เรื่องเกิดสดๆ ร้อนๆ ค่ะ คุณป้าของเราเอง ไปธนาคารคนเดียวแล้วโดนหลอกล่อให้ซื้อหุ้นกู้

เล่าลักษณะของคุณป้านิดนึง ท่านอายุ 73 ปี แต่เป็นคนแก่ประเภทเล่นหุ้นมาตั้งแต่สาวๆ ปัจจุบันก็เทรดหุ้น / กองทุน เองทางไอแพด ลงทุนในหลากหลายช่องทางตั้งแต่พันธบัตรรัฐบาลจนถึงหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ เป็นคนที่คอยบอกลูกหลานว่าอย่าได้ซื้อประกันของธนาคารเด็ดขาด พร้อมทั้งคำนวนให้ฟังว่ามันได้ผลประโยชน์ต่ำอย่างไร เป็นคนคอยเตือนคนรอบตัวให้ทำเรื่องขอคืนภาษี ฯลฯ

ดังนั้นพวกเราจึงปล่อยท่านให้ไปธนาคารโดยลำพังโดยไม่ต้องห่วง  แต่...

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาท่านไปธนาคารแห่งหนึ่ง แล้วผู้จัดการมาเสนอให้ซื้อหุ้นกู้ของ cpall  คุณป้าก็ถามว่าจะได้เงินต้นคืนภายในกี่ปี ผจก.บอกว่าภายใน 5 ปี ได้ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี คุณป้าก็ตกลงทันทีเพราะระยะเวลาไม่นานและดอกเบียสูง ท่านขออ่านหนังสือชี้ชวน ผจก. ก็หยิบมาให้ แต่ไม่ทันจะเปิดอ่าน ผจก.ก็บอกว่าถ้าจะซื้อต้องเดี๋ยวนี้เลยนะคะ เพราะกำลังจะหมดแล้ว คุณป้าเลยจองซื้อทันทีด้วยเงินหลายล้านบาท  เพราะท่านเคยพลาดจองหุ้นกู้ของ cpall มาแล้วแมื่อปี 57 (หุ้นกู้ที่ออกในตอนนั้นเป็นคนละประเภทกับตอนนี้ค่ะ คือเป็นหุ้นกู้ที่มีกำหนดไถ่ถอนแน่นอน คล้ายๆ พันธบัตรรัฐบาล ซึ่งคุณป้าฟัง ผจก. แล้วก็เข้าใจว่าคราวนี้ก็เป็นแบบปี 57)

พอท่านกลับมาบ้าน ก็บอกเราให้รีบไปซื้อ เพราะจะหมดเขตวันที่ 29 พย.  พอเราฟังรายละเอียดก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะถ้ากำหนดไถ่ถอน 5 ปี แล้วดอกร้อยละ 5 ต่อปี เงื่อนไขมันดีเกินกว่าที่หุ้นกู้จะเหลือมาจนถึงใกล้วันหมดเขต  มันน่าจะถูกแย่งซื่อไปหมดตั้งนานแล้ว มันคือ cpall นะ แถมดอกเบี้ยแบงค์ยังต่ำติดินแบบนี้

ก็เลยลองเข้าเว็บไปดู ประกฎว่า มันคือ "หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์มีลักษณะคล้ายทุน"  ใครอยากทราบรายละเอียดลอง google ได้เลยนะคะ อธิบายคร่าวๆ ได้ว่า มันคือหุ้นกู้ที่ทาง cpall คืนเงินเราได้เมื่อครบกำหนด 5 ปี  หรือจนกว่าบริษัทจะเลิกกิจการ และ สามารถเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไปได้ เพื่อไปจ่ายในอนาคต (อนาคตเมื่อไรมิได้บอกไว้)

เราไม่ได้บอกว่าหุ้นกู้ตัวนี้ไม่ดีนะคะ ถ้ามันไม่เกิดเหตุที่เลวร้ายขึ้นกับโลกไปนี้ เจ้าหนี้อย่างคุณป้าเราก็คงได้ดอกเบี้ยแฮปปี้ไป cp เองก็คงจะรีบคืนเงินต้น เพราะเขาเองก็คงไม่อยากเสียดอกเบี้ยนาน แต่ถ้ามันเกิดเหตุไม่ดีมากๆ ขึ้นมาบนโลก เจ้าหนี้อย่างคุณป้าก็คงแย่ เพราะเงื่อนไขมันเสียเปรียบมาก

โดยสรุปก็คือถ้าเรารู้เงื่อนไข เราจะประมาณได้ว่าควรลงทุนแค่ไหน คุณป้าบอกว่าถ้าท่านรู้แต่แรก ท่านจะซื้อหุ้นกู้นี้แค่ล้านเดียวเท่านั้น เราก็ดุท่านไปว่าทำไมไม่อ่านหนังสือชี้ชวนให้ดีก่อน (ตรงนี้คุณป้าเราบกพร่องจริงๆ น่าตีมาก) ท่านบอกว่าท่านเชื่อถือในตัวผู้จัดการ เค้าเป็นถึงผู้จัดการ และเค้าบีบเรื่องเวลาว่าถ้ามัวช้าจะซื้อไม่ทัน

คุณป้าเริ่มเหงื่อตกจะเป็นลมแล้วค่ะ ท่านว่าเงินหลายล้านนี้รับความเสี่ยงได้ไม่มาก เพราะท่านเสียงไปกับหุ้นและกองทุนแล้ว เราเลยพาท่านกลับไปที่ธนาคาร ขอพบผู้จัดการ แล้วก็ถามตรงๆ เลยว่า ทำไมคุณถึงโกหกคุณป้าว่าหุ้นกู้นี้มีอายุ 5 ปี

นางไม่เถียง แต่ยกมือไหว้ขอโทษ แล้วบอกว่าจะแคนเซิ่ลให้ เราอยากจะว่าอะไรอีกหลายคำ แต่ก็มานึกได้ว่านางเองก็คงถูกบีบมาอีกที ให้ขายผลิตภัณฑ์ของธนาคารให้ได้มากที่สุด จะต้องโกหกก็ยอม

คือจะเตือนเพื่อนๆ ว่า พนักงานธนาคาร ตั้งแต่ผู้จัดการลงมาสามารถที่จะ "พูดเท็จ" ได้หน้าตาเฉย ดังนั้นโปรดอย่าปล่อยคนสูงอายุไปธนาคารคนเดียว และจะซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามต้องศึกษาไปเองอย่างละเอียด แล้วก็เดินเข้าไปซื้อเองค่ะ

ปล. สำหรับใครที่จะเข้ามาซ้ำว่าคุณป้าเราผิดเอง ใช่ค่ะ คุณป้าเราผิดที่ไม่ศึกษาก่อนลงทุน  และผู้จัดการธนาคารก็ผิด ที่พูดเท็จ ตอบคำถามลูกค้าด้วยข้อความอันเป็นเท็จ

ปล. 2 ใครที่ซื้อหุ้นกู้ตัวนี้ไปแล้วก็ไม่ต้องนอยด์นะคะ เพราะการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยนั้นไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ เพราะมันมีข้อกำหนดว่าถ้า cpall เลื่อนจ่ายดอกเบี้ย หุ้น cpall ก็ต้องงดจ่ายปันผลด้วย  คราวนี้หุ้นก็จะถูกเทขายล่ะค่ะ ซึ่งมันได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้นถ้าไม่เกิดเหตุเลวร้ายขึ้นจริงๆ เค้าก็จะจ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด และคืนเงินภายใน 5 ปี เพราะไม่มีใครอยากจ่ายดอกเบี้ยนานหรอก

จขกท. ก็จัดหุ้นกู้นี้มาเหมือนกัน แต่ไม่มาก