เรื่องการเที่ยว อาบ อบ นวด มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายงั้นหรือคะ

เรื่องมีอยู่ว่า สามีเค้ามาสารภาพว่า ได้ไปเที่ยว อาบ อบ นวด มาคะ ในระหว่างนั้นเราทำงานคนละจังหวัดกันค่ะ มีโอกาสเจอกันเดือนละครั้งหรือสองครั้งประมาณนี้ค่ะ อยู่กินกันมา 11 ปี มีลูกด้วยกันสองคนค่ะ ตอนที่เค้าบอกเนี่ย เราถามเค้าคำเดียวว่าเค้าได้ทำมั้ย เค้าก็ตอบตรงๆค่ะว่า ทำ เชื่อมั้ยว่าเราอยู่ในภาวะพูดอะไรไม่ออก มันอึ้งค่ะ ยังไม่ได้โวยวาย หรือต่อว่าอะไร แต่ในใจมันหมดศรัทธาค่ะ ไม่อยากเชื่ออะไรในตัวเค้าอีก คนรักกัน เค้าทำกันแบบนี้หรือคะ นอนกับใครก็ได้อย่างนั้นหรือคะ ตอนนี้รู้สึกขยะแขยงคะ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างไรดี มีใครช่วยแนะนำเราได้มั้ยคะว่าเราควรทำอย่างไรดี ตอนนี้บอกตรงๆว่า คิดอะไรไม่ออกเลยคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่ปกติครับ
อย่าเอา ผช ไม่กี่คนมาตัดสินทั้วหมด
ผมเองไม่เคยเที่ยว
เพื่อนๆผม หลังแต่งงานก็ไม่เที่ยว
ความคิดเห็นที่ 8
การไม่ซื่อสัตย์ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาหรอกค่ะ
แต่เปนเรื่องที่ร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ต่างหากละคะ

ถ้าภรรยาไปมีเพศสัมพันธ์กับ ผช ขายตัวล่ะ
พวก ผช ที่บอกว่าเปนเรื่องปกติธรรมดายังจะยืนยันคำเดิมไหม
ความคิดเห็นที่ 39
ก่อนอื่นควรจะแยกเป็นสองประเด็นนะครับ คือ ปกติมั้ย? กับ สมควรมั้ย?

ปกติมั้ย? ปกติครับ การที่ผู้ชายเที่ยวอ่าง ไปซื้อบริการทางเพศนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะความต้องการเรื่องนี้ของผู้ชาย มันต่างกับผู้หญิงอยู่แล้ว  ตามธรรมชาติของผู้ชาย เป็นฝ่ายแพร่พันธุ์ ยิงอสุจิทีเป็นล้านๆ ตัว เพราะต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ ธรรมชาติจึงสร้างให้เพศชายมีอารมณ์ทางเพศมากกว่าหญิง ซึ่งเป็นฝ่ายให้กำเนิด จึงต้องหาพันธุ์ที่แข็งแรงจริงๆ ดีจริงๆ มาเพียงตัวเดียว (ผู้ชาย=ปริมาณ ผู้หญิง=คุณภาพ)

ยังไม่รวมเรื่องของสรีระนะครับ พูดกันตรงๆ มันคือความแตกต่างที่ต้องยอมรับว่า ผู้ชายมีเซ็กส์มากขนาดไหน จุ๊มุของเค้าก็ไม่ได้สึกหรออะไรมากเท่าจิ๊มิของฝ่ายหญิง ที่ยิ่งมีมากก็ยิ่งพัง บาน ดำคล้ำ พูดไปก็ดูน่าเกลียดและเหมือนจะเหยียดเพศ แต่มันคือความจริงของธรรมชาติโลกเรา

ส่วนถามว่าสมควรมั้ย? ไม่สมควรครับ เพราะแต่งงานแล้ว มีคู่แล้ว อย่างน้อยก็ควรให้เกียรติกันบ้าง นี่คือเรื่องของมารยาทและศีลธรรมในความเป็นมนุษย์ แถมยังมีโอกาสเสี่ยงติดโรคอีก

ที่ให้แยกเป็นสองประเด็นนี้เพราะผมมองว่า นี่ไม่ใช่ละคร ไม่ใช่นิทานสอนเด็ก คงไม่สามารถมาฟันธงสรุปได้ว่าปกติครับอย่าคิดมาก หรือ เลิกเลยครับเรื่องแบบนี้ผิดปกติ มันเป็นพื้นที่สีเทาๆ ที่ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลมาสนับสนุนความคิดตัวเองกันทั้งนั้น

เอาเป็นว่าผมจะเล่าเรื่องของผมให้ฟังก็แล้วกัน ตอนผมอายุ 11 (ซึ่งน่าจะพอๆ กับชีวิตครอบครัวคุณตอนนี้ที่แต่งงานมา 11 ปี) พ่อผมต้องไปธุระที่ต่างจังหวัดประมาณอาทิตย์นึง ตอนนั้นแม่ก็เตรียมข้าวของให้พ่อ แล้วผมก็เห็นแม่เอาถุงยางใส่กระเป๋าให้พ่อด้วย ผมก็โวยวายใหญ่เลย ว่าแม่ทำไมทำแบบนี้ล่ะ เหมือนสนับสนุนให้พ่อไปมีเซ็กส์กับคนอื่นนอกบ้านเหรอ

แม่ผมบอกว่างี้ครับ แม่บอกว่า แม่ไม่ได้สนับสนุนหรอก แต่เรื่องแบบนี้กับผู้ชายมันห้ามกันได้ยาก แทนที่แม่จะห้ามแล้วไม่รู้ว่าพ่อจะไปแอบทำอะไรลับหลังมั้ย แม้ก็เตรียมเครื่องป้องกันให้พ่อดีกว่า อย่างน้อยถ้าพ่ออดใจไม่ไหว ก็ยังมีอะไรไว้เซฟบ้าง ลดความเสี่ยงที่จะเอาโรคกลับมา

หลังจากพ่อกลับมา ผมก็เห็นถุงยางกล่องนั้นกลับไปอยู่ในตู้ยาตามเดิม ไม่รู้ว่าพ่อไม่ได้ใช้ หรือใช้แล้วซื้อกล่องใหม่มาสำรองแน่ หะหะ

ส่วนตัวผมเองทุกวันนี้ยังไม่ได้แต่งงาน แต่มีแฟน และผมก็ภูมิใจที่จะบอกว่าทั้งชีวิตที่เกิดมาผมไม่เคยไปเที่ยวอะไรแบบนี้เลย ไม่เคยมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่แฟนด้วย (จริงๆ กับแฟนก็ยังไม่มีล่ะ พูดง่ายๆ คือผมยังเวอร์จิ้นอยู่นั่นเอง 555)
ความคิดเห็นที่ 22
พ่อเรา แฟนเรา สามีเรา
ครอบครัวสามี ญาติๆเรา
ไม่เห็นเที่ยวเลยอ่ะ
เชื่อด้วยว่าไม่เที่ยว ต่อให้อยู่ไกลเเค่ไหน
เราก็เชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดาของผู้ชายอ่ะ

ทำไมต้องเหมาว่าเป็นแบบนี้หมด ไม่เข้าใจ
ส่วนตัวรับไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะเเต่งงานแล้ว
ความคิดเห็นที่ 103
ถึงกับต้องล็อคอินมาตอบเลยค่ะ เพราะสังเกตจากคอมเม้น ส่วนมากจะเชื่อว่าเป็นปรกติ และส่วนมากที่ว่านี้ ดิฉันคิดว่า เอาบรรทัดฐานตัวเองมาตอบ ด้วยซ้ำ

จะขอยกตัวอย่าง พ่อของดิฉัน มีวันหนึ่ง ดิฉันถามไปว่า ไม่เบื่อแม่บ้างเหรอ อยู่กันมา อีกนิดเดียวก็จะสามสิบกว่าปีแล้ว เคยคิดจะมีคนอื่นบ้างไหม พ่อดิฉันตอบกลับมาว่า
ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย เพราะอะไรหลายๆอย่าง เช่นต้องทำงาน จะเอาเวลาไหนไปคิดเรื่องพรรค์นั้น ถ้าไม่ทำงาน ลูกกับแม่เองก็ต้องลำบาก พ่อไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ไม่อยากเอาอะไรมาทำให้ครอบครัวพัง

ดิฉันฟังแล้วก็ได้แต่คิด พ่อของดิฉัน ตัวติดกับแม่มาก กินข้าวต้องพร้อมกัน ต้องรอกัน ไปซื้อกับข้าวกันสองคน

เพราะฉะนั้นที่อยากจะบอกคือ อย่าใช้คำว่า ผู้ชายเขาเป็นกันทั้งนั้น หรือ มันเป็นเรื่องปรกติเลยค่ะ การที่คนๆ หนึ่ง จะทำในสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันจะทำให้ใครอีกคนที่รักเราต้องเจ็บ คนๆ นั้นต้องเลือดเย็นขนาดไหนคะ


การที่ไม่สามารถข่มกิเลสด้านมืดในใจของตัวเอง แล้วทำร้ายคนที่รักเราได้ เราว่า คนแบบนี้ ไม่มีทางที่จะปรกติแน่นอนค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่