สวัสดีครับ ผมมีข้อมูลมาแบ่งปันเพื่อนที่น้องนักลงทุนทุกท่านน่ะครับ ผมอยากจะแบ่งกันการสรุปเนื้อหาของผม ขอฝากตัวด้วยนะครับ

เนื่องจากผมอัพโหลดรูปไม่เป็น หากใครอยากเห็นแบบมีรูปด้วย ข้อมูลเต็มจะอยู่ในลิ้งนี้น่ะครับ  
https://www.facebook.com/notes/investdiary-แบ่งปันความรู้การลงทุน/qh-อสังหาฯรุ่นใหญ่-สินทรัพย์มาก/859947354140513

ผู้พัฒนาอสังหาฯบริษัทไหนจะแข็งเกร่งเท่าบริษัทนี้ที่มีท่านชัชชาติอดีตรัฐมนตรีมาเป็น CEO QH นั้นน่าสนใจตรงที่กระจายสินทรัพย์ไปอยู่ในหลายๆอย่าง ลดความเสี่ยงจากอสังหาฯอย่างเดียวอย่างเป็นนัยสำคัญ แต่ว่าบริษัทก็ไม่ได้ลงทุนมั่วๆ ก็ยังลงทุนที่อยู่ในองค์ความรู้ของบริษัท ลองมาดูกันว่าบริษัทจะเป็นยังไง

ข้อมูลทั่วไป

บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด เกิดมาตั้งแต่ปี 2526 ก็เป็นผู้พัฒนาอสังหาที่ผ่านวิกฤตมาหลายอย่างพอตัว
บริษัทนั้นทำธุรกิจสามอย่างคือ
พัฒนาอสังหาฯ เพื่อขาย
อสังหาฯเพื่อเช่า
ลงทุน
บริษัทนั้นมีการลงทุนร่วมกับบริษัทอื่นในสัดส่วนที่น่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดเป็นการลงทุนระยะยาวทั้งสิ้น
Home pro บริษัทถือหุ้นอยู่ถึง ~20% โฮมโปรนั้นก็ถือว่าเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งพอสมควร
LH financial group ถือหุ้นอยู่ ~21% ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์
กองทุนรวมเช่าอสังหาฯ Quality House ถือหุ้นอยู่ ~25%
กองทุนรวมเช่าอสังหาฯ Quality House And hotel residence ถือหุ้นอยู่ ~31%
Harbour View joint stock เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าในเวียดนาม ถือหุ้นอยู่ ~14%
จะเห็นได้ว่าบริษัทนั้นลงทุนในอสังหาฯเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทถนัดอยู่แล้ว เพื่อกระจายความเสี่ยงออกไป
บริษัทนั้นมีรายได้หลักๆประมาณ 4 ทางด้วยกัน
ขายบ้านพร้อมที่ดิน ประมาณ 65%
ขายหน่วยอาคารชุด ประมาณ 20%
ค่าเช่าที่พักอาศัยและสำนักงาน 5%
และปันผลจากธุรกิจที่ลงทุน 6%
จะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทนั้นค่อนข้างหลากหลาย การที่ช่วงปัจจุบันนั้นมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทนั้นยังพอมีรายได้จะทางอื่น ซึ่งเป็นรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง
รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นมาจากการขายบ้านพร้อมที่ดิน ซึ่งกลุ่มลูกค้าตรงนี้ก็มีตั้งแต่ระดับบนถึงล่าง โดยระดับบนนั้น ราคาบ้านมีตั้งแต่หลักสิบล้านขึ้นไปถึงร้อยล้านเลยทีเดียว ทำเลก็จะเน้นมีที่ถนนเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก


อาคารชุด บริษัทก็ยังคง segment เดิมคือตั้งแต่บนไปถึงล่าง ราคามีตั้งแต่ระดับล้านต้นถึงร้อยล้าน ทำเลก็จะเน้นตามเส้นรถไฟฟ้าเป็นหลัก หรือทำเลที่มีระบบขนส่งผ่าน เดินทางได้สะดวก
สำนักงานให้เช่านั้นก็อยู่ย่านธุรกิจ สะดวกแก่การเดินทางหรือใกล้รถไฟฟ้า
บริษัทนั้นยังมีธุรกิจโรงแรมอีกด้วย เข้าข่าย Theme ท่องเที่ยวที่กำลังโตในบ้านเรา โดยกลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นพวกชาวต่างชาติไม่ว่าจะมาทำธุรกิจหรือท่องเที่ยวก็ตาม
ทั้งนี้ การที่มีภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวนัก ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯได้รับผลกระทบอยู่พอสมควร เพราะว่าธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อนสินเชื่อบ้านมากขึ้น ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ แต่บริษัทนั้นเนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าตั้งแต่บนถึงล่าง ทำให้ลดผลกระทบจากการที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้คนรายได้ต่ำ
การแข่งขันนั้นก็ไม่ได้รุนแรงมากนักเพราะว่าบริษัทนั้นมีชื่อค่อนข้างดี เป็นส่วนหนึ่งในการเลือกของลูกค้า ส่วนอาคารให้เช่านั้นบริษัทก็ไม่ได้มีการแข่งขันอะไรมาก เนื่องจากพื้นในเมืองมีจำกัด ทำให้ผู้เล่นรายอื่นไม่สามารถเข้ามาได้


งบการเงิน

รายได้

รายได้ของบริษัทก็เติบโตดีในช่วงที่ผ่านมา แต่ว่าปีล่าสุดนั้นยอดขายตกเนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากตรงนั้นทำให้บริษัทนั้นเข้มงวดในการปล่อยมากขึ้น แต่ว่าอัตราการทำกำไรนั้นก็ยังไม่เป็นปัญหา ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30% ถือว่าค่อนข้างสูง

รายได้จากการขายนั้นลดลง แต่ว่าบริษัทก็ยังมีรายได้จากการให้เช่ามาทดแทนได้ ซึ่งรายได้ของการให้เช่านั้นก็ไม่ได้เพิ่มหรือลดลงเท่าไหร่ คาดว่าก็จะประมาณนี้ไปเรื่อยๆ

รายได้จากปันผลของบริษัทที่ลงทุนไปก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20% ซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีอีกทาง ทำให้ในสภาวะที่บริษัทยอดขายตก ก็ยังมีรายได้สำรองรองรับ

แน่นอนว่ากำไรสุทธิก็คงจะลดลงจากปีที่แล้ว

ฐานะทางการเงิน

บริษัทก็มีเงินสดมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญานที่ดี สินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นก็คือบ้านที่กำลังก่อสร้างหรือยังไม่โอน ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากการลงทุนก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นตามแผนการในอนาคตของบริษัท

การลงทุนระยะยาวของบริษัทนั้นก็ลงเป็นมูลค่าถึง หลักหมื่นล้าน

สินทรัพย์รวมบริษัทก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
หนี้สินของบริษัทนั้นส่วนใหญ่กว่า 80% จะเป็นหุ้นกู้ ซึ่งมีต้นทุนการเงินที่ต่ำ ทำให้ได้เงินมาใช้จ่ายค่าก่อสร้างได้
ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตจากกำไร และสัดส่วนกำลังตามหนี้สินไปติดๆ แปลว่าบริษัทนั้นปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ หนี้สินของผู้ถือหุ้นนั้นน้อยลงเรื่อยๆ

กระแสเงินสด

บริษัทนั้นมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานบางปีกำไรบางปีขาดทุนก็เพราะว่าบริษัทนั้นไม่ได้มีรายรับมากกว่ารายจ่ายทุกปี ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจประเภทนี้ บริษัทนั้นยังมีเงินมาจากการลงทุน นั้นก็คือปันผลนั้นเอง

อัตราส่วน

บริษัทนั้นมีกำไรสุทธิ 150% ROE 15% ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้
ถึงแม้บริษัทจะไม่ได้เติบโต แต่ก็ไม่ได้แปลว่าบริษัทนั้นจะเลิกเติบโต บริษัทยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปอีก ตราบเท่าที่อุตสาหกรรมนี้ยังไปไหว แต่ในภาพใหญ่มากๆแล้ว แนวโน้มประชากรไทยมีจำนวนลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับธุรกิจประเภทนี้ อีกทั้งบริษัทนี้ยังลงทุนระยะยาวไว้กับบริษัทอื่น ซึ่งสามารถอุ่นใจได้ในระดับนึงว่าบริษัทยังมีรายได้เข้ามา การเติบโตไม่ได้เด่นอะไรมาก แต่มีรายได้หลากหลาย และหนี้สินก็ไม่ได้เยอะมาก บริษัทสามารถมีเงินสดเพิ่มขึ้นทุกๆปีได้  ถือว่าเป็นหุ้นที่ค่อนข้างปลอดภัย มีปันผลที่ดี

ที่มา https://www.facebook.com/investdiary