ทริปนี้ไม่ใช่การไปญี่ปุ่นครั้งแรกของผมครับ แต่เป็นครั้งแรกจริงๆกับการไปดูคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นและเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินที่ชอบมากๆอย่าง LiSA อีกด้วย หลังจากที่ฝันเป็นจริงกับการได้เจอเธอตัวเป็นๆมาแล้วครั้งหนึ่งในงาน J POP Signature 2014 ทำให้ตอนนั้นคาดหวังมากๆว่าใน AFA ปีต่อไปจะได้เจอกับ LiSA อีกครั้งอย่างแน่นอน แต่จนแล้วจนรอดผ่านไป 2 ปีก็ยังไม่ได้เห็นเธอมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งตามที่หวัง และในเมื่อมีประกาศจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในครั้งนี้ออกมา ทำให้ผมตัดสินใจว่า "ต้องไปให้ได้" เท่านั้น
คอนเสิร์ตในครั้งนี้ทั้ง 2 วันจัดขึ้นที่ Yokohama Arena ครับ สำหรับการเดินทางจากโตเกียวก็ไม่ยากเลย ตามนี้ครับ
เมื่อมาถึงสถานี Shin - Yokohama แล้วก็ออกมาทางนี้ได้เลย
ถึงแล้วครับ
ก่อนจะถึงคอนเสิร์ตมีการประกาศออกมาครับว่าในวันแรกนั้นจะเริ่มขายสินค้าของศิลปินในเวลา 9:00 ซึ่งตอนที่ผมไปถึงเวลา 6:30 ก็เจออย่างที่เห็นครับ มีคนมารออยู่ก่อนแล้ว และจากที่ได้ยินมารู้สึกว่าคิวแรกๆจะมารอตั้งแต่ช่วงประมาณ 23:00 - 1:00 เมื่อคืนครับ อุณหภูมิน่าจะประมาณ 2 - 3 องศาได้ ยอมใจพวกเค้าจริงๆ ส่วนตัวผมนั้นเดินขึ้นบันไดแล้วตรงไปทางด้านข้างของตึกเกือบท้ายๆได้ คิดว่าคิวอย่างน้อยย่าจะอยู่ลำดับที่ 600 ขึ้นไปครับ
ยืนรอหนาวๆก็มีสตาร์ฟ เอาใบปลิวสินค้ามาให้เลือกดู แต่จริงๆก็เลือกมาก่อนตั้งแต่อยู่ไทยแล้วละ
และแล้วเมื่อถึงเวลา 9:00 แถวก็เริ่มขยับ และเมื่อมาขยับมาถึงบันไดก็เจอกับภาพที่เห็นครับ ของเขาแรงจริงๆ
หลังจากซื้อของที่ต้องการเสร็จแล้วก็เดินดูรอบๆครับ มีทั้งร้านขาย CD ของ LiSA โดยจะได้เข็มกลัดเป็นของแถมเมื่อซื้อครบ 2000 เยน และมีร้านของราเมนที่ออกแบบโดย LiSA อีกต่างหาก
คนเยอะมากเลยหนีมาหาที่ว่างพักด้านหลัง คิวซื้อของยังแน่นอยู่เลย
ด้านบนของป้ายหน้าทางเข้าก็จะขึ้นจอแบบนี้ครับ
และที่ขาดไม่ได้ ดอกไม้จากเพื่อนศิลปินและรายการทีวีครับ เอามาให้ชมบางส่วน
และเมื่อถึงเวลาเข้าไปชมคอนเสิร์ต เมื่อส่งตั๋วให้เจ้าหน้าที่แล้วจะได้ไอ้นี่มาครับ เป็น Theme ของ Animation ประกอบคอนในครั้งนี้ครับ ขอใช้รูปจาก Twitter ของ LiSA เลยแล้วกัน
ต่อมาจะเป็นในส่วนของคอนเสิร์ตนะครับ มาเริ่มกันที่ Setlist ของทั้ง 2 วันก่อนเลย
26 November 2016 [The Sun]
01. コズミックジェットコースター (Cosmic Jet Coaster)
02. Rally Go Round
03. say my nameの片想い (say my name no Kataomoi)
04. エレクトリリカル (Electro Lyrical)
05. ANTI HERO
06. DOCTOR
07. L.Miranic
08. 僕の言葉で (Boku no Kotoba de)
09. 変わらない青 (Kawaranai Ao)
10. ツヨガリ・ファンファーレ (Tsuyogari fanfare)
11. ジェットロケット (JET ROCKET)
12. ラブリーデイ (LOVELY DAY)
13. BRIGHT FLIGHT
14. confidence driver
15. Rapid Life シンドローム (Rapid Life Syndrome)
16. Brave Freak Out
17. She
18. Rising Hope
19. Hi FiVE!
20. 終わらない冒険 (Owaranai bouken)
Encore
01. Catch the Moment
02. halo-halo
03. best day,best way
27 November 2016 [The Moon]
01. crossing field
02. ROCK-mode
03. Bad Sweet Trap
04. アコガレ望遠鏡 (Akogare Bouenkyou)
05. ヒトリワラッテ (Hitori Waratte)
06. DOCTOR
07. Psychedelic Drive
08. シロイトイキ (SHIROI TOIKI)
09. 蜜 (Mitsu)
10. traumerei
11. No More Time Machine
12. WiLD CANDY
13. アシアトコンパス (Ashiato Compass)
14. エスケープゲーム (Escape Game)
15. Rally Go Round
16. Brave Freak Out
17. She
18. Rising Hope
19. Hi FiVE!
20. 終わらない冒険 (Owaranai bouken)
Encore
01. Catch the Moment
02. ツヨガリ・ファンファーレ(Tsuyogari fanfare)
03. best day,best way
หลังจากเข้าไปในฮอลล์แล้วเมื่อคอนเสิร์ตเริ่มต้นขึ้น จะมี Animation เปิดตัวขึ้นมาเป็นเรื่องราวของพี่น้องดวงอาทิตย์และพระจันทร์ ทั้ง 2 ทะเลาะกันและแยกกันไปคนละทาง โดยในวันแรกนี้ฝ่ายน้องสาวดวงอาทิตย์เดินบ่นไปเรื่อยก่อนจะตกท่อลึกไปที่ไหนสักแห่งและพบกับ Momoco และในวันที่ 2 ก็เช่นกันแต่จะเป็นในส่วนของพี่สาวพระจันทร์บ้าง สำหรับเนื้อเรื่องต่อจากนี้ค่อนข้างลำบากสำหรับสกิลภาษาญี่ปุ่นไม่มากอย่างผม เอาเป็นว่าติดตามได้เมื่อ DVD วางแผงละกันครับ
จากนั้นคอนเสิร์ตก็เริ่มต้นขึ้น LiSA ปรากฏตัวพร้อมตะโกนออกมาว่า Yoko Ari!!! จากนั้นทั่วทั้งฮอลล์ก็ถูกฉาบไปด้วยสีชมพูและเสียงเฮดังลั่น และผมขอไม่กล่าวถึงช่วง MC นะครับ เนื่องจากไม่สามารถฟังเข้าใจได้ทั้งหมด กลัวจะเป็นการให้ข้อความที่คลาดเคลื่อนไปครับ
เพลงเปิดตัวค่อนข้างผิดคาดครับ LiSA เลือก Cosmic Jet Coaster มาเป็นเพลงแรกต่อด้วย Rally Go Round โดยทั้ง 2 เพลงเป็นเพลงที่ให้บรรยากาศสนุกและสดใส และยิ่งตอกย้ำความสนุกขึ้นไปอีกเมื่อ 2 เพลงต่อไปคือเพลงที่มีท่าเต้นน่ารักๆอย่าง say my name no Kataomoi และ Electro Lyrical ได้กระโดดโลดเต้น 4 เพลงรวดแบบนี้แม้จะเป็นลิสต์เปิดตัวที่ไม่คาดคิดเพราะคิดว่าเพลงร๊อคจะมาก่อนแต่ก็ถือว่าสร้างสีสันและเรียกรอยยิ้มจากแฟนๆได้อย่างมากทีเดียว
ต่อไปถึงช่วงเวลาแห่งเพลงร๊อคกันแล้ว ผมเคยเห็น LiSA เล่นกีตาร์ในเพลง Risky แต่วันนี้มาในเพลง ANTIHERO เสียงในฮอลล์ดังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเพลงต่อไปเป็นเพลงดังมากๆเพลงหนึ่งของ LiSA อย่าง DOCTOR และ L.Miranic และอยากบอกว่าผมรู้จักและประทับใจเธอครั้งแรกจากเพลงช้า แต่ตอนนี้ทุกๆครั้งที่มีซิงเกิ้ลใหม่ออกมาผมมักจะมองหาเพลงร๊อคก่อนเสมอ LiSA ร้องเพลงได้ยอดเยี่ยมในทุกแนวจริงๆ
จากนั้น LiSA ออกมาอีกครั้งในชุดสีแดง พร้อมแสงไฟที่ค่อยๆหรี่ลงต้อนรับเพลงช้าซึ้งๆอย่าง Boku no Kotoba de
ต่อด้วยเพลงที่ให้ความรู้สึกกลางๆไม่ช้าไม่เร็วๆอย่าง Kawaranai Ao แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเพลงนี้มาผิดช่วงหรือถ้าเปลี่ยนเป็น Little Braver จะโอเคกว่านี้ ส่วนเพลงต่อไป Tsuyogari fanfare นี่เป็นเพลงดีอีกเพลงที่รู้สึกว่ามาผิดเวลา ยิ่งท่อนท้ายๆที่แฟนๆช่วยกันร้องว่า "Goodbye, see you again. “Thank you” to you my dear." นี่ค่อนข้างประทับใจมาก ถ้าไปอยู่ในเพลงสุดท้ายหรือในช่วงอังกอร์น่าจะประทับใจมากกว่านี้
ต่อจากนั้นอีก 1 ตัวเต็งเพลงปิดอย่าง JET ROCKET ก็ออกมา ทำให้ค่อนข้างน่าสนใจว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้จะปิดด้วยเพลงอะไร แต่เพลงนี้ไม่ว่าจะออกมาในช่วงไหนก็สร้างความสนุกให้แฟนๆได้ตลอดอยุ่แล้ว
เพลงต่อไป Lovely Day จะบอกว่าเป็นไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้ เพราะเพลงนี้ LiSA ขี่จักรยานที่มีตะกร้าวาง momoco อยู่ข้างหน้าบินลอยฟ้าข้ามไปหาสเตจเล็กๆที่อยู่ด้านหลังพร้อมสายรุ้งที่ร่วงหล่นลงมากันเลยทีเดียว โดยเพลงนี้มีท่อนที่ร้องว่า "Cycling now" ด้วย ช่างเหมาะกับเพลงนี้จริงๆ แต่ไม่มีรูปขี่จักรยานลอยฟ้าของวันนี้ ขอเอาของวันพรุ่งนี้มาแทนเพราะได้บินทั้ง 2 วันเลย ก่อนจะมาต่อยอดบรรยากาศสบายๆด้วย BRIGHT FLIGHT
ต่อจากนี้นี่แหละคือช่วงเวลาที่ผมรอคอยอย่างแท้จริง เพลงร๊อคและเพลงเร็วติดต่อกัน 6 เพลงรวด ไล่ตั้งแต่ Confidence Driver, Rapid Life Syndrome, Brave Freak Out, She, Rising Hope และ Hi FiVE! ผมว่านี่คือจุดแข็งอย่างมากของ LiSA เพราะเธอเป็นคนที่เอนเตอร์เทนแฟนๆได้เก่งมาก และเพลงของเธอแฟนๆจะมีท่อนให้ช่วยร้องค่อนข้างเยอะ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากกว่าปกติ ที่สำคัญคือพลังเสียงที่ไม่มีตกเลยของเธอที่เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมงโดยที่ทั้งวิ่งและเต้นอยู่เกือบตลอด การพยายามสร้างความสนุกสนานในคอนเสิร์ตเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอมีแฟนๆคอยติดตามอย่างเหนียวแน่น รวมถึงผมด้วยเช่นกัน ชอบมากจากเพลงช้า แต่ชอบมากที่สุดหลังจากได้ดูบันทึกภาพคอนเสิร์ตที่ผ่านๆมานี่ละ สมชื่อ LiVE is Smile Always จริงๆ
หลังช่วงเวลาแห่งความมันผ่านพ้นไป LiSA ออกมาบอกว่านี่เป็นเพลงสุดท้ายแล้ว (ก่อนอังกอร์) ก่อนจะร้องเพลง Owaranai bouken ออกมา เพลงนี้ความหมายดีมากๆ คอนเสิร์ตครั้งนี้คือโมเม้นท์หนึ่งในเส้นทางของเธอ LiSA ยังก้าวต่อไปได้เรื่อยๆ โดยในช่วงท้าย LiSA ให้แฟนๆช่วยกันร้อง La La La ก่อนปิดท้ายด้วย LiSA ก้มหน้าร้องไห้ด้วยความประทับใจไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับหลังเวทีไปพร้อมแสงไฟที่หรี่ลงให้แฟนๆได้พักรอช่วงอังกอร์ แต่ก็ยังมีเสียงตะโกนเรียกอังกอร์ดังอย่างไม่ขาดสายจนกระทั่ง LiSA กลับขึ้นเวทีมาใหม่อีกครั้ง
ภาพนี้ใช้ภาพจากวันที่ 2 นะครับ เพราะเป็นเพลงปิดก่อนอังกอร์ทั้งคู่
เข้าสู่ช่วงอังกอร์ก่อนจะร้องเพลง LiSA มีประกาศสำคัญครับ นั่นก็คือ Single ใหม่ที่จะออกในปีหน้า [Catch the Moment] ซึ่งจะใช้เป็นเพลงประกอบ "Sword Art Online The Movie: Ordinal Scale" อีกด้วย รวมไปถึงประกาศทัวร์ในช่วงกลางปีหน้า "LiVE is Smile Always~LiTTLE DEViL PARADE~" อีกต่างหาก เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆได้ไม่น้อยก่อนจะเปิดตัวเพลงแรกในช่วงอังกอร์คือเพลงที่ยังไม่เคยมีใครได้ฟังมาก่อน Catch the Moment นั่นเอง
ในช่วงท้ายแน่นอนว่าต้องเป็นบรรยากาศที่สนุก LiSA ต่อด้วยเพลง halo-halo ก่อนปิดงานด้วย best day,best way เป็นอันจบความประทับใจในวันแรก และเฝ้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวๆเพื่อพบความสนุกในวันต่อไปกับ The Moon ที่เป็นวันสุดท้ายและต้องเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
ก่อนจบงานแน่นอนว่าต้องถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก แล้วจะมาต่อกับ [The Moon] เร็วๆนี้ครับ
[CR] Review คอนเสิร์ตฉลอง Debut ครบ 5 ปีของ LiSA กับ LiVE is Smile Always~NEVER ENDiNG GLORY~ 「the Sun」 「the Moon」
ทริปนี้ไม่ใช่การไปญี่ปุ่นครั้งแรกของผมครับ แต่เป็นครั้งแรกจริงๆกับการไปดูคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นและเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินที่ชอบมากๆอย่าง LiSA อีกด้วย หลังจากที่ฝันเป็นจริงกับการได้เจอเธอตัวเป็นๆมาแล้วครั้งหนึ่งในงาน J POP Signature 2014 ทำให้ตอนนั้นคาดหวังมากๆว่าใน AFA ปีต่อไปจะได้เจอกับ LiSA อีกครั้งอย่างแน่นอน แต่จนแล้วจนรอดผ่านไป 2 ปีก็ยังไม่ได้เห็นเธอมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งตามที่หวัง และในเมื่อมีประกาศจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในครั้งนี้ออกมา ทำให้ผมตัดสินใจว่า "ต้องไปให้ได้" เท่านั้น
คอนเสิร์ตในครั้งนี้ทั้ง 2 วันจัดขึ้นที่ Yokohama Arena ครับ สำหรับการเดินทางจากโตเกียวก็ไม่ยากเลย ตามนี้ครับ
เมื่อมาถึงสถานี Shin - Yokohama แล้วก็ออกมาทางนี้ได้เลย
ถึงแล้วครับ
ก่อนจะถึงคอนเสิร์ตมีการประกาศออกมาครับว่าในวันแรกนั้นจะเริ่มขายสินค้าของศิลปินในเวลา 9:00 ซึ่งตอนที่ผมไปถึงเวลา 6:30 ก็เจออย่างที่เห็นครับ มีคนมารออยู่ก่อนแล้ว และจากที่ได้ยินมารู้สึกว่าคิวแรกๆจะมารอตั้งแต่ช่วงประมาณ 23:00 - 1:00 เมื่อคืนครับ อุณหภูมิน่าจะประมาณ 2 - 3 องศาได้ ยอมใจพวกเค้าจริงๆ ส่วนตัวผมนั้นเดินขึ้นบันไดแล้วตรงไปทางด้านข้างของตึกเกือบท้ายๆได้ คิดว่าคิวอย่างน้อยย่าจะอยู่ลำดับที่ 600 ขึ้นไปครับ
ยืนรอหนาวๆก็มีสตาร์ฟ เอาใบปลิวสินค้ามาให้เลือกดู แต่จริงๆก็เลือกมาก่อนตั้งแต่อยู่ไทยแล้วละ
และแล้วเมื่อถึงเวลา 9:00 แถวก็เริ่มขยับ และเมื่อมาขยับมาถึงบันไดก็เจอกับภาพที่เห็นครับ ของเขาแรงจริงๆ
หลังจากซื้อของที่ต้องการเสร็จแล้วก็เดินดูรอบๆครับ มีทั้งร้านขาย CD ของ LiSA โดยจะได้เข็มกลัดเป็นของแถมเมื่อซื้อครบ 2000 เยน และมีร้านของราเมนที่ออกแบบโดย LiSA อีกต่างหาก
คนเยอะมากเลยหนีมาหาที่ว่างพักด้านหลัง คิวซื้อของยังแน่นอยู่เลย
ด้านบนของป้ายหน้าทางเข้าก็จะขึ้นจอแบบนี้ครับ
และที่ขาดไม่ได้ ดอกไม้จากเพื่อนศิลปินและรายการทีวีครับ เอามาให้ชมบางส่วน
และเมื่อถึงเวลาเข้าไปชมคอนเสิร์ต เมื่อส่งตั๋วให้เจ้าหน้าที่แล้วจะได้ไอ้นี่มาครับ เป็น Theme ของ Animation ประกอบคอนในครั้งนี้ครับ ขอใช้รูปจาก Twitter ของ LiSA เลยแล้วกัน
ต่อมาจะเป็นในส่วนของคอนเสิร์ตนะครับ มาเริ่มกันที่ Setlist ของทั้ง 2 วันก่อนเลย
26 November 2016 [The Sun]
01. コズミックジェットコースター (Cosmic Jet Coaster)
02. Rally Go Round
03. say my nameの片想い (say my name no Kataomoi)
04. エレクトリリカル (Electro Lyrical)
05. ANTI HERO
06. DOCTOR
07. L.Miranic
08. 僕の言葉で (Boku no Kotoba de)
09. 変わらない青 (Kawaranai Ao)
10. ツヨガリ・ファンファーレ (Tsuyogari fanfare)
11. ジェットロケット (JET ROCKET)
12. ラブリーデイ (LOVELY DAY)
13. BRIGHT FLIGHT
14. confidence driver
15. Rapid Life シンドローム (Rapid Life Syndrome)
16. Brave Freak Out
17. She
18. Rising Hope
19. Hi FiVE!
20. 終わらない冒険 (Owaranai bouken)
Encore
01. Catch the Moment
02. halo-halo
03. best day,best way
27 November 2016 [The Moon]
01. crossing field
02. ROCK-mode
03. Bad Sweet Trap
04. アコガレ望遠鏡 (Akogare Bouenkyou)
05. ヒトリワラッテ (Hitori Waratte)
06. DOCTOR
07. Psychedelic Drive
08. シロイトイキ (SHIROI TOIKI)
09. 蜜 (Mitsu)
10. traumerei
11. No More Time Machine
12. WiLD CANDY
13. アシアトコンパス (Ashiato Compass)
14. エスケープゲーム (Escape Game)
15. Rally Go Round
16. Brave Freak Out
17. She
18. Rising Hope
19. Hi FiVE!
20. 終わらない冒険 (Owaranai bouken)
Encore
01. Catch the Moment
02. ツヨガリ・ファンファーレ(Tsuyogari fanfare)
03. best day,best way
หลังจากเข้าไปในฮอลล์แล้วเมื่อคอนเสิร์ตเริ่มต้นขึ้น จะมี Animation เปิดตัวขึ้นมาเป็นเรื่องราวของพี่น้องดวงอาทิตย์และพระจันทร์ ทั้ง 2 ทะเลาะกันและแยกกันไปคนละทาง โดยในวันแรกนี้ฝ่ายน้องสาวดวงอาทิตย์เดินบ่นไปเรื่อยก่อนจะตกท่อลึกไปที่ไหนสักแห่งและพบกับ Momoco และในวันที่ 2 ก็เช่นกันแต่จะเป็นในส่วนของพี่สาวพระจันทร์บ้าง สำหรับเนื้อเรื่องต่อจากนี้ค่อนข้างลำบากสำหรับสกิลภาษาญี่ปุ่นไม่มากอย่างผม เอาเป็นว่าติดตามได้เมื่อ DVD วางแผงละกันครับ
จากนั้นคอนเสิร์ตก็เริ่มต้นขึ้น LiSA ปรากฏตัวพร้อมตะโกนออกมาว่า Yoko Ari!!! จากนั้นทั่วทั้งฮอลล์ก็ถูกฉาบไปด้วยสีชมพูและเสียงเฮดังลั่น และผมขอไม่กล่าวถึงช่วง MC นะครับ เนื่องจากไม่สามารถฟังเข้าใจได้ทั้งหมด กลัวจะเป็นการให้ข้อความที่คลาดเคลื่อนไปครับ
เพลงเปิดตัวค่อนข้างผิดคาดครับ LiSA เลือก Cosmic Jet Coaster มาเป็นเพลงแรกต่อด้วย Rally Go Round โดยทั้ง 2 เพลงเป็นเพลงที่ให้บรรยากาศสนุกและสดใส และยิ่งตอกย้ำความสนุกขึ้นไปอีกเมื่อ 2 เพลงต่อไปคือเพลงที่มีท่าเต้นน่ารักๆอย่าง say my name no Kataomoi และ Electro Lyrical ได้กระโดดโลดเต้น 4 เพลงรวดแบบนี้แม้จะเป็นลิสต์เปิดตัวที่ไม่คาดคิดเพราะคิดว่าเพลงร๊อคจะมาก่อนแต่ก็ถือว่าสร้างสีสันและเรียกรอยยิ้มจากแฟนๆได้อย่างมากทีเดียว
ต่อไปถึงช่วงเวลาแห่งเพลงร๊อคกันแล้ว ผมเคยเห็น LiSA เล่นกีตาร์ในเพลง Risky แต่วันนี้มาในเพลง ANTIHERO เสียงในฮอลล์ดังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเพลงต่อไปเป็นเพลงดังมากๆเพลงหนึ่งของ LiSA อย่าง DOCTOR และ L.Miranic และอยากบอกว่าผมรู้จักและประทับใจเธอครั้งแรกจากเพลงช้า แต่ตอนนี้ทุกๆครั้งที่มีซิงเกิ้ลใหม่ออกมาผมมักจะมองหาเพลงร๊อคก่อนเสมอ LiSA ร้องเพลงได้ยอดเยี่ยมในทุกแนวจริงๆ
จากนั้น LiSA ออกมาอีกครั้งในชุดสีแดง พร้อมแสงไฟที่ค่อยๆหรี่ลงต้อนรับเพลงช้าซึ้งๆอย่าง Boku no Kotoba de
ต่อด้วยเพลงที่ให้ความรู้สึกกลางๆไม่ช้าไม่เร็วๆอย่าง Kawaranai Ao แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเพลงนี้มาผิดช่วงหรือถ้าเปลี่ยนเป็น Little Braver จะโอเคกว่านี้ ส่วนเพลงต่อไป Tsuyogari fanfare นี่เป็นเพลงดีอีกเพลงที่รู้สึกว่ามาผิดเวลา ยิ่งท่อนท้ายๆที่แฟนๆช่วยกันร้องว่า "Goodbye, see you again. “Thank you” to you my dear." นี่ค่อนข้างประทับใจมาก ถ้าไปอยู่ในเพลงสุดท้ายหรือในช่วงอังกอร์น่าจะประทับใจมากกว่านี้
ต่อจากนั้นอีก 1 ตัวเต็งเพลงปิดอย่าง JET ROCKET ก็ออกมา ทำให้ค่อนข้างน่าสนใจว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้จะปิดด้วยเพลงอะไร แต่เพลงนี้ไม่ว่าจะออกมาในช่วงไหนก็สร้างความสนุกให้แฟนๆได้ตลอดอยุ่แล้ว
เพลงต่อไป Lovely Day จะบอกว่าเป็นไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้ เพราะเพลงนี้ LiSA ขี่จักรยานที่มีตะกร้าวาง momoco อยู่ข้างหน้าบินลอยฟ้าข้ามไปหาสเตจเล็กๆที่อยู่ด้านหลังพร้อมสายรุ้งที่ร่วงหล่นลงมากันเลยทีเดียว โดยเพลงนี้มีท่อนที่ร้องว่า "Cycling now" ด้วย ช่างเหมาะกับเพลงนี้จริงๆ แต่ไม่มีรูปขี่จักรยานลอยฟ้าของวันนี้ ขอเอาของวันพรุ่งนี้มาแทนเพราะได้บินทั้ง 2 วันเลย ก่อนจะมาต่อยอดบรรยากาศสบายๆด้วย BRIGHT FLIGHT
ต่อจากนี้นี่แหละคือช่วงเวลาที่ผมรอคอยอย่างแท้จริง เพลงร๊อคและเพลงเร็วติดต่อกัน 6 เพลงรวด ไล่ตั้งแต่ Confidence Driver, Rapid Life Syndrome, Brave Freak Out, She, Rising Hope และ Hi FiVE! ผมว่านี่คือจุดแข็งอย่างมากของ LiSA เพราะเธอเป็นคนที่เอนเตอร์เทนแฟนๆได้เก่งมาก และเพลงของเธอแฟนๆจะมีท่อนให้ช่วยร้องค่อนข้างเยอะ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากกว่าปกติ ที่สำคัญคือพลังเสียงที่ไม่มีตกเลยของเธอที่เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมงโดยที่ทั้งวิ่งและเต้นอยู่เกือบตลอด การพยายามสร้างความสนุกสนานในคอนเสิร์ตเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอมีแฟนๆคอยติดตามอย่างเหนียวแน่น รวมถึงผมด้วยเช่นกัน ชอบมากจากเพลงช้า แต่ชอบมากที่สุดหลังจากได้ดูบันทึกภาพคอนเสิร์ตที่ผ่านๆมานี่ละ สมชื่อ LiVE is Smile Always จริงๆ
หลังช่วงเวลาแห่งความมันผ่านพ้นไป LiSA ออกมาบอกว่านี่เป็นเพลงสุดท้ายแล้ว (ก่อนอังกอร์) ก่อนจะร้องเพลง Owaranai bouken ออกมา เพลงนี้ความหมายดีมากๆ คอนเสิร์ตครั้งนี้คือโมเม้นท์หนึ่งในเส้นทางของเธอ LiSA ยังก้าวต่อไปได้เรื่อยๆ โดยในช่วงท้าย LiSA ให้แฟนๆช่วยกันร้อง La La La ก่อนปิดท้ายด้วย LiSA ก้มหน้าร้องไห้ด้วยความประทับใจไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับหลังเวทีไปพร้อมแสงไฟที่หรี่ลงให้แฟนๆได้พักรอช่วงอังกอร์ แต่ก็ยังมีเสียงตะโกนเรียกอังกอร์ดังอย่างไม่ขาดสายจนกระทั่ง LiSA กลับขึ้นเวทีมาใหม่อีกครั้ง
ภาพนี้ใช้ภาพจากวันที่ 2 นะครับ เพราะเป็นเพลงปิดก่อนอังกอร์ทั้งคู่
เข้าสู่ช่วงอังกอร์ก่อนจะร้องเพลง LiSA มีประกาศสำคัญครับ นั่นก็คือ Single ใหม่ที่จะออกในปีหน้า [Catch the Moment] ซึ่งจะใช้เป็นเพลงประกอบ "Sword Art Online The Movie: Ordinal Scale" อีกด้วย รวมไปถึงประกาศทัวร์ในช่วงกลางปีหน้า "LiVE is Smile Always~LiTTLE DEViL PARADE~" อีกต่างหาก เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆได้ไม่น้อยก่อนจะเปิดตัวเพลงแรกในช่วงอังกอร์คือเพลงที่ยังไม่เคยมีใครได้ฟังมาก่อน Catch the Moment นั่นเอง
ในช่วงท้ายแน่นอนว่าต้องเป็นบรรยากาศที่สนุก LiSA ต่อด้วยเพลง halo-halo ก่อนปิดงานด้วย best day,best way เป็นอันจบความประทับใจในวันแรก และเฝ้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวๆเพื่อพบความสนุกในวันต่อไปกับ The Moon ที่เป็นวันสุดท้ายและต้องเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
ก่อนจบงานแน่นอนว่าต้องถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก แล้วจะมาต่อกับ [The Moon] เร็วๆนี้ครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น