มาโพสแก้เหงาครับ แชร์ทัศนคติส่วนตัวที่มีต่อการเทรดหุ้นในตลาดครับ
"แทงเยอะก็รวยเยอะ จะแทงทีละน้อยๆทำไม เสียเวลา?"
ก่อนอื่นเลย อยากแชร์แนวคิดพื้นฐานของผมก่อนครับ
ถามว่าถ้าวันนี้ผมได้เงินหนึ่งล้านบาท ผมพอใจมากน้อยแค่ไหน
คำตอบนี้ สำหรับผมคงเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
สมมติทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีเงินพันนึง ผมคงดีใจมากถึงมากที่สุด
กลับกัน สมมติผมมีซักพันล้าน ผมคงรู้สึกเฉยๆ ชาชิน ได้ก็ดี เอาไปซื้อนาฬิกาใหม่ซักเรือนนึง อะไรทำนองนั้น
นั่นก็หมายความว่า ทุกๆหนึ่งพันบาทที่ได้ ความพอใจของเรา จะลดลงเรื่อยๆ
ถามว่ามันจะลดลงได้แค่ไหน มีจุดที่ได้เงินเพิ่ม แล้วความพอใจของผมจะลดลงมั้ย คำตอบของผมคือ ไม่มี
ถ้าวันนี้ผมมีเงินหนึ่งพันบาท มีเกมโยนเหรียญแฟร์ๆเกมนึง ถ้าชนะได้เงินสองพันบาท ถ้าแพ้เสียเงินหนึ่งพันบาท ถามว่าผมจะเล่นมั้ย
คำตอบก็คือ ผมคงไม่เล่นเกมนี้ เพราะถ้าแพ้ก็หมดตัว
แต่ถ้ากลับกัน วันนี้ผมมีเงินหนึ่งหมื่นบาท ผมจะเล่นเกมนี้รึเปล่า คำตอบคือเล่น
ชนะผมมีหมื่นสอง แพ้ผมเหลือเก้าพัน 50:50
ทำไมผมถึง ปติเสธเกมแรก แต่เล่นเกมที่สอง
ถ้าในระยะเวลาสั้นๆ ผมได้เงินมา 200% และเสียไป 100% ผมมองว่ามันคือ 0
กลับกันในเกมที่สอง ถ้าผมได้มา 20% และเสียไป 10% สุทธิแล้วผมยังได้ +8%
ส่วนตัวผมพอใจกับเงินทุกบาทที่ได้มา สัมพัทธ์กับความมั่งคั่งปัจจุบันครับ
นั่นก็คือ ถ้าในระยะสั้นๆ ผมรวยขึ้น 25% แล้วจนลง 20% คือสุทธิเท่าเดิม ผมจะรู้สึกเฉยๆ
ความพอใจต่อการเปลี่ยนแปลงความมั่งคั่งของผม เป็นไปในลักษณะ log utility
นั่นคือ ln(1+25%)+ln(1-20%) = 0 รู้สึกเฉยๆ
ถ้าเรามองเกมสองเกมที่ผ่านมา เป็นการโยนเหรียญ ชนะได้สองเท่าของเงินแทง แพ้เสียเท่าที่แทง
เกมแรก เราแทง 100% ของความมั่งคั่ง จึงเป็นเกมที่ไม่โอเค
ln(1+200%)+ln(1-100%) = -infinity
เกมที่สองเราลดเงินแทงเหลือ 10% ของความมั่งคั่ง จึงเป็นเกมที่โอเค
ln(1+20%)+ln(1-10%) = +.077
ความน่าสนใจของมันก็คือ ในเกมที่ดูเหมือนจะไม่น่าสนใจ ถ้าเราลดสัดส่วนการลงทุนลงก็อาจะเป็นเกมที่น่าสนใจได้ครับ
มุมมองเม่า : ลดพอร์ท เพื่ออะไร??
"แทงเยอะก็รวยเยอะ จะแทงทีละน้อยๆทำไม เสียเวลา?"
ก่อนอื่นเลย อยากแชร์แนวคิดพื้นฐานของผมก่อนครับ
ถามว่าถ้าวันนี้ผมได้เงินหนึ่งล้านบาท ผมพอใจมากน้อยแค่ไหน
คำตอบนี้ สำหรับผมคงเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
สมมติทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีเงินพันนึง ผมคงดีใจมากถึงมากที่สุด
กลับกัน สมมติผมมีซักพันล้าน ผมคงรู้สึกเฉยๆ ชาชิน ได้ก็ดี เอาไปซื้อนาฬิกาใหม่ซักเรือนนึง อะไรทำนองนั้น
นั่นก็หมายความว่า ทุกๆหนึ่งพันบาทที่ได้ ความพอใจของเรา จะลดลงเรื่อยๆ
ถามว่ามันจะลดลงได้แค่ไหน มีจุดที่ได้เงินเพิ่ม แล้วความพอใจของผมจะลดลงมั้ย คำตอบของผมคือ ไม่มี
ถ้าวันนี้ผมมีเงินหนึ่งพันบาท มีเกมโยนเหรียญแฟร์ๆเกมนึง ถ้าชนะได้เงินสองพันบาท ถ้าแพ้เสียเงินหนึ่งพันบาท ถามว่าผมจะเล่นมั้ย
คำตอบก็คือ ผมคงไม่เล่นเกมนี้ เพราะถ้าแพ้ก็หมดตัว
แต่ถ้ากลับกัน วันนี้ผมมีเงินหนึ่งหมื่นบาท ผมจะเล่นเกมนี้รึเปล่า คำตอบคือเล่น
ชนะผมมีหมื่นสอง แพ้ผมเหลือเก้าพัน 50:50
ทำไมผมถึง ปติเสธเกมแรก แต่เล่นเกมที่สอง
ถ้าในระยะเวลาสั้นๆ ผมได้เงินมา 200% และเสียไป 100% ผมมองว่ามันคือ 0
กลับกันในเกมที่สอง ถ้าผมได้มา 20% และเสียไป 10% สุทธิแล้วผมยังได้ +8%
ส่วนตัวผมพอใจกับเงินทุกบาทที่ได้มา สัมพัทธ์กับความมั่งคั่งปัจจุบันครับ
นั่นก็คือ ถ้าในระยะสั้นๆ ผมรวยขึ้น 25% แล้วจนลง 20% คือสุทธิเท่าเดิม ผมจะรู้สึกเฉยๆ
ความพอใจต่อการเปลี่ยนแปลงความมั่งคั่งของผม เป็นไปในลักษณะ log utility
นั่นคือ ln(1+25%)+ln(1-20%) = 0 รู้สึกเฉยๆ
ถ้าเรามองเกมสองเกมที่ผ่านมา เป็นการโยนเหรียญ ชนะได้สองเท่าของเงินแทง แพ้เสียเท่าที่แทง
เกมแรก เราแทง 100% ของความมั่งคั่ง จึงเป็นเกมที่ไม่โอเค
ln(1+200%)+ln(1-100%) = -infinity
เกมที่สองเราลดเงินแทงเหลือ 10% ของความมั่งคั่ง จึงเป็นเกมที่โอเค
ln(1+20%)+ln(1-10%) = +.077
ความน่าสนใจของมันก็คือ ในเกมที่ดูเหมือนจะไม่น่าสนใจ ถ้าเราลดสัดส่วนการลงทุนลงก็อาจะเป็นเกมที่น่าสนใจได้ครับ