เห็ดนางฟ้าซอยมหาโชค
วันก่อน 24 พฤศจิกายน 2559 มีเวลาไปแอ่วกรึ่มๆบ้านเพื่อนคุณนิคม
ที่ซอยมหาโชค ต.ป่าตัน เชียงใหม่ บ้านในเนื้อที่เพียง 2 งานกว่าๆ
เพื่อนเราก็สามารถสร้างรายได้จากเห็ดนางฟ้า เลี้ยงตัวเองและครอบครัวมานานนับสิบปี เก่งจริงๆ อ้าวอย่านอกเรื่องเห็ดกลับวกมาเล่าเรื่องของเห็ดเพื่อชีวิตมหาโชคต่อ
โรงเห็ดที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเห็ดนางฟ้า เห็ดเศรษฐกิจที่ ใช้เวลาในการเพาะสั้น เพาะง่าย ดอกเห็ดจะออกมาก จนเก็บส่งตลาดเมืองใหม่ได้ทุกๆเช้าทำมานานจนรู้ราคาท้องตลาดเป็นอย่างดี ถ้าราคาไม่ดีก็เปิดปากถุงน้อยหน่อยช่วงไหนราคาดีก็รีบๆเข้าโรงมาเปิดปากถุงให้ดอกเห็ดออกมากๆ จะได้เงินเยอะไง
สำหรับเทคนิคการทำเห็ดที่นี่ ไม่มีเรื่องมากให้ปวดหัว มีสามสี่อย่างที่ต้องคิดไว้อยู่เสมอก็คือ
โรงเรือน ก้อนเห็ด การเลี้ยงดูแลรักษา และการเก็บส่งตลาด
โรงเรือนเห็ดแรกเริ่มโครงการ สร้างแบบง่ายๆใช้เสาไม้ยูคา หลังคาฝาโรงเรือนมุงด้วยจากหรือไพคา หลายปีผ่านไปเมื่อเก็บเงินจากเห็ดได้มากขึ้นก็เปลี่ยนเสาเป็นเสาปูนหลังคาเป็นลอนคู่ ฝาโรงเรือนปิดคลุมด้วยพลาสติคใสใยซาเล้นด์ดำ 80 เปอร์เซนต์ ดูแล้วใกล้โรงเห็ดมาตรฐานสากลเข้าไปทุกที
ในโรงเห็ดจะเน้นการดูแลเรื่องของความสะอาดแบบว่ามดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมทีเดียว ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี มีแสงเข้าให้เห็ดได้รับบ้าง ไม่ร้อนอบจนอ้าวหรืออับจนชื้นเกินไป คุยไปคุยมาสรุปได้ว่าโรงเรือนเห็ดเป็นเรื่องของ อุณหภูมิ อากาศ ความชื้น แสง ที่ได้อาศัยประสบการณ์ในการทำจนรู้ว่า อะไรเป็นอะไร อะหยังเป็นอะหยัง จะทำอย่างไรให้เห็ดอยู่ดีออกดี
คุยกันไปถึงเรื่องก้อนเชื้อเห็ด แรกเริ่มเดิมทีก็ตระเวนซื้อก้อนเชื้อมาจากฟาร์มเห็ดที่เขาทำขายสำเร็จ ก้อนละ 5 - 7 บาทซื้อมาครั้งแรก เป็นพันๆก้อนลงเงินไปเป็นหมื่นๆทุนก็ได้จากสหกรณ์ออมทรัพย์เขามีกู้อะไรไปเอามาหมด ซื้อก้อน เอามาวางเรียงซ้อนรดน้ำดูแลเท่านั้นเอง หลายๆเดือนต่อมาจากการดูแลรักษาและตั้งใจทำก็แอบไปศึกษาขั้นตอนการทำเพิ่มขึ้น อะไรจะมาสู้การทำเองที่ต้นทุนต่ำไม่ได้
สั่งซื้อขี้เลื่อยไม้ยางพารามาทีละลำรถ นำมาผสมอัดยัดลงถุงกันเอง การอัดขี้เลื่อยลงถุงก็ทำเป็นแท่นอัดขี้เลื่อยด้วยวงล้อรถจักรยานเก่า ใช้ระบบทดแรงด้วยโซ่หมุนก้านอัดช่วยเบาแรงได้เยอะจริงๆ สามีเป็นคนผสมขี้เลื่อยภรรยาเป็นคนยัดถุง เปิดเพลงฟังไปนั่งยัดถุงกันไปเพลินๆ สำหรับส่วนผสมของชี้เลื่อย จะมีสูตรเฉพาะใส่อาหารเสริม พวกรำละเอียด ดีเกลือ ปูนขาว ตามสูตร ผสม อัดลงถุง ใส่หลอดพลาสติกปิดปากถุง ทำกันสองคนวันหนึ่งได้หลายร้อยก้อนจึงไม่ต้องไปซื้อก้อนจากฟาร์มอีก
ส่วนการฆ่าเชื้อทำความสะอาดก้อนขี้เลื่อยก็ใช้วิธีนึ่งแบบลูกทุ่งโบราณ หาซื้อถังน้ำ 200 ลิตร มา 2 ถังใส่น้ำตั้งบนแท่นเตาอิฐบล๊อก
อาศัยฟืนจากกิ่งไม้แห้งที่มีเพื่อนตัดกิ่งไม้มาส่งให้คราวละมากๆ(ลำรถกะบะ)สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง นำก้อนขี้เลื่อยใส่ลงถังติดไฟหลัวอบนึ่งไปด้วยไอน้ำใช้เวลาประมาณสองสามชั่วโมงแน่ใจว่าเชื้อราหรืออื่นๆตายหมดแล้วก็หยุดใส่ฟืนทิ้งไว้จนก้อนเย็น
ตอนนี้ก็จะได้ก้อนขี้เลื่อยที่สะอาดปราศจากเชื้อราที่พร้อมจะเขี่ยเชื้อเห็ดลงถุงแล้ว
สองคนสามีภรรยาพากันเอาก้อนออกจากถังมาวางซ้อนกันพักไว้ในโรงเรือนที่โล่งๆให้เย็นๆ
ก้อนเห็ดจะทำเป็นชุดๆสลับเวียนไปกับการเขี่ยเชื้อ พักเชื้อ แล้วก็วนมาทำถุงขี้เลื่อยใหม่ทำแบบนี้ เพื่อให้มีถุงเห็ดออกมาได้ตลอดทั้งปีไม่มีขาดช่วง
สำหรับเชื้อเห็ดเคยทดลองเพาะเองตามตำราได้บ้างเสียบ้าง สรุปได้ว่าสู้ออกไปซื้อเชื้อสำเร็จจากฟาร์มเห็ดที่เขาทำขายโดยเฉพาะนำมาเขี่ยลงถุงง่ายกว่าไม่ต้องเสียเวลาซื้อมาเป็นแบนๆ(เขาใส่เชื้อไว้ในขวดแบนเหล้า)แบนหนึ่งเขี่ยใส่ถุงได้ 50- 60 ถุงแล้วแต่การเขี่ยมากเขี่ยน้อย(เขี่ยเชื้อ)
เล่าต่อเรื่องก้อนขี้เลื่อยที่ผ่านการอบนึ่งความดันไอร้อนที่เย็นแล้ว จึงค่อยนำเอาหัวเชื้อเห็ดนางฟ้าในเมล็ดข้าวฟ่าง มาเขี่ยลงไปในก้อน
โดยวางก้อนให้เป็นแถวเป็นแนวเปิดปากถุงลนไฟด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อที่แปลกปลอม เทหัวเชื้อลงไปในถุงประมาณ 10-20 เมล็ด รีบปิดจุกสำลีทันที มือต้องสะอาดนะห้ามเข้าส้วมแล้วมาทำ
ตอนนี้ก็จะได้ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้ากันแล้ว นำก้อนเชื้อนี้ไปเรียงวางซ้อนกันสามสี่ชั้นเพาะบ่มเก็บไว้ในห้องทึบๆ ที่ลมไม่โกรก ควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ประมาณ 25 – 30 องศา ถ้าอากาศร้อนก็พ่นรดน้ำตามพื้น ผนัง หลังคาให้เย็นลง ทิ้งไว้ประมาณ 2–3 อาทิตย์
ก้อนเชื้อที่ดีสังเกตุดูจะมีเส้นใยสีขาวเจริญเติบโตเต็มถุงสม่ำเสมอทั้งก้อน จะมีบ้างบางถุงยังดูดำๆเส้นใยไม่เดินเนื่องจากยังมีเชื้อรามาจากการนึ่งไม่ดีหรือการเขี่ยเชื้อเสียก็ได้
พวกนี้คัดออกทิ้งหลังบ้านไป
บางถุงเชื้อเดินได้ดีอยากออกงอกเป็นดอกเห็ดก่อนวัยแบบดัดจริตแอบแยกออกมาตามรอยแตกของถุงไม่ออกตรงหลอดปากถุงก็มี
คุยกันต่อหลังจากบ่มเชื้อเห็ดไปได้สักระยะหนึ่ง หรือประมาณ 10 วัน
ช่วงนี้ต้องคอยเข้าไปตรวจดูทุกวันถ้าพบว่าก้อนเชื้อถุงใดเสียหาย เกิดมีเชื้อราดำ ราเขียว ต้องรีบเอาออกไปทำลาย ไม่งั้นเชื้อจะแพร่ไปถุงอื่นจนหมดโรงเรือน ดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไรมีหนูมีคนเข้าคนออกนำเอาเชื้อมาปล่อยหรือไม่ สภาพพื้นสกปรก มีแหล่งเชื้อราสะสมหรือปล่าว ช่วงนี้จึงต้องรักษาความสะอาดรอบบริเวณทั้งภายนอกภายในให้สะอาด
พูดถึงการเรียงก้อนเพาะเห็ดของที่นี่ เริ่มแรกๆ ก็ทำชั้นไม้วางซ้อนๆกัน
ต่อมาได้พัฒนาใช้เป็นแบบแขวน ซื้อเชือกพลาสติกเส้นเล็กๆที่ร้านวัสดุก่อสร้างเอามาทำเองเป็นแถวหรือชั้นละ 4 เส้น
ผูกเชือกมัดติดกันเป็นปมหัวท้าย แต่อย่าลืมก่อนมัดเชือก ตัดแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด เป็นสี่เหลี่ยมเจาะรูตรงมุมทั้งสี่ด้าน ร้อยเชือกทั้ง 4 เส้นไว้ตรงกลาง เอาไว้สำหรับถ่างเชือกออกแล้วเอาก้อนเชื้อวางซ้อนๆกันขึ้นมาได้หลายถุง
นำเชือกไปมัดแขวนห้อยจากคานไม้ในโรงเรือน ยกสูงจากพื้นเล็กน้อย พื้นเรือนเพาะจึงจะดูสะอาดรักษาได้ง่าย สามารถเปิดถุงให้ดอกเห็ดออกทางด้านไหนก่อนก็ได้เพื่อง่ายต่อการเก็บเห็ด เมื่อเรียงก้อนเห็ดได้ที่แล้วตอนนี้ก็เหลือแต่การคอยหมั่นมาดูแลรักษาสภาพในโรงเรือน
ควบคุมอุณหภูมิความชื้นแสงสว่าง เปิดไอน้ำให้ความชื้นบ้างเป็นเวลา แรกๆก็ใช้สายยางใส่หัวฝักบัวฉีดพ่นน้ำเป็นฝอย
หลายปีต่อมาพัฒนาขึ้นมาแล้วก็หาซื้อเครื่องพ่นหมอกมาใช้ ถือว่าคุ้มทีเดียวเครื่องตอนนั้น 4 – 5 พันแต่ก็ใช้มาได้นานนับปีทีเดียว
รู้งี้ซื้อมาใช้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว(ก็มันไม่มีเงิน)
วันนี้ที่รอคอย ดอกเห็ด
หลังจากที่วางเรียงถุงในโรงเห็ดเป็นแถวๆแล้วดูแลไปอีกสักระยะก็จะเริ่มเปิดปากถุงเพื่อให้เห็ดออกดอก ดึงจุกสำลีปากถุงออก เปิดเครื่องพ่นละอองน้ำให้เป็นฝอยละเอียด
ในตอนกลางวันทิ้งไว้ดอกเห็ดจะเริ่มเกิดเป็นตุ่มๆโผล่ออกมาทางปากถุง รอจนรุ่งเช้าสักตีสามตีสี่ดอกเห็ดจะบานเกือบเต็มที่
เราสองคนผัวเมียก็จะตื่นออกมาเก็บเห็ดแบ่งใส่ถุงให้คนงานไปส่งแม่ค้าเจ้าประจำที่ตลาด
เห็ดถุงหนึ่งๆให้ผลผลิตเห็ดได้หลายรุ่น ไปจนก้อนเชื้อยุบตัวลงจนถุงเชื้อแน่น เทคนิคการเปิดปากถุงเพื่อให้ดอกออกก็มีหลายวิธี เช่น วิธีเปิดถุงแบบ พับปากถุง กรีดข้างถุง ตัดปากถุง แกะถุงออกหมดหรือการเปลือยถุง ทั้งนี้ก็จะอยู่ที่เราว่าจะให้เกิดดอกเห็ดได้เร็ว ออกมามีจำนวนมาก หรือจะให้ได้เป็นดอกเล็กดอกใหญ่ก็ทำได้อยู่ที่การเปิดปากถุงนี่แหละ
ทำกันไปทุกวันไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อยจนกลายเป็นเรื่องปรกติของบ้านนี้ไปแล้ว
กลางวันทำก้อนเห็ด ดูแลก้อนเห็ด
เช้ามืดเก็บเห็ด คัดเห็ดใส่ถุง จนใกล้สว่างตีสี่ครึ่งตีห้า เช้าๆอากาศจะหนาวเย็น หรือจะมีฝนตก เห็ดจากซอยมหาโชคที่นี่ก็จะไปถึงแผงแม่ค้าในตลาดเมืองใหม่ก่อนฟ้าสางทุกวันไม่มีหยุด
ที่เล่าๆมานี่พอจะเห็นภาพไหมว่าเห็ดนางฟ้ามาช่วยสร้างชีวิตที่ซอยมหาโชคได้งัย จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม สามชีวิตที่เติบโตมาพร้อมกับพัฒนาการของเห็ด จากความลำบากทุกข์ยากสู่ความสุขสบาย จากปัญหาที่เคยรุมเร้าในหัวใจที่เสริมใยเหล็กกลายเป็นแรงผลักดันให้ใช้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทุกข์กลายเป็นสุขถาวรมั่นคงตลอดไป น่านับถือ น่านับถือ
เห็ดนางฟ้าซอยมหาโชค
วันก่อน 24 พฤศจิกายน 2559 มีเวลาไปแอ่วกรึ่มๆบ้านเพื่อนคุณนิคม
ที่ซอยมหาโชค ต.ป่าตัน เชียงใหม่ บ้านในเนื้อที่เพียง 2 งานกว่าๆ
เพื่อนเราก็สามารถสร้างรายได้จากเห็ดนางฟ้า เลี้ยงตัวเองและครอบครัวมานานนับสิบปี เก่งจริงๆ อ้าวอย่านอกเรื่องเห็ดกลับวกมาเล่าเรื่องของเห็ดเพื่อชีวิตมหาโชคต่อ
โรงเห็ดที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเห็ดนางฟ้า เห็ดเศรษฐกิจที่ ใช้เวลาในการเพาะสั้น เพาะง่าย ดอกเห็ดจะออกมาก จนเก็บส่งตลาดเมืองใหม่ได้ทุกๆเช้าทำมานานจนรู้ราคาท้องตลาดเป็นอย่างดี ถ้าราคาไม่ดีก็เปิดปากถุงน้อยหน่อยช่วงไหนราคาดีก็รีบๆเข้าโรงมาเปิดปากถุงให้ดอกเห็ดออกมากๆ จะได้เงินเยอะไง
สำหรับเทคนิคการทำเห็ดที่นี่ ไม่มีเรื่องมากให้ปวดหัว มีสามสี่อย่างที่ต้องคิดไว้อยู่เสมอก็คือ
โรงเรือน ก้อนเห็ด การเลี้ยงดูแลรักษา และการเก็บส่งตลาด
โรงเรือนเห็ดแรกเริ่มโครงการ สร้างแบบง่ายๆใช้เสาไม้ยูคา หลังคาฝาโรงเรือนมุงด้วยจากหรือไพคา หลายปีผ่านไปเมื่อเก็บเงินจากเห็ดได้มากขึ้นก็เปลี่ยนเสาเป็นเสาปูนหลังคาเป็นลอนคู่ ฝาโรงเรือนปิดคลุมด้วยพลาสติคใสใยซาเล้นด์ดำ 80 เปอร์เซนต์ ดูแล้วใกล้โรงเห็ดมาตรฐานสากลเข้าไปทุกที
ในโรงเห็ดจะเน้นการดูแลเรื่องของความสะอาดแบบว่ามดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมทีเดียว ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี มีแสงเข้าให้เห็ดได้รับบ้าง ไม่ร้อนอบจนอ้าวหรืออับจนชื้นเกินไป คุยไปคุยมาสรุปได้ว่าโรงเรือนเห็ดเป็นเรื่องของ อุณหภูมิ อากาศ ความชื้น แสง ที่ได้อาศัยประสบการณ์ในการทำจนรู้ว่า อะไรเป็นอะไร อะหยังเป็นอะหยัง จะทำอย่างไรให้เห็ดอยู่ดีออกดี
คุยกันไปถึงเรื่องก้อนเชื้อเห็ด แรกเริ่มเดิมทีก็ตระเวนซื้อก้อนเชื้อมาจากฟาร์มเห็ดที่เขาทำขายสำเร็จ ก้อนละ 5 - 7 บาทซื้อมาครั้งแรก เป็นพันๆก้อนลงเงินไปเป็นหมื่นๆทุนก็ได้จากสหกรณ์ออมทรัพย์เขามีกู้อะไรไปเอามาหมด ซื้อก้อน เอามาวางเรียงซ้อนรดน้ำดูแลเท่านั้นเอง หลายๆเดือนต่อมาจากการดูแลรักษาและตั้งใจทำก็แอบไปศึกษาขั้นตอนการทำเพิ่มขึ้น อะไรจะมาสู้การทำเองที่ต้นทุนต่ำไม่ได้
สั่งซื้อขี้เลื่อยไม้ยางพารามาทีละลำรถ นำมาผสมอัดยัดลงถุงกันเอง การอัดขี้เลื่อยลงถุงก็ทำเป็นแท่นอัดขี้เลื่อยด้วยวงล้อรถจักรยานเก่า ใช้ระบบทดแรงด้วยโซ่หมุนก้านอัดช่วยเบาแรงได้เยอะจริงๆ สามีเป็นคนผสมขี้เลื่อยภรรยาเป็นคนยัดถุง เปิดเพลงฟังไปนั่งยัดถุงกันไปเพลินๆ สำหรับส่วนผสมของชี้เลื่อย จะมีสูตรเฉพาะใส่อาหารเสริม พวกรำละเอียด ดีเกลือ ปูนขาว ตามสูตร ผสม อัดลงถุง ใส่หลอดพลาสติกปิดปากถุง ทำกันสองคนวันหนึ่งได้หลายร้อยก้อนจึงไม่ต้องไปซื้อก้อนจากฟาร์มอีก
ส่วนการฆ่าเชื้อทำความสะอาดก้อนขี้เลื่อยก็ใช้วิธีนึ่งแบบลูกทุ่งโบราณ หาซื้อถังน้ำ 200 ลิตร มา 2 ถังใส่น้ำตั้งบนแท่นเตาอิฐบล๊อก
อาศัยฟืนจากกิ่งไม้แห้งที่มีเพื่อนตัดกิ่งไม้มาส่งให้คราวละมากๆ(ลำรถกะบะ)สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง นำก้อนขี้เลื่อยใส่ลงถังติดไฟหลัวอบนึ่งไปด้วยไอน้ำใช้เวลาประมาณสองสามชั่วโมงแน่ใจว่าเชื้อราหรืออื่นๆตายหมดแล้วก็หยุดใส่ฟืนทิ้งไว้จนก้อนเย็น
ตอนนี้ก็จะได้ก้อนขี้เลื่อยที่สะอาดปราศจากเชื้อราที่พร้อมจะเขี่ยเชื้อเห็ดลงถุงแล้ว
สองคนสามีภรรยาพากันเอาก้อนออกจากถังมาวางซ้อนกันพักไว้ในโรงเรือนที่โล่งๆให้เย็นๆ
ก้อนเห็ดจะทำเป็นชุดๆสลับเวียนไปกับการเขี่ยเชื้อ พักเชื้อ แล้วก็วนมาทำถุงขี้เลื่อยใหม่ทำแบบนี้ เพื่อให้มีถุงเห็ดออกมาได้ตลอดทั้งปีไม่มีขาดช่วง
สำหรับเชื้อเห็ดเคยทดลองเพาะเองตามตำราได้บ้างเสียบ้าง สรุปได้ว่าสู้ออกไปซื้อเชื้อสำเร็จจากฟาร์มเห็ดที่เขาทำขายโดยเฉพาะนำมาเขี่ยลงถุงง่ายกว่าไม่ต้องเสียเวลาซื้อมาเป็นแบนๆ(เขาใส่เชื้อไว้ในขวดแบนเหล้า)แบนหนึ่งเขี่ยใส่ถุงได้ 50- 60 ถุงแล้วแต่การเขี่ยมากเขี่ยน้อย(เขี่ยเชื้อ)
เล่าต่อเรื่องก้อนขี้เลื่อยที่ผ่านการอบนึ่งความดันไอร้อนที่เย็นแล้ว จึงค่อยนำเอาหัวเชื้อเห็ดนางฟ้าในเมล็ดข้าวฟ่าง มาเขี่ยลงไปในก้อน
โดยวางก้อนให้เป็นแถวเป็นแนวเปิดปากถุงลนไฟด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อที่แปลกปลอม เทหัวเชื้อลงไปในถุงประมาณ 10-20 เมล็ด รีบปิดจุกสำลีทันที มือต้องสะอาดนะห้ามเข้าส้วมแล้วมาทำ
ตอนนี้ก็จะได้ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้ากันแล้ว นำก้อนเชื้อนี้ไปเรียงวางซ้อนกันสามสี่ชั้นเพาะบ่มเก็บไว้ในห้องทึบๆ ที่ลมไม่โกรก ควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ประมาณ 25 – 30 องศา ถ้าอากาศร้อนก็พ่นรดน้ำตามพื้น ผนัง หลังคาให้เย็นลง ทิ้งไว้ประมาณ 2–3 อาทิตย์
ก้อนเชื้อที่ดีสังเกตุดูจะมีเส้นใยสีขาวเจริญเติบโตเต็มถุงสม่ำเสมอทั้งก้อน จะมีบ้างบางถุงยังดูดำๆเส้นใยไม่เดินเนื่องจากยังมีเชื้อรามาจากการนึ่งไม่ดีหรือการเขี่ยเชื้อเสียก็ได้
พวกนี้คัดออกทิ้งหลังบ้านไป
บางถุงเชื้อเดินได้ดีอยากออกงอกเป็นดอกเห็ดก่อนวัยแบบดัดจริตแอบแยกออกมาตามรอยแตกของถุงไม่ออกตรงหลอดปากถุงก็มี
คุยกันต่อหลังจากบ่มเชื้อเห็ดไปได้สักระยะหนึ่ง หรือประมาณ 10 วัน
ช่วงนี้ต้องคอยเข้าไปตรวจดูทุกวันถ้าพบว่าก้อนเชื้อถุงใดเสียหาย เกิดมีเชื้อราดำ ราเขียว ต้องรีบเอาออกไปทำลาย ไม่งั้นเชื้อจะแพร่ไปถุงอื่นจนหมดโรงเรือน ดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไรมีหนูมีคนเข้าคนออกนำเอาเชื้อมาปล่อยหรือไม่ สภาพพื้นสกปรก มีแหล่งเชื้อราสะสมหรือปล่าว ช่วงนี้จึงต้องรักษาความสะอาดรอบบริเวณทั้งภายนอกภายในให้สะอาด
พูดถึงการเรียงก้อนเพาะเห็ดของที่นี่ เริ่มแรกๆ ก็ทำชั้นไม้วางซ้อนๆกัน
ต่อมาได้พัฒนาใช้เป็นแบบแขวน ซื้อเชือกพลาสติกเส้นเล็กๆที่ร้านวัสดุก่อสร้างเอามาทำเองเป็นแถวหรือชั้นละ 4 เส้น
ผูกเชือกมัดติดกันเป็นปมหัวท้าย แต่อย่าลืมก่อนมัดเชือก ตัดแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด เป็นสี่เหลี่ยมเจาะรูตรงมุมทั้งสี่ด้าน ร้อยเชือกทั้ง 4 เส้นไว้ตรงกลาง เอาไว้สำหรับถ่างเชือกออกแล้วเอาก้อนเชื้อวางซ้อนๆกันขึ้นมาได้หลายถุง
นำเชือกไปมัดแขวนห้อยจากคานไม้ในโรงเรือน ยกสูงจากพื้นเล็กน้อย พื้นเรือนเพาะจึงจะดูสะอาดรักษาได้ง่าย สามารถเปิดถุงให้ดอกเห็ดออกทางด้านไหนก่อนก็ได้เพื่อง่ายต่อการเก็บเห็ด เมื่อเรียงก้อนเห็ดได้ที่แล้วตอนนี้ก็เหลือแต่การคอยหมั่นมาดูแลรักษาสภาพในโรงเรือน
ควบคุมอุณหภูมิความชื้นแสงสว่าง เปิดไอน้ำให้ความชื้นบ้างเป็นเวลา แรกๆก็ใช้สายยางใส่หัวฝักบัวฉีดพ่นน้ำเป็นฝอย
หลายปีต่อมาพัฒนาขึ้นมาแล้วก็หาซื้อเครื่องพ่นหมอกมาใช้ ถือว่าคุ้มทีเดียวเครื่องตอนนั้น 4 – 5 พันแต่ก็ใช้มาได้นานนับปีทีเดียว
รู้งี้ซื้อมาใช้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว(ก็มันไม่มีเงิน)
วันนี้ที่รอคอย ดอกเห็ด
หลังจากที่วางเรียงถุงในโรงเห็ดเป็นแถวๆแล้วดูแลไปอีกสักระยะก็จะเริ่มเปิดปากถุงเพื่อให้เห็ดออกดอก ดึงจุกสำลีปากถุงออก เปิดเครื่องพ่นละอองน้ำให้เป็นฝอยละเอียด
ในตอนกลางวันทิ้งไว้ดอกเห็ดจะเริ่มเกิดเป็นตุ่มๆโผล่ออกมาทางปากถุง รอจนรุ่งเช้าสักตีสามตีสี่ดอกเห็ดจะบานเกือบเต็มที่
เราสองคนผัวเมียก็จะตื่นออกมาเก็บเห็ดแบ่งใส่ถุงให้คนงานไปส่งแม่ค้าเจ้าประจำที่ตลาด
เห็ดถุงหนึ่งๆให้ผลผลิตเห็ดได้หลายรุ่น ไปจนก้อนเชื้อยุบตัวลงจนถุงเชื้อแน่น เทคนิคการเปิดปากถุงเพื่อให้ดอกออกก็มีหลายวิธี เช่น วิธีเปิดถุงแบบ พับปากถุง กรีดข้างถุง ตัดปากถุง แกะถุงออกหมดหรือการเปลือยถุง ทั้งนี้ก็จะอยู่ที่เราว่าจะให้เกิดดอกเห็ดได้เร็ว ออกมามีจำนวนมาก หรือจะให้ได้เป็นดอกเล็กดอกใหญ่ก็ทำได้อยู่ที่การเปิดปากถุงนี่แหละ
ทำกันไปทุกวันไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อยจนกลายเป็นเรื่องปรกติของบ้านนี้ไปแล้ว
กลางวันทำก้อนเห็ด ดูแลก้อนเห็ด
เช้ามืดเก็บเห็ด คัดเห็ดใส่ถุง จนใกล้สว่างตีสี่ครึ่งตีห้า เช้าๆอากาศจะหนาวเย็น หรือจะมีฝนตก เห็ดจากซอยมหาโชคที่นี่ก็จะไปถึงแผงแม่ค้าในตลาดเมืองใหม่ก่อนฟ้าสางทุกวันไม่มีหยุด
ที่เล่าๆมานี่พอจะเห็นภาพไหมว่าเห็ดนางฟ้ามาช่วยสร้างชีวิตที่ซอยมหาโชคได้งัย จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม สามชีวิตที่เติบโตมาพร้อมกับพัฒนาการของเห็ด จากความลำบากทุกข์ยากสู่ความสุขสบาย จากปัญหาที่เคยรุมเร้าในหัวใจที่เสริมใยเหล็กกลายเป็นแรงผลักดันให้ใช้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทุกข์กลายเป็นสุขถาวรมั่นคงตลอดไป น่านับถือ น่านับถือ