เนื่องจากเราได้เห็นโปรโมชั่นของการสายการบิน Kenya Airways ที่บินไป-กลับฮ่องกง ตกคนละประมาณ 2,5xx บาท จึงไม่ลังเลใจที่จะรีบจองตั๋วนี้เพราะว่าคงไม่มีอะไรที่จะราคาถูกไปกว่านี้ได้แล้วแถมได้เป็นแบบ Full Service และเป็นช่วงที่ไปตอนหน้าหนาวด้วย เราจองไปวันที่ 26 พ.ย.59 - 29 พ.ย.59 (4วัน3คืน) แต่หลังจากจองเสร็จเราก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีเพราะว่าฮ่องกงเราเคยไปมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/33125007 ครั้งที่แล้วก็ไปมาเกือบหมดทุกที่แล้ว รอบนี้เราเลยตั้งโจทย์ว่าจะต้องเป็นที่ใหม่ๆที่ยังไม่เคยไปหรือว่ารอบที่แล้วยังไม่ได้ไป จนเราได้พบที่ใหม่ที่ไม่ค่อยคุ้นหูมาก่อน 2 ที่ นั้นคือ วัด Tsz Shan และ Drogon's Back
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
1.
รายละเอียดของเข้าชมวัด Tsz Shan
เราได้มาจากการเจอข้อมูลที่กระทู้นี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/33807960 เริ่มจากการจองการเข้าชมวัดนี้ ต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนที่
http://www.tszshan.org/home/new/en/index.php ซึ่งจะมีหลายรอบ หลายเวลาให้เข้าแต่ละวัน หลังจากจองเสร็จเราจะได้รับการยืนยันทาง E-Mail และอย่าลืมปริ้นเอกสารยืนยัน Number ติดไปด้วยนะครับ
2.
โรงแรม
เรายังคงพักเป็นรูปแบบเดิมคือเป็น Hostel เนื่องจากเราเน้นราคาไม่แพงและไม่ได้เน้นอยู่ที่พักเพราะแต่ละวันตั้งใจ จะออกเช้ากลับดึกอยู่แล้ว แต่จะเปลี่ยนที่พักจากเดิมเนื่องจากครั้งที่แล้วเราพักที่ MongKok แต่รอบนี้เราจะพักแถว Tsim sha tsui เราได้หาข้อมูลอยู๋หลายที่จนมาเจอ Hello Inn ที่ตึก mirador mansion ซึ่งเป็นตึกที่คนไทยพักเยอะพอสมควร เรานอนทั้งหมด 3 คืน ได้ราคาที่ 930 HKD/3 คืน ตกคืนละ 310 HKD ตกเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,426 บาทไทย การติดต่อและจองห้องผ่านทาง E-mail เจ้าของที่พักสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และจุดเด่นของที่พักนี้คือ จะส่งรหัสเข้าห้องมาให้กับเราทาง E-Mail เราสามารถเข้าห้องพักได้หลัง 14.00 น. โดยที่ไม่ต้องรอเจ้าของที่พักมายืนยันตัวตนและไม่ต้องวางเงินมัดจำไว้ด้วย และจ่ายเงินค่าที่พักในวันที่เรา Check Out นะครับ
3.
ซิมโทรศัพท์
เราได้สั่งซิมจากที่ไทยไปเลย เราได้สั่งเจ้านี้ครับ 1 วันได้รับเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.hongkongpackage.net/board/index.php?topic=16.0 เนื่องจากเราไม่อยากไปหาซื้อที่ฮ่องกง เพราะไปถึงก็เย็นจะหัวค่ำแล้วด้วย สัญญาณถือว่าดีเลยครับ share hotspot ได้สบายๆ มีบอกขั้นตอนการเปิดเบอร์และสมัครเน็ตได้ง่ายๆครับ
4.
การเตรียมหัวปลั๊ก
เราต้องเตรียมหัวแปลงปลั๊ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ไปด้วยนะครับ ไม่งั้นไม่สามารถใช้งานกับของประเทศไทยได้นะครับ แต่อาจจะลองเช็คกับทางโรงแรมที่เราเข้าพักดูนะครับว่ามีให้ไหม อย่าง Hello Inn ที่ผมเข้าพักมีหัวแปลงปลั๊กเตรียมไว้ให้เลยนะครับ
5.
การแลกเงิน
เราแลกเงินจาก Super rich ประมาณ 2 หมื่นบาทไทย ได้เรทที่ 1 HKD = 4.6 Thai baht ได้ประมาณ 4,348 HKD (อันนี้เราแลกไปเผื่อจ่ายค่าที่พักด้วยนะ) ถ้าไม่ได้ช็อปปิ้งหนักจริงๆ ผมว่าแค่นี้ก็กินสบายๆแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะรอบนี้ผมไม่ได้เข้า Disneyland กับ ขึ้นกระเช้า Ngong Ping ด้วยครับ
แผนการเที่ยวและการเดินทาง
Day 1 Suvarnabhumi Airport --> Hong Kong International Airport --> Hello Inn
Day 2 วัด Tsz Shan --> Che Kung Temple --> Chi Lin Nunnery --> Nan Lian Graden --> The Symphony of Lights
Day 3 Dragon's Back --> Big Wave Bay --> เดินเที่ยว Shopping ยามดึก
Day 4 ร้านติ่มซำ Tao Heung --> Clock Tower -- > Hong Kong International Airport --> Suvarnabhumi Airport
Day 1 Suvarnabhumi Airport --> Hong Kong International Airport --> Hello Inn
สายการบิน Kenya Airways ขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมินะครับ เราเดินทางเวลา 15:10 น. ถึง 17:55 น.(เวลาฮ่องกงจะเร็วกว่าไทย 1 ช.ม.)
Gate D7
ภายในห้องโดยสาร
มีหน้าจอให้เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง และใครอยากจะเอาเพลงไปฟังเองก็สามารถเอาไปเปิดได้นะ เสียบเข้ากับ USB ได้เลยครับ
แจกหูฟังพร้อม
พอเครื่องขึ้นสักพัก แอร์ก็เสริมอาหารทันที เราเลือกไก่นะครับ น่าจะเป็นไก่กับชีส ขนมปัง เค้ก และกาแฟ
แล้วเราก็มาถึง Hong Kong International Airport อุณภูมิอยู่ที่ 14 องศา ปรับสภาพร่างกายแทบไม่ทัน เราก็ผ่าน ตม. ได้อย่างสบาย รอรับกระเป๋าเสร็จ ต่อไปเราจะเดินทางไป Tsim sha tsui โดยรถบัส เดินตามป้าย To City
เดินมาจะเจอ Tourist Services เพื่อสำหรับการซื้อ บัตร Octopus หรือบัตรปลาหมึกที่เราเรียกกันนะครับ
บัตรนี้จะเติมเงินเริ่มที่ 100 HKD และมีค่ามัดจำบัตร 50 HKD รวมทั้งหมด 150 HKD (แต่ถ้าเราใช้บัตรนี้ไม่ถึง 3 เดือน ตอนคืนบัตรจะเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 9 HKD) บัตรนี้สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า รถบัส และซื้อของใน 7-11 และร้านค้าทั่วไปได้
หลังจากได้บัตรแล้วก็เดินตามทางมาเพื่อขึ้นรถบัสตามป้าย
รถที่จะเข้า Tsim sha tsui คือสาย A21 ค่าโดยสารอยู่ที่ 33 HKD เราสามารถเอาบัตร Octopus แตะตรงประตูทางเข้าได้เลยครับ ซึ่งสายA21นี้คนจะเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนไทยตอนผมไปเจอแต่คนไทยยืนต่อแถวนี้เต็มไปหมด ที่พักของผมต้องลงป้ายที่ 13 เพื่อเดินไปตึก mirador mansion สังเกตุจากตึกจะมีคนแขกยืนเต็มไปหมดแสดงว่าเรามาถูกตึกแล้วครับ
ลิฟท์จะแบ่งเป็นชั้นคู่กับชั้นคี่นะครับ
Hello Inn จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรกที่เราไปตามรายละเอียดที่หาในเน็ตจะอยู่ชั้น 6 แต่เมื่อเราไปแล้วเราไม่สามารถเข้าประตูได้ตามรหัสที่ให้มา จะมีโทรศัพท์หน้าประตูให้โทรติดต่อฉุกเฉินเราเลยโทรไปถามเค้าว่าทำไมเราเข้าประตูนี้ไม่ได้ เค้าบอกว่าของเราที่เค้าเตรียมไว้ให้อยู่ชั้น 11 เราเลยดูในเอกสารที่เราปริ้นมาจาก E-Mail สรุปเราคือห้องพักของเราอยู่ชั้น 11
ชั้นนี้จะมีอยู่ประมาณ 4 ห้อง เราได้ห้องริมในสุดเป็น View Street
เปิดเข้ามาก็เป็น Hostel HongKong ที่เรารู้อยู่แล้วจะเป็นลักษณะแบบนี้ ห้องไม่ใหญ่ เอาไว้สำหรับนอนอย่างเดียว แต่สำหรับเราถือว่าดีเลยนะ เหมาะสมกับราคาและสถานที่ตั้ง ความสะอาดก็สะอาด ห้องไม่ได้แออัด
ห้องน้ำก็ดูสะอาด มีแชมพูกับสบู่ไว้ให้ มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย
ขอปิดท้ายวันแรกด้วยภาพความน่ารักของที่พักนี้นะครับ ทุกห้องมาจะมีชื่อของคนที่พักไว้ด้วยนะ กันหลงไม่ให้เดินไปผิดห้อง
[CR] HongKong Chill Chill เที่ยว วัด Tsz Shan & Drogon's Back & เดินเตร่ เที่ยวชิม Style HongKong Street ด้วยงบ Chill Chill
เนื่องจากเราได้เห็นโปรโมชั่นของการสายการบิน Kenya Airways ที่บินไป-กลับฮ่องกง ตกคนละประมาณ 2,5xx บาท จึงไม่ลังเลใจที่จะรีบจองตั๋วนี้เพราะว่าคงไม่มีอะไรที่จะราคาถูกไปกว่านี้ได้แล้วแถมได้เป็นแบบ Full Service และเป็นช่วงที่ไปตอนหน้าหนาวด้วย เราจองไปวันที่ 26 พ.ย.59 - 29 พ.ย.59 (4วัน3คืน) แต่หลังจากจองเสร็จเราก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีเพราะว่าฮ่องกงเราเคยไปมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ครั้งที่แล้วก็ไปมาเกือบหมดทุกที่แล้ว รอบนี้เราเลยตั้งโจทย์ว่าจะต้องเป็นที่ใหม่ๆที่ยังไม่เคยไปหรือว่ารอบที่แล้วยังไม่ได้ไป จนเราได้พบที่ใหม่ที่ไม่ค่อยคุ้นหูมาก่อน 2 ที่ นั้นคือ วัด Tsz Shan และ Drogon's Back
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
1. รายละเอียดของเข้าชมวัด Tsz Shan
เราได้มาจากการเจอข้อมูลที่กระทู้นี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เริ่มจากการจองการเข้าชมวัดนี้ ต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนที่ http://www.tszshan.org/home/new/en/index.php ซึ่งจะมีหลายรอบ หลายเวลาให้เข้าแต่ละวัน หลังจากจองเสร็จเราจะได้รับการยืนยันทาง E-Mail และอย่าลืมปริ้นเอกสารยืนยัน Number ติดไปด้วยนะครับ
2. โรงแรม
เรายังคงพักเป็นรูปแบบเดิมคือเป็น Hostel เนื่องจากเราเน้นราคาไม่แพงและไม่ได้เน้นอยู่ที่พักเพราะแต่ละวันตั้งใจ จะออกเช้ากลับดึกอยู่แล้ว แต่จะเปลี่ยนที่พักจากเดิมเนื่องจากครั้งที่แล้วเราพักที่ MongKok แต่รอบนี้เราจะพักแถว Tsim sha tsui เราได้หาข้อมูลอยู๋หลายที่จนมาเจอ Hello Inn ที่ตึก mirador mansion ซึ่งเป็นตึกที่คนไทยพักเยอะพอสมควร เรานอนทั้งหมด 3 คืน ได้ราคาที่ 930 HKD/3 คืน ตกคืนละ 310 HKD ตกเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,426 บาทไทย การติดต่อและจองห้องผ่านทาง E-mail เจ้าของที่พักสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และจุดเด่นของที่พักนี้คือ จะส่งรหัสเข้าห้องมาให้กับเราทาง E-Mail เราสามารถเข้าห้องพักได้หลัง 14.00 น. โดยที่ไม่ต้องรอเจ้าของที่พักมายืนยันตัวตนและไม่ต้องวางเงินมัดจำไว้ด้วย และจ่ายเงินค่าที่พักในวันที่เรา Check Out นะครับ
3. ซิมโทรศัพท์
เราได้สั่งซิมจากที่ไทยไปเลย เราได้สั่งเจ้านี้ครับ 1 วันได้รับเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เนื่องจากเราไม่อยากไปหาซื้อที่ฮ่องกง เพราะไปถึงก็เย็นจะหัวค่ำแล้วด้วย สัญญาณถือว่าดีเลยครับ share hotspot ได้สบายๆ มีบอกขั้นตอนการเปิดเบอร์และสมัครเน็ตได้ง่ายๆครับ
4. การเตรียมหัวปลั๊ก
เราต้องเตรียมหัวแปลงปลั๊ก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ไปด้วยนะครับ ไม่งั้นไม่สามารถใช้งานกับของประเทศไทยได้นะครับ แต่อาจจะลองเช็คกับทางโรงแรมที่เราเข้าพักดูนะครับว่ามีให้ไหม อย่าง Hello Inn ที่ผมเข้าพักมีหัวแปลงปลั๊กเตรียมไว้ให้เลยนะครับ
5. การแลกเงิน
เราแลกเงินจาก Super rich ประมาณ 2 หมื่นบาทไทย ได้เรทที่ 1 HKD = 4.6 Thai baht ได้ประมาณ 4,348 HKD (อันนี้เราแลกไปเผื่อจ่ายค่าที่พักด้วยนะ) ถ้าไม่ได้ช็อปปิ้งหนักจริงๆ ผมว่าแค่นี้ก็กินสบายๆแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะรอบนี้ผมไม่ได้เข้า Disneyland กับ ขึ้นกระเช้า Ngong Ping ด้วยครับ
แผนการเที่ยวและการเดินทาง
Day 1 Suvarnabhumi Airport --> Hong Kong International Airport --> Hello Inn
Day 2 วัด Tsz Shan --> Che Kung Temple --> Chi Lin Nunnery --> Nan Lian Graden --> The Symphony of Lights
Day 3 Dragon's Back --> Big Wave Bay --> เดินเที่ยว Shopping ยามดึก
Day 4 ร้านติ่มซำ Tao Heung --> Clock Tower -- > Hong Kong International Airport --> Suvarnabhumi Airport
Day 1 Suvarnabhumi Airport --> Hong Kong International Airport --> Hello Inn
สายการบิน Kenya Airways ขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมินะครับ เราเดินทางเวลา 15:10 น. ถึง 17:55 น.(เวลาฮ่องกงจะเร็วกว่าไทย 1 ช.ม.)
Gate D7
ภายในห้องโดยสาร
มีหน้าจอให้เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง และใครอยากจะเอาเพลงไปฟังเองก็สามารถเอาไปเปิดได้นะ เสียบเข้ากับ USB ได้เลยครับ
แจกหูฟังพร้อม
พอเครื่องขึ้นสักพัก แอร์ก็เสริมอาหารทันที เราเลือกไก่นะครับ น่าจะเป็นไก่กับชีส ขนมปัง เค้ก และกาแฟ
แล้วเราก็มาถึง Hong Kong International Airport อุณภูมิอยู่ที่ 14 องศา ปรับสภาพร่างกายแทบไม่ทัน เราก็ผ่าน ตม. ได้อย่างสบาย รอรับกระเป๋าเสร็จ ต่อไปเราจะเดินทางไป Tsim sha tsui โดยรถบัส เดินตามป้าย To City
เดินมาจะเจอ Tourist Services เพื่อสำหรับการซื้อ บัตร Octopus หรือบัตรปลาหมึกที่เราเรียกกันนะครับ
บัตรนี้จะเติมเงินเริ่มที่ 100 HKD และมีค่ามัดจำบัตร 50 HKD รวมทั้งหมด 150 HKD (แต่ถ้าเราใช้บัตรนี้ไม่ถึง 3 เดือน ตอนคืนบัตรจะเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 9 HKD) บัตรนี้สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า รถบัส และซื้อของใน 7-11 และร้านค้าทั่วไปได้
หลังจากได้บัตรแล้วก็เดินตามทางมาเพื่อขึ้นรถบัสตามป้าย
รถที่จะเข้า Tsim sha tsui คือสาย A21 ค่าโดยสารอยู่ที่ 33 HKD เราสามารถเอาบัตร Octopus แตะตรงประตูทางเข้าได้เลยครับ ซึ่งสายA21นี้คนจะเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนไทยตอนผมไปเจอแต่คนไทยยืนต่อแถวนี้เต็มไปหมด ที่พักของผมต้องลงป้ายที่ 13 เพื่อเดินไปตึก mirador mansion สังเกตุจากตึกจะมีคนแขกยืนเต็มไปหมดแสดงว่าเรามาถูกตึกแล้วครับ
ลิฟท์จะแบ่งเป็นชั้นคู่กับชั้นคี่นะครับ
Hello Inn จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรกที่เราไปตามรายละเอียดที่หาในเน็ตจะอยู่ชั้น 6 แต่เมื่อเราไปแล้วเราไม่สามารถเข้าประตูได้ตามรหัสที่ให้มา จะมีโทรศัพท์หน้าประตูให้โทรติดต่อฉุกเฉินเราเลยโทรไปถามเค้าว่าทำไมเราเข้าประตูนี้ไม่ได้ เค้าบอกว่าของเราที่เค้าเตรียมไว้ให้อยู่ชั้น 11 เราเลยดูในเอกสารที่เราปริ้นมาจาก E-Mail สรุปเราคือห้องพักของเราอยู่ชั้น 11
ชั้นนี้จะมีอยู่ประมาณ 4 ห้อง เราได้ห้องริมในสุดเป็น View Street
เปิดเข้ามาก็เป็น Hostel HongKong ที่เรารู้อยู่แล้วจะเป็นลักษณะแบบนี้ ห้องไม่ใหญ่ เอาไว้สำหรับนอนอย่างเดียว แต่สำหรับเราถือว่าดีเลยนะ เหมาะสมกับราคาและสถานที่ตั้ง ความสะอาดก็สะอาด ห้องไม่ได้แออัด
ห้องน้ำก็ดูสะอาด มีแชมพูกับสบู่ไว้ให้ มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย
ขอปิดท้ายวันแรกด้วยภาพความน่ารักของที่พักนี้นะครับ ทุกห้องมาจะมีชื่อของคนที่พักไว้ด้วยนะ กันหลงไม่ให้เดินไปผิดห้อง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น