เรื่องของเรื่องคือ ก็อกน้ำห้องน้ำผมมันพัง และผมก็ปล่อยมันเป็นแบบนั้นนานหลายสัปดาห์ คือมันพอใช้ได้บ้างแต่ก็รำคาญ
จนภรรยาเปรยขึ้นมาลอยๆ ว่า "ดูสิว่าพ่อจะซ่อมมันไหม กะอิแค่เปลี่ยนก็อกน้ำ?"
เสียเชิงชายพ่อบ้านมากๆ เมื่อได้ยินคำนี้....จึงจัดแจงออกไปซื้อก็อกน้ำตัวใหม่ ตั้งใจด้วยความมุ่งมั่นว่า วันหยุดนี้จะจัดการให้มันจบๆ
มุมมองภรรยาคิดว่า การเปลี่ยนก็อกน้ำไม่ต่างกับการแกะลูกอมเข้าปาก...
มันไม่ใช่ซะแร้วววว ตอนแรกคิดว่าอ่างล้างหน้าแบบนี้ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร....แต่มันไม่ใช่
ตอนแรกมีค้อนปอนด์ด้วยนะ แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้เลยไม่เอามากองรวม
อยากรู้เหลือเกินว่าตอนติดตั้งมันลำเค็ญแค่ไหน....
ภรรยาเปรยขึ้นมาว่า
"โทรหาช่างพิทักษ์ดีกว่ามั๊ย?"
เป็นคุณๆ จะรู้สึกไง!
ฮ่าๆ มาครึ่งทางแระ
รูปนี้กะจะเอาไปให้ภรรยาดู ให้เห็นถึงความลำบากของมนุษญ์ผัวซะมั่ง
บางทีก็คิดนะว่า...อืมมม งานนี้มันเหมาะกับเราจริงไหม?
พอใส่ก็อกน้ำใหม่เข้าไปได้อย่างทุลักทุเล....ปัญหาอีกอันก็คือ...การยกแท่นฐานใต้อ่างหนักๆ กลับคืนจุดเดิม
จุดนี้ถือว่าทรมานที่สุด คือคุณจะต้องใช้ไขควงค่อยหมุนสกรูในพื้นที่แคบๆ ได้ทีละรอบๆ ช้าๆ เพราะมันหนืดมือมากๆ เนื่องจากมันจะต้อง
ยึดกับก้อนพลาสติกที่เป็นแท่นรับฐานอีกที...นาทีนี้แนะนำให้กำหนดลมหายใจเข้าออก แผ่เมตาไปด้วยจะดีมาก
อยู่ไต้ฐานไม่เอาสวยก็ได้มั๊ง....
แต่ในที่สุด ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง...ผลงานที่ได้อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ภรรยาขึ้นมาดูผลงาน แล้วเปรยเบาๆ ว่า
"เห็นมะ...กะอิแค่เปลี่ยนก็อกน้ำ" แล้วก็เดินจากไป
บทสรุปของผมวันนี้คือ
คิดจะเปลี่ยนก็อกน้ำคราวหน้า โทรหาช่างพิทักษ์เถอะครับ!
อย่าริอ่านทำการใหญ่(เปลี่ยนก็อกน้ำ)
จนภรรยาเปรยขึ้นมาลอยๆ ว่า "ดูสิว่าพ่อจะซ่อมมันไหม กะอิแค่เปลี่ยนก็อกน้ำ?"
เสียเชิงชายพ่อบ้านมากๆ เมื่อได้ยินคำนี้....จึงจัดแจงออกไปซื้อก็อกน้ำตัวใหม่ ตั้งใจด้วยความมุ่งมั่นว่า วันหยุดนี้จะจัดการให้มันจบๆ
มุมมองภรรยาคิดว่า การเปลี่ยนก็อกน้ำไม่ต่างกับการแกะลูกอมเข้าปาก...
มันไม่ใช่ซะแร้วววว ตอนแรกคิดว่าอ่างล้างหน้าแบบนี้ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร....แต่มันไม่ใช่
ตอนแรกมีค้อนปอนด์ด้วยนะ แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้เลยไม่เอามากองรวม
อยากรู้เหลือเกินว่าตอนติดตั้งมันลำเค็ญแค่ไหน....
ภรรยาเปรยขึ้นมาว่า
"โทรหาช่างพิทักษ์ดีกว่ามั๊ย?"
เป็นคุณๆ จะรู้สึกไง!
ฮ่าๆ มาครึ่งทางแระ
รูปนี้กะจะเอาไปให้ภรรยาดู ให้เห็นถึงความลำบากของมนุษญ์ผัวซะมั่ง
บางทีก็คิดนะว่า...อืมมม งานนี้มันเหมาะกับเราจริงไหม?
พอใส่ก็อกน้ำใหม่เข้าไปได้อย่างทุลักทุเล....ปัญหาอีกอันก็คือ...การยกแท่นฐานใต้อ่างหนักๆ กลับคืนจุดเดิม
จุดนี้ถือว่าทรมานที่สุด คือคุณจะต้องใช้ไขควงค่อยหมุนสกรูในพื้นที่แคบๆ ได้ทีละรอบๆ ช้าๆ เพราะมันหนืดมือมากๆ เนื่องจากมันจะต้อง
ยึดกับก้อนพลาสติกที่เป็นแท่นรับฐานอีกที...นาทีนี้แนะนำให้กำหนดลมหายใจเข้าออก แผ่เมตาไปด้วยจะดีมาก
อยู่ไต้ฐานไม่เอาสวยก็ได้มั๊ง....
แต่ในที่สุด ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง...ผลงานที่ได้อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ภรรยาขึ้นมาดูผลงาน แล้วเปรยเบาๆ ว่า
"เห็นมะ...กะอิแค่เปลี่ยนก็อกน้ำ" แล้วก็เดินจากไป
บทสรุปของผมวันนี้คือ
คิดจะเปลี่ยนก็อกน้ำคราวหน้า โทรหาช่างพิทักษ์เถอะครับ!