จริงๆ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน
เราได้แต่นั่งมองและอิจฉาฟุตบอลลีกเวียตนาม ที่ดูเป็นอาชีพมากกว่าไทย
ในขณะที่เราเฝ้ามองฟุตบอลไทยที่ค่อยๆ เติบโต หลังจากเรารวม โปรวิเชี่ยล กับ ไทยลีกเข้าด้วยกัน
หลังจากนั้น ไทยพรีเมียร์ลีก ก็ค่อยๆ ก้าวไปอย่างช้าๆ
และแซงลีกเพื่อนบ้าน อย่าง เวียตนาม มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ..
เมื่อสองสามปีก่อน ยังมีการวิจารณ์ ว่าไทยลีก เติบโตเร็วเกินไป หลายคนก็กังวลว่า
ไทยลีก จะเกิดวิกฤติฟองสบู่แตก เหมือนที่ญี่ปุ่น หรือ เวียตนามประสบมา หรือไม่
หลังจากจบฤดูกาล ไทยลีกปิดเทอม อยู่ในช่วงซื้อขายโยกย้ายนักเตะ
ก็มีข่าวกลุ่มนายทุน เข้าไปสัมประทาน หรือ Take Over สโมสรต่างๆ ซึ่งเป็นสัญญาณ ที่ดีต่อวงการฟุตบอลไทย
เริ่มต้นจาก มีนายทุนใหญ่ กลุ่ม "จาร์เค็น" ทุ่มงบ 300 ล้าน ปรับปรุงสนามเชียงรายยูไนเต็ด
พร้อมกับดึงผู้เล่น คุณภาพเข้าสู่ทีม เพื่อยกระดับมาตรฐานทีม ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล
ต่อมากลุ่ม บุญรอด กระโดดเข้ามาเล่น ธุรกิจกีฬาด้วยการเข้ามาเทคโอเวอร์ เชียงใหม่เอฟซี
เข้ามาบริหารอย่างเต็มรูปแบบ โดยวางเป้าหมาย แค่ปีเดียวเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดให้ได้
หลังจากนั้นมีข่าว กลุ่มนายทุน "เกียรติธานี" เข้ามาเทคโอเวอร์ พัทยา ยูไนเต็ด
และ ได้สร้างสนามซ้อม ภายในสนามกอล์ฟ เกียรติธานี ...
นี่ก็กลุ่มที่ทำธุรกิจกีฬา ทั้งสนามกอล์ฟ สนามเทนนิสและธุรกิจโรงแรม
อีกสโมสรหนึ่ง ที่ถูกกลุ่มนายทุน เข้ามาเทคโอเวอรื คือ สโมสรบีอีซีเทโรศาสน
เห้นบอกว่า กลุ่มนายทุนจากอุดร มีการบรรลุข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว หลังจากการเจรจาอย่างเงียบๆของผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่าย
โดยการซื้อบีอีซีครั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขการซื้อขาย รวมถึงสนามแข่งขันแห่งใหม่แทนที่
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามีนบุรี ที่เพิ่งหมดสัญญาการเช่าสนามไป
และ มีการคาดการณ์ว่า บีอีซี อาจจะไปเล่นที่จังหวัด อุดรธานี แทน...
ทางฝั่ง บุรีรัมย์ เจ้าของแช้มป์เก่า ออกมาประกาศกร้าว จะยึดอำนาจจากเมีย เอ๊ยไม่ใช่
ประกาศกร้าว ทวงแช้มป์ คืน ในปี 2017 นี้ ....
แหม่ ปีนี้ไม่ใช่งานง่ายนะครับ ต่างฝ่ายต่างเสริมเขี้ยวเล็บ โดยเฉพาะ เชียงราย ยูไนเต็ด เสริมทัพอย่างน่ากลัว
ยังไม่รวม ราชบุรี ที่สนามก็พร้อม แฟนบอลก็พร้อม ....
การแข่งขัน ไทยลีกปี 2017 ผมว่า เข้มข้นกว่าเดิม น่าติดตาม ครับ
๐๐ ฟุตบอลไทย กับการก้าวไปอีกขั้น
เราได้แต่นั่งมองและอิจฉาฟุตบอลลีกเวียตนาม ที่ดูเป็นอาชีพมากกว่าไทย
ในขณะที่เราเฝ้ามองฟุตบอลไทยที่ค่อยๆ เติบโต หลังจากเรารวม โปรวิเชี่ยล กับ ไทยลีกเข้าด้วยกัน
หลังจากนั้น ไทยพรีเมียร์ลีก ก็ค่อยๆ ก้าวไปอย่างช้าๆ
และแซงลีกเพื่อนบ้าน อย่าง เวียตนาม มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ..
เมื่อสองสามปีก่อน ยังมีการวิจารณ์ ว่าไทยลีก เติบโตเร็วเกินไป หลายคนก็กังวลว่า
ไทยลีก จะเกิดวิกฤติฟองสบู่แตก เหมือนที่ญี่ปุ่น หรือ เวียตนามประสบมา หรือไม่
หลังจากจบฤดูกาล ไทยลีกปิดเทอม อยู่ในช่วงซื้อขายโยกย้ายนักเตะ
ก็มีข่าวกลุ่มนายทุน เข้าไปสัมประทาน หรือ Take Over สโมสรต่างๆ ซึ่งเป็นสัญญาณ ที่ดีต่อวงการฟุตบอลไทย
เริ่มต้นจาก มีนายทุนใหญ่ กลุ่ม "จาร์เค็น" ทุ่มงบ 300 ล้าน ปรับปรุงสนามเชียงรายยูไนเต็ด
พร้อมกับดึงผู้เล่น คุณภาพเข้าสู่ทีม เพื่อยกระดับมาตรฐานทีม ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล
ต่อมากลุ่ม บุญรอด กระโดดเข้ามาเล่น ธุรกิจกีฬาด้วยการเข้ามาเทคโอเวอร์ เชียงใหม่เอฟซี
เข้ามาบริหารอย่างเต็มรูปแบบ โดยวางเป้าหมาย แค่ปีเดียวเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดให้ได้
หลังจากนั้นมีข่าว กลุ่มนายทุน "เกียรติธานี" เข้ามาเทคโอเวอร์ พัทยา ยูไนเต็ด
และ ได้สร้างสนามซ้อม ภายในสนามกอล์ฟ เกียรติธานี ...
นี่ก็กลุ่มที่ทำธุรกิจกีฬา ทั้งสนามกอล์ฟ สนามเทนนิสและธุรกิจโรงแรม
อีกสโมสรหนึ่ง ที่ถูกกลุ่มนายทุน เข้ามาเทคโอเวอรื คือ สโมสรบีอีซีเทโรศาสน
เห้นบอกว่า กลุ่มนายทุนจากอุดร มีการบรรลุข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว หลังจากการเจรจาอย่างเงียบๆของผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่าย
โดยการซื้อบีอีซีครั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขการซื้อขาย รวมถึงสนามแข่งขันแห่งใหม่แทนที่
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามีนบุรี ที่เพิ่งหมดสัญญาการเช่าสนามไป
และ มีการคาดการณ์ว่า บีอีซี อาจจะไปเล่นที่จังหวัด อุดรธานี แทน...
ทางฝั่ง บุรีรัมย์ เจ้าของแช้มป์เก่า ออกมาประกาศกร้าว จะยึดอำนาจจากเมีย เอ๊ยไม่ใช่
ประกาศกร้าว ทวงแช้มป์ คืน ในปี 2017 นี้ ....
แหม่ ปีนี้ไม่ใช่งานง่ายนะครับ ต่างฝ่ายต่างเสริมเขี้ยวเล็บ โดยเฉพาะ เชียงราย ยูไนเต็ด เสริมทัพอย่างน่ากลัว
ยังไม่รวม ราชบุรี ที่สนามก็พร้อม แฟนบอลก็พร้อม ....
การแข่งขัน ไทยลีกปี 2017 ผมว่า เข้มข้นกว่าเดิม น่าติดตาม ครับ