นาคี เมื่อรักไม่สมหวัง อ้ายจะช่วยให้เจ้าสมหวังเอง

ยาวหน่อยครับ

ออกตัวไว้ก่อนว่า ตั้งแต่เป็นสมาชิกพันทิพย์มา 18 ปีเนี๊ยะ ไม่เคยตั้งกระทู้ละครมาก่อนในชีวิต โดยส่วนตัวผมเป็นคนไม่ดูละคร ไม่รู้จักดาราคนไหน แม้กระทั่งนักแสดงในเรื่องนาคีนี้ ผมก็รู้จักแค่ไม่กี่คน เช่น คุณมนตรี คุณเกรียงไกร ประมาณนี้ คู่พระ-นางในเรื่องผมยังไม่รู้จักสักคนเลย ละครเรื่องสุดท้ายที่ดูจริงจังและติดงอมแงมก็คือนายฮ้อยทมิฬโน่นเลย

ผมเป็นคนภาคกลางแต่ชอบวัฒนธรรมเก่า ๆ ของอีสาน ศิลปะ ดนตรี นิยายอย่างลูกอีสาน พวกนี้ชอบหมด ละครเรื่องนาคีนี้ สืบเนื่องจากภรรยานั่งดูอยู่ ผมนอนฟังเสียง มาสะดุดหูเอาตรงดนตรีประกอบที่มีทั้งพิณ ปี่ แคน เลยออกมานั่งดูเป็นจริงเป็นจัง ตั้งแต่ตอนที่ 3 เป็นต้นไป จนเดี๋ยวนี้โหลดย้อนหลังมาเก็บไว้ดูเองจนครบ

ผมอ่านเรื่องย่อจนจบ (ก่อนละครจะจบ) ก็รู้สึกว่า เศร้านะเนี๊ยะ อีกทั้งดูจากละครที่นางเอกโดนกระทำสารพัด นางเอกร้องไห้เกือบจะทั้งเรื่องยังจะไม่สมหวังอีกเหรอ เลยถือโอกาสดัดแปลงเรื่องย่อตอนจบเสียใหม่ (ผมเขียนเอาไว้ก่อนละครจะจบประมาณ 1 สัปดาห์) เอาให้เธอสมหวัง ประมาณว่า เพื่อรักษาหัวใจคนดูที่อุตส่าห์ลุ้นกันมา โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัว

มาวันนี้ได้ยินกระแสข่าวลือเรื่องภาคสอง เลยอยากแบ่งปันสิ่งที่เขียนเอาไว้ให้อ่านกันเล่น ๆ สนุก ๆ

ขอชี้แจงและทำความเข้าใจไว้ก่อนว่า ผมทำเพื่อความบันเทิง อย่าซีเรียสกัน หากท่านใดที่อ่านแล้วถูกใจ ชอบ ผมก็ดีใจด้วย แต่ถ้าท่านใดไม่ชอบไม่ถูกใจหรืออ่านแล้วรู้สึกตลกขำขัน ก็ขออภัยและขอให้ท่านผ่านมันไปนะครับ อย่าถือโทษโกรธกัน

ก่อนอ่าน ทำความเข้าใจกันก่อนครับ

1.บทประพันธ์ตอนนี้ ไม่ใช่บทประพันธ์ต้นฉบับของ อ.ตรี อภิรุม แต่เป็นการดัดแปลงเรื่องย่อทางโทรทัศน์ที่ดัดแปลงเองเพื่อความบันเทิงส่วนตัว เพื่อความสุขใจของคนดูอย่างผมเท่านั้น

2.อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ

3.ห้ามเอาไปคิดเป็นจริงเป็นจังทดแทนของเดิมนะครับ นึกไว้เสมอว่า เป็นตอนจบทางเลือกของสายคนดู (อย่างผม) ของเดิมเป็นงานวรรณกรรมชิ้นเอกอยู่แล้ว

4.ยังเคารพในบทประพันธ์เดิมทุกประการ แต่เนื่องด้วยทนเห็นคำแก้วในละครของพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ร้องไห้ผิดหวังหนักไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เลยต้องช่วยเพื่อความชุ่มชื่นของหัวใจคนดูที่เขาลุ้นกันทั้งประเทศ อิอิ

5.ห้ามเอาไปทำขายเด้อ 555

6. พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ กำกับละครเรื่องนี้ได้ถูกใจผมมาก แต่ตอนจบทำร้ายหัวใจกันมากไป 555 ลุ้นยิ่งกว่าดูบอล

เมื่อพร้อมแล้วก็อ่านกันโลด

นาคี ตอนอวสาน


คำแก้ว หรือเจ้าแม่นาคีในอีกเกือบพันปีต่อมา ดึงตัวเองจากอดีต สำนึกได้ในเวลานั้นเองว่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องชดใช้บาปกรรมจากชาติที่แล้วด้วยการบำเพ็ญเพียรภาวนาในถ้ำตามที่รับปากท้าวศรีสุทโธนาค ปู่ของเธอไว้

“เมื่อเกิดสุริยคราสเหนือฟากฟ้า คำสาปสรรของเจ้าปู่สิ้นสุด ข้าก็จักเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์เสียที”

แต่พวกกำนันแย้มไม่ปล่อยให้การบำเพ็ญเพียรลุล่วง จับคำปองและทศพลเป็นตัวประกันล่อให้คำแก้วปรากฎตัวออกมาจากเทวาลัย
“อีคำแก้ว ถ้าไม่ออกมา กูจะเผาแม่และผัว.....ทั้งเป็น”
เจิดนภาแอบได้ยินพิมพ์พรสมรู้ร่วมคิดกับพวกกำนันแย้มจะใช้คำปองเป็นเหยื่อล่อก็รับไม่ได้ ตัดสินใจหนีกลับกรุงเทพฯ ตามลำพัง แต่มาเจอ ดร.สุภัทรกับเพื่อนที่หลุมดักสัตว์เสียก่อน ทั้งหมดจึงรีบไปขัดขวางพวกกำนันแย้มที่เทวาลัย ระหว่างทางเชษฐ์เจอผ้าถุงพาดอยู่บนราวตากผ้าของชาวบ้าน จึงคว้าไปด้วย

“ไอ้หลวงปู่ ......จะเอาผ้าถุงนี่ไปทำไมวะ” กฤษณ์ถามอย่างสงสัย พลางรีบเร่งฝีเท้า

“กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ะ แต่กูว่ามันต้องมีประโยชน์ ถ้ากูคิดไม่ผิดผ้าถุงนี่อาจทำให้เวทย์มนต์ของไอ้หมอผีมันเสื่อมได้ ถ้ากูเอาคลุมหัวมันได้นะ กูว่ารีบเถอะเพื่อน เดี๋ยวไม่ทัน” เชษฐ์ตอบ

เมื่อทั้งหมดวิ่งมาถึงเทวาลัย เจอพวกกำนันแย้มกำลังตะโกนท้าทายคำแก้ว ทั้งหมดจึงแอบย่องเข้าไปด้านหลังพวกกำนันแย้มอย่างเงียบเชียบที่สุด

“จุดไฟเผาแม่และผัวมันเดี๋ยวนี้” กำนันแย้มสั่งลูกน้อง ไฟเริ่มลุกเชื้อฟืนลามไปใกล้ถึงตัวคำปองและทศพลอย่างช้า ๆ

“คำแก้ว อย่าออกมานะลูก ไม่ต้องห่วงแม่” คำปองตะโกนบอกลูกสาว ทศพลก็ตะโกนบอกคำแก้วไม่หยุด

“อย่าออกมานะคำแก้ว ไม่ต้องห่วงพี่ อย่าออกมานะ”

เสียงของคำปองและทศพลทำให้คำแก้วเกิดความรู้สึกกังวล เธอก็พยายามรวบรวมสติบำเพ็ญเพียร แต่สุดท้ายด้วยความห่วงใยแม่และสามี เธอก็หมดความอดทน เบิกตาโพลงด้วยความโกรธจัด

“พวก.......มันชั่ว จะฆ่าคนบริสุทธิ์ทั้งแม่ทั้งผัวของกู ต่อให้ต้องเป็นสัตว์เดรัจฉานชั่วกัปชั่วกัลป์กูก็ยอม !”

ท้องฟ้าเริ่มเกิดสุริยคราส แต่คำแก้วก็ฝ่าฝืนคำสั่งออกไปช่วยแม่และทศพลจนได้

“อยู่กันดี ๆ ไม่ได้ใช่ไหม”

“อีคำแก้ว เป็นงู แต่......มาสมสู่กับคน แล้วฆ่าไอ้เลี่องลูกกู กูจะล้างแค้น”

“พวกที่ตายล้วนแต่กรรมตามสนอง ไอ้เลื่องลูกทำร้ายกูก่อน มันสมควรตายแล้ว”

ชาวบ้านร้องตะโกนเรียกคำแก้วว่าอีงูผี ทำคำแก้วหมดความอดทน

“ในเมื่อพวกเรียกกูว่านังงูผี กูก็จักให้พวก.......เห็นตัวตนของกูก่อนตาย!” คำแก้วก้าวเท้าออกมาจากเทวาลัย

“คำแก้ว อย่า” ทศพลตะโกนสุดเสียง แต่ไม่เป็นผลเสียแล้ว ทันทีที่คำแก้วก้าวเท้าผ่านซุ้มประตูเทวาลัย ร่างของคำแก้วก็เปลี่ยนเป็นพญานาคเกล็ดสีขาวลำตัวขนาดต้นตาลน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

"อีคำแก้วเป็นพญานาค" หมออ่วมตะโกนขึ้นสุดเสียง

พวกกำนันแย้มตกใจหวาดกลัวสุดขีด หมอผีเมืองอินทร์ตื่นตะลึงแต่พยายามตั้งสติและหยิบเอาบ่วงบาศก์นาคร่ายมนต์เงื้อแขนเตรียมขว้างไปรัดร่างพญานาคของเจ้าแม่นาคี แต่ยังไม่ทันได้ขว้างบ่วงบาศก์ออกไป เชษฐ์โผล่พรวดออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลังกระโดดสุดตัวเอาผ้าถุงคลุมหัวเมืองอินทร์ ทำให้เวทย์มนต์ของเมืองอินทร์เสื่อมลงทันที

“ทำอะไรกู เอาผ้าถุงมาคลุมหัวกูทำไม อาคมกูเสื่อมสลายหมดแล้ว” เมืองอินทร์ตกใจมากพลางปัดผ้าถุงให้พ้นตัวแต่ไม่ทันเสียแล้ว บ่วงบาศก์นาคหลุดมือหล่นบนพื้นเมื่อไร้ซึ่งเวทย์มนต์ควบคุม

“ไอ้หมอผีสารเลว ทำร้ายเพื่อนกู กูไม่ปล่อยไว้หรอก”  เชษฐ์ร้องด่าด้วยความโกรธแค้น

กำนันแย้มตกใจมากที่เห็นเมืองอินทร์ไม่สามารถที่จะปราบเจ้าแม่นาคีได้ จึงคว้าปืนยิงใส่เจ้าแม่นาคี ทันใดนั้น ดร.สุภัทรก็กระโดดออกมาจากที่ซ่อนใช้ปืนพกยิงถูกมือของกำนันแย้มอย่างแม่นยำ จนปืนร่วงหลุดมือร้องเสียงหลง

“โอ๊ย ไอ้ด๊อกเตอร์.......ยิงกู” กำนันแย้มร้องด้วยความเจ็บปวด

“พวกแกมันคนชั่ว ทำตัวเหนือกฎหมาย รังแกคนอื่น ต้องได้รับผลกรรมที่แกก่อไว้” สุภัทรต่อว่าอย่างเจ็บแค้นที่กำนันแย้มทำร้ายทศพลและแม่ยายอย่างป่าเถื่อน ในขณะเดียวกัน นะกับมาตรีบดึงตัวคำปองและทศพลออกจากกองไฟได้อย่างฉิวเฉียดแต่กระนั้นทั้งสองคนก็โดนไฟลวกบาดเจ็บ ลูกสมุนของกำนันแย้มเมื่อเห็นคำแก้วกลายร่างเป็นพญานาคต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่านไม่มีใครสนใจคำปองกับทศพลอีกเลย

หมออ่วม ลำเจียก กอ และบุญส่งต่างก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก พยายามหาทางหนี ตอนนี้ทั้งสี่คนเผชิญหน้าเจ้าแม่นาคีตรง ๆ คำแก้วในร่างพญานาคเกล็ดสีขาวที่กำลังโกรธจัด ใช้หางตวัดฟาดพื้นกวาดทั้งหมดจนล้มลุกคลุกคลาน เธอชูคอขึ้นสุดตัวเหมือนกำลังจะพุ่งลงมาทำร้าย แต่ทศพลรีบมาห้ามไว้

“อย่าทำร้ายเขาเลยคำแก้ว ให้เวรกรรมลงโทษพวกเขาเถิด อย่าให้เลือดชั่ว ๆ ของพวกเขามาแปดเปื้อนคำแก้วให้เป็นบาปติดตัวเลยนะพี่ขอร้อง” เจ้าแม่นาคีจึงหยุดชะงัก ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็เกิดเมฆฝนแปรปรวนพายุพัดกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องดังครืนใหญ่ เมฆฝนสีดำวนรอบดวงอาทิตย์ที่กำลังเกิดสุริยคราส เกิดอสุนิบาตฟ้าผ่าเสียงดังกึกก้องกัมปนาทลงทั่วเทวาลัย ลำเจียกตกใจกลัวสุดขีด สติสัมปชัญญะหมดสิ้น ไร้ซึ่งการรับรู้ใด ๆ กลายเป็นคนเสียสติเดินพร่ำเพ้อยกมือไหว้ปะหลก ๆ ไปในทันที หมอผีเมืองอินทร์รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดไปรวมกับพวกกำนันแย้มที่กำลังตกใจขวัญเสีย

“พ่อหมอ เราจะเฮ็ดจั๋งใดกันล่ะทีนี้” กำนันตะโกนถามเมืองอินทร์

“กูทำอะไรไม่ได้แล้ว รีบหนีให้พ้นจากที่นี่เอาตัวรอดเถอะ ถ้าพ้นเขตเทวาลัย เราก็อาจจะพ้นเขตอำนาจของมัน” เมืองอินทร์ละล่ำละลักบอกกำนันแย้มพลางออกวิ่ง

พิมพ์พรที่กำลังตกอยู่ในสภาพหวาดผวา ร้องเรียกหาบุญส่งที่กำลังเดินขากะเผลก ๆ “เร็วเข้าสิพ่อเราต้องหนีแล้ว นังงูผีไม่ปล่อยเราไว้แน่”

พวกกำนันแย้ม หมออ่วม บุญส่ง กอ พิมพ์พร หมอผีเมืองอินทร์ วิ่งหนีออกจากเทวาลัย ยังไม่ทันพ้นเขตระเบียงคตก็ได้เกิดฟ้าผ่าลงทั่วบริเวณ ทำให้ทั้งหมดถูกฟ้าผ่าตายไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก ส่งเสียงร้องโหยหวลน่าสยดสยองยิ่งนัก ท่ามกลางสายตาของทุกคน

“ฟ้าดินลงโทษพวกเขาแล้วล่ะ กรรมชั่วที่พวกเขาทำไว้สนองพวกเขาแล้ว” สุภัทรพูดกับเพื่อน ๆ ของทศพล

สุริยคราสผ่านพ้นไปแล้ว ทั่วพื้นที่รอบเทวาลัยมีศพของพวกกำนันแย้มที่โดนฟ้าผ่าตายทั้งหมดไหม้ดำเป็นตอตะโกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าแม่นาคีในสภาพพญานาคเกล็ดขาวก้มหัวมองทศพลด้วยแววตาที่แสนรักเหมือนจะบอกลา ทันใดนั้นท้าวศรีสุทโธนาคปรากฎกายขึ้นเป็นพญานาคราชเหาะขึ้นฟ้าไปอมดวงอาทิตย์ไว้ ทำให้เจ้าแม่นาคีกลายร่างเป็นคำแก้วอีกครั้งเพื่อร่ำลาทศพล

“คำแก้ววาสนาน้อย ต้องเป็นนาคอยู่ใต้บาดาลชั่วกัปชั่วกัลป์ ต่อแต่นี้ไปคำแก้วคงไม่ได้อยู่ปรนนิบัติอ้ายอีกแล้ว”

“คำแก้วอยู่กับพี่นะ ไม่ว่าคำแก้วจะเป็นนาคหรือเป็นงู พี่ก็รักคำแก้ว คำแก้วอย่าไปจากพี่นะ” ทศพลร้องไห้กอดคำแก้วแน่น

“คำแก้วอยู่กับอ้ายไม่ได้แล้ว หมดเวลาของคำแก้วแล้ว” คำแก้วน้ำตาไหลแนบอกของทศพล

“ชาตินี้เราสองคนคงทำบุญร่วมกันมาน้อยถึงได้อยู่เป็นผัวเมียกันเพียงแค่นี้ ต่อให้คำแก้วต้องเป็นนาคอีกนานแสนนานแค่ไหน พี่ก็จะรอ รอจนกว่าเราจะได้เป็นผัวเมียกันอีกนะคำแก้ว”

“คำแก้วฝากแม่ด้วยนะอ้ายพล ดูแลแม่ให้คำแก้วนำ”

ท้าวศรีสุทโธนาคค่อย ๆ คลายดวงอาทิตย์อย่างช้า ๆ

“คำแก้วต้องลาพี่แล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่เราจะได้พบกันอีก”

“คำแก้วจะอยู่ในใจพี่เสมอ ความรักที่พี่มีให้คำแก้ว ไม่เคยลดน้อยจากใจพี่ ต่อให้คำแก้วจะอยู่ใต้หล้าบาดาล หรืออยู่ที่ไหน แต่ในหัวใจพี่จะมีคำแก้วคนนี้ตลอดไป พี่รักคำแก้วนะ”

จบคำทศพลก็ก้มจูบเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองจะต้องจากกัน ก่อนที่คำแก้วจะกลายร่างเป็นพญานาคเลี้อยเข้าไปใต้ฐานเทวาลัย ทศพลวิ่งตามไปร้องไห้บ้าคลั่งเหมือนเป็นเด็กน้อย
สุภัทรรู้สึกสงสารลูกชายยิ่งนัก เพื่อน ๆ ต่างมองดูทศพลด้วยความซึ้งใจในความรักที่แท้จริงของเขาทั้งสอง

........................................................................................
เมื่อเจ้าแม่นาคีกลับลงมาถึงใต้บาดาล ทันใดที่ลำตัวโผล่พ้นน้ำ ก็กลายร่างเป็นคนทันที เจ้าแม่นาคีทิ้งตัวลงบนพื้นถ้ำพลางซบร่างลงร้องไห้แทบเท้าท้าวศรีสุทโธนาคปู่ของเธอ

“เจ้าปู่ หลานแพ้แล้ว” เจ้าแม่นาคีร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ท้าวศรีสุทโธนาคปลอบว่า

“เจ้าไม่ได้แพ้นะนาคี ครั้งนี้เจ้าชนะต่างหาก เจ้าชนะทุกสิ่ง เจ้ามานะตั้งสัตย์อธิษฐานบำเพ็ญเพียรถึงพันปี ขอเกิดเป็นมนุษย์เพื่อครองรักกับคนรักของเจ้า วันนี้เจ้าเลือกที่จะเสียสละตัวเองที่จะได้เป็นมนุษย์เพื่อให้คนรักของเจ้ารอดชีวิต ความรักของเจ้านี่มันช่างยิ่งใหญ่นัก” ท้าวศรีสุทโธนาคมองหลานสาวอย่างเอ็นดู

“หลานคงไม่ได้พบกับเขาอีกแล้ว”

“เฮ้อ” ท้าวศรีสุทโธนาค ถอนหายใจยาว

“แต่ปู่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนใจไม้ไส้ระกำอะไร เพื่อเห็นแก่หัวใจของเจ้า ปู่จะช่วยเจ้าอีกสักครั้ง” พลันท้าวศรีสุทโธนาคก็สำแดงอิทธิฤทธิ์ร่ายมนต์กลายเป็นแสงสีขาวพวยพุ่งสู่ร่างของเจ้าแม่นาคีจนหายวับไปในพริบตา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่