ก็ช่วยไม่ได้หนิหนา ตอนนั้นมีโปร เห็นมันลดเลยซื้อกัน
คือจริงๆแล้วหลายคน (รวมถึงตัวเอง) อาจจะคิดว่า เซรั่ม คงไม่ได้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นสักเท่าไหร่
แต่ปรากฎว่าเซรั่มตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดีมาก เรื่องหน้าแห้งนี่หายห่วง
ทาก่อนแต่งหน้าตัวเดียวก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าหน้าแห้งจนเกินไป อยู่ได้นาน
ส่วนในเรื่องของริ้วรอยยังไม่ค่อยรู้สึกอาจจะเป็นเพราะหน้าเด็ก (ล้อเล่นนะ)
ใช้กับตัวเองแล้วไม่เห็นผลเรื่องนี้เท่าไหร่
แต่เนื่องจากมันมีราคาค่อนข้างสูงมาก สาวๆที่มีกำลังซื้อน้อยกว่า อาจจะลองใช้ตัวอื่นทดแทนก่อนก็ได้
ตัวแพคเกจสะอาด แข็งแรง
ส่วนประกอบสำคัญ
สารสกัดจากมะนาวคาร์เวียร์ - ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ช่วยขับผิวให้ดูสว่างใสแบบมีออร่า
สารสกัดอูเมะจากประเทศญี่ปุ่น - ช่วยต้านกระบวนการ glycation ที่เป็นต้นกำเนิดหนึ่งของริ้วรอยของผิวชั้นใน พร้อมฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ผิว
สารสกัดจากมะขามอินเดีย - ช่วยเก็บน้ำที่หล่อเลี้ยงผิวไว้ได้นานขึ้น ผิวจึงแลดูสุขภาพดี นุ่มนวลและเรียบเนียนขึ้น
เทคโนโลยีที่ช่วยยับยั้งกระบวนการส่งของเม็ดสีไปสู่เซลล์ผิวหนัง พร้อมปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
ขนาด 30 ml ราคา 1,350 บาท
Bio-Essence Lanolin Oil
และตัวสุดท้าย Bio-essence Lanolin Oil ตัวนี้เหมาะมากสำหรับใครก็ตามที่กำลังจะขึ้นเหนือหรือไปต่างประเทศ ที่มีหิมะ อุณหภูมิต่ำ หนาวจัด บลาๆแต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่อยู่แทบอื่นจะใช้ไม่ได้
ตัวนี้ KT แนะนำมาก สำหรับสาวๆที่ต้องการความชุ่มชื้นเต็มร้อย
ตอนแรกกังวลมาก เพราะว่าตัวเองเป็นคนแพ้ง่าย จะหลีกเลี่ยงการใช้ออยล์เสมอ
พอได้ลองใช้ตัวนี้ กลับรู้สึกว่าใช้ง่าย ทำความสะอาดง่าย
ตัวขวดที่มันเป็นสเปรย์ ฉีดครั้งสองครั้งก็สามารถทาทั่วหน้าได้แล้ว
แต่ถ้าจะใช้ตัวนี้ ก็แนะนำว่าไม่ควรทาครีมอะไรเลยเพิ่มเพราะเนื่องจากมันเป็นน้ำมัน
ถ้าเกิดใช้ครีมตัวอื่นอาจจะเยอะไป
ส่วนตัว KT ลองเอามาทำสปาหน้าให้ตัวเอง เวลาที่เราอยากจะพักหน้า เช่น วันไหนที่แต่งหน้าจัด
อาจจะนวดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกหรือทาทิ้งไว้ทั้งคืน พอตื่นมาก หน้านี่จะใส ดิวอี้มาก ไปสอย!
ปล. ตัวนี้แอบเอามาทาตัว ทาขาด้วย อยู่ได้ทั้งวัน ขาเงามาแต่ไกล ผ่านค่ะ!
ส่วนประกอบสำคัญ
Lanolin Oil เป็นน้ำมันนำเข้ามาจากออสเตรเลีย จากศูนย์วิจัยเฉพาะด้านผิวหนัง จี แอนด์ เอ็ม คอสเมติกส์ ซึ่งเปิดมากว่า 20 ปี ต่างจาก Lanolin ทั่วไป คือสกัดนานขึ้นเพื่อนำไขมันโมเลกุลใหญ่ออก ทั้ง Fat Lipid Ester เหลือแต่ในส่วนของ Oil ที่มีโมเลกุลเล็ก จึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย เร็วและลึกถึงชั้นคอลลาเจน สารอาหารในนั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินขึ้นใหม่ ทำให้ริ้วรอยดูลดลง ผิวเปล่งปลั่งขึ้น คืนความอ่อนเยาว์ให้คุณอีกครั้ง
ขนาด 125 ml ราคา 1100 บาท
Skin Care Textures
ก่อนปาด จะสังเกตุได้ว่าเนื้อครีม ต่างกัน มีทั้ง เจล น้ำ ครีม ออย
และนี่ก็เป็นหน้าตา หลังปาด ผลิตภัณฑ์แต่ละตัว
เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน
กลับมาคราวนี้ ตั้งใจมากกว่าเดิม ส่วนตัวไม่อยากจัดอันดับว่า ใครดีกว่าใคร
เพราะทุกตัวที่เลือกมา ชอบหมดเลย
และเท่าที่รีวิวไป ก็น่าจะไปประกอบการตัดสินใจของทุกคนได้แล้ว
บอกเลยว่าทุกตัวที่เลือกมา ใช้จริง ดีจริง ราคาแล้วแต่ความสบายใจของคนซื้อ
ความชุ่มชื้นสำหรับหน้าหนาวนี้ ก็ผ่านทุกตัว
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะไม่มีของ Hi-End เนื่องจากว่า อยากให้จัด Skin Care แบบ Drugstore ทั้งหมดเลย
สำหรับเพื่อนๆคนไหน อยากแนะนำหรืออยากคอนเฟิร์มผลิตภัณฑ์ตัวไหน ก็อย่าลืมแบ่งปัน KT บ้างนะคะ
ไปละ
จุ๊บ