Ransomware ยังคงระบาดหนักถึงขั้น “หยุดการทำงานของเครื่องจักร” ในโรงงานเลยทีเดียว


ฟอร์ติเน็ตเปิดเผย ปีหน้ายังเป็นฝันร้ายขององค์กรต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรงงาน  Ransomware ยังคงระบาดหนักถึงขั้น “หยุดการทำงานของเครื่องจักร” ในโรงงานเลยทีเดียว

วันนี้ทาง ฟอร์ติเน็ต ได้จัดแถลงข่าว “เทรนด์ภัยไซเบอร์และกลยุทธ์ธุรกิจปี 2017” ซึ่งทาง Enterprise ITPro ก็ได้รับเชิญไปร่วมฟัง แถลงการณ์ในครั้งนี้ด้วย โดยผู้ที่ให้รายละเอียดประกอบด้วย คุณพีระพงศ์ จงวิบูลย์ รองประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ ฮ่องกง และ คุณวิทยา จันทร์เมฆา Network Security Architect

นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังได้เผยเทรนด์หกประการที่เป็นกลวิธีที่อาชญากรไซเบอร์จะใช้และเป็นแนวโน้มภัยที่จะเกิดขึ้นในปีคศ. 2017 โดยทางเราอัพโหลดให้ท่านได้ดาวน์โหลดได้ที่ “6 ภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นในปี 2017” ส่วนสไลด์ในการแถลงข่าวดาวน์โหลดได้จาก “Fortinet Cyber Threat Predictions for 2017” (ปล. ดาวน์โหลดได้จาก link ที่นี่ http://www.enterpriseitpro.net/?p=4550)


ทางเราได้สอบถามเฉพาะเจาะจงลงไปถึงภัย Ransomware ที่คงเป็นปัญหาอย่างรุนแรงในยุคปัจจุบัน ซึ่งทางฟอร์ติเน็ตบอกเลยว่า ณ ตอนนี้ หากใครที่โดน Ransomware เรียกค่าไถ่ไฟล์แล้วก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งในปี 2016 ที่ผ่านมามีการโจมตีมากมายโดย Ransomware ในไทยที่มีอัตราการตรวจพบมากที่สุดก็คือ Cryptowall ตามมาด้วย Cerber, Locky, Torrentlocker, Teslacrypt

ในปีหน้าคุณพีระพงศ์บอกว่า Ransomware จะโฟกัสไปยังกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแค่เรียกค่าไถ่ไฟล์เท่านั้น แต่มัน จะทำการหยุดการทำงานของเครื่องจักรกันเลยทีเดียว



นอกจากนั้นฟอร์ติเน็ตยังได้สรุปตัวเลขมัลแวร์และบอตเน็ตไว้ให้เราได้เห็นซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดก็คือ “สถาบันการศึกษา” ซึ่งพบสูงถึง 83.17% ในขณะที่ภาครัฐพบน้อยมากที่ประมาณ 0.13% ส่วนตัเลขมัลแวร์ที่ตรวจเจอนั้น สถาบันการศึกษาก็ยัง ครองอันดับหนึ่งคือ 53.95% และในกลุ่มน้อยสุดนั้นมีทั้งสาธารณสุขและการเงินประมาณ 0.06% และ 0.07% ตามลำดับ



สำหรับตัวเลข Top 5 บอตเน็ตในปี 2016 นั้น ที่ตรวจพบมากสุดคือ Andromeda.botnet (ตามรูป)



สำหรับข้อมูลในส่วนอื่นๆ ท่านสามารถดาวน์โหลดได้จาก ไฟล์ Thailand ThreatTelemetry Year End 2016 (ปล. ดาวน์โหลดได้จาก link ที่นี่ http://www.enterpriseitpro.net/?p=4550)

ในแง่ของมุมมองด้านการตลาดนั้น ฟอร์ติเน็ตคาดการณ์ว่าตลาดความปลอดภัยในไทยจะโตประมาณ 17% และเป็นอันดับที่ห้าในภูมิภาคนี้ โดยรองจาก สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย  ส่วนในปี 2017 ฟอร์ติเน็ตเตรียมสร้างศูนย์ Security Solution Center และจะเปิดให้ลูกค้าเข้ามาทดสอบการทำงานจริงและเรียนรู้พร้อมๆ กับศึกษาโซลูชั่นหรือมาทดสอบระบบความปลอดภัยได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน

ที่มา : http://www.enterpriseitpro.net/?p=4550)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่