Miss Saigon
25th anniversary on screen ไม่มีสปอย
เราไม่คิดว่าจะได้เห็นละครเวทีดราม่าที่รักที่สุดในชีวิตบนจอหนังในบ้านเรา
ขอสารภาพว่า Miss Saigon ฉบับภาษาอังกฤษ เป็นละครเวทีที่เรา "ไม่เคยดูแบบสดๆ" เลยสักครั้งในชีวิต แต่เราฟังเพลงจาก CD จนร้องตามได้หมด ตามดูคลิปในยูทูป (ซึ่งมันไม่ชัดหรอก แต่พอดูได้) จนได้ดูสดในเวอร์ชั่นไทยของรัชดาลัย แล้วขอบอกว่าเวอร์ชั่นไทย ทำดีกว่าโปรดักชั่นในยูทูปหลายๆอันมาก จนขึ้นแท่นเป็นละครเวทีดราม่าที่ยอดเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซของรัชดาลัย
พอได้ข่าวการ Revival ที่ลอนดอน ก็เป็นช่วงหลังจากที่เรากลับจากเที่ยวอังกฤษไม่นานมาก จังหวะไม่ดีเลยอ่ะ (ไม่มีตังกลับไปดูใหม่ได้เร็วขนาดนั้น) เราเลยได้แค่ "รอ" รอให้มีทัวร์ประเทศไหนก็ได้ที่ไม่ไกลมาก เพราะอยากดูโปรดักชั่นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะที่สิงคโปร ฮ่องกง แต่ก็ยังไม่มี... ฟังเพลงจาก CD วนไปค่ะ
จนรู้ข่าวว่า จะมีการบันทึกภาพการแสดงสดที่ลอนดอนเพื่อลงจอฉลอง 25 ปีมิสไซ่ง่อน ตอนนั้นกรี๊ดกับตัวเองดังมาก น้ำตาจะไหล ถึงจะไม่ได้ดูสด แต่นี่คืออย่างน้อยก็ได้ดูแบบเต็มๆตา ได้เห็นชัดแน่ๆ (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีเข้าไทย แค่คิดว่ายังไงก็ได้ดูดีวีดีชัวร์เพราะเมสเสจไปถาม official page มา เค้าบอกว่าจะทำดีวีดี)
และแล้ว ไทยก็นำเข้ามาฉาย ขอบคุณใครก็ตามที่ทำให้ฝันครึ่งนึงของเราเป็นจริง
ขอพูดถึงความคลั่งไคล้ที่มีต่อ Miss Saigon ก่อน
ชีวิตนี้เราบ้าละครเวทีมากก็จริง ตามดูตามฟังมันอยู่ตลอด
แต่รักสุดๆก็มี Miss Saigon กับ The sound of music (โชคดีที่เวอร์ชั่นไทยทั้งสองเวอร์ชั่นดีงามระดับพีคทั้งคู่ด้วย) ในขณะที่ Cats, Les mis, phantom, The lion king , chicago จะอยู่ในระดับชอบรองลงมา
เราคลั่งมิสไซ่ง่อนขนาดที่ไปโฮจิมินห์บ่อยๆเพื่อเดินตามรอยเหตุการณ์ เราอ่านเรื่องสงครามเวียดนามแล้วสะเทือนใจ เรารู้สึกว่าละครเวทีเรื่องนี้ ถ่ายทอดแง่มุมความสูญเสีย และการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ได้ดีมากๆ ไม่รุ้ว่าเพราะอะไรนะ เราโดนเรื่องนี้ดึงดูดอย่างประหลาด
Miss Saigon มีจุดแข็งแบบแข็งแรงโ-ค-ต-ร ๆ คือ เพลง !
ไพเราะที่สุดเท่าที่เคยฟังมา ไพเราะจนอยากร้องขอชีวิต
มันมีทั้งจุดที่พีคสุด Epic สุด เศร้าสุด โรแมนซ์สุด หวานสุด สะเทือนใจสุด เร่าร้อนสุด บีบหัวใจสุด ตลกสุด บันเทิงสุด ปลุกใจสุด เสียสละสุด ทุกความสุดรวมในเรื่องเดียว เป็นจุดแข็งที่เรื่องนี้ทำได้ ไม่แปลกที่คอมิวสิคัลหลายๆคนมักจะยกเรื่องนี้ให้เป็นอันดับต้นๆในดวงใจ เพราะความสุดทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมา มันคือความสุดของเนื้อเรื่องไปพร้อมๆกัน เนื่องจากเรื่องนี้ บทพูดน้อย น้อยจนแทบไม่มีเลย ทุกอย่างเป็นเพลง มีเมโลดี้หมด ไม่เจ๋งจริง ไม่รอดจนทุกวันนี้แน่นอน
ที่ร่ายๆความเริ่ดเวอร์วังของมิวสิคัลเรื่องนี้มีจุดประสงค์หลักๆเพื่อเชิญชวนทุกคนไปดูในโรงหนัง (เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับใคร เราไปดูจ่ายเองราคาเต็มค่ะ ไม่ใช่ Sr แน่นอน) นี่ไม่ใช่โอกาสง่ายๆที่จะได้ดูมิวสิคัลเรื่องเยี่ยมระดับโลกแบบในจอหนังบ้านเราตั๋วแค่ 2-3 ร้อยบาท แต่คุ้มมากขนาดนี้ (ช่วงวันที่ 1-7 นี้ฉายเฉพาะโรงบลูริบบ้อน อาจจะแพงหน่อย เราอยากดูเร็วๆเลยซื้อดูก่อน คุ้มทุกเม็ดค่ะ !)
การแสดงสดที่บันทึกภาพนี้ ชื่นชม คือ การตัดต่อ ตอนดูคือ เฮ้ย !!! ตัดต่อดีโค-ตร เหมือนไม่ได้ดูบนเวที เหมือนดูหนังปกติมาก มันดี มันชัดเจน สีหน้านักแสดงได้หมด อารมณ์ไม่ขาดเลยแม้แต่นิดเดียว
เพลงมีการปรับเปลี่ยนทำนองนิดหน่อยบางเพลง จนถึงเปลี่ยนทั้งเพลงไป 1 เพลง (แอบชอบเพลงเก่ามากกว่าหน่อย แต่ก็ดีเพราะทำให้ตัวละครถูกตีความได้อีกแบบนึง) มีการกระชับจังหวัดขึ้น ซึ่งทำให้มันกระชากใจเราได้มากขึ้นกว่าเดิม
นักแสดงแคสลอนดอนนี้ดีมากๆ Eva Noblezada คือ Lea Salonga คนต่อไปชัดๆ เนื้อเสียงโค-ตรดีเลย <3
Jon Jon Briones ก็เหมาะสมกับบทเอ็นจิเนียร์มากๆ
หนังมีความยาว 187 นาที มีพักสองครั้ง คือ พักครึ่ง intermission 5 นาที และพักตอนจบเพื่อเข้าช่วง gala finale อีก 10 นาที
ช่วง gala finale ตอนท้ายมีความพีคมาก (ขนาดเราแอบดูดคลิปที่มีคนปล่อยมาวนดูหลายรอบแล้วนะก็ยังพีคอยู่ดี ขอโทษลิขสิทธิ์นะคะ คิดว่าจะไม่ได้ดูไง เลยโหลดไว้ก่อนด้วยความจำเป็นและความติ่ง ตอนนี้ลบทิ้งแล้ว เพราะเดี๋ยวจะรอซื้อแผ่นค่ะ)
นี่แหละ ความคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จะได้รับจากการดูมิวสิคัลออนสกรีนเรื่องนี้
เดี๋ยวพอเข้ารอบปกติวันที่ 8 เราจะไปซ้ำอีกรอบ (เผลอๆจะอีกสองรอบด้วยรึเปล่า) ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไปดูกันค่ะ
ชวนดู Miss Saigon มิวสิคัลเรื่องยิ่งใหญ่ของโลกแบบ On Screen
25th anniversary on screen ไม่มีสปอย
เราไม่คิดว่าจะได้เห็นละครเวทีดราม่าที่รักที่สุดในชีวิตบนจอหนังในบ้านเรา
ขอสารภาพว่า Miss Saigon ฉบับภาษาอังกฤษ เป็นละครเวทีที่เรา "ไม่เคยดูแบบสดๆ" เลยสักครั้งในชีวิต แต่เราฟังเพลงจาก CD จนร้องตามได้หมด ตามดูคลิปในยูทูป (ซึ่งมันไม่ชัดหรอก แต่พอดูได้) จนได้ดูสดในเวอร์ชั่นไทยของรัชดาลัย แล้วขอบอกว่าเวอร์ชั่นไทย ทำดีกว่าโปรดักชั่นในยูทูปหลายๆอันมาก จนขึ้นแท่นเป็นละครเวทีดราม่าที่ยอดเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซของรัชดาลัย
พอได้ข่าวการ Revival ที่ลอนดอน ก็เป็นช่วงหลังจากที่เรากลับจากเที่ยวอังกฤษไม่นานมาก จังหวะไม่ดีเลยอ่ะ (ไม่มีตังกลับไปดูใหม่ได้เร็วขนาดนั้น) เราเลยได้แค่ "รอ" รอให้มีทัวร์ประเทศไหนก็ได้ที่ไม่ไกลมาก เพราะอยากดูโปรดักชั่นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะที่สิงคโปร ฮ่องกง แต่ก็ยังไม่มี... ฟังเพลงจาก CD วนไปค่ะ
จนรู้ข่าวว่า จะมีการบันทึกภาพการแสดงสดที่ลอนดอนเพื่อลงจอฉลอง 25 ปีมิสไซ่ง่อน ตอนนั้นกรี๊ดกับตัวเองดังมาก น้ำตาจะไหล ถึงจะไม่ได้ดูสด แต่นี่คืออย่างน้อยก็ได้ดูแบบเต็มๆตา ได้เห็นชัดแน่ๆ (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีเข้าไทย แค่คิดว่ายังไงก็ได้ดูดีวีดีชัวร์เพราะเมสเสจไปถาม official page มา เค้าบอกว่าจะทำดีวีดี)
และแล้ว ไทยก็นำเข้ามาฉาย ขอบคุณใครก็ตามที่ทำให้ฝันครึ่งนึงของเราเป็นจริง
ขอพูดถึงความคลั่งไคล้ที่มีต่อ Miss Saigon ก่อน
ชีวิตนี้เราบ้าละครเวทีมากก็จริง ตามดูตามฟังมันอยู่ตลอด
แต่รักสุดๆก็มี Miss Saigon กับ The sound of music (โชคดีที่เวอร์ชั่นไทยทั้งสองเวอร์ชั่นดีงามระดับพีคทั้งคู่ด้วย) ในขณะที่ Cats, Les mis, phantom, The lion king , chicago จะอยู่ในระดับชอบรองลงมา
เราคลั่งมิสไซ่ง่อนขนาดที่ไปโฮจิมินห์บ่อยๆเพื่อเดินตามรอยเหตุการณ์ เราอ่านเรื่องสงครามเวียดนามแล้วสะเทือนใจ เรารู้สึกว่าละครเวทีเรื่องนี้ ถ่ายทอดแง่มุมความสูญเสีย และการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ได้ดีมากๆ ไม่รุ้ว่าเพราะอะไรนะ เราโดนเรื่องนี้ดึงดูดอย่างประหลาด
Miss Saigon มีจุดแข็งแบบแข็งแรงโ-ค-ต-ร ๆ คือ เพลง !
ไพเราะที่สุดเท่าที่เคยฟังมา ไพเราะจนอยากร้องขอชีวิต
มันมีทั้งจุดที่พีคสุด Epic สุด เศร้าสุด โรแมนซ์สุด หวานสุด สะเทือนใจสุด เร่าร้อนสุด บีบหัวใจสุด ตลกสุด บันเทิงสุด ปลุกใจสุด เสียสละสุด ทุกความสุดรวมในเรื่องเดียว เป็นจุดแข็งที่เรื่องนี้ทำได้ ไม่แปลกที่คอมิวสิคัลหลายๆคนมักจะยกเรื่องนี้ให้เป็นอันดับต้นๆในดวงใจ เพราะความสุดทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมา มันคือความสุดของเนื้อเรื่องไปพร้อมๆกัน เนื่องจากเรื่องนี้ บทพูดน้อย น้อยจนแทบไม่มีเลย ทุกอย่างเป็นเพลง มีเมโลดี้หมด ไม่เจ๋งจริง ไม่รอดจนทุกวันนี้แน่นอน
ที่ร่ายๆความเริ่ดเวอร์วังของมิวสิคัลเรื่องนี้มีจุดประสงค์หลักๆเพื่อเชิญชวนทุกคนไปดูในโรงหนัง (เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับใคร เราไปดูจ่ายเองราคาเต็มค่ะ ไม่ใช่ Sr แน่นอน) นี่ไม่ใช่โอกาสง่ายๆที่จะได้ดูมิวสิคัลเรื่องเยี่ยมระดับโลกแบบในจอหนังบ้านเราตั๋วแค่ 2-3 ร้อยบาท แต่คุ้มมากขนาดนี้ (ช่วงวันที่ 1-7 นี้ฉายเฉพาะโรงบลูริบบ้อน อาจจะแพงหน่อย เราอยากดูเร็วๆเลยซื้อดูก่อน คุ้มทุกเม็ดค่ะ !)
การแสดงสดที่บันทึกภาพนี้ ชื่นชม คือ การตัดต่อ ตอนดูคือ เฮ้ย !!! ตัดต่อดีโค-ตร เหมือนไม่ได้ดูบนเวที เหมือนดูหนังปกติมาก มันดี มันชัดเจน สีหน้านักแสดงได้หมด อารมณ์ไม่ขาดเลยแม้แต่นิดเดียว
เพลงมีการปรับเปลี่ยนทำนองนิดหน่อยบางเพลง จนถึงเปลี่ยนทั้งเพลงไป 1 เพลง (แอบชอบเพลงเก่ามากกว่าหน่อย แต่ก็ดีเพราะทำให้ตัวละครถูกตีความได้อีกแบบนึง) มีการกระชับจังหวัดขึ้น ซึ่งทำให้มันกระชากใจเราได้มากขึ้นกว่าเดิม
นักแสดงแคสลอนดอนนี้ดีมากๆ Eva Noblezada คือ Lea Salonga คนต่อไปชัดๆ เนื้อเสียงโค-ตรดีเลย <3
Jon Jon Briones ก็เหมาะสมกับบทเอ็นจิเนียร์มากๆ
หนังมีความยาว 187 นาที มีพักสองครั้ง คือ พักครึ่ง intermission 5 นาที และพักตอนจบเพื่อเข้าช่วง gala finale อีก 10 นาที
ช่วง gala finale ตอนท้ายมีความพีคมาก (ขนาดเราแอบดูดคลิปที่มีคนปล่อยมาวนดูหลายรอบแล้วนะก็ยังพีคอยู่ดี ขอโทษลิขสิทธิ์นะคะ คิดว่าจะไม่ได้ดูไง เลยโหลดไว้ก่อนด้วยความจำเป็นและความติ่ง ตอนนี้ลบทิ้งแล้ว เพราะเดี๋ยวจะรอซื้อแผ่นค่ะ)
นี่แหละ ความคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จะได้รับจากการดูมิวสิคัลออนสกรีนเรื่องนี้
เดี๋ยวพอเข้ารอบปกติวันที่ 8 เราจะไปซ้ำอีกรอบ (เผลอๆจะอีกสองรอบด้วยรึเปล่า) ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไปดูกันค่ะ