รีวิว : พรจากฟ้า (ตลก ซึ้ง ดราม่า มีครบทุกรส !!)
[**No Spoil นอกตัวอย่างหนัง]
ก่อนจะดูหนัง รู้สึกตกใจเล็กน้อยเพราะไม่รู้มาก่อน..
ในส่วนของเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้น
ได้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว
โดยภาพส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปคู่กับ ในหลวงรัชกาลที่ ๙
ตั้งแต่สมัยพระองค์ทรงพระเยาว์ ทรงพระราชกรณียกิจ
ชวนให้รู้สึกใจหายแปลกๆ แต่ก็ชื่นชมยินดีในรัชกาลใหม่เช่นกัน
อยากเชิญชวนให้ลองเข้าไปรับชมกันนะครับ..
หนังเรื่อง "พรจากฟ้า" นี้ จะแบ่งเป็น 3 ตอน
ตอนละประมาณ 40 นาที
ในส่วนของเรื่องแรก...
นำแสดงโดย "นาย ณภัทร" พระเอกหน้าใหม่
และ นางฟ้าสาว "วี วิโอเลต" (ไม่ค่อยเลยนะเอ็ง)
เป็นตอนที่พระเอกพยายามจีบนางเอก เพราะหลงชอบตั้งแต่แรกพบ
จากการที่บังเอิญจับคู่กันเป็น Stand-in บทท่านทูต และภริยาท่านทูต โดยบังเอิญ
"โดนส่วนตัว" ทำออกมาอึดอัดและน่ารำคาญเป็นที่สุด
เพราะว่าไม่ชอบ "อุปนิสัย" วิธีการจีบสาวของพระเอกเลยยยยย
ไม่ใช่ว่า.... เล่นไม่ดี แต่ด้วยบทมันน่ารำคาญมากกกกกก
เรื่องมุกเสี่ยวก็พอทำออกมาได้ดีหน่อย แต่มันดูผิดมารยาท ผิดกาละเทศะ
ทัศนคติส่วนตัวก็แย่..ดูแล้วรู้สึกอึดอัดจริงๆ
แบบไอ้นี่มันไม่น่าเชียร์ให้จีบติดเลยสักนิดเดียว..
ดีอย่างเดียวคือหน้าตา (อิจฉาเขาอะเดะ)
ซึ่งตอนหลังจะจีบติดไหม ? ต้องลองเข้าไปดูกันเอง (แอบนั่งแช่งอยู่ในใจ)
ความชอบเพียงสิ่งเดียวของตอนนี้คือ "วี ไวโอเลต"
ความสวยงามของใบหน้า และน้ำเสียงอันไพเราะ
ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ "ยามเย็น" ช่างงดงามเสียนี่กระไร.. (นี่มันติ่งชัดๆ)
เพลงยามเย็น "พรจากฟ้า" ในเรื่องนี้ ถือว่านำมา Remix ได้ดีมากเลยทีเดียว
เสียงร้องนำของ "วี" และเสียงประสานแนว Acapella ทำดีมากกก
ฟังแล้วติดหูตั้งแต่ดูจบ...มาจนถึงวันนี้ (เป็นเวลา 3 วันแล้ว)
ในส่วนของตอนที่ 2
นำแสดงโดย "ซันนี่" และ "มิว นิษฐา"
เป็นตอนที่ชอบมากๆถึงมากที่สุด !!
เนื้อหาจะออกไปทางเครียด ดราม่า และซึ้งน้ำตาแตกสุดๆ T_____T
แต่ก็ยังมีมุกตลกตามสไตล์ GDH บ้างเล็กน้อยพอให้ยิ้ม
เอาซันนี่มาเล่นทั้งทีอะนะ ไม่ฮามันก็ไม่ได้
ในเรื่องนี้ "มิว" ในฐานะลูกสาว ต้องดูแลพ่อที่เริ่มป่วยเป็นอัลไซเมอร์กันสองต่อสอง
หนังทำออกมาได้ดีในเรื่องของ ความกดดัน ความเครียดที่นางเอกต้องเจอ
กับการดูแลคนป่วยที่เป็นโรคนี้ วิธีการรับมือ การพูดคุยต้องทำยังไง แบบไหนควรไม่ควร..
สื่อถึงความรักระหว่างพ่อ-ลูก ออกมาได้ดีมากๆ
และ "พรจากฟ้า" ที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในเรื่องนี้
คือบทเพลงพระราชนิพนธ์ "Still on My Mind"
ตอนนี้อาจจะน่าเบื่อสำหรับคนไม่ชอบหนังเครียด
ไม่ชอบหนังบทพูดเยอะๆ แต่ตั้งใจดูเถอะครับ
มันให้อะไรได้เยอะมากจริงๆ (เตรียมทิชชู่ไปด้วยนะจ๊ะ..)
และในเรื่องสุดท้าย... "พรปีใหม่"
นำแสดงโดย "เต๋อ ฉันทวิชช์" และ "หนูนา หนึ่งธิดา"
เรื่องนี้เป็นหนัง Feel Good ตามสไตล์ GDH ที่สุด
และเป็นตอนที่บทอ่อนที่สุดเช่นกัน บทกลวงมาก ไม่มีอะไรเลย..
แต่ความตลก ความฮามาเต็มมากๆ สมดีกรีคู่พระนางจาก "กวน มึน โฮ"
"เต๋อ" ในฐานะพนักงานใหม่ ผู้มี(อดีต)หัวใจรักในดนตรี
แต่ตัดสินใจทั้งเส้นทางเดินนั้นไปแล้ว
ต้องมารับบท "ผู้นำวง" ร่วมกับ "หนูนา"
ช่วยกันพาพวกพี่ๆ ลุงๆ ป้าๆ ในออฟฟิศให้เล่นดนตรีร่วมกัน
ปิดท้ายด้วยเพลงพระราชนิพนธ์อย่าง "พรปีใหม่"
ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานเพลงนี้เป็นของขวัญให้แก่ประชาชน
ฟังแล้วทั้งไพเราะ และน้ำตาไหลด้วยความคิดถึง และชื่นชมในพระปรีชาของพระองค์จริงๆ
.
.
สรุปแล้ว.. ??
หนังดีครับ ชอบมากๆ ติดแค่เรื่องเดียวคือนิสัยพระเอกตอนแรกจริงๆ
นอกนั้นชอบหมดเลยถ้ามีเวลาจะเข้าไปดูอีกรอบในโรง
อยากเชิญชวนเพื่อนๆพ่อแม่พี่น้องมิตรสหายทุกท่านไปดูกันนะครับ
เรื่องนี้ "ราคา 99 บาท" ทุกรอบ !! ทุกโรง !! (ที่นั่งข้างบนเพิ่มเงินเล็กน้อย)
และรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
#ไม่ใช่นักวิจารณ์
#ก็แค่คนชอบดูหนัง
#อนึ่งรสนิยมการดูหนังเป็นเรื่องส่วนบุคคล
#หนังโปรดของผมอาจจะไม่ใช่หนังโปรดของคุณ
------------------------------------------------------------
เลิกให้คะแนนหนัง เพราะ...
ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เกณฑ์การให้คะแนนต่างกัน
แนวหนังแต่ละประเภทก็ไม่เหมือนกัน
และบางเรื่องมันตีความรู้สึกออกมาเป็นตัวเลขไม่ได้เช่นกัน.. ^_____^
[CR] [ก็แค่คนชอบดูหนัง] รีวิว : พรจากฟ้า (ตลก ซึ้ง ดราม่า มีครบทุกรส !!) ***No Spoil นอกตัวอย่างหนัง
รีวิว : พรจากฟ้า (ตลก ซึ้ง ดราม่า มีครบทุกรส !!)
[**No Spoil นอกตัวอย่างหนัง]
ก่อนจะดูหนัง รู้สึกตกใจเล็กน้อยเพราะไม่รู้มาก่อน..
ในส่วนของเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้น
ได้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว
โดยภาพส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปคู่กับ ในหลวงรัชกาลที่ ๙
ตั้งแต่สมัยพระองค์ทรงพระเยาว์ ทรงพระราชกรณียกิจ
ชวนให้รู้สึกใจหายแปลกๆ แต่ก็ชื่นชมยินดีในรัชกาลใหม่เช่นกัน
อยากเชิญชวนให้ลองเข้าไปรับชมกันนะครับ..
หนังเรื่อง "พรจากฟ้า" นี้ จะแบ่งเป็น 3 ตอน
ตอนละประมาณ 40 นาที
ในส่วนของเรื่องแรก...
นำแสดงโดย "นาย ณภัทร" พระเอกหน้าใหม่
และ นางฟ้าสาว "วี วิโอเลต" (ไม่ค่อยเลยนะเอ็ง)
เป็นตอนที่พระเอกพยายามจีบนางเอก เพราะหลงชอบตั้งแต่แรกพบ
จากการที่บังเอิญจับคู่กันเป็น Stand-in บทท่านทูต และภริยาท่านทูต โดยบังเอิญ
"โดนส่วนตัว" ทำออกมาอึดอัดและน่ารำคาญเป็นที่สุด
เพราะว่าไม่ชอบ "อุปนิสัย" วิธีการจีบสาวของพระเอกเลยยยยย
ไม่ใช่ว่า.... เล่นไม่ดี แต่ด้วยบทมันน่ารำคาญมากกกกกก
เรื่องมุกเสี่ยวก็พอทำออกมาได้ดีหน่อย แต่มันดูผิดมารยาท ผิดกาละเทศะ
ทัศนคติส่วนตัวก็แย่..ดูแล้วรู้สึกอึดอัดจริงๆ
แบบไอ้นี่มันไม่น่าเชียร์ให้จีบติดเลยสักนิดเดียว..
ดีอย่างเดียวคือหน้าตา (อิจฉาเขาอะเดะ)
ซึ่งตอนหลังจะจีบติดไหม ? ต้องลองเข้าไปดูกันเอง (แอบนั่งแช่งอยู่ในใจ)
ความชอบเพียงสิ่งเดียวของตอนนี้คือ "วี ไวโอเลต"
ความสวยงามของใบหน้า และน้ำเสียงอันไพเราะ
ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ "ยามเย็น" ช่างงดงามเสียนี่กระไร.. (นี่มันติ่งชัดๆ)
เพลงยามเย็น "พรจากฟ้า" ในเรื่องนี้ ถือว่านำมา Remix ได้ดีมากเลยทีเดียว
เสียงร้องนำของ "วี" และเสียงประสานแนว Acapella ทำดีมากกก
ฟังแล้วติดหูตั้งแต่ดูจบ...มาจนถึงวันนี้ (เป็นเวลา 3 วันแล้ว)
ในส่วนของตอนที่ 2
นำแสดงโดย "ซันนี่" และ "มิว นิษฐา"
เป็นตอนที่ชอบมากๆถึงมากที่สุด !!
เนื้อหาจะออกไปทางเครียด ดราม่า และซึ้งน้ำตาแตกสุดๆ T_____T
แต่ก็ยังมีมุกตลกตามสไตล์ GDH บ้างเล็กน้อยพอให้ยิ้ม
เอาซันนี่มาเล่นทั้งทีอะนะ ไม่ฮามันก็ไม่ได้
ในเรื่องนี้ "มิว" ในฐานะลูกสาว ต้องดูแลพ่อที่เริ่มป่วยเป็นอัลไซเมอร์กันสองต่อสอง
หนังทำออกมาได้ดีในเรื่องของ ความกดดัน ความเครียดที่นางเอกต้องเจอ
กับการดูแลคนป่วยที่เป็นโรคนี้ วิธีการรับมือ การพูดคุยต้องทำยังไง แบบไหนควรไม่ควร..
สื่อถึงความรักระหว่างพ่อ-ลูก ออกมาได้ดีมากๆ
และ "พรจากฟ้า" ที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในเรื่องนี้
คือบทเพลงพระราชนิพนธ์ "Still on My Mind"
ตอนนี้อาจจะน่าเบื่อสำหรับคนไม่ชอบหนังเครียด
ไม่ชอบหนังบทพูดเยอะๆ แต่ตั้งใจดูเถอะครับ
มันให้อะไรได้เยอะมากจริงๆ (เตรียมทิชชู่ไปด้วยนะจ๊ะ..)
และในเรื่องสุดท้าย... "พรปีใหม่"
นำแสดงโดย "เต๋อ ฉันทวิชช์" และ "หนูนา หนึ่งธิดา"
เรื่องนี้เป็นหนัง Feel Good ตามสไตล์ GDH ที่สุด
และเป็นตอนที่บทอ่อนที่สุดเช่นกัน บทกลวงมาก ไม่มีอะไรเลย..
แต่ความตลก ความฮามาเต็มมากๆ สมดีกรีคู่พระนางจาก "กวน มึน โฮ"
"เต๋อ" ในฐานะพนักงานใหม่ ผู้มี(อดีต)หัวใจรักในดนตรี
แต่ตัดสินใจทั้งเส้นทางเดินนั้นไปแล้ว
ต้องมารับบท "ผู้นำวง" ร่วมกับ "หนูนา"
ช่วยกันพาพวกพี่ๆ ลุงๆ ป้าๆ ในออฟฟิศให้เล่นดนตรีร่วมกัน
ปิดท้ายด้วยเพลงพระราชนิพนธ์อย่าง "พรปีใหม่"
ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานเพลงนี้เป็นของขวัญให้แก่ประชาชน
ฟังแล้วทั้งไพเราะ และน้ำตาไหลด้วยความคิดถึง และชื่นชมในพระปรีชาของพระองค์จริงๆ
.
.
สรุปแล้ว.. ??
หนังดีครับ ชอบมากๆ ติดแค่เรื่องเดียวคือนิสัยพระเอกตอนแรกจริงๆ
นอกนั้นชอบหมดเลยถ้ามีเวลาจะเข้าไปดูอีกรอบในโรง
อยากเชิญชวนเพื่อนๆพ่อแม่พี่น้องมิตรสหายทุกท่านไปดูกันนะครับ
เรื่องนี้ "ราคา 99 บาท" ทุกรอบ !! ทุกโรง !! (ที่นั่งข้างบนเพิ่มเงินเล็กน้อย)
และรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
#ไม่ใช่นักวิจารณ์
#ก็แค่คนชอบดูหนัง
#อนึ่งรสนิยมการดูหนังเป็นเรื่องส่วนบุคคล
#หนังโปรดของผมอาจจะไม่ใช่หนังโปรดของคุณ
------------------------------------------------------------
เลิกให้คะแนนหนัง เพราะ...
ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เกณฑ์การให้คะแนนต่างกัน
แนวหนังแต่ละประเภทก็ไม่เหมือนกัน
และบางเรื่องมันตีความรู้สึกออกมาเป็นตัวเลขไม่ได้เช่นกัน.. ^_____^