เรารู้จักทาคุยะ คิมุระ ในฐานะพระเอกละครญี่ปุ่นมา 20 ปี
แต่เพิ่งมาเป็นแฟนคลับ ติดตามผลงานอย่างใกล้ชิดมาได้ 2 - 3 ปีค่ะ

ส่วนตัวเราคิดว่า ความดังของคิมุระซังในญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 2 ยุค
คือ ยุคคลั่งไคล้ ดังทะลุปรอท ฮิตถล่มบ้านถล่มเมือง ฮิตแบบเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ ทั้งเกาะ
แถมลามไปต่างประเทศด้วย ช่วงพีคนี้น่าจะเริ่มตั้งปี 1994 มาพึคจริงๆ 1996 เป็นต้นมา ถึง 2000
แล้วพี่แกก็แต่งงาน ทำสาวๆ อกหักไปค่อนประเทศ แต่ละครก็ยังเรทติ้งทะลุฟ้า
มาจนถึงปี 2003 หรือ 2004 จากนั้นก็ดังแบบค้างฟ้าอยู่ในจุดที่สูงที่สุด
เป็นดาราในดวงใจคนญี่ปุ่นตลอดกาล ขึ้นหิ้ง Hall of Fame ตั้งแต่หลังเพลง
Sekai ni hitotsu dake no hana ของ SMAP ขายได้ถล่มทลายเป็นต้นมา
คือความดังไม่ได้ลดลงเลย ความคลั่งไคล้ก็ยังมีคนคลั่งไคล้อยู่ มีแฟนพันธุ์แท้
แต่ ได้รับความยอมรับนับถือเพิ่มมากขึ้น แล้วจากนั้นก็มีดารา ไอด้อลคลื่นลูกใหม่ เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
มีดาวรุ่งที่ผ่านมาแชร์ความสนใจของผู้คนเรื่อยๆ มีคนที่บางช่วงเป็นกระแสมากกว่า
แต่คิมุระซังกับ SMAP เป็นอะไรที่อยู่กับคนญี่ปุ่นในทุกๆ วัน
จนคนไม่มีทางจะลืมได้ไปแล้ว และยกย่องให้เป็นวงของประชาชน วงแห่งชาติ ไปแล้ว

ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็คงเทียบได้กับพี่เบิร์ดช่วงพีคได้มั้งคะ
แต่เป็นพีคที่นานมากจริงๆ นะ และพีคสุดๆๆๆๆ จริงๆ
อาจจะต้องบวกความพีคแบบศรรามมอสแท่งณเดชน์คุณอานิรุตติ์พี่ดู๋ฯลฯ
และคนที่พีคที่สุดในแต่ละปีของแต่ละแวดวงของเมืองไทยเข้าไปด้วย
เพราะเค้าไม่ได้เป็นนักร้องอย่างเดียว หรือเป็นดาราอย่างเดียว แต่ทำทุกอย่าง
ร้อง เต้น เล่นหนังเล่นละคร ทำรายการโทรทัศน์ เป็นดีเจ เขียนหนังสือ เป็นราชาโฆษณา
เล่นกีฬาเก่ง เป็นนายแบบ ผู้นำแฟชั่น ฯลฯ

คนๆ นี้ เราว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของ modern Japan ที่ได้รับฉายาว่า
The man who represent Japan และ ผู้ชายอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
เป็นคนที่มีภาพลักษณ์ เท่ตลอดกาล ออกรายการไหน ใครพูดถึงก็ต้องพูดว่า kakkoii (เท่, หล่อ สมาร์ท)
อะไรที่เค้าใส่ อะไรที่เค้าใช้ ทรงผมที่เค้าไว้ ผู้ชายญี่ปุ่นทำตามกันทั้งประเทศ
จนเกิด kimutaku phenomenon ใส่อะไรคนก็ตามแห่ซื้อจนยอดขายพุ่งกระฉูด
ขนาดขายของแพงอย่างขายรถ Toyota RAV4 ยอดขายยังสูงขึ้นจนเทียบกับยอดเดิมไม่ได้
(จนถึงปัจจุบัน ปี 2015 รถรุ่นที่คิมุระซังโฆษณาก็ยังทำยอดขายได้ดีที่สุด)
โฆษณาลิปสติก คนก็แห่กันไปขโมยโปสเตอร์จนเกลี้ยง ถึงขนาดต้องจ้าง รปภ.
มายืนเฝ้าโปสเตอร์ใหญ่ๆ จุดที่หายบ่อยๆ และยอดขายลิปสติกก็ขายดีมากๆๆ
ทุกวันนี้ยิ่งเห็นชัด เพราะมีร้านค้าออนไลน์ เสื้อ กางเกง รองเท้า กระเป๋า
พอวันนี้ใส่ออกรายการปุ๊บ อีกสักพัก Rakuten, Amazon ขึ้น sold out ทันที

นอกจากภาพลักษณ์ที่โด่งดังเรื่องความ kakkoii แล้ว
เราว่าเค้ามีภาพลักษณ์เฉพาะตัวอย่างนึง ที่ทำให้เค้าได้ชื่อว่า
"ผู้ชายที่เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น" นั่นคือ เค้าเกลียดความพ่ายแพ้
(makezugirai) เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและพยายามอย่างถึงขีดสุด
ตั้งใจทำทุกอย่างเต็มที่ สุดแรงเกิด 120% ไม่ถอดใจง่ายๆ ถึงจะยากมาก
หรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง ตั้งแต่เดบิวท์ SMAP ก็ล้มลุกคลุกคลาน
ต้องสู้มาตลอด ผู้คนเห็นความพยายามของเค้ามาตั้งแต่ปี 1991
เห็นมาตั้งแต่เป็นไอดอลวงแรกที่ลุกขึ้นมาทำวาไรตี้ แต่งหญิง เล่นตลกออกทีวี
ออกรายการโดนแกล้ง แข่งเกมวิบากๆ แข่งบาส แข่งทำอาหาร แข่งตอบคำถาม
มี Challenge ให้ดูทางทีวีมาเกือบ 30 ปี และที่สำคัญ เค้าเป็นคนที่
เก่งอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้ดี อะไรที่ไม่คิดว่าจะทำได้
เค้าก็ทำได้ เช่น ชู้ตลูก 3 แต้มลงในวินาทีสุดท้ายจนทำให้ทีมพลิกกลับมาชนะ
กระโดดสูง กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ได้สูงกว่าตัวเองเกือบ 2 เท่า
ดึงผ้าปูโต๊ะโดยไม่ให้แก้วน้ำที่เรียงอยู่ตกลงมา ยิงธนู ยิงปืน
ตอบคำถามแฟนพันธุ์แท้ One Piece ชนะเลิศ เล่นไตรกีฬา
ชู้ตบาสแบบกติกาพิศดารยากๆ ให้สต๊าฟทำ 500 ครั้งยังไม่มีใครทำได้
เล่นเกมโชว์แบบที่ทลายกำแพงที่มีคนเคยทำไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ฯลฯ
แล้วคนญี่ปุ่นก็เลยจำเค้าในความพยายาม และให้ความนับถือเค้าสูง
เราคิดว่าแบบนั้นนะคะ

แต่คิมุระซังก็มีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีด้วย คือ ถูกมองว่าเป็นคนเลือดร้อน
มักจะแสดงอารมณ์ ชักสีหน้า คิดยังไงก็ออกที่หน้าหมด
จะเห็นได้ว่าคนที่เลียนแบบดารา หรือการวาดภาพการ์ตูนแทนตัวเค้า
ในนิตยสาร (ศิลปินค่ายนี้ห้ามถ่ายรูปและห้ามเอารูปถ่ายไปใช้ออกสื่อ
โดยไม่ได้รับอนุญาต) มักจะทำหน้าโมโห หรือวาดให้ออกมาดูโกรธๆ
มีเส้นสติขาดผึงอยู่ที่หน้าผากอยู่บ่อยๆ อาจเป็นเพราะเวลาอยู่กับสแมป
มีช่วงนึงรับบทเป็นคนที่ดุน้องๆ ด้วย คือตลกญี่ปุ่นมีแนวนึงคือ Boke กับ Tsukkomi
(คนถูกแกล้ง กับ คนที่แกล้ง) แล้วเฮียแกก็ทำหน้าที่ Tsukkomi ตลอดๆ
ทั้งๆ ที่ตัวจริงของพี่เค้า คนที่ได้ร่วมงานพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสุภาพ
มีมารยาทดีมาก ถ่อมตัว และให้ความสำคัญกับทีมงาน เปิดกว้างรับฟัง
ความคิดเห็นของทีมงานมากๆ ละเอียดอ่อนในการสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ทำงานด้วย
เช่น พยายามจำชื่อของทุกคนในกองถ่ายให้ได้ ไม่ใช้ห้องแต่งตัว แต่อยู่
ท่ามกลางคนในกองในช่วงพัก เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ฯลฯ

แล้วทั้งตัวเฮียเอง ทั้งคนอื่น ก็บอกว่าพี่แกเนี่ย เป็นคนซาดิสต์ (S) ขั้นสุด
เทราคิว โด S และเป็นคนทะลึ่งอีกด้วย สังเกตจากรายการวิทยุ
คำถามที่ส่งมาจะติดเรทอยู่ประจำ ซึ่งทาคุยะกัปตันก็จะตั้งใจตอบอย่างจริงจัง

แต่เราว่าภาพลักษณ์ที่ดีของเค้ามีน้ำหนักเยอะกว่าค่ะ โดยเฉพาะจาก
ฝีมือการแสดง และในฐานะ SMAP ยิ่งตอนนี้ ถือเป็นศิลปินรุ่นใหญ่
อายุก็ 44 แล้ว ก็ได้รับการนับถือมากค่ะ ใครได้ร่วมงานด้วยก็ถือว่า
เป็นบทพิสูจน์ว่าประสบความสำเร็จในการทำอาชีพแล้ว (ดูจากที่ช่างภาพ
ผู้กำกับชื่อดัง และดารานักแสดงพูดถึงตัวเค้านะคะ มีหลายคนพูดแบบนี้ค่ะ)