กลับมาอีกครั้งหนึ่งค่าากับโดโด้ผู้นี้นี่เอง หายไปยาวนานถึง 2 ปี ไม่ได้หายไปไหนค่ะ  ยังคงมีทริปที่ดองค้างไว้หลายทริปทีเดียวค่ะ โด้พึ่งผ่านช่วงมรสุมแห่งการฝึกงานมา ฝึกทั้งปี 2 ปี 3 เลยไม่มีวันหยุดปิดเทอมเหมือนคนอื่นเขา แอบดองรีวิวไว้เพียบค่ะ ตอนนี้ปี 4 แล้วจะมีปิดเทอมกับเขาซะที มีติดทำโปรเจคจบอยู่บ้างแต่พอมีเวลาให้ได้มาเล่าสู่กันฟังบ้างค่ะ เอาล่ะเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า รีวิวนี้ดองไว้ปีกว่าละค่าาา หวังว่าจะพอจำได้




เมื่อปีที่แล้วช่วงต้นเดือนกรกฎาคม โด้มีโอกาสพาม๊ากับน้องตัวแสบไปเที่ยวญี่ปุ่นมาค่ะ ญี่ปุ่นเนี้ยให้ไปอีก 10 รอบก็ไม่เบื่อ เว่อจริงอะไรจริง ตอนนั้นเข้าหน้าร้อนของญี่ปุ่นแล้วก็จริง แต่บอกเลยโชคไม่ค่อยดี เอ๊ะหรือว่า โชคดีก็ไม่รู้ มรสุมเข้า ฝนตกทุกวันเลยยย อากาศก็ประมาณ 20 องศาต้นๆเท่านั้นเอง ชุดก็เตรียมรับแดดเต็มที่เลย หนาวซะงั้น เอาไงล่ะที่นี้ ไอที่เตรียมๆมาหลายเดือนจะไป Nikko จะไป Yokohama ล่มไม่เป็นท่า เป็นไงเป็นกัน ไม่เป็นไรอย่างน้อยถือว่าหนีร้อนมาเที่ยวละกัน


ทริปนี้โด้ไปเที่ยวแค่สั้นๆเพราะเป็นช่วงฝึกงานด้วย เพราะฉะนั้นจะขอรีวิวในกระทู้เดียวให้จบไปเลยละกันค่ะ อย่างที่บอกไปว่าทริปนี้เจอฝนเต็มๆ ดังนั้นทริปนี้เลยจะเป็นทริปเดินเล่นชิวๆที่โตเกียวค่ะ ไม่ได้ออกไปจังหวัดอื่นๆเลย จะขอสอดแทรกวัฒนธรรมญี่ปุ่นและความรู้ต่างๆแทนการรีวิวสถานที่เที่ยวแบบเต็มๆอย่างทุกทีแทนละกันค่ะ โตเกียวน่าจะมีพี่ๆที่ประสบการณ์โชกโชนกว่าโด้มารีวิวไว้พอสมควรแล้ว เอาละงั้นมาลุยกันเลยดีกว่า

ทริปนี้โด้เดินทางด้วยหางแดง X สุดที่รัก Thai Airasia X เหมือนเดิมค่ะ ทริปนี้เกิดจากโด้ไปเม๊ากับเพื่อนไว้เยอะ ทริปนี้เลยมีเพื่อนกับครอบครัวติดสอยห้อยตามไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็แยกกันเที่ยวค่ะ เพราะโด้เคยไป Tokyo มาแล้วรอบนึง กลัวบ้านโด้จะเบื่อกันเลยต่างคนต่างไป ราคาที่ได้ตอนนั้นถ้าโด้จำไม่ผิดนะคะคนละ 7,XXX บาท รวมน้ำหนักกระเป๋าแล้ว วิธีตอนนั้นคือจองแยกขาไปขากลับค่ะ โชคดีมากที่ตอนนั้นไฟลท์ขากลับ Airasia Japan ลดราคากระหน่ำเหลือเที่ยวละ 2,XXX บาทเท่านั้นเอง เลยได้ตั๋วราคาถูกมาค่ะ ตอนนี้หาไม่ได้ล้าวววว ฮือออ เป็นเทคนิคนึงที่ทำได้นะคะ สามารถเอาไปลองใช้กันได้ค่ะ

สาวๆไม่ยอมให้เปิดเผยตัวตน อ่ะแปะหน้าให้

มาถึงสนามบินนาริตะเป็นที่เรียบร้อยย ไว้ทำงานก่อนจะพาม๊านั่ง full service สบายๆ


ส่วนที่พักในครั้งนี้โด้เลือก Chain Hotel อย่าง Super Hotel สาขา Ikebukuro ได้ยินชื่อเสียงเรื่องอาหารเช้ามานานต้องขอจัดกับเขาบ้างละ สาขานี้ก็นั่งรถไฟจาก Narita มาด้วยรถไฟสาย NEX หรือ Narita Express นั่นแหละค่ะนั่งนานพอสมควรเลย นั่งกันเบื่อไปข้างนึง วันแรกที่ไปถึงเลยไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ ฝนตกตลอดทางที่มา แต่หิวไส้กิ่ว โด้ไม่ได้สั่งอาหารกันบนเครื่องบินก็มาหาทานแถวที่พักเอา มาเจอร้านนึงค่ะน่าทานมาก

ระหว่างต่อแถวซื้อตั๋ว NEX เดินทางเข้าไปในเมืองกัน

ภายในขบวนรถไฟ NEX


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใครที่กังวลกับขนาดกระเป๋าของตัวเอง เอาขึ้นรถไฟจะเกะกะรึเปล่า จะไม่มีที่วางมั้ย ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ มีที่วางให้เป็นระเบียบมากๆ นี่กระเป๋าของบ้านโด้นี่มันเกิดมาเพื่อวางตรงนี้จีจีนะ

ร้านที่โด้ทาน เมนูส่วนใหญ่มีทั้งหมูและเนื้อเลยค่ะ คนไม่ทานเนื้อก็สามารถทานได้ เผอิญว่าช่วงนี้โด้กำลังแพลนทริปถัดไป เป็นทริปเรียนจบ มีเพื่อนทานเนื้อไม่ได้เลยพอจะเข้าใจความรู้สึก หาร้านอาหารยาก เอาเป็นว่าร้านนี้ทานได้สบายใจหายห่วง แถมอร่อยด้วยค่ะ ราคาไม่แพงเลย ตามสไตล์ร้านอาหาร Chain แบบนี้ ชอบความเป็นญี่ปุ่นตรงนี้ค่ะ น้ำดื่มเนี้ยส่วนใหญ่จะบริการแบบนี้แทบทุกร้านเลยค่ะ คือมีให้เรายกเทกันฟรีๆไปเลย ช่วงหน้าหนาวก็มีชาร้อน ช่วงปกติก็มีน้ำเย็นให้ทานกัน เอาล่ะค่ะมาดูหน้าร้านละก็เมนูอาหารกันเลยค่ะ

นี่เลยค่ะ น้ำดื่มที่มีไว้บริการแทบทุกร้าน

เมนูที่โด้เลือกค่ะ เป็นโรค ชอบหอมญี่ปุ่นมาก ทุกเมนูต้องสั่งถ้ามันมี ถ้าโด้จำไม่ผิดก็น่าจะเป็นหมูนะคะ


ท้องอิ่มแล้วเดินเอากระเป๋าไปเก็บที่ที่พักกันค่ะ เอาภาพระหว่างทางมาฝาก


ขอแนะนำที่พักกันหน่อยละกันค่ะ ที่พักที่โด้ไปพักมาชื่อเต็มๆคือ Super Hotel Inn Ikebukuro Kitaguchi ซึ่งปัจจุบันถูกอัพเกรดให้มีความหะรูหะราเป็นที่เรียบร้อย ไม่ค่อยแน่ใจว่าปัจจุบันเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนเหมือนกันค่ะ งั้นขออนุญาติเอารูปจากเว็บไซต์มาฝากแทนละกันค่ะ กดดูใน spoil ได้เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.superhoteljapan.com/en/s-hotels/ikebukuro-kita/



ยังมีความคล้ายเดิมอยู่บ้างค่ะ ส่วนจุดเด่นเรื่องอาหารอัพเกรดไปไกลเชียว หมอนยังมีให้เรื่องความหนานุ่มเช่นเดิมค่ะ
ส่วนนี้เป็นของที่โด้ไปพักค่ะ

ห้องน้ำก็ตามมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่นเลยค่ะ คิดว่าตอนนี้น่าจะไม่ต่างมาก แต่ความหรูของห้องนี่ไปไกล
ในย่านนี้ถือว่าดีงามพระรามแปด ของกินตรึมที่เดินช็อปก็เพียบดองกี้ก็มี เสียอย่างเดียวโซนที่โด้อยู่เป็นโซนกินดื่ม ดึกๆมีคนเมาเยอะ คนจรจัดก็มีเหมือนกัน แนะนำถ้าพักให้พักฝั่งตะวันออกของสถานีดีกว่าค่ะ หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ยัยน้องสาวตัวแสบทำล้อกระเป๋าเดินทางหักกระเดนออกมา เลยต้องแทรกแพลนไปแวะหาซื้อกระเป๋าใบใหม่ซะหน่อย เอาเป็นว่าวันนี้เดินเล่นแถวๆที่พักก่อนละกันค่ะ

ร้าน Gu หลายๆคนน่าจะพอทราบอยู่แล้ว เป็นแบรนด์รองของ Uniqlo นั่นเอง เป็นแบรนด์ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนญี่ปุ่นในยุคที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีและการแข่งขันราคากันในตลาดเสื้อผ้าปัจจุบัน น้านนมีความรู้ พึ่งเรียน marketing มาหมาดๆ จัดไป



แวะเดินห้างแถวๆนั้น มีร้าน Pokemon Store ด้วยนะ Blue Seal คุ้นๆเนอะ Foremost รึเปล่าา

มาถึงมื้อเย็น โด้พาสองหมูไปทานข้าวหน้าปลาดิบหรือ Kisendon ร้านนี้เป็นร้าน Chain อีกเช่นเดิม โด้ชอบร้านสไตล์นี้เพราะราคาไม่แพงมากและก็หาง่าย แถวในตัวเมืองร้านแบบนี้เพียบค่ะ ร้านเหล่านี้ตอบโจทย์หนุ่มสาวออฟฟิศ ซาลารี่แมนของญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ด้วยชีวิตที่เร่งรีบ ร้านแบบ fast food แต่ไม่ junk food เนี้ยเลิ๊ฟเลย


เมนูที่บ้านหมูสามตัวสั่ง อันนี้ของโด้เอง อยากจะลองทูน่าสับของญี่ปุ่นเขาจะเป็นยังไง

อันนี้ของน้องสาวโด้ รสชาติเนี้ยไม่ได้เว่อวัง ยอดเยี่ยมระดับคุณจิโร่ แต่ว่าพอฟินได้ระดับนึง ประหยัดตังไปได้เยอะค่ะ

ขอจบรีวิววันแรกไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ยังมีเหลือสอบอีก 2 ตัวก่อนจะปิดเทอม ขอบคุณที่เข้ามาติตตามนะคะ ทริปนี้อาจจะไม่ได้ประหลาดแหวกแนวเหมือนรีวิวที่ผ่านๆมา แต่รับรองความฟินกับญี่ปุ่นของโดโด้นั้นอัดแน่นเหมือนเคย อย่าลืมติดตามวันถัดๆไปด้วยนะคะ