สวัสดีครับ ขอเล่ายาวหน่อยนะครับ
สมัยก่อนตอนเด็กๆก็สายตาปกติมองชัดดีครับ ตอน ป.1 ได้คอมแล้วก็ติดเล่นเกมมากๆครับ ป.3 ผมรู้สึกว่าเวลาทำงานที่โรงเรียนแล้วต้องตีเส้นโดยกระดาษไม่มีเส้นพอตีแล้วจะไม่มั่นใจว่าตรงไหม ต้องตั้งสมุดให้ตรงระนาบสายตาถึงดูว่าตรงไม่ตรง ช่วง ป.3 ก็เริ่มมีโทรศัพท์เล่นแล้วแล้วก็เป็นคนติดโทรศัพท์ ป.5 เริ่มรู้สึกว่านั่งหลังห้องเรียนไม่ได้เพราะมองกระดานแล้วเบลอๆต้องนั่งประมาณแถว 2-3 (ห้องเรียนมีโต๊ะ 5 แถว แถว 5 คือติดหลังห้อง) แล้วจะรู้สึกโอเค แต่ผมจะรู้สึกว่ามองกระดานดำได้ชัดกว่ากระดานขาว (ห้องเรียนมีกระดานขาวและกระดานดำ) ป.5 เทอม 2 เริ่มต้องหยีตาหน่อยถึงมองชัด แต่ถ้ามาร์กเกอร์ครูหมึกอ่อนจะต้องหยีตาเยอะ ในห้องเริ่มมีคนใส่แว่นเยอะขึ้นเรื่อยๆและมีคนสายตาสั้นแต่เจอปัญหาเดียวกับผมคือไม่กล้าบอกพ่อแม่เยอะเหมือนกัน ในห้องจะมีแว่นของเพื่อนคนนึงที่เพื่อนเลิกใส่เพราะขาแว่นหักแล้วเอาไว้หลังห้อง เวลาเรียนเพื่อนผมรวมถึงเพื่อนผมจะผลัดกันยืมแว่นขาหักนั้น คนที่นั่งข้างผมก็ยืมกันหมดครับจนครูบอกเจ้าของแว่นนั้นให้เอาไปทิ้ง ป.6 ผมเริ่มมองกระดานดำไม่ชัดแล้วเพื่อนสนิทผมที่เป็นแบบผม ที่ตอน ป.5 แย่งกันยืมแว่นขาหักนั้นก็เริ่มมองไม่เห็นทั้งกระดานขาวและดำ เวลาผมมองไม่เห็นก็ต้องถามเพื่อนบ้าง ยื่นคอมองสมุดเพื่อนบ้าง ซึ่งเพื่อนกลุ่มสายตาสั้นแต่ไม่ได้ใส่แว่นก็เหมือนผม พอมองไม่เห็นก็จะตระเวณถามคนใส่แว่นหรือคนตาดี ในห้องมีคนสายตาสั้นเรื่อยๆ จนเวลาครูเขียนบนกระดานแล้วให้เขียนตามทั้งห้องจะไปนั่งเป็นกลุ่มหน้าห้องเพราะมองไม่เห็น แก้งค์ผมก็ตระเวณถามคนนู้นคนนี้ว่าครูเขียนอะไรจนเพื่อนรำคาญ เวลาแม่ถามผมว่าสายตาสั้นไหม มองเห็นชัดไหม จะตกใจมากและโกหกว่ามองชัดดี แม่ก็ชอบบอกว่าอย่าได้ใส่แว่นนะและจะบอกข้อเสียของการใส่แว่นผมก็เริ่มกลัวว่าแม่จะถามเรื่องสายตา ป.6 เทอม 2 ผมต้องหยีตามากขึ้นกว่าเดิม มองกระดานไม่ค่อยเห็น บางครั้งสอบเก็บคะแนนครูเขียนโจทย์คณิตบนกระดานแล้วให้ตอบในสมุด คือโจทย์มันง่ายมากๆครับแต่ผมต้องยอมเสียคะแนนคือผมมองโจทย์ไม่เห็น เพื่อนหลายคนที่ใส่แว่นก็จะตระเวณบอกกลุ่มที่สายตาสั้นแต่ไม่ได้ใส่แว่นว่าตัดแว่นเถอะ ใส่แว่นก็ไม่ได้เลวร้ายไรเลย ใกล้จบป.6 บางครั้งผมต้องแอบเอาโทรศัพท์มาส่องซูมกระดาน ช่วง ป.6 บางครั้งผมเล่นคอมมากๆแล้วมันปวดตาแบบทนไม่ไหวก็มีต้องเอาน้ำเย็นมาชุบตาถึงรู้สึกดีขึ้น ม.1 ผมสอบเข้าโรงเรียนอื่นได้และได้ติดต่อเพื่อนสมัยป.6 บางคนก็ไปตัดแว่นแล้วรู้สึกอิจฉาเพื่อนน่ะครับคือพ่อแม่เพื่อนบางคนเค้าพาเพื่อนไปตรวจสายตา ม.1 โรงเรียนที่ผมอยู่มีแต่กระดานขาวอย่างเดียววันแรกที่เปิดเทอมครูก็จัดที่นั่งโดยให้คนตัวสูงๆไว้ข้างหลัง แล้วผมตอนนั้นผมสูง 158 ไง ก็โดนยัดไปเกือบหลังห้องเลยแต่เห็นห้องมันเล็กๆในใจก็คิดว่าน่าจะมองกระดานเห็น แต่แค่ครูเขียนชื่อครูก็มองไม่เห็นแล้ว วันนั้นเจอครูคณิตครูเค้าเป็นเขียนกระดานตัวเล็กมากและชิดมาก ผมนี่มองไม่เห็เลย เพื่อนที่นั่งข้างผมมาจากโรงเรียนเดียวกับผมตอนสมัยประถมก็มองกระดานไม่เห็นเหมือนกันแต่เพื่อนแอบเอาโทรศัพท์มาซูมกระดาน ผมเลยต้องขอเพื่อนดูที่ซูมมาว่าครูเขียนอะไร ผมมองโปรเจกเตอร์ในห้องเรียนไม่ค่อยชัดมองกระดานแทบไม่เห็น เทอม 1 คณิตยากมากแต่ก็มองกระดานไม่เห็นจนเสียการเรียนเกรดคณิตเทอม 1 ได้ 2 คือตกใจจริงๆเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้เกรด 2 เลย ลืมบอกครับว่าในห้องมีคนใส่แว่นเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง คือห้องผมมีคนใส่แว่นเยอะสุดใน ม.1 แล้วมั้งครับ ส่วนน้อยใส่กันตอนดูกระดาน และมีส่วนนึงที่เหมือนผมคือไม่กล้าบอกพ่อแม่ว่าสายตาสั้น เพื่อนที่นั่งข้างผมก็เหมือนกัน แต่ตอนเทอม 1 มีตรวจร่างกายของโรงเรียนแล้วมีตรวจสายตาด้วยครับ หมอให้มาดูแผ่นเลข ของผมอ่านเลขจนเกือบถึงเส้นที่วัดว่าสายตาปกติแล้ว แต่ติดบรรทัดสุดท้ายหมอบอกว่าเอียงคอขนาดนี้สั้นแน่(เฮ้ยผมเอียงคอตอนไหนไม่รู้จริง) ต่อมาหมอให้ใส่แว่นอะไรซักอย่างแล้วเอาเลนส์นู่นเลนส์นี่มาประกอบ แล้วบอกว่าเห็นชัดไหม จากนั้นก็อ่านค่า ผลออกมา ข้างนึงสั้น 80 ข้างนึงสั้น 75 สองข้างเอียง 50 แต่ผลออกมายังไงก็ไม่กล้าบอกแม่อยู่ดีครับ กลัวแม่ดุ ส่วนเพื่อนที่นั่งข้างๆเค้าบอกพ่อแม่แล้วก็ได้ตัดแว่น เทอม 2 ผมก็จะเอาโทรศัพท์มาซูมกระดานเพื่อนหลายคนก็เหมือนกัน ขนาดบางคนใส่แว่นก็ยังเอาโทรศัพท์มาซูมเลย จนการเอาโทรศัพท์ซูมกระดานเป็นเรื่องที่ปกติในห้องผม ทุกวันนี้ผมมองใกล้ๆได้ แต่มองไกลจะเห็นภาพซ้อน นั่งโซฟาดูทีวีแบบปกติก็เห็นภาพซ้อน นั่งรถตอนกลางคืนนี่มองรถบนถนนแล้วเบลอๆ เวลาดูหนังจะดูแบบซับต้องหาโรงที่เล็กๆถึงจะพอหยีตาแล้วมองชัด(แม่ก็ชอบให้เลือกโรงเล็กเวลาดูหนังแบบซับไตเติ้ลเพราะแม่ก็สายตาสั้นเหมือนกัน) เคยมีบางครั้งดูหนังซับไตเติ้ลโรงใหญ่แล้วอ่านซับไม่เห็นเลยขนาดหยีก็มองได้เล็กน้อยยังดีที่ฟังอังกฤษออก เคยคิดว่าคงมีบางวันที่แม่จะพาไปวัดสายตา แต่แล้วคาบภาษาไทยครูเห็นผมหยีตาหนักมาก ครูบอก "เฮ้ย หนูคนนั้นสายตาสั้นรึเปล่า" คิดในใจว่าตอนเทอม 1 ก็หยีนะทำไมครูเพิ่งสังเกตแต่ตอนแรกครูคิดว่าครูชี้หัวหน้า หัวหน้านั่งหลังผมแต่เยื้องผมนิดนึง หัวหน้าห้องผม สั้น 50 เอียง 130 ยาวเท่าไหร่ไม่รู้คือหัวหน้าถ้าหยีตามากๆแล้วมองไม่เห็นก็จะไม่สนกระดานเลย ต่อนะครับ หัวหน้าบอกว่าผมหรอครับ ครูบอกไม่ใช่ ใจผมเริ่มสั่นแรงเหงื่อออกมือ เพื่อนหลังผมบอกผมหรอครับ ครูบอกไม่ใช่ๆ แล้วผมชี้ตัวเองครูบอก "หนูนั่นแหละ หยีตาเยอะมากเลย มีแววจะสายตาสั้น ไปตัดแว่นนะ" ทั้งวันนั้นผมรู้สึกเสียเซลฟ์ยังไงไม่รู้ คืออยากบอกแม่แต่ไม่กล้าบอก มีบางครั้งพ่อบอกอยากตรวจสายตา แม่บอกเดี๋ยวตรวจด้วยผมก็กะจะเนียนบอกว่าขอตรวจด้วย แต่ใจจะสั่นมากเลยเหงื่อออกมือ ช่วงหลังนี้รู้สึกเหมือนสั้นขึ้น เอียงขึ้น ทำงานบนกระดาษโล่งตีเส้นเขียนไป แต่เขียนเสร็จรู้สึกว่าเอง เลยลองแบบตอน ป.3 ตั้งในระนาบเดียวกับสายตารู้สึกว่าบรรทัดมันเองน้อยกว่าเมื่อกี้ เลยลองวัดด้วยการวัดไม้บรรทัดดู มันตรงครับ แต่วัดบรรทัดที่คิดว่ามันตรงมันเอียงเฉยเลย เยอะด้วย อยากบอกแม่จังครับแต่ไม่กล้า แม่เคยบอกว่าถ้าจะใส่ไปใส่ตอนมหาลัย ใส่ตอนนี้เดี๋ยวสอบร.ด.แล้วไปวิดพื้นยิงปืนอะไรไม่คล่อง ความรู้สึกผมตอนนี้พิมพ์ไปก็รู้สึกว่ากรอบที่พิมพ์อยู่ในพันทิปมันเอียงไปทางซ้าย ผมจะบอกแม่ยังไงดีครับใครเคยเจอปัญหาแบบนี้แล้วมีทางแก้ดีๆรบกวนบอกผมด้วยครับ
สายตาสั้นแต่ไม่กล้าบอกแม่ ทำไงดีครับ
สมัยก่อนตอนเด็กๆก็สายตาปกติมองชัดดีครับ ตอน ป.1 ได้คอมแล้วก็ติดเล่นเกมมากๆครับ ป.3 ผมรู้สึกว่าเวลาทำงานที่โรงเรียนแล้วต้องตีเส้นโดยกระดาษไม่มีเส้นพอตีแล้วจะไม่มั่นใจว่าตรงไหม ต้องตั้งสมุดให้ตรงระนาบสายตาถึงดูว่าตรงไม่ตรง ช่วง ป.3 ก็เริ่มมีโทรศัพท์เล่นแล้วแล้วก็เป็นคนติดโทรศัพท์ ป.5 เริ่มรู้สึกว่านั่งหลังห้องเรียนไม่ได้เพราะมองกระดานแล้วเบลอๆต้องนั่งประมาณแถว 2-3 (ห้องเรียนมีโต๊ะ 5 แถว แถว 5 คือติดหลังห้อง) แล้วจะรู้สึกโอเค แต่ผมจะรู้สึกว่ามองกระดานดำได้ชัดกว่ากระดานขาว (ห้องเรียนมีกระดานขาวและกระดานดำ) ป.5 เทอม 2 เริ่มต้องหยีตาหน่อยถึงมองชัด แต่ถ้ามาร์กเกอร์ครูหมึกอ่อนจะต้องหยีตาเยอะ ในห้องเริ่มมีคนใส่แว่นเยอะขึ้นเรื่อยๆและมีคนสายตาสั้นแต่เจอปัญหาเดียวกับผมคือไม่กล้าบอกพ่อแม่เยอะเหมือนกัน ในห้องจะมีแว่นของเพื่อนคนนึงที่เพื่อนเลิกใส่เพราะขาแว่นหักแล้วเอาไว้หลังห้อง เวลาเรียนเพื่อนผมรวมถึงเพื่อนผมจะผลัดกันยืมแว่นขาหักนั้น คนที่นั่งข้างผมก็ยืมกันหมดครับจนครูบอกเจ้าของแว่นนั้นให้เอาไปทิ้ง ป.6 ผมเริ่มมองกระดานดำไม่ชัดแล้วเพื่อนสนิทผมที่เป็นแบบผม ที่ตอน ป.5 แย่งกันยืมแว่นขาหักนั้นก็เริ่มมองไม่เห็นทั้งกระดานขาวและดำ เวลาผมมองไม่เห็นก็ต้องถามเพื่อนบ้าง ยื่นคอมองสมุดเพื่อนบ้าง ซึ่งเพื่อนกลุ่มสายตาสั้นแต่ไม่ได้ใส่แว่นก็เหมือนผม พอมองไม่เห็นก็จะตระเวณถามคนใส่แว่นหรือคนตาดี ในห้องมีคนสายตาสั้นเรื่อยๆ จนเวลาครูเขียนบนกระดานแล้วให้เขียนตามทั้งห้องจะไปนั่งเป็นกลุ่มหน้าห้องเพราะมองไม่เห็น แก้งค์ผมก็ตระเวณถามคนนู้นคนนี้ว่าครูเขียนอะไรจนเพื่อนรำคาญ เวลาแม่ถามผมว่าสายตาสั้นไหม มองเห็นชัดไหม จะตกใจมากและโกหกว่ามองชัดดี แม่ก็ชอบบอกว่าอย่าได้ใส่แว่นนะและจะบอกข้อเสียของการใส่แว่นผมก็เริ่มกลัวว่าแม่จะถามเรื่องสายตา ป.6 เทอม 2 ผมต้องหยีตามากขึ้นกว่าเดิม มองกระดานไม่ค่อยเห็น บางครั้งสอบเก็บคะแนนครูเขียนโจทย์คณิตบนกระดานแล้วให้ตอบในสมุด คือโจทย์มันง่ายมากๆครับแต่ผมต้องยอมเสียคะแนนคือผมมองโจทย์ไม่เห็น เพื่อนหลายคนที่ใส่แว่นก็จะตระเวณบอกกลุ่มที่สายตาสั้นแต่ไม่ได้ใส่แว่นว่าตัดแว่นเถอะ ใส่แว่นก็ไม่ได้เลวร้ายไรเลย ใกล้จบป.6 บางครั้งผมต้องแอบเอาโทรศัพท์มาส่องซูมกระดาน ช่วง ป.6 บางครั้งผมเล่นคอมมากๆแล้วมันปวดตาแบบทนไม่ไหวก็มีต้องเอาน้ำเย็นมาชุบตาถึงรู้สึกดีขึ้น ม.1 ผมสอบเข้าโรงเรียนอื่นได้และได้ติดต่อเพื่อนสมัยป.6 บางคนก็ไปตัดแว่นแล้วรู้สึกอิจฉาเพื่อนน่ะครับคือพ่อแม่เพื่อนบางคนเค้าพาเพื่อนไปตรวจสายตา ม.1 โรงเรียนที่ผมอยู่มีแต่กระดานขาวอย่างเดียววันแรกที่เปิดเทอมครูก็จัดที่นั่งโดยให้คนตัวสูงๆไว้ข้างหลัง แล้วผมตอนนั้นผมสูง 158 ไง ก็โดนยัดไปเกือบหลังห้องเลยแต่เห็นห้องมันเล็กๆในใจก็คิดว่าน่าจะมองกระดานเห็น แต่แค่ครูเขียนชื่อครูก็มองไม่เห็นแล้ว วันนั้นเจอครูคณิตครูเค้าเป็นเขียนกระดานตัวเล็กมากและชิดมาก ผมนี่มองไม่เห็เลย เพื่อนที่นั่งข้างผมมาจากโรงเรียนเดียวกับผมตอนสมัยประถมก็มองกระดานไม่เห็นเหมือนกันแต่เพื่อนแอบเอาโทรศัพท์มาซูมกระดาน ผมเลยต้องขอเพื่อนดูที่ซูมมาว่าครูเขียนอะไร ผมมองโปรเจกเตอร์ในห้องเรียนไม่ค่อยชัดมองกระดานแทบไม่เห็น เทอม 1 คณิตยากมากแต่ก็มองกระดานไม่เห็นจนเสียการเรียนเกรดคณิตเทอม 1 ได้ 2 คือตกใจจริงๆเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้เกรด 2 เลย ลืมบอกครับว่าในห้องมีคนใส่แว่นเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง คือห้องผมมีคนใส่แว่นเยอะสุดใน ม.1 แล้วมั้งครับ ส่วนน้อยใส่กันตอนดูกระดาน และมีส่วนนึงที่เหมือนผมคือไม่กล้าบอกพ่อแม่ว่าสายตาสั้น เพื่อนที่นั่งข้างผมก็เหมือนกัน แต่ตอนเทอม 1 มีตรวจร่างกายของโรงเรียนแล้วมีตรวจสายตาด้วยครับ หมอให้มาดูแผ่นเลข ของผมอ่านเลขจนเกือบถึงเส้นที่วัดว่าสายตาปกติแล้ว แต่ติดบรรทัดสุดท้ายหมอบอกว่าเอียงคอขนาดนี้สั้นแน่(เฮ้ยผมเอียงคอตอนไหนไม่รู้จริง) ต่อมาหมอให้ใส่แว่นอะไรซักอย่างแล้วเอาเลนส์นู่นเลนส์นี่มาประกอบ แล้วบอกว่าเห็นชัดไหม จากนั้นก็อ่านค่า ผลออกมา ข้างนึงสั้น 80 ข้างนึงสั้น 75 สองข้างเอียง 50 แต่ผลออกมายังไงก็ไม่กล้าบอกแม่อยู่ดีครับ กลัวแม่ดุ ส่วนเพื่อนที่นั่งข้างๆเค้าบอกพ่อแม่แล้วก็ได้ตัดแว่น เทอม 2 ผมก็จะเอาโทรศัพท์มาซูมกระดานเพื่อนหลายคนก็เหมือนกัน ขนาดบางคนใส่แว่นก็ยังเอาโทรศัพท์มาซูมเลย จนการเอาโทรศัพท์ซูมกระดานเป็นเรื่องที่ปกติในห้องผม ทุกวันนี้ผมมองใกล้ๆได้ แต่มองไกลจะเห็นภาพซ้อน นั่งโซฟาดูทีวีแบบปกติก็เห็นภาพซ้อน นั่งรถตอนกลางคืนนี่มองรถบนถนนแล้วเบลอๆ เวลาดูหนังจะดูแบบซับต้องหาโรงที่เล็กๆถึงจะพอหยีตาแล้วมองชัด(แม่ก็ชอบให้เลือกโรงเล็กเวลาดูหนังแบบซับไตเติ้ลเพราะแม่ก็สายตาสั้นเหมือนกัน) เคยมีบางครั้งดูหนังซับไตเติ้ลโรงใหญ่แล้วอ่านซับไม่เห็นเลยขนาดหยีก็มองได้เล็กน้อยยังดีที่ฟังอังกฤษออก เคยคิดว่าคงมีบางวันที่แม่จะพาไปวัดสายตา แต่แล้วคาบภาษาไทยครูเห็นผมหยีตาหนักมาก ครูบอก "เฮ้ย หนูคนนั้นสายตาสั้นรึเปล่า" คิดในใจว่าตอนเทอม 1 ก็หยีนะทำไมครูเพิ่งสังเกตแต่ตอนแรกครูคิดว่าครูชี้หัวหน้า หัวหน้านั่งหลังผมแต่เยื้องผมนิดนึง หัวหน้าห้องผม สั้น 50 เอียง 130 ยาวเท่าไหร่ไม่รู้คือหัวหน้าถ้าหยีตามากๆแล้วมองไม่เห็นก็จะไม่สนกระดานเลย ต่อนะครับ หัวหน้าบอกว่าผมหรอครับ ครูบอกไม่ใช่ ใจผมเริ่มสั่นแรงเหงื่อออกมือ เพื่อนหลังผมบอกผมหรอครับ ครูบอกไม่ใช่ๆ แล้วผมชี้ตัวเองครูบอก "หนูนั่นแหละ หยีตาเยอะมากเลย มีแววจะสายตาสั้น ไปตัดแว่นนะ" ทั้งวันนั้นผมรู้สึกเสียเซลฟ์ยังไงไม่รู้ คืออยากบอกแม่แต่ไม่กล้าบอก มีบางครั้งพ่อบอกอยากตรวจสายตา แม่บอกเดี๋ยวตรวจด้วยผมก็กะจะเนียนบอกว่าขอตรวจด้วย แต่ใจจะสั่นมากเลยเหงื่อออกมือ ช่วงหลังนี้รู้สึกเหมือนสั้นขึ้น เอียงขึ้น ทำงานบนกระดาษโล่งตีเส้นเขียนไป แต่เขียนเสร็จรู้สึกว่าเอง เลยลองแบบตอน ป.3 ตั้งในระนาบเดียวกับสายตารู้สึกว่าบรรทัดมันเองน้อยกว่าเมื่อกี้ เลยลองวัดด้วยการวัดไม้บรรทัดดู มันตรงครับ แต่วัดบรรทัดที่คิดว่ามันตรงมันเอียงเฉยเลย เยอะด้วย อยากบอกแม่จังครับแต่ไม่กล้า แม่เคยบอกว่าถ้าจะใส่ไปใส่ตอนมหาลัย ใส่ตอนนี้เดี๋ยวสอบร.ด.แล้วไปวิดพื้นยิงปืนอะไรไม่คล่อง ความรู้สึกผมตอนนี้พิมพ์ไปก็รู้สึกว่ากรอบที่พิมพ์อยู่ในพันทิปมันเอียงไปทางซ้าย ผมจะบอกแม่ยังไงดีครับใครเคยเจอปัญหาแบบนี้แล้วมีทางแก้ดีๆรบกวนบอกผมด้วยครับ