สวัสดีค๊าาา ทุกคน ห่างหายไปนานกับกระทู้ใน Pantip
กระทู้นี้ จ๋าจะพาทุกคน....."ไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ฮัมบรูกค่ะ!!" ^^

      เดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงของ Autumn Season ดังนั้น เป็นช่วงที่อยากพรีเซ้นท์จริงๆ เผื่อปีหน้าใครมีแพลนมาเที่ยวเยอรมนี เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน เกือบทุกที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันเหลือง ทอง ส้ม แดง และ น้ำตาลจากธรรมชาติ ในช่วงตุลาคม - พฤศจิกายน 2 เดือนของ "ฤดูกาลแห่งสีสัน" สัญญาณของการเข้าสู่ฤดูกาลอันหนาวเหน็บแต่อบอุ่นใจอีกครั้งกับคริสมาสตร์ที่กำลังจะมาถึง


      หลังชีวิตออแพร์ 319 วัน ในเมือง Paderborn  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.jajarmekatz.com/blog/diary/  จ๋าก็ได้ย้ายมาเป็นประชากรของเมืองฮัมบรูก ได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ก็เลยมีโอกาสได้เข้าไปเที่ยวในตัวเมืองบ่อยขึ้น และได้เรียนรู้อะไรต่างๆในเมืองนี้มากขึ้น แต่พูดเลย...เมืองนี้ใหญ่จริงๆ อยู่มา 4 เดือนแล้วยังไปเที่ยวมาไม่ทั่วเลยค่ะ 555+


       กระทู้นี้เกิดขึ้น เนื่องจากวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จ๋าป่วย  ไอทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ ไอจนเหนื่อย และมีไข้นิดหน่อย เลยได้หยุดงาน หลังจากไปหาคุณหมอ จ๋าจึงตัดสินใจนั่ง S bahn เข้าเมือง อยากจะไปเดินเล่นสูดอากาศเบาๆ เพราะวันนี้ท้องฟ้าสวยงามมาก มีแดดอ่อนๆ แต่อากาศก็เย็นมากๆเช่นกัน อุณหภูมิ 5-9 องศาเซลเซียสค่ะ


        โดยส่วนตัวแล้วจ๋าชอบอากาศแบบนี้มากๆค่ะ อากาศเย็นสบาย แต่งตัวสนุกดีนะ 555+ ท้องฟ้าสวย สดใส ลมไม่แรง มีแสงแดดอ่อนๆ คนไม่พลุกพลานเกินไป ( เพราะเป็นวันทำงาน ) สงบ ได้ยินเสียงนก เสียงน้ำไหล มองไปทางไหนก็สวยงาม เจริญหูเจริญตา โอ๊ววววว ชีวิตดี๊ ดี  555+  ซึ่งความจริงแล้วคนป่วยควรนอนพักผ่อนอยู่บ้านเน้าะ 555+ ว่ามั้ยคะ ?? แต่จ๋าเชื่อว่าการได้มาเดินเล่นชมนกชมไม้เห็นของสวยๆงามๆ อยู่กับธรรมชาติและได้ทำในสิ่งที่เรารัก มันทำให้จิตใจเราเบิกบาน พอสุขภาพจิตดี ร่างกายก็เลยดีขึ้นไปด้วยค่ะ เพราะภายนอกเราสามารถนุ่งห่มสวมเสื้อผ้าหนาๆป้องกันอากาศหนาวได้อยู่แล้ว ดังนั้นจ๋าจึงไม่กังวลค่ะว่าตัวเองจะป่วยหนักไปกว่าเดิมหรือเปล่า ?


        เอาล่ะค่ะ จ๋าขอพาทุกคนไปเที่ยวสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดใน Hamburg นั่นก็คือ  Planten  un  Blomen  ( พลานเท่น อุ่น โบลเม่น ) เป็นชื่อในภาษาพูดของคนเยอรมันทางตอนเหนือ ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า "Pflanzen  und  Blumen" ในภาษาอังกฤษก็คือ "Plants  and  Flowers" และในภาษาไทยแปลว่า "พืช และ ดอกไม้" นั่นเองค่ะ





       Planten un Blomen สร้างเมื่อ ค.ศ. 1930 ตอนนี้ก็อายุ 86 ปี เป็นสวนสาธารณะที่อยู่ติดใจกลางเมืองฮัมบรูก มีพื้นที่ประมาณ 47 เฮคเตอร์ หรือ 0.47 ตารางกิโลเมตร โดยในสวนสาธารณะก็จะแบ่งเป็นโซนของสวนดอกไม้  น้ำพุ ลานอเนกประสงค์ ลานกิจกรรม สนามหญ้า สนามเด็กเล่น สวนญี่ปุ่น เป็นต้นค่ะ

       โดยจะจัดกิจกรรมในแต่ฤดูแตกต่างกันออกไป  จะคึกคักเป็นพิเศษช่วงฤดูร้อน  โดยเฉพาะช่วงเดือน มิถุนายน-กลางเดือนกันยายน เราจะได้เห็นผู้คนมานอนอาบแดด  ปิ๊กนิค เดินเล่น นั่งทานไอศกรีม ทานเค้ก จิบกาแฟกัน ช่วงฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่มีกิจกรรมเยอะมากค่ะ เน้นกิจกรรมสานสัมพันธ์ครอบครัวและวัฒนธรรม


         พอตกช่วงกลางคืนก็จะเป็นเวลาของ "Nightly light and Water show" หรือ "Wasser spiele" เป็นโชว์แสดงน้ำพุพร้อมแสงไฟและดนตรี สวยงามและประทับใจมากค่ะ ^^

        ส่วนฤดูหนาวในตอนนี้ ก็มีลานสเก็ตน้ำแข็งค่ะ ถ้าไปจะเก็บบรรยากาศมาฝากทีหลังนะคะ

         สำหรับตารางการแสดง ตารางกิจกรรมต่างๆของแต่ละฤดูก็จะมีแจกตามสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ราชการ สำนักงานต่างๆ หรือเว็บไซต์ของ
www.hamburg.de ค่ะ


การเดินทาง

       ถ้าใครแวะมาเที่ยว Hamburg แล้วอยากมาเดินเล่นที่นี่ สามารถนั่ง S bahn จาก Hamburg Hauptbahnhof ( Hamburg Train Station ) มาลงที่สถานี  Dammtor โดยนั่ง S bahn หมายเลย S11 , S21 , S31 หรือถ้าชอบเดิน จะเดินมาก็ได้นะคะ เพราะห่างกันแค่สถานีเดียวเท่านั้นค่ะ ถ้ารถส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำเพราะหาที่จอดยากมากๆ พอถึงสถานีให้ลงบันไดเลื่อนและเลี้ยวขวา ถ้าทางซ้ายมือจะเป็นทางไปมหาวิทยาลัย พอเลี้ยวขวาแล้วให้เดินมาตามทางแล้วเลี้ยวซ้าย แล้วจะเจอประตูทางออก


















         ถ้าช่วงไหนจ๋ามีโอกาสหรือว่างจากการทำงานบวกกับอากาศที่ดี๊ดี จ๋ากับแฟนก็จะชอบมาเดินเล่นและถ่ายรูปเล่นที่นี่ค่ะ สวยทุกฤดูจริงๆ ( แต่ยังไม่เคยเห็นช่วงหิมะตก ) ไม่ว่าจะช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือ ฤดูร้อน ล้วนแต่ร่มรื่น สดชื่น สวยงามมากๆ แต่จะชอบเป็นพิเศษก็โดยเฉพาะช่วงนี้



       "ฤดูใบไม้ร่วง" ( Autumn ) หรือในภาษาเยอรมันเรียก ( Herbst ~ แฮรบ..ส ท ) นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงที่นี่สวยงามขนาดไหน เรามาชมกันเลยค่ะ ^__^  













มาถึงละค่ะ สวนญี่ปุ่นแห่ง Planten un Blomen  












ปล. ไม่ใช่สปอนเซอร์นะคะ ^.^


โอเค เรามาดูกันต่อเลยค่ะ









มุมพีคคคค !!!




             นี่แหละค่ะ ที่ทำให้ที่นี่มีความเป็นญี่ปุ่น มีความฟิน มีความคิเรเนะมาก 5555+ เนื่องจากมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ที่นี่ มีกลิ่นไอของสวนญี่ปุ่นแบบสมบูรณ์แบบมากๆ  ไม่ว่าจะเป็นต้นเมเปิ้ล , ต้นสนญี่ปุ่น และเรือนน้ำชาที่ตั้งอยู่ตรงจุดที่เลือกแล้วว่า สามารถชมพระจันทร์ที่สะท้อนเงาอยู่ในน้ำได้หากนั่งอยู่ในเรือนน้ำชา มีเส้นทางการเดินที่ปูด้วยหิน และมีหินก้อนใหญ่วางเรียงกันในน้ำ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ในการเป็นสะพานหินแบบธรรมชาติได้ ซึ่งล้วนแต่มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความงามของธรรมชาติ ปรัชญา ศาสนา และความเชื่อแบบ Zen นั่นเองค่ะ






    โอเคค่ะ เรามาชมอีกมุมหนึ่ง เมื่อเราอยู่ฝั่งของเรือนน้ำชา และมองตรงไปก็จะเห็นโรงแรม Radisson Blu Hotel ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหลังค่ะ





มาดูสวนเล็กๆหลังเรือนน้ำชากันค่ะ