[CR] Day1 : ทริปกินแหลก เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก โตเกียว-ฮาโกดาเตะ-อาโอโมริ-เซ็นได-โตเกียว

สวัสดีพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน ผมเพิ่งมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และเป็นการไปคนเดียวครั้งแรกด้วย จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้พบเจอมา ซึ่งบอกตรงๆ ว่าก่อนไป กังวลนู่นนั่นนี่เต็มไปหมด หาข้อมูลจากทั้งกระทู้พันทิป บล็อคต่างๆ หนังสือท่องเที่ยว ทุกๆ ทาง ซึ่งก็เป็นประโยชน์มากๆ ครับ วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ในพันทิปดูบ้าง นี่ก็เป็นโพสต์แรกของผมในเวปพันทิปด้วยเช่นกัน ถ้าอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ หรือไม่ชอบใจยังไง ก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้เลยละกันนะครับ

งั้นเรามาเริ่มด้วยแผนการท่องเที่ยวและงบประมาณของเราก่อนเลย
• ทริปนี้เริ่มตั้งแต่ 29/11/16 - 8/12/16 รวม 10 วัน (แต่วันที่ 29 ผมทรานสิทเครื่องที่เวียดนาม จะถึงญี่ปุ่นวันที่ 30 นะครับ)
• สายการบินที่เลือกคือ Vietnam Airline ทรานสิทเครื่องที่ โฮจิมินห์ซิตี้ ขาไป และ ทรานสิทที่ ฮานอย ขากลับ
  - จริงๆ Vietnam Airline เป็นเป็นสายการบิน Full Service ที่ ราคาเป็นมิตร และค่อนข้างบริการใช้ได้เลยนะครับ จากที่สัมผัสมา จะลำบากตรงต้องทรานสิทนี่แหละ ผมดันไปเลือกทรานสิทนานเกือบ 20 ชั่วโมง เพราะกะว่าจะไปเที่ยวในตัวเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ออกไปครับ เพราะแดดแรงแบบทะลุนรกมาก ประกอบกับคืนก่อนเดินทางก็อดนอนเพราะตื่นเต้นไปหน่อย (ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างสุดๆ) เลยได้ใช้บริการ Sleep Zone ที่สนามบินยาวๆ เลยครับ
• โรงแรมทั้งหมด ผมทำการจองผ่าน Agoda ตั้งแต่ประมาณเดือน 7 โดยจ่ายเงินล่วงหน้าไปเลย เพราะช่วงนั้น Agoda มีโปรโมชันลด 10% ด้วย แต่เพื่อนๆ รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ คนก็แนะนำให้ใช้ Toyoko Inn มาเหมือนกัน เห็นบอกว่ามีทั้งส่วนลดรายสัปดาห์และส่วนลดสำหรับสมาชิก เดี๋ยวไปครั้งหน้าจะลองศึกษาดูก่อนครับ
• JR PASS สำหรับเดินทางในญี่ปุ่น เนื่องจากภูมิภาคที่ผมจะไปคือ โซน Tohoku ไล่ไปจนถึง Hakodate ซึ่งเป็นตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด อีกทั้งยังมีบางวันที่ผมเดินทางระยะสั้นๆ แค่ในเมือง ผมเลยเลือก JR East - South Hokkaido ซึ่งเ้ป็น Pass ใบใหม่ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นปีนี้ครับ โดยเงื่อนไขคือใช้เดินทางโดย JR Rail ในโซนรอบๆ โตเกียวยาวไปถึงโทโฮคุและฮอกไกโดโซนล่าง (กินระยะไปถึง Sapporo และ Otaru) และสามารถใช้ชินคันเซ็นที่ผ่านภูมิภาคโทโฮคุไปจนถึงฮาโกดาเตะได้ด้วย โดยระยะเวลาของ Pass ใบนี้คือสามารถใช้ได้ 6 วัน ไม่จำเป็นต้องติดต่อกันเหมือน JR All Pass ครับ


Credit : http://www.jreasthokkaido.com/e/


สรุปงบประมาณ
• ตั๋วเครื่องบิน 8,200 บาท (จองผ่าน Cheaptickets)
• ค่าโรงแรมสำหรับ 8 คืน 10,200 บาท (Agoda)
• JR East - South Hokkaido 8,200 บาท (ซื้อในงานไทยเที่ยวไทย ไปทั่วโลกตอนเดือน 9)
• งบประมาณส่วนการกินและซื้อของฝาก รวม 40,000 บาท หรือประมาณ 120,000 เยน (กะกินอย่างเดียว ถ้าเงินเหลือค่อยซื้อของฝาก) มาดูว่าเราจะเหลือกลับมาเท่าไหร่ตอนท้าย

แผนการท่องเที่ยวทั้งหมด
Day 1 : สุวรรณภูมิ > โฮจิมินห์ซิตี้ > โตเกียว : http://ppantip.com/topic/35893968/
Day 2 : Ueno  ตะลุย Isomaru Suisan / Sushi Zanmai ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง : http://ppantip.com/topic/35893968/comment1
Day 3 : Hakodate บุกไปทานอูนิร้าน Uni Murakami เที่ยว Mount Hakodate และ Red Brick Warehouse : http://ppantip.com/topic/35895845
Day 4 : Hakodate สวาปามรอบตลาด ไปแอบดูลิงลงออนเซน ส่องวิวเมืองอีกด้านจาก Goryokaku Tower : http://ppantip.com/topic/35896919
Day 5 : Aomori กิน Nokkedon ที่ตลาดปลา Furukawa และชมหลากหลายผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลที่ A Factory : http://ppantip.com/topic/35902012
Day 6 : Sendai บุกตลาดปลา Shiogama ทานอาหารทะเลสดๆ ต่อด้วยชิมลิ้นวัวย่างและถั่วซึนดะ ของขึ้นชื่อของเซ็นได : http://ppantip.com/topic/35908992
Day7 : Tokyo ตะลุยกินย่านชินจูกุ เริ่มด้วยร้านเนื้อย่างเจ้าดัง Rokkasen ปิดด้วยบุฟเฟต์ผลไม้แสนอร่อย Takano Fruit Parlour : http://ppantip.com/topic/35912605/
Day 8 : Tokyo ตระเวนรอบตลาดปลา Tsukiji ชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ แวะห้าง Yodobashi akiba ย่าน Akihabara : http://ppantip.com/topic/35922623
Day 9 : ย้อนรอย Isomaru Suisan บุก Asakusa บวกเนื้อย่าง Heijoen ซื้อของฝากที่ตึกม่วง ปิดท้ายด้วย ซูชิหน้าล้น : http://ppantip.com/topic/35936269

Day 1 : ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานเตินเซินเญิ้ต (อ่านยากมาก)


• บอกก่อนว่าถ้าเพื่อนๆ ทรานสิทยาวๆ ที่เวียดนาม สามารถออกไปนอกสนามบินแล้วกลับเข้ามาใหม่ได้นะครับ แต่ก็ต้องระวังตัวด้วยเพราะที่ในเมืองหรือตลาดของเวียดนามก็มีข่าวเรื่องมิจฉาชีพหลอกนักท่องเที่ยวพอสมควรเหมือนกัน มีหลายท่านเคยโดนมาและอีกหลายท่านที่บอกไม่มีอะไร เที่ยวได้สบายๆ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของเพื่อนๆ แต่ที่สำคัญคือต้องมีสติ แต่เนื่องจากผมอดนอน พอถึงเวียดนาม เห็นแดดแล้วก็ขอเดินไปสลบตรง Sleep Zone ดีกว่า คร่อก


ดึกๆ ถ้าหิวก็มี Burger King / Food Court เปิดให้บริการ 24 ชม. เลยครับ จ่ายเป็น USD ได้ เค้าจะทอนเป็น USD เหมือนกัน แต่ถ้าเหลือเศษ 0.5 จะได้เป็นเงินดองมาแทน หลังจากหลับเต็มอิ่มแล้ว ก็เตรียมขึ้นเครื่องต่อไปสนามบินนาริตะได้

ถึงแล้ววววววววววววววววววววววววววว Ohayo gozaimasu Japan !


Day2 : ท่าอากาศยานนาริตะ
หลังมาถึงสนามบินนาริตะก็รีบบึ่งไปจุดตรวจคนเข้าเมือง ผ่านเข้ามาสบายๆ ไม่ต้องโชว์อะไรมากมาย ถามแค่ว่ามากี่วัน เสร็จแล้วก็บอกว่าให้เที่ยวให้สนุก แค่นั้นเอง แต่ทางที่ดี ยังไงก็เตรียมแผนเที่ยวไว้เผื่อก็ดีกว่าล่ะนะ เผื่อแจ็คพอตเค้าขอดูอะไรงี้ หลังรับกระเป๋าสัมภาระของเราเรียบร้อย จะมีด่านตรวจกระเป๋าสัมภาระอีกด่าน เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเค้าขอเปิดดูนิดนึงสงสัยเห็นกระเป๋าเราใหญ่ หลังเห็นของฝากเพื่อนคนไทยที่มาเรียนที่นี่เป็นมาม่าสองสามแพค พี่เจ้าหน้าที่แกก็ขำ แล้วก็ให้ผ่านไปได้ หลังจากผ่านด่านตรวจกระเป๋า ก็ผ่านเข้าสู่เขตของฝาก ซึ่งแน่นอนว่าขากลับเราจะจัดเต็ม แต่ตอนนี้เอาไว้ก่อน

จุดต่อไปที่ต้องไปเป็นอันดับแรกคือ JR Information Center เพื่อแลก JR Passenger Coupon ที่เราซื้อมาเป็น JR East - South Hokkaido Pass (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า JR Pass นะ) ก่อน หลังแลกมาแล้ว ก็ขอให้พี่เจ้าหน้าที่เค้าจองรถ Narita Express (NEX) รอบที่ใกล้ที่สุดให้ก่อนเลย ซึ่งในใบจองนี้ให้สังเกต เวลา ชื่อขบวนรถ รถคันที่ (Car) และที่นั่ง (Seat) ให้ดี เพราะเดี๋ยวหลงขบวนแล้วจะยุ่ง แต่ไม่ต้องกังวล ถ้าสมมุติตกรถจริงๆ ด้วยเหตุสุดวิสัย ด้วยบัตรเบ่งหรือ JR Pass ของเรา เราก็ไปจองขบวนใหม่ได้ แต่ทางที่ดีอย่าตกรถจะดีกว่านะ




หลังจองทุกอย่างเสร็จสรรพ ก็ตรงไปที่ทางเข้ารถไฟฟ้าเลย ไม่ต้องไปช่องสอดบัตรอะไรทั้งนั้น ให้ตรงไปที่เคาท์เตอร์เลยพร้อมแสดง JR Pass พร้อมตั๋วที่เราจองที่นั่งให้พนักงานดู เค้าก็จะเปิดที่กั้น แล้วเชิญให้เราเข้าข้างในสถานีได้ทันที


มองป้ายนำทางดีๆ ลงสถานีให้ถูก (Narita Express) พอลงมาถึงรถก็มารอแล้ว ดูเวลาว่าใช่ ขบวนใช่ หมายเลขรถตรงกับที่จองไว้ ก็ขึ้นรถไปหาที่นั่งที่เราจองไว้ได้เลย ป้ายไฟมันจะขึ้นสลับภาษาญี่ปุ่นกับอังกฤษเป็นช่วงๆ ถ้าได้ที่นั่งเรียบร้อยก็เตรียมพุ่งเข้าโตเกียวได้เลย โดยสถานีปลายทางที่เราจะไปก็คือ Ueno Station !!!
* กระเป๋าเอาเก็บไว้ที่หัวหรือท้ายขบวนก็ได้นะ เค้ามีสายล็อคให้ อาจจะสะดวกกว่าเก็บไว้แถวที่นั่ง โดยเฉพาะถ้ากระเป๋าเราเยอะ



พอถึง Ueno (อุเอโนะ) สิ่งแรกที่ทำ คือเข้าไป Check In ที่โรงแรมก่อน โดยโรงแรมที่จะนอนคืนแรกเป็น Capsule Hotel (เป็นความอยากลองส่วนตัว) หลังฝากของที่โรงแรมเสร็จก็รีบกลับไปที่สถานีอุเอโนะเพื่อจองรอบรถ Shinkansen ล่วงหน้า และเพื่อไม่ให้เสียเวลาต้องมาติดต่อหลายๆ รอบเพื่อจองที่นั่ง เนื่องจากเราทำแผนการเดินทางหมดแล้วผมจะจองรวดเดียว 4 วันเลย เหลือแค่ 1 วันเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน แต่กะจะเอาไว้ใช้ขากลับจากโตเกียวไปนาริตะครับ



แผนที่ทำมาครับ ใช้ Hyperdia (www.hyperdia.com)ส่องเอาล่วงหน้าสองวัน ประหยัดเวลาทั้งเรา ทั้งเจ้าหน้าที่ครับ

เดินเล่นย่านอูเอโนะก่อน ย่านอูเอโนะจะมีสินค้าจำพวกกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้าขายเยอะมาก รวมไปถึงแหล่งบันเทิงอย่างร้านคาราโอเกะ ร้านปาจิงโกะ ร้านเกม ร้านอาหารหลากหลาย และใกล้ๆ กันก็มีตลาด Ameyokocho ซึ่งมีของกินขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สด อาหารทะเล คีบับ อาหารจีน อาหารไทย เรียกได้ว่ามีกันแทบจะครบเลยทีเดียว ราคาก็ไม่แพงมาก เลือกสรรกันได้ตามที่กระเพาะเรียกร้องเลย

ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุนด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่