เกิดปัญหาเนื่องรถ NGVที่จะส่งมอบในวันที่ 7 นี้ ถูกกรมศุลกากรกักไว้เพราะสงสัยที่มา...
ก็ตรวจสอบกันไปนะคะ..แล้วทำไมกรมศุลฯเพิ่งมาสงสัย..?
มาลารินก็สงสัยเช่นกัน คงต้องไปอีก 3 วัน ตามข่าวค่ะ
ตามอ่านข่าวกันค่ะ....
เบสท์ริน เตรียมยื่นหนังสือร้อง "สมคิด-รมว.คลัง" ร่วมตรวจสอบ ปมรถเมล์เอ็นจีวีลอตแรก 100 คัน ถูกกรมศุลกากรกักไว้ที่แหลมฉบัง ไม่ยอมให้นำออกจากท่าเรือ อ้างกระบวนการไม่เรียบร้อย หวั่น ส่งมอบรถเมล์ใหม่ให้ ขสมก. ไม่ทัน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 59 นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน ขององค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า หากภายในวันที่ 6 ธ.ค. บริษัทไม่สามารถนำรถเมล์ลอตแรกจำนวน 100 คัน ที่ขนส่งเข้ามาถึงไทย ออกจากท่าเรือแหลมฉบังได้ ทางบริษัทจะทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขอให้เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงของปัญหา กรณีที่กรมศุลกากร ไม่ยอมให้มีการนำรถเมล์ออกจากท่าเรือ โดยจะทำหนังสือร้องเรียนไปยัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมศุลกากร และสภาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-อาเซียน ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชน
สำหรับประเด็นที่จะร้องเรียน และต้องการให้ทุกหน่วยเข้ามาร่วมตรวจสอบ คือ ความโปร่งใส และมารยาททางการค้าระหว่างประเทศ ของกรมศุลกากร รวมทั้งขอให้เข้ามารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น จากกรณีที่รถถูกกัก อาจจะกระทบไปยังเป้าหมายการนำรถเมล์ไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ในวันที่ 21 ธ.ค.
"ผมอยากขอความเป็นธรรมให้กับ เบสท์ริน ซึ่งวันนี้ตกเป็นจำเลยของสังคม ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อหา ที่สำคัญวันนี้ เรานำรถลอตแรก 100 คันออกมาไม่ได้ ขณะนี้ จอดทิ้งไว้ 3 วันแล้ว ต้องเสียค่าจอดรถวันละ 3 แสนบาท 3 วัน ก็ 9 แสนบาทแล้ว ที่สำคัญรถเมล์ลอต 2 อีก 145 คัน กำลังจะขนส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ ท่าเรือบอกว่าไม่สามารถปล่อยตำแหน่งที่จอดให้รถลอตใหม่ เพราะที่จอดรถเต็ม เนื่องจากยังไม่ได้ขนรถลอตเก่าออกจากท่า ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่วันนี้ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว จะต้องมีคนมารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย"
นายคณิสสร์ กล่าวด้วยว่า ตนได้สอบถามกรมศุลฯ เกี่ยวกับข้อสงสัย ซึ่งกรมศุลฯ ระบุว่า สงสัยเรื่องหนังสือฟอร์มดี เมื่อถามว่าสงสัยประเด็นอะไร กรมศุลฯ ตอบว่า บอกไม่ได้ ตนจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมบอกไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลระบุว่า มีสื่อมวลชนบางคน รู้ว่ารถเมล์ของเบสท์ริน จะถูกกรมศุลฯ กัก ก่อนที่ตนจะทราบเสียอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่านักข่าวรู้ได้อย่างไร ทำให้เริ่มสงสัยว่าอาจจะมีอะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสงสัยว่าอาจจะมีคนอกหักรับไม่ได้.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.thaisohot.com/content/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%8C-ngv-%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%A5-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD
อีกข่าวนะคะ...
นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดแถลงข่าวกรณีกรมศุลกากรไม่ยอมปล่อยรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ที่มีการนำเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 100 คันว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมศุลกากรพบว่าการนำเข้ารถเมล์ NGV ดังกล่าว ไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลงสนธิสัญญาเขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน (From D) แต่เป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปจากประเทศจีน ผ่านประเทศมาเลเซีย และเข้าสู่ประเทศไทย จึงต้องการมีตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง
กรณีดังกล่าวทางบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯ ผู้นำเข้ารถ ได้แจ้งนำเข้ารถเมล์ NGV ทั้งหมด 2 รอบ โดยรอบแรกนำเข้า 1 คันโดยสำแดงถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย เพื่อขอยกเว้นอากรตามข้อตกลง From D แต่ศุลกากรตรวจสอบพบว่าหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ที่นำรถดังกล่าวเข้ามานั้น เป็นหมายเลขตู้เดียวกันกับที่ออกจากประเทศจีน โดยสำแดงเป็นรถ NGV สำเร็จรูป ยี่ห้อ โมเดล ตรงกันอย่างชัดเจน และส่งออกจากจีนเมื่อวันที่ 28 ต.ค. เข้ามาเลเซีย วันที่ 9 พ.ย.และออกวันที่ 23 พ.ย. โดยถึงไทยวันที่ 30 พ.ย. 2559 เป็นช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยต่อเนื่องกัน
และรอบที่ 2 สำแดงนำเข้า 99 คันในลักษณะเดียวกัน โดยขนส่งผ่านทางเรือ ออกจากจีนวันที่ 13 พ.ย. เข้ามาเลเซียวันที่ 19 พ.ย. ออกวันที่ 26 พ.ย. และเข้าไทยวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“จากนี้กรมฯ จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว และประสานความร่วมมือไปยังศุลกากรมาเลเซีย เกี่ยวกับการผลิตและการออก Form D และประเทศจีน ซึ่งอาจจะต้องขอไปดูโรงงานผลิตด้วย” นายชัยยุทธ กล่าว
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าการนำเข้าไม่ถูกต้อง แม้จะบริษัท เบสทริน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ชนะการประมูลจัดซื้อรถเมล์NGV กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ยื่นใบขนและชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรียบร้อยแล้ว จะถือว่าบริษัทเบสทริน ฉ้อฉล สำแดงภาษีเป็นเท็จทันที มีความผิดในการเลี่ยงภาษีอากร และจะต้องจ่ายภาษีนำเข้า 40% ของมูลค่ารถยนต์ NGV รวมค่าปรับ 4 เท่าของมูลค่าภาษี
แต่หากกรณีนี้ไม่ผิด และเอกชนต้องการฟ้องกรมศุลกากร ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งกรมฯ ยืนยันว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ดูแลการเสียภาษีให้มีความถูกต้อง ไม่ได้ทำเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการเท่านั้น
นายชัยยุทธ กล่าวว่า แม้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด และบริษัท เบสทริน กรุ๊ป จำกัด จะไม่ได้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่มีความเสี่ยงในการตรวจสอบ แต่ก็มีข้อมูลที่กรมศุลกากรต้องตั้งข้อสังเกต ทั้งนี้ หากเอกชนต้องการจะนำรถออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ก็ต้องนำแบงก์การันตี มูลค่า 40% ของมูลค่ารวมค่าปรับ 4 เท่า มาชำระให้กับกรมศุลกากรก่อน ส่วนจะมีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้นำรถออกไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
อ่านต่อได้ที่ :
http://www.ryt9.com/s/iq03/2563884
ตรวจสอบกันไปค่ะ....ดีกว่าปล่อยให้มีปีญหาในอนาคต
((มาลาริน)) @^_^@ _____เบสท์ริน เตรียมยื่นร้องตรวจสอบปมรถเมล์ NGV ถูกกรมศุลฯ กักไว้ที่ท่าเรือ____@^_^@
ก็ตรวจสอบกันไปนะคะ..แล้วทำไมกรมศุลฯเพิ่งมาสงสัย..?
มาลารินก็สงสัยเช่นกัน คงต้องไปอีก 3 วัน ตามข่าวค่ะ
ตามอ่านข่าวกันค่ะ....
เบสท์ริน เตรียมยื่นหนังสือร้อง "สมคิด-รมว.คลัง" ร่วมตรวจสอบ ปมรถเมล์เอ็นจีวีลอตแรก 100 คัน ถูกกรมศุลกากรกักไว้ที่แหลมฉบัง ไม่ยอมให้นำออกจากท่าเรือ อ้างกระบวนการไม่เรียบร้อย หวั่น ส่งมอบรถเมล์ใหม่ให้ ขสมก. ไม่ทัน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 59 นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน ขององค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า หากภายในวันที่ 6 ธ.ค. บริษัทไม่สามารถนำรถเมล์ลอตแรกจำนวน 100 คัน ที่ขนส่งเข้ามาถึงไทย ออกจากท่าเรือแหลมฉบังได้ ทางบริษัทจะทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขอให้เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงของปัญหา กรณีที่กรมศุลกากร ไม่ยอมให้มีการนำรถเมล์ออกจากท่าเรือ โดยจะทำหนังสือร้องเรียนไปยัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมศุลกากร และสภาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-อาเซียน ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชน
สำหรับประเด็นที่จะร้องเรียน และต้องการให้ทุกหน่วยเข้ามาร่วมตรวจสอบ คือ ความโปร่งใส และมารยาททางการค้าระหว่างประเทศ ของกรมศุลกากร รวมทั้งขอให้เข้ามารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น จากกรณีที่รถถูกกัก อาจจะกระทบไปยังเป้าหมายการนำรถเมล์ไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ในวันที่ 21 ธ.ค.
"ผมอยากขอความเป็นธรรมให้กับ เบสท์ริน ซึ่งวันนี้ตกเป็นจำเลยของสังคม ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อหา ที่สำคัญวันนี้ เรานำรถลอตแรก 100 คันออกมาไม่ได้ ขณะนี้ จอดทิ้งไว้ 3 วันแล้ว ต้องเสียค่าจอดรถวันละ 3 แสนบาท 3 วัน ก็ 9 แสนบาทแล้ว ที่สำคัญรถเมล์ลอต 2 อีก 145 คัน กำลังจะขนส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ ท่าเรือบอกว่าไม่สามารถปล่อยตำแหน่งที่จอดให้รถลอตใหม่ เพราะที่จอดรถเต็ม เนื่องจากยังไม่ได้ขนรถลอตเก่าออกจากท่า ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่วันนี้ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว จะต้องมีคนมารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย"
นายคณิสสร์ กล่าวด้วยว่า ตนได้สอบถามกรมศุลฯ เกี่ยวกับข้อสงสัย ซึ่งกรมศุลฯ ระบุว่า สงสัยเรื่องหนังสือฟอร์มดี เมื่อถามว่าสงสัยประเด็นอะไร กรมศุลฯ ตอบว่า บอกไม่ได้ ตนจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมบอกไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลระบุว่า มีสื่อมวลชนบางคน รู้ว่ารถเมล์ของเบสท์ริน จะถูกกรมศุลฯ กัก ก่อนที่ตนจะทราบเสียอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่านักข่าวรู้ได้อย่างไร ทำให้เริ่มสงสัยว่าอาจจะมีอะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสงสัยว่าอาจจะมีคนอกหักรับไม่ได้.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกข่าวนะคะ...
นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดแถลงข่าวกรณีกรมศุลกากรไม่ยอมปล่อยรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ที่มีการนำเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 100 คันว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมศุลกากรพบว่าการนำเข้ารถเมล์ NGV ดังกล่าว ไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลงสนธิสัญญาเขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน (From D) แต่เป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปจากประเทศจีน ผ่านประเทศมาเลเซีย และเข้าสู่ประเทศไทย จึงต้องการมีตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง
กรณีดังกล่าวทางบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯ ผู้นำเข้ารถ ได้แจ้งนำเข้ารถเมล์ NGV ทั้งหมด 2 รอบ โดยรอบแรกนำเข้า 1 คันโดยสำแดงถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย เพื่อขอยกเว้นอากรตามข้อตกลง From D แต่ศุลกากรตรวจสอบพบว่าหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ที่นำรถดังกล่าวเข้ามานั้น เป็นหมายเลขตู้เดียวกันกับที่ออกจากประเทศจีน โดยสำแดงเป็นรถ NGV สำเร็จรูป ยี่ห้อ โมเดล ตรงกันอย่างชัดเจน และส่งออกจากจีนเมื่อวันที่ 28 ต.ค. เข้ามาเลเซีย วันที่ 9 พ.ย.และออกวันที่ 23 พ.ย. โดยถึงไทยวันที่ 30 พ.ย. 2559 เป็นช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยต่อเนื่องกัน
และรอบที่ 2 สำแดงนำเข้า 99 คันในลักษณะเดียวกัน โดยขนส่งผ่านทางเรือ ออกจากจีนวันที่ 13 พ.ย. เข้ามาเลเซียวันที่ 19 พ.ย. ออกวันที่ 26 พ.ย. และเข้าไทยวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“จากนี้กรมฯ จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว และประสานความร่วมมือไปยังศุลกากรมาเลเซีย เกี่ยวกับการผลิตและการออก Form D และประเทศจีน ซึ่งอาจจะต้องขอไปดูโรงงานผลิตด้วย” นายชัยยุทธ กล่าว
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าการนำเข้าไม่ถูกต้อง แม้จะบริษัท เบสทริน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ชนะการประมูลจัดซื้อรถเมล์NGV กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ยื่นใบขนและชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรียบร้อยแล้ว จะถือว่าบริษัทเบสทริน ฉ้อฉล สำแดงภาษีเป็นเท็จทันที มีความผิดในการเลี่ยงภาษีอากร และจะต้องจ่ายภาษีนำเข้า 40% ของมูลค่ารถยนต์ NGV รวมค่าปรับ 4 เท่าของมูลค่าภาษี
แต่หากกรณีนี้ไม่ผิด และเอกชนต้องการฟ้องกรมศุลกากร ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งกรมฯ ยืนยันว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ดูแลการเสียภาษีให้มีความถูกต้อง ไม่ได้ทำเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการเท่านั้น
นายชัยยุทธ กล่าวว่า แม้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด และบริษัท เบสทริน กรุ๊ป จำกัด จะไม่ได้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่มีความเสี่ยงในการตรวจสอบ แต่ก็มีข้อมูลที่กรมศุลกากรต้องตั้งข้อสังเกต ทั้งนี้ หากเอกชนต้องการจะนำรถออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ก็ต้องนำแบงก์การันตี มูลค่า 40% ของมูลค่ารวมค่าปรับ 4 เท่า มาชำระให้กับกรมศุลกากรก่อน ส่วนจะมีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้นำรถออกไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2563884
ตรวจสอบกันไปค่ะ....ดีกว่าปล่อยให้มีปีญหาในอนาคต