[CR] รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นราคาประหยัด งบ 20,000 บาท ภาค 1

สวัสดีทุกคนค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เจ้าของกระทู้หัดเขียนรีวิว ถ้ามีตรงไหนอ่านยาก ต้องขออภัยด้วยนะคะ

จากการเดินทางของ Pizzajourney ครั้งนี้จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่น การเดินทางทั้งหมดรวม 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. - 3 ธ.ค. 59 (เที่ยวจริงแค่ 6 วัน) ใช้งบประมาณในการท่องเที่ยวครั้งนี้ทั้งหมด 55,000 เยน (หรือ 18,150 บาท ตอนไปเรทเงินเยน 1 บาท ต่อ 0.33 เยน) ในส่วน 55,000 เยนนี้ แบ่งเป็นค่าที่พักและค่าเดินทาง 39,500 เยน ค่าอาหารและค่าฝากกระเป๋าที่ล็อคเกอร์ 15,500 เยน โดยไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินและของฝาก

รายละเอียดการเดินทางคร่าวๆ ดังนี้นะคะ
26 พ.ย. เดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง ด้วยไฟลท์ดึก 23:45 น. (นอนบนเครื่องบิน)
27-28 พ.ย. เที่ยวคาวาคูจิโกะ (Kawaguchi-ko)
29 พ.ย. เที่ยวฮาโกเน่ (Hakone)    -> วันที่ 27-29 พ.ย. เลือกซื้อ Fuji-Hakone Pass แบบ 3 วัน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
30 พ.ย. เที่ยวในโตเกียว (ย่าน Asakusa และย่าน Ueno)
1 ธ.ค. เที่ยวในโตเกียว (ย่าน Shibuya และ Harajuku)
2 ธ.ค. เที่ยวในโตเกียว ชมพระราชวังอิมพีเรียล, Odaiba และกินปลาดิบที่ตลาดปลา Tsukiji (กลับมานอนสนามบิน)
3 ธ.ค. เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยไฟลท์เช้าสุด 09:15 น.

เพื่อความกระชับ ขอตัดไปเริ่มต้นเมื่อเดินทางถึงสนามบินนาริตะเลยละกัน

วันที่ 1

หลังจากผ่านตม.เข้าประเทศญี่ปุ่นแล้ว เราจะเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบคาวาคูชิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Kawaguchiko ค่ะ ทำไมต้องเลือกไปทะเลสาบคาวาคูชิ.? ก็เพราะที่นี่เป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม รวมทั้งเป็นแหล่งที่มีที่พักเสมือนเป็นศูนย์กลางของการเดินทางท่องเที่ยวรอบๆ นี้ โดยรอบภูเขาไฟฟูจิประกอบด้วยทะเลสาบทั้ง 5 ซึ่งได้แก่ Yamanaka, Sai, Shoji, Motosu และ Kawaguchi

หลังจากรู้จักทะเลสาบคาวาคูชิกันคร่าวๆ แล้ว เราเริ่มเดินทางกันได้เลย โดยการเดินทางออกจากสนามบินเข้าตัวเมืองโตเกียวเราเลือกใช้รถไฟ Keisei skyliner หลังจากเดินออกมาจากตม. ให้มองหาป้าย TRAIN เดินตามป้ายออกมา จะเจอตู้ขายตั๋วรถไฟของบริษัท JR (สีเหลือง) และ KEISEI (สีน้ำเงิน) อยู่บริเวณทางออก โดยการออกตั๋วรถไฟเราไปออกตั๋วได้ที่ตู้ขายตั๋วโดยตรงหรือจะออกผ่านตู้ขายตั๋วอัตโนมัติก็ได้ค่ะ (จ่ายเงินผ่านบัตร PASMO จะได้ส่วนลดพิเศษนิดหน่อย) หลังจากออกตั๋วแล้วก็ไปขึ้นรถไฟกันได้เลย

ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนาริตะถึง Shinjuku ด้วยรถไฟ KEISEI Skyliner ประมาณ 50 นาที จากที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเราจะซื้อ Fuji-Hakone Pass 3 days เพื่อใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวทริปนี้ (รายละเอียด Pass จะเขียนอธิบายไว้ท้ายสุดค่ะ) เมื่อถึงสถานี Shinjuku เราเลยมุ่งตรงไปซื้อ Pass ที่ Odakyu sightseeing center บริเวณทางออก West Exit ค่ะ ราคา 8,000 เยน  จากนั้นเดินทางไปขึ้นรถบัสบริเวณทางออก South Exit ของสถานี Shinjuku ค่ะ (ปี 2016 มีการย้ายสถานีรถบัสใหม่ สามารถติดตามได้จากลิ้งค์ด้านล่างค่ะ)
http://www.mu-ku-ra.com/2016/04/highway-bus-kawaguchiko-shinjuku-2016.html

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็จะถึงสถานี Kawaguchi ซึ่งเป็นจุดต่อรถบัสและรถไฟไปบริเวณอื่นค่ะ ตอนเราไปถึงเป็นช่วงบ่ายของวัน อากาศกำลังดี อุณหภูมิ 9 องศา แต่ความไม่เป็นใจของสภาพอากาศคือมีเมฆมาก ไม่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เต็มๆ เราเลยต้องปรับแผนกันนิดหน่อย ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นช่วงของใบไม้เปลี่ยนสี เราเลยเลือกจะไปดู Maple Corridor กันในวันแรกค่ะ โดยนั่งบัส Red line จากสถานี Kawaguchi ไปลงที่ป้ายหมายเลข 19 Itchiku Kubota Art Museum แล้วเดินต่ออีกนิดนึงค่ะ มีภาพมาฝากกัน


วันที่ 2

ตื่นเช้ามาเปิดม่านดูก่อนเลย โชคดีมากอากาศดี เห็นภูเขาไฟฟูจิเต็มลูก ภาพจากระเบียงห้องค่ะ (เราจองที่พักผ่าน Airbnb นะคะ)

รีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้อง เอากระเป๋าไปฝากที่ล็อคเกอร์ของสถานี Kawaguchi แล้วไปเที่ยวกระเช้าคาชิ คาชิ กันค่ะ การเดินทางก็นั่งบัส Red line เหมือนเดิม ไปลงที่ป้ายหมายเลข 11 Plesure Cruiser/Ropeway Ent. ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้ากันได้เลยค่ะ ตอนซื้อตั๋วอย่าลืมแสดง Fuji-Hakone Pass นะคะ ได้ส่วนลดอีกเยอะค่ะ ภาพจาก Kachi Kachi Ropeway ค่ะ




หลังจากลงมาจากกระเช้าแล้ว เราเลือกเดินกลับไปที่สถานี Kawaguchi ค่ะ ระยะทางประมาณ 1.1 กม. ด้วยสภาพอากาศค่อนข้างเย็น เราสามารถเดินได้สบายค่ะ ระหว่างทางเดินกลับ ไม่ว่าจะเดินอยู่ตรงไหน ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ สวยงามจริงๆ ค่ะ

ช่วงบ่ายๆ เราก็ออกเดินทางกันอีกครั้งไปฮาโกเน่กันต่อ โดยนั่งบัสที่ป้ายหมายเลข 6 หน้าสถานี Kawaguchi เพื่อไปลงสถานี Gotemba แล้วเดินข้ามสถานีเพื่อไปรอบัสไปเมืองฮาโกเน่ ภาพด้านล่างเอามาจากเวปไซต์ของ Odakyu นะคะ


การเดินทางจากคาวาคูชิโกะไปฮาโกเน่ ปกติแล้วใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ในฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นค่อนข้างมืดไว ประมาณ 16:30 น. ก็เริ่มมืดแล้ว ควรวางแผนการเดินทางให้รัดกุมนะคะ

วันที่ 3

เที่ยวรอบฮาโกเน่ โดยเริ่มต้นจากสถานี  Hakone-Yumoto ขึ้นรถไฟจากที่นี่ไปสถานี Gora แนะนำให้พยายามเลือกที่นั่งด้านหน้าสุดของรถไฟ ฝั่งซ้ายมือไว้นะคะ เพราะวิวข้างทางเป็นภูเขา สวยงามมากค่ะ เมื่อถึงสถานี Gora แล้ว เราจะขึ้น Cable car จากตัวสถานีไปที่ยอดเขาโซอุนซัง (Sounzan) แนะนำเหมือนเดิมค่ะ เลือกที่นั่งด้านหน้าสุดให้ได้ เมื่อไปถึงที่ยอดเขาแล้วจะมีทางเดินให้ไปต่อกระเช้าขึ้นไปที่โอวาคุดานิ (Owakudani) มีภาพให้ชมนิดหน่อยค่ะ



ที่โอวาคุดานิมีอะไร.? โอวาคุดานิเป็นแหล่งน้ำพุร้อนกำมะถันที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่ค่ะ ปัจจุบันภูเขาไฟลูกนี้ยังไม่ดับนะคะ จะมีการปิดขึ้นชมหากมีการระเบิดของภูเขาไฟค่ะ เมื่อเราขึ้นกระเช้าไปถึงที่โอวาคุดานิแล้ว จะสังเกตเห็นต้นไม้และหินแถบนั้นเป็นสีเหลือง เนื่องจากเป็นผงฝุ่นของกำมะถันค่ะ


สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเรามาถึงที่นี่ก็คือการกินไข่ดำค่ะ ไข่ดำที่นี่ได้มาจากการนำไข่ไปต้มในน้ำพุร้อนกำมะถัน ทำให้เปลือกมีสีดำแต่ด้านในยังเป็นไข่ปกตินะคะ มีความเชื่อกันว่าแร่ธาตุในน้ำพุร้อนนี้มีผลดีต่อร่างกาย หากกินไข่ดำ 1 ฟอง ทำให้อายุยืนขึ้น 7 ปี ดังนั้นเราจะพลาดกันได้ยังไง ไปซื้อเลยค่ะ 1 ห่อมีไข่ 5 ฟอง ราคา 500 เยน มีเกลือให้ในห่อด้วยนะคะ

หลังจากกินไข่ดำกันเสร็จ เราก็เดินทางด้วยกระเช้าเช่นเดิมค่ะ จากสถานี Owakudani มาที่สถานี Togendai เพื่อขึ้นเรือโจรสลัดค่ะ โดยเรือโจรสลัดมีเส้นทางเดินเรือเป็นสามเหลี่ยมดังนี้ค่ะ


มีรูปให้ชมกันค่ะ





หลังจากขึ้นฝั่งกันที่ท่าเรือ Hakonemachi แล้ว เราก็ไปต่อกันที่สวน Onshi ค่ะ โดยนั่งบัสสาย H จากที่นี่ไปลงป้าย onshi-koen-mae ซึ่งจะจอดที่หน้าสวนออนชิเลย ซึ่งหากข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามสวนออนชิก็จะมีสถานที่เดินเล่นที่สวยงามคือแนวต้นสนโบราณ ถ้าสภาพอากาศดี ฟ้าเปิด เราจะสามารถเห็นฟูจิได้จากเมืองฮาโกเน่เช่นกัน




การเดินทางกลับจากฮาโกเน่เข้าโตเกียวให้เรานั่งบัสจากสถานี Hakone-Yumoto ไปลงที่สถานี Odawara แล้วขึ้นรถไฟของ Odakyu เข้าโตเกียวได้เลย หรือหากไม่ต้องการต่อบัส สามารถเพิ่มเงิน 890 เยน เพื่อนั่งรถไฟของ JR ขบวน Romance car จากสถานี Hakone-Yumoto เข้าโตเกียวได้โดยตรงค่ะ

บ๊ายบายฮาโกเน่


แนะนำ Fuji-HakonePass 3 days
เป็น Pass ที่ใช้ในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวชมรอบภูเขาไฟฟูจิจากทะเลสาบทั้งห้า และท่องเที่ยวภายในฮาโกเน่ รวมทั้งสามารถใช้เป็นส่วนลดในการเข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่ต้องเสียค่าเข้าชมได้ โดยตอนซื้อ Pass ต้องระบุการเดินทางที่แน่นอน หากเราเริ่มต้นการเดินทางจากฟูจิ ขากลับต้องกลับจากเส้นทางฮาโกเน่ หรือหากเราเริ่มต้นการเดินทางจากฮาโกเน่ ขากลับต้องกลับจากฟูจิเท่านั้น การใช้ระบบขนส่งเพียงแสดง Pass ที่ทางเข้า(สถานีรถไฟ หรือรถบัส)ก็สามารถเดินทางได้ฟรีค่ะ

รีวิวในเมืองโตเกียวจะมาเขียนให้อีกทีนะคะ..................

ภาค 2 : http://ppantip.com/topic/35899358
ภาค 3 : http://ppantip.com/topic/35899644
ชื่อสินค้า:   Fuji-Hakone Pass
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่