คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องสินค้า ตอนส่งมอบคงต้องให้ตัวแทนของทั้ง 2 ฝ่ายมายืนมองและนับของด้วยกันเลยครับ
ที่ฟิวเจอร์ ตอนผมซื้อเครื่องเกม3DS ร้านก็พาผมเปิดเครื่อง เช็คของ ว่าเล่นได้ ของแถมครบ
ตอนซื้อลำโพงก็เหมือนกัน มีการเทสต์ลำโพง ให้ดูอุปกรณ์เสริมว่าครบ ถึงได้จบการซื้อขาย
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนนิสัย ผมแนะนำวิธีที่ผมใช้และพอได้ผลอยู่บ้าง
แต่ก่อนผมก็เป็นแบบคุณคือ (ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่บ้าง) ชอบโมโห แค้น อยากทำร้ายมัน รู้สึกตัวเองโหดเหี้ยมขึ้นเยอะ
เวลาเจอคนที่ก่อกวน สร้างปัญหาให้เรา และถ้าสติหลุดมากๆ อาจด่าหรือทำอะไรร้ายแรงไปก็ได้
1. ยิ้มไว้เสมอ ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน จะมีความสุขจริงๆ หรือกำลังโกรธกัดฟัน ก็ยิ้มไว้ ฝืนไปให้ได้
2. ห้ามขึ้นเสียงในทุกกรณี แม้จะเป็นเรื่องไม่เข้าใจกันหนัก แต่ตราบใดที่ยังชี้แจงเสียงนุ่มๆ
ลงท้ายด้วยครับทุกครั้ง ก็ไม่น่าลุกลามเป็นการทะเลาะได้
3. ฝึกเบี่ยงประเด็นหรือถ่วงเวลาไว้ เช่น ลูกค้ามาหาเรื่องว่า "บริษัทพวกเมิงโกงกรูหรือเปล่าวะ วันนั้นกรูได้ของไม่ครบโว้ย"
คุณก็อาจตอบว่า "พี่ใจเย็นๆ มานั่งดื่มน้ำในออฟฟิซก่อน เดี๋ยวผมตรวจสอบให้นะครับ" ระหว่างนั้นคุณให้เวลาตัวเอง
ไปโทรปรึกษาเจ้านาย หรือหลบในห้องน้ำ รวบรวมสมาธิ หยุดความโกรธ แล้วพิจารณาขั้นตอนว่าต้องทำอย่างไร
เช่น หนึ่ง) เช็คจากสำเนาบิลของลูกค้าและของเรา สอง) สอบถามพนักงานที่ส่งของหรือตรวจรับของ
สาม) เช็คเอกสารการเซ็นรับสินค้าของฝ่ายโน้น สี่) ดูกล้องวงจรปิดขั้นตอนการส่งมอบ
4. จำไว้เสมอว่า เวลาคุณโกรธ สมองคุณได้หยุดทำงานไปเสียแล้ว ยิ่งเถียงระเบิดยิ่งปะทุ
ยิ่งคุณบอกว่าใต้จิตใจโหดเหี้ยม มันบอกว่าคุณต้องการเวลาในการตั้งตัวก่อน ไม่ได้หมายถึงคุณโหดเหี้ยมเลวร้ายอะไร
คุณต้องหลบฉากออกมาตั้งสติ จะห้องน้ำ หลังบริษัท ห้องทำงานส่วนตัว ไปเซเว่น อะไรก็ได้เพื่อให้สมองคุณเย็นลง
คุณจะได้มีเวลาคิดขั้นตอนว่าต้องกลับไปพูดอะไร หนึ่ง สอง สาม กับลูกค้า หรือจะเชิญลูกค้ากลับไปก่อน
อย่าฝืนคุยกับลูกค้าในตอนที่คุณกำลังเดือด ย้ำอีกครั้ง คุณแค่ต้องการเตรียมตัวและซักซ้อมขั้นตอนกับตัวเองก่อนคุยกับลูกค้าเท่านั้น
5. คิดถึงสาเหตุที่ลูกค้ามาวีนใส่คุณ เมื่อคุณรู้เหตุผลแล้ว คุณจะได้หมดความโกรธจากในหัวใจของคุณเอง
เช่น ลูกค้าถูกลูกน้องของเขาเองขโมยของไป, ของหล่นหายระหว่างทาง, เขาทะเลาะกับคนอื่นมาก่อนแล้วมาลงกับคุณ
หรือเขาอาจได้ของไม่ครบไปจริงๆ ก็ได้ เป็นต้น คุณอาจตั้งคำถามว่า ทำไมคุณไม่ควรโกรธ
ในเมื่อเขาเอาความรู้สึกแย่ๆ มาลงกับคุณ แต่พอคุณคิดได้ว่า ความโกรธของเขาย่อมมีสาเหตุ ไม่ประการใดก็ประการหนึ่ง
ดังนั้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้น เหมือนฝนตก แผ่นดินไหว น้ำท่วม ฟ้าผ่า เพียงแต่นี่คือธรรมชาติของจิต
คือ มันเป็นของมันอย่างมันอย่างนั้น ตามรูปแบบการตอบสนองที่ธรรมชาติสร้างสมองของเรามา
ในทำนองเดียวกัน ความโกรธของคุณก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นประสาสิ่งมีชีวิตเหมือนที่ผมก็มี
มีสาเหตุคือ ถูกลูกค้าหาเรื่อง จิตจึงตอบสนองเป็นความโกรธ คำถามคือ ทำไมจิตต้องสะท้อนออกไปเป็นความโกรธ?
จิตสะท้อนออกไปเป็นความวางเฉย การให้อภัย ไม่ได้หรือ ฝึกคิดอย่างนี้บ่อยๆ คุณจะเห็นความจริงว่า
ความโกรธไม่ใช่ตัวเราเลยแม้แต่น้อย ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา และถ้าเราไม่เอามัน มันก็ดับหายไปได้ของมันเอง
ที่ฟิวเจอร์ ตอนผมซื้อเครื่องเกม3DS ร้านก็พาผมเปิดเครื่อง เช็คของ ว่าเล่นได้ ของแถมครบ
ตอนซื้อลำโพงก็เหมือนกัน มีการเทสต์ลำโพง ให้ดูอุปกรณ์เสริมว่าครบ ถึงได้จบการซื้อขาย
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนนิสัย ผมแนะนำวิธีที่ผมใช้และพอได้ผลอยู่บ้าง
แต่ก่อนผมก็เป็นแบบคุณคือ (ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่บ้าง) ชอบโมโห แค้น อยากทำร้ายมัน รู้สึกตัวเองโหดเหี้ยมขึ้นเยอะ
เวลาเจอคนที่ก่อกวน สร้างปัญหาให้เรา และถ้าสติหลุดมากๆ อาจด่าหรือทำอะไรร้ายแรงไปก็ได้
1. ยิ้มไว้เสมอ ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน จะมีความสุขจริงๆ หรือกำลังโกรธกัดฟัน ก็ยิ้มไว้ ฝืนไปให้ได้
2. ห้ามขึ้นเสียงในทุกกรณี แม้จะเป็นเรื่องไม่เข้าใจกันหนัก แต่ตราบใดที่ยังชี้แจงเสียงนุ่มๆ
ลงท้ายด้วยครับทุกครั้ง ก็ไม่น่าลุกลามเป็นการทะเลาะได้
3. ฝึกเบี่ยงประเด็นหรือถ่วงเวลาไว้ เช่น ลูกค้ามาหาเรื่องว่า "บริษัทพวกเมิงโกงกรูหรือเปล่าวะ วันนั้นกรูได้ของไม่ครบโว้ย"
คุณก็อาจตอบว่า "พี่ใจเย็นๆ มานั่งดื่มน้ำในออฟฟิซก่อน เดี๋ยวผมตรวจสอบให้นะครับ" ระหว่างนั้นคุณให้เวลาตัวเอง
ไปโทรปรึกษาเจ้านาย หรือหลบในห้องน้ำ รวบรวมสมาธิ หยุดความโกรธ แล้วพิจารณาขั้นตอนว่าต้องทำอย่างไร
เช่น หนึ่ง) เช็คจากสำเนาบิลของลูกค้าและของเรา สอง) สอบถามพนักงานที่ส่งของหรือตรวจรับของ
สาม) เช็คเอกสารการเซ็นรับสินค้าของฝ่ายโน้น สี่) ดูกล้องวงจรปิดขั้นตอนการส่งมอบ
4. จำไว้เสมอว่า เวลาคุณโกรธ สมองคุณได้หยุดทำงานไปเสียแล้ว ยิ่งเถียงระเบิดยิ่งปะทุ
ยิ่งคุณบอกว่าใต้จิตใจโหดเหี้ยม มันบอกว่าคุณต้องการเวลาในการตั้งตัวก่อน ไม่ได้หมายถึงคุณโหดเหี้ยมเลวร้ายอะไร
คุณต้องหลบฉากออกมาตั้งสติ จะห้องน้ำ หลังบริษัท ห้องทำงานส่วนตัว ไปเซเว่น อะไรก็ได้เพื่อให้สมองคุณเย็นลง
คุณจะได้มีเวลาคิดขั้นตอนว่าต้องกลับไปพูดอะไร หนึ่ง สอง สาม กับลูกค้า หรือจะเชิญลูกค้ากลับไปก่อน
อย่าฝืนคุยกับลูกค้าในตอนที่คุณกำลังเดือด ย้ำอีกครั้ง คุณแค่ต้องการเตรียมตัวและซักซ้อมขั้นตอนกับตัวเองก่อนคุยกับลูกค้าเท่านั้น
5. คิดถึงสาเหตุที่ลูกค้ามาวีนใส่คุณ เมื่อคุณรู้เหตุผลแล้ว คุณจะได้หมดความโกรธจากในหัวใจของคุณเอง
เช่น ลูกค้าถูกลูกน้องของเขาเองขโมยของไป, ของหล่นหายระหว่างทาง, เขาทะเลาะกับคนอื่นมาก่อนแล้วมาลงกับคุณ
หรือเขาอาจได้ของไม่ครบไปจริงๆ ก็ได้ เป็นต้น คุณอาจตั้งคำถามว่า ทำไมคุณไม่ควรโกรธ
ในเมื่อเขาเอาความรู้สึกแย่ๆ มาลงกับคุณ แต่พอคุณคิดได้ว่า ความโกรธของเขาย่อมมีสาเหตุ ไม่ประการใดก็ประการหนึ่ง
ดังนั้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้น เหมือนฝนตก แผ่นดินไหว น้ำท่วม ฟ้าผ่า เพียงแต่นี่คือธรรมชาติของจิต
คือ มันเป็นของมันอย่างมันอย่างนั้น ตามรูปแบบการตอบสนองที่ธรรมชาติสร้างสมองของเรามา
ในทำนองเดียวกัน ความโกรธของคุณก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นประสาสิ่งมีชีวิตเหมือนที่ผมก็มี
มีสาเหตุคือ ถูกลูกค้าหาเรื่อง จิตจึงตอบสนองเป็นความโกรธ คำถามคือ ทำไมจิตต้องสะท้อนออกไปเป็นความโกรธ?
จิตสะท้อนออกไปเป็นความวางเฉย การให้อภัย ไม่ได้หรือ ฝึกคิดอย่างนี้บ่อยๆ คุณจะเห็นความจริงว่า
ความโกรธไม่ใช่ตัวเราเลยแม้แต่น้อย ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา และถ้าเราไม่เอามัน มันก็ดับหายไปได้ของมันเอง
แสดงความคิดเห็น
อยากเปลี่ยนนิสัยใต้จิตใจที่โหดเหี้ยมครับ โมโหลูกค้าแบบรุนแรงมา ทั้งๆทำตามหน้าที่แต่พลาดไปใช้คำพูดท้าทายลูกค้า
เพราะลูกค้าโกหกหน้าจริง แต่ผมรู้ว่าเค้าเอาของไปครบ แต่ตอนคืนของหาว่าได้ของไม่ครบ
ถ้าได้ของไม่ครบทำไมไม่แจ้งตั้งแต่แรก มาแจ้งทำไม 5 วันหลังใช้ของเสร็จ
โมโหหหหหห...........
อยากได้วิธีเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ไม่ให้โมโห หรือ โมโหข้างในแต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า ไรแบบนี้ครับ