ภาพยนตร์อนิเมชั่นโรแมนติกจากญี่ปุ่น “Your Name” ทำสถิติรายได้สูงสุดในญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศจีนด้วย
“Your Name” หรือ “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ ” ทำสถิติโกยรายได้มากกว่า 19,957 ล้านเยนหรือ 176 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ จากการฉายในประเทศญี่ปุ่นนาน 104 วันตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม จนถึง 4 ธันวาคม โดยมีผู้เข้าชมภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้มากถึง 15,352,600 ครั้ง
ภาพยนตร์ผลงานของ “มาโกะโตะ ชินไค” เรื่องนี้ได้สร้างสถิติแซงหน้าภาพยนตร์เรื่อง Howl's Moving Castle ที่เคยทำได้รายสูงสุด 19,600 ล้านเยนเมื่อปี 2004 และคาดว่าจะขึ้นแท่นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ทำรายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นได้ในไม่ช้า
งานเปิดตัวภาพยนตร์ “Your Name” ที่กรุงปักกิ่ง
ในประเทศจีน “Your Name” หรือชื่อภาษาจีนคือ 你的名字 ได้เข้าฉายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม และกลายเป็นภาพยนตร์ยอดฮิตในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวจีนต่างเข้าแถวรอซื้อตั๋วนานกว่า 1ชั่วโมง ขณะที่งานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ซึ่งมีการแจกลายเซ็นของผู้กำกับก็คับคั่งไปด้วยสื่อมวลชนและชาวจีนที่ทราบข่าวความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องนี้ และรอคอยการเข้าฉายในแดนมังกร
จากการเข้าฉายเพียงแค่ 3 วัน “Your Name” ทำรายได้ในจีนไปกว่า 280 ล้านหยวน หรือราว 37 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ทุบสถิติภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำรายได้สุงสุดในสัปดาห์แรกที่ “ Stand By Me Doraemon” เคยทำไว้ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังเกิดกระแสที่ชาวจีนจำนวนมาก “ผูกด้ายแดง” ตามแบบตัวละครในภาพยนตร์ที่สื่อถึง “พรหมลิขิต” ที่ผูกโยงชีวิตของคนเราไว้ด้วยกัน
ย้อนอ่าน
สะดุดคำ “Kimi no na wa—ชื่อ (เชือก) ของเธอ?” คลายปมเบื้องลึก ภาพยนตร์ยอดฮิตแห่งปีของญี่ปุ่น
ด้านสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งลอส แองเจลิส ได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาให้ “Your Name” ได้รับรางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม หรือ Best Animation Film ในปีนี้
“Your Name” ยังได้รับความนิยมจากการเข้าฉายในต่างประเทศทั้งไต้หวัน,ฮ่องกง และประเทศไทย โดยขึ้นแท่นภาพยนตร์ยอดนิยมในทุกประเทศและสามารถยืนโรงฉายได้อย่างยาวนานเมื่อเทียบกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ผู้สร้างภาพยนตร์ระบุว่า กระแสความนิยมที่แพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ขณะนี้มี 92 ประเทศติดต่อซื้อภาพยนตร์สุดโรแมนติกเรื่องนี้ไปฉาย.
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000121569
“Your Name” ทุบสถิติโกยรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นและแดนมังกร
ภาพยนตร์อนิเมชั่นโรแมนติกจากญี่ปุ่น “Your Name” ทำสถิติรายได้สูงสุดในญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศจีนด้วย
“Your Name” หรือ “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ ” ทำสถิติโกยรายได้มากกว่า 19,957 ล้านเยนหรือ 176 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ จากการฉายในประเทศญี่ปุ่นนาน 104 วันตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม จนถึง 4 ธันวาคม โดยมีผู้เข้าชมภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้มากถึง 15,352,600 ครั้ง
ภาพยนตร์ผลงานของ “มาโกะโตะ ชินไค” เรื่องนี้ได้สร้างสถิติแซงหน้าภาพยนตร์เรื่อง Howl's Moving Castle ที่เคยทำได้รายสูงสุด 19,600 ล้านเยนเมื่อปี 2004 และคาดว่าจะขึ้นแท่นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ทำรายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นได้ในไม่ช้า
งานเปิดตัวภาพยนตร์ “Your Name” ที่กรุงปักกิ่ง
ในประเทศจีน “Your Name” หรือชื่อภาษาจีนคือ 你的名字 ได้เข้าฉายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม และกลายเป็นภาพยนตร์ยอดฮิตในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวจีนต่างเข้าแถวรอซื้อตั๋วนานกว่า 1ชั่วโมง ขณะที่งานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ซึ่งมีการแจกลายเซ็นของผู้กำกับก็คับคั่งไปด้วยสื่อมวลชนและชาวจีนที่ทราบข่าวความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องนี้ และรอคอยการเข้าฉายในแดนมังกร
จากการเข้าฉายเพียงแค่ 3 วัน “Your Name” ทำรายได้ในจีนไปกว่า 280 ล้านหยวน หรือราว 37 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ทุบสถิติภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำรายได้สุงสุดในสัปดาห์แรกที่ “ Stand By Me Doraemon” เคยทำไว้ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังเกิดกระแสที่ชาวจีนจำนวนมาก “ผูกด้ายแดง” ตามแบบตัวละครในภาพยนตร์ที่สื่อถึง “พรหมลิขิต” ที่ผูกโยงชีวิตของคนเราไว้ด้วยกัน
ย้อนอ่าน
สะดุดคำ “Kimi no na wa—ชื่อ (เชือก) ของเธอ?” คลายปมเบื้องลึก ภาพยนตร์ยอดฮิตแห่งปีของญี่ปุ่น
ด้านสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งลอส แองเจลิส ได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาให้ “Your Name” ได้รับรางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม หรือ Best Animation Film ในปีนี้
“Your Name” ยังได้รับความนิยมจากการเข้าฉายในต่างประเทศทั้งไต้หวัน,ฮ่องกง และประเทศไทย โดยขึ้นแท่นภาพยนตร์ยอดนิยมในทุกประเทศและสามารถยืนโรงฉายได้อย่างยาวนานเมื่อเทียบกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ผู้สร้างภาพยนตร์ระบุว่า กระแสความนิยมที่แพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ขณะนี้มี 92 ประเทศติดต่อซื้อภาพยนตร์สุดโรแมนติกเรื่องนี้ไปฉาย.
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000121569