เกาะเปอเฮนเทียน (Perhentian Kesil)
สวัสดีค่าทุกคนนนนน .. หลังจากที่คิดจะรีวิวแล้วก็ดองเค็มดองเปรี้ยวมานานแสนนาน TT ในที่สุด .. วันนี้เราก็ได้ฤกษ์มารีวิวประสบการณ์การท่องเที่ยวประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเรา หรือก็คือ
ประเทศมาเลเซีย ให้ทุกคนเป็นข้อมูลนั่นเองค่าาา แต่จะเป็นมาเลเซียในมุมมองใหม่ๆ ที่แปลกไปจากที่ทุกคนเคยคิดแน่นอนนน !!
ทริปนี้เกิดจากการที่ เราและแฟนหาที่เที่ยวกันช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ซึ่งมีความคิดตรงกันว่า
“สงกรานต์นี้ฉันอยากเที่ยวทะเลลลล ><” แต่จะยังไงดีล่ะ จะเที่ยวทะเลใต้ กระบี่ ภูเก็ตงี้ ก็กลัวว่าคนจะเยอะเกินจนหมดสนุก ดำน้ำแทนที่จะเห็นปลาการ์ตูน กลายเป็นเห็นปลาอย่างอื่นแทน 5555 ก็เลยมีความคิดว่า แล้วถ้าเราลงใต้ไปอีกล่ะ ไปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ที่มาเลเซียแทน ก็น่าจะสวยเหมือนกันนะ ทะเลเดียวกัน แถมหนีคนเยอะได้อีกด้วย 55555
ดังนั้น ทริปเที่ยวเกาะ ทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง (ทำอาหาร ปลูกป่า ดำนา ตีกอล์ฟ ล่องเรือ ช็อปปิ้ง ดูงิ้ว ดูละครเวที ดูคอนเสิร์ต ดินเนอร์ ทำขนม ฯลฯ cr. โฆษณาเมืองไทยประกัน 5555) ที่มาเลเซียจึงเกิดขึ้นค่าาาาา ไปลุยกันเล้ยยยยย เย้ ^^
ทริปมาเลเซียของเราทั้งหมดคือ 5 วัน 4 คืน (13-17 APRIL 2016) ไปทั้งหมด 2 คน
ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 14,506 บาทต่อคนค่ะ
ซึ่งทริปนี้แพลนของเราคร่าวๆ คือ ..
13 April : นอนที่ กัวลาลัมเปอร์
14 April : นอนที่ Perhentian Kecil (เกาะเปอเฮนเทียนเล็ก)
15 April : นอนที่ Perhentian Kecil (เกาะเปอเฮนเทียนเล็ก) อีกคืน
16 April : นอนที่ กัวลาลัมเปอร์
17 April : กลับกรุงเทพฯ
เริ่มด้วย พาร์ท 1 ..
การเตรียมตัว
1. ตั๋วเครื่องบิน
ทริปนี้ เราเลือกบินด้วยสายการบิน AirAsia Malaysia เนื่องจากไม่ใช่ช่วงโปรโมชั่นสุดๆ ตั๋วที่เราได้ราคาจึงไม่ได้ถูกมาก
ราคาไป-กลับ อยู่ที่
คนละ 3,983 บาท (ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋า)
เนื่องจากทริปนี้เราไม่ได้พกเสื้อผ้ากับของอะไรไปมาก เราจึงไม่ได้ทำการโหลดกระเป๋า Carry-on ขึ้นเครื่องเลยจ้า
* สำหรับใครที่สงสัยว่า AirAsia ให้เอากระเป๋าขึ้นเครื่องได้กี่ใบ ขนาดเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ และในส่วนของของเหลวนั้นเอาขึ้นเครื่องได้ปริมาตรเท่าไหร่ ยังไง เรามีคำตอบให้ค่า ..
- ในส่วนของจำนวนกระเป๋า ขนาด และน้ำหนัก
ผู้โดยสารแต่ละคนจะมีสิทธิ์นำ กระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ (กระเป๋าเป้, กระเป๋าลากไซส์เล็ก หรืออื่นๆ) และ/หรือ
กระเป๋าถือ 1 ใบ หรือ กระเป๋าโน้ตบุค 1 ใบ
(ซึ่งแต่ละชิ้นต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. และห้ามหนักเกิน 7 กก.)
สรุปแล้วคือ เราถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ นั่นเองค่า
- ในส่วนของการนำของเหลวขึ้นเครื่อง และปริมาตร
หากใครจะนำครีมบำรุงผิว หรืออะไรก็ตามที่เป็นของเหลวขึ้นเครื่องนั้น ทางสายการบินระบุว่า
1. ต้องเก็บอยู่ในภาชนะที่มีความจุไม่เกิน 100 มล./มก. (ml/mg)
ดูที่ตัวเลขบนภาชนะเป็นหลักนะคะ ถึงปริมาตรของเหลวจะน้อยกว่า 100 มล./มก. แต่ถ้าภาชนะเกิน 100 มล. ก็ถือว่าเกินค่ะ
2. ต้องเก็บภาชนะที่อันที่บรรจุของเหลวไว้ในถุงพลาสติกใสแบบซีลปิดได้ และขนาดไม่ใหญ่กว่า 20 ซม. x 20 ซม..
3. ปริมาตรของของเหลวที่นำขึ้นเครื่องทั้งหมดต้องมีปริมาตรไม่เกิน 1000 มล./มก.
(อ้างอิง:
http://www.airasia.com/th/th/baggage-info/cabin-baggage.page)
แล้วก็ยังมีตั๋ว Domestic ภายในประเทศของ AirAsia Malaysia จากกัวลาลัมเปอร์- ไปสนามบินกัวลาตรังกานู เพื่อเดินทางต่อไปเกาะเปอเฮนเทียนด้วยค่ะ ราคาไป-กลับอยู่ที่ประมาณ
คนละ 1093 บาท ค่ะ
2. การแต่งกาย
เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงหน้าร้อน อากาศของมาเลเซียก็จะไม่ค่อยต่างกับอากาศภาคใต้บ้านเรา (ก็ประเทศติดกันนี่เนอะ) เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็จะเหมือนกับที่เวลาเราใส่ที่ประเทศไทยนี่แหละ ขาสั้น เสื้อยืด ไรงี้ ง่ายๆ
แต่ช่วงที่เราไป เราเจอฝนตกอยู่ 2 วัน ก็จะลำบากและเฉอะแฉะนิดนึง โดยเฉพาะวันก่อนสุดท้ายในกัวลาลัมเปอร์คือฝนตกหนักมาก แต่เราชอบที่ถนนหนทางในมาเลเค้าจะมีหลังคาให้เดินไปเกือบตลอดทาง ก็สะดวกดี แต่สุดท้ายก็เปียกอยู่ดี TT
ชุดว่ายน้ำ
ทริปที่เราไปเป็นทริปดำน้ำ เพราะฉะนั้นชุดเล่นน้ำก็จะขาดไม่ได้ แต่สิ่งที่เราอยากบอกทุกคนไว้ก่อน ไปแล้วจะได้ไม่ตกใจ คือ ที่มาเลเซีย ถ้าจะคาดหวังว่าจะเห็นฝรั่งใส่บิกินี่เดินตามชายหาดแบบบ้านเรานั้น หาได้น้อยมากกกกกกกกกกกก และด้วยความที่เค้าเป็นเมืองอิสลาม คนที่นั่นก็จะใส่ชุดเล่นน้ำกันแบบ คลุมมิดชิดทั้งตัว เพราะฉะนั้นถ้าเราจะใส่บิกินี่เล่นน้ำกันแบบเมืองไทยก็อาจจะดูไม่งามไปนิดนึงงง (แต่ก็ใช่ว่าไม่มีนะ)
ส่วนตัวเราใส่เป็นชุดว่ายน้ำแบบเสื้อแขนยาว+กางเกงขาสั้นค่ะ
3. แลกเงิน
สำหรับเงินที่ใช้ในมาเลเซียเป็นสกุลเงิน ริงกิตมาเลเซีย (MYR) คิดคร่าวๆก็ประมาณ 10 บาท = 1 ริงกิต ค่ะ (ง่ายต่อการคำนวณราคาที่นู่น 555)
** ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็ไปเที่ยวมาเลเซียกันเลยค่า **
[CR] Review เปิดประสบการณ์ใหม่ .. มาเลเซีย (MALAYSIA)
สวัสดีค่าทุกคนนนนน .. หลังจากที่คิดจะรีวิวแล้วก็ดองเค็มดองเปรี้ยวมานานแสนนาน TT ในที่สุด .. วันนี้เราก็ได้ฤกษ์มารีวิวประสบการณ์การท่องเที่ยวประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเรา หรือก็คือ ประเทศมาเลเซีย ให้ทุกคนเป็นข้อมูลนั่นเองค่าาา แต่จะเป็นมาเลเซียในมุมมองใหม่ๆ ที่แปลกไปจากที่ทุกคนเคยคิดแน่นอนนน !!
ทริปนี้เกิดจากการที่ เราและแฟนหาที่เที่ยวกันช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ซึ่งมีความคิดตรงกันว่า “สงกรานต์นี้ฉันอยากเที่ยวทะเลลลล ><” แต่จะยังไงดีล่ะ จะเที่ยวทะเลใต้ กระบี่ ภูเก็ตงี้ ก็กลัวว่าคนจะเยอะเกินจนหมดสนุก ดำน้ำแทนที่จะเห็นปลาการ์ตูน กลายเป็นเห็นปลาอย่างอื่นแทน 5555 ก็เลยมีความคิดว่า แล้วถ้าเราลงใต้ไปอีกล่ะ ไปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ที่มาเลเซียแทน ก็น่าจะสวยเหมือนกันนะ ทะเลเดียวกัน แถมหนีคนเยอะได้อีกด้วย 55555
ดังนั้น ทริปเที่ยวเกาะ ทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง (ทำอาหาร ปลูกป่า ดำนา ตีกอล์ฟ ล่องเรือ ช็อปปิ้ง ดูงิ้ว ดูละครเวที ดูคอนเสิร์ต ดินเนอร์ ทำขนม ฯลฯ cr. โฆษณาเมืองไทยประกัน 5555) ที่มาเลเซียจึงเกิดขึ้นค่าาาาา ไปลุยกันเล้ยยยยย เย้ ^^
ทริปมาเลเซียของเราทั้งหมดคือ 5 วัน 4 คืน (13-17 APRIL 2016) ไปทั้งหมด 2 คน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 14,506 บาทต่อคนค่ะ
ซึ่งทริปนี้แพลนของเราคร่าวๆ คือ ..
13 April : นอนที่ กัวลาลัมเปอร์
14 April : นอนที่ Perhentian Kecil (เกาะเปอเฮนเทียนเล็ก)
15 April : นอนที่ Perhentian Kecil (เกาะเปอเฮนเทียนเล็ก) อีกคืน
16 April : นอนที่ กัวลาลัมเปอร์
17 April : กลับกรุงเทพฯ
เริ่มด้วย พาร์ท 1 .. การเตรียมตัว
1. ตั๋วเครื่องบิน
ทริปนี้ เราเลือกบินด้วยสายการบิน AirAsia Malaysia เนื่องจากไม่ใช่ช่วงโปรโมชั่นสุดๆ ตั๋วที่เราได้ราคาจึงไม่ได้ถูกมาก
ราคาไป-กลับ อยู่ที่ คนละ 3,983 บาท (ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋า)
เนื่องจากทริปนี้เราไม่ได้พกเสื้อผ้ากับของอะไรไปมาก เราจึงไม่ได้ทำการโหลดกระเป๋า Carry-on ขึ้นเครื่องเลยจ้า
* สำหรับใครที่สงสัยว่า AirAsia ให้เอากระเป๋าขึ้นเครื่องได้กี่ใบ ขนาดเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ และในส่วนของของเหลวนั้นเอาขึ้นเครื่องได้ปริมาตรเท่าไหร่ ยังไง เรามีคำตอบให้ค่า ..
- ในส่วนของจำนวนกระเป๋า ขนาด และน้ำหนัก
ผู้โดยสารแต่ละคนจะมีสิทธิ์นำ กระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ (กระเป๋าเป้, กระเป๋าลากไซส์เล็ก หรืออื่นๆ) และ/หรือ
กระเป๋าถือ 1 ใบ หรือ กระเป๋าโน้ตบุค 1 ใบ
(ซึ่งแต่ละชิ้นต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. และห้ามหนักเกิน 7 กก.)
สรุปแล้วคือ เราถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ นั่นเองค่า
- ในส่วนของการนำของเหลวขึ้นเครื่อง และปริมาตร
หากใครจะนำครีมบำรุงผิว หรืออะไรก็ตามที่เป็นของเหลวขึ้นเครื่องนั้น ทางสายการบินระบุว่า
1. ต้องเก็บอยู่ในภาชนะที่มีความจุไม่เกิน 100 มล./มก. (ml/mg)
ดูที่ตัวเลขบนภาชนะเป็นหลักนะคะ ถึงปริมาตรของเหลวจะน้อยกว่า 100 มล./มก. แต่ถ้าภาชนะเกิน 100 มล. ก็ถือว่าเกินค่ะ
2. ต้องเก็บภาชนะที่อันที่บรรจุของเหลวไว้ในถุงพลาสติกใสแบบซีลปิดได้ และขนาดไม่ใหญ่กว่า 20 ซม. x 20 ซม..
3. ปริมาตรของของเหลวที่นำขึ้นเครื่องทั้งหมดต้องมีปริมาตรไม่เกิน 1000 มล./มก.
(อ้างอิง: http://www.airasia.com/th/th/baggage-info/cabin-baggage.page)
แล้วก็ยังมีตั๋ว Domestic ภายในประเทศของ AirAsia Malaysia จากกัวลาลัมเปอร์- ไปสนามบินกัวลาตรังกานู เพื่อเดินทางต่อไปเกาะเปอเฮนเทียนด้วยค่ะ ราคาไป-กลับอยู่ที่ประมาณ คนละ 1093 บาท ค่ะ
2. การแต่งกาย
เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงหน้าร้อน อากาศของมาเลเซียก็จะไม่ค่อยต่างกับอากาศภาคใต้บ้านเรา (ก็ประเทศติดกันนี่เนอะ) เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็จะเหมือนกับที่เวลาเราใส่ที่ประเทศไทยนี่แหละ ขาสั้น เสื้อยืด ไรงี้ ง่ายๆ
แต่ช่วงที่เราไป เราเจอฝนตกอยู่ 2 วัน ก็จะลำบากและเฉอะแฉะนิดนึง โดยเฉพาะวันก่อนสุดท้ายในกัวลาลัมเปอร์คือฝนตกหนักมาก แต่เราชอบที่ถนนหนทางในมาเลเค้าจะมีหลังคาให้เดินไปเกือบตลอดทาง ก็สะดวกดี แต่สุดท้ายก็เปียกอยู่ดี TT
ชุดว่ายน้ำ
ทริปที่เราไปเป็นทริปดำน้ำ เพราะฉะนั้นชุดเล่นน้ำก็จะขาดไม่ได้ แต่สิ่งที่เราอยากบอกทุกคนไว้ก่อน ไปแล้วจะได้ไม่ตกใจ คือ ที่มาเลเซีย ถ้าจะคาดหวังว่าจะเห็นฝรั่งใส่บิกินี่เดินตามชายหาดแบบบ้านเรานั้น หาได้น้อยมากกกกกกกกกกกก และด้วยความที่เค้าเป็นเมืองอิสลาม คนที่นั่นก็จะใส่ชุดเล่นน้ำกันแบบ คลุมมิดชิดทั้งตัว เพราะฉะนั้นถ้าเราจะใส่บิกินี่เล่นน้ำกันแบบเมืองไทยก็อาจจะดูไม่งามไปนิดนึงงง (แต่ก็ใช่ว่าไม่มีนะ)
ส่วนตัวเราใส่เป็นชุดว่ายน้ำแบบเสื้อแขนยาว+กางเกงขาสั้นค่ะ
3. แลกเงิน
สำหรับเงินที่ใช้ในมาเลเซียเป็นสกุลเงิน ริงกิตมาเลเซีย (MYR) คิดคร่าวๆก็ประมาณ 10 บาท = 1 ริงกิต ค่ะ (ง่ายต่อการคำนวณราคาที่นู่น 555)
** ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็ไปเที่ยวมาเลเซียกันเลยค่า **