ทริบใหญ่ปีนี้ขอควงแขนเพื่อนและคนรู้ใจไปเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีก็เป็นช่วงที่ไม่ควรพลาด ทิ้งเรื่องยุ่ง ๆ ในชีวิต แล้วไปหาเรื่องที่ดูจะยุ่งกว่าเดิม แต่เชื่อซิ!! มันจะเป็นเรื่องยุ่งที่จะประทับใจไม่ลืม ว่าแล้วก็ไปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัยกันเลย Let’s go.


ต้องขอเกริ่นก่อนว่ารีวิวนี้ตั้งใจเขียนมาก พยายามจะใส่ข้อมูลการซื้อตั๋ว การขึ้นรถ การเดินและการเที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใครที่มีแพลนจะไปญี่ปุ่นแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองอ่านรีวิวนี้ดู
การเดินทางของพวกเรา 6 วัน 5 คืน กับ 3 สถานที่ คือ ฟูจิ > นิกโก้ >โตเกียว


เราเดินทางด้วยสายการบิน Thai Air Asia X  ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเวลา  23.45 น.  ถึงสนามบินนาริตะ เวลา 08.00 น. เครื่องจอดที่ Terminal 2 ใช้เวลาในการผ่าน ตม. และรอรับกระเป๋า รวมถึงต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟ N’EX ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถือว่าทำเวลาได้ดีทีเดียว  เราเลือกเดินทางเข้าโตเกียวด้วย N’EX เพราะรวดเร็วและแน่นอนว่ามีที่นั่งชัวร์ ๆ  เราซื้อตั๋ว N’EX เวลา 08.53 ไปถึงชินจูกุเวลา 10.21 น. แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบไปกลับ เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อตั๋วแยก ราคาไปกลับอยู่ที่ 4,000 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที และเรายังสามารถซื้อบัตร Suica ได้ที่เคาน์เตอร์เดียวกับที่ซื้อ N’EX ได้เลย (ประโยชน์ของบัตร Suica และวิธีเติมเงินจะให้เพิ่มให้ตอนท้ายของรีวิวนี้นะคะ) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ N’EX  ได้ที่ลิงค์ http://www.jreast.co.jp/e/nex/

ตารางรอบรถของ N’EX https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/timetable/index.html?_ga=1.166914750.188746046.1476762384


หลังจากผ่าน ตม. รับกระเป๋าเสร็จ  ให้ลงมา 1 ชั้น สังเกตุป้ายที่เขียนว่า Railways ไปตามป้ายนั้นได้เลยค่า จะเจอเค้าเตอร์ขายตั๋วชนิดต่าง ๆ มองหาเค้าเตอร์สีแดง ๆ ใช่ N'EX เลย ซื้อได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย



จะได้ตั๋วมา 2 ใบ สำหรับขาไปและขากลับ ให้เราหยิบบัตรที่ระบุตัวเลขตามด้านล่างมาใช้ค่ะ อีกใบจะยังไม่มีการระบุเวลาและที่นั่งไว้ให้เราไประบุภายหลังค่ะ

ได้ตั๋วมาแล้ว ในตั๋วก็จะระบุรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

วันที่เดินทาง 11 /11
เวลา 8.53 ถึง 10.19
ตู้ที่ 10 ระบุที่นั่ง 2C


จากนั้นมองหาป้ายตามรูปด้านล่างเลย เดินจากเค้าเตอร์ที่ซื้อตั๋วมาไม่ไกลค่ะ


มายืนรอตรงหมายเลข 10 เพราะตั๋วระบุตู้ที่ 10


รถไฟ N'EX จะเป็นสีขาวแดงแบบนี้นะคะ ช่วงนี้ระวังให้ดี รถไฟจะมีมาหลายขบวน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน (เพื่อนเราขึ้นผิดมาแล้วนะ ฮ่า ๆ เสียเวลาเพิ่มกันไป)


มั่นใจว่าเป็นตู้หมายเลข 10 ก็ขึ้นกันเลย แต่ถ้าขึ้นผิดตู้ไม่ต้องตกใจนะ มันเดินเชื่อมกันได้



N'EX ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย และมีที่เก็บกระเป๋าสัมภาระให้อย่างดี ที่สำคัญมี wifi ให้เล่นฟรีด้วย



หน้าจอโชว์รายละเอียด วันนี้รถไฟเรา delay แหละ คงเป็นเพราะฝนตกหนักแน่ ๆ เลย


เราใช้ช่วงเวลานี้แหละในการแปลงกลายจากสาวหน้าสดเป็นสาวหน้าสวย เอ้ย!! พูดไปได้ ล้างหน้า แปรงฟัน เมคอัพกันไป

เราไปแปรงฟันที่ห้องน้ำของรถไฟ โอ้โห ห้องน้ำสะอาดกว่าบ้านเราอีก เดินไปเกือบท้ายขบวนนู้นเลยนะ ห้องน้ำมีแค่ห้องเดียวค่อย ๆ ทยอยไปกันเนอะ


ระหว่างที่นั่งรถไฟก็ให้เพื่อนที่เดินทางมาก่อนเราไปสแตนบาย  จองตั๋วรถบัสรอบ 12.15 น. เพื่อไปเที่ยว Kawaguchiko ให้ แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคแรกของทริปนี้คือ ตั๋วรถรอบที่จะไปเต็มค่า มีรอบเร็วสุด คือเวลา 14.15 น. เพื่อนก็ใจดีรีบจองให้เลยเพราะกลัวว่าจะเต็มอีก ราคาค่าตั๋วอยู่ที่ 1,750 เยน แต่มานั่งไตร่ตรองอย่างดีแล้ว ถ้านั่งรถรอบบ่าย 2 จะถึง Kawaguchigo ประมาณสี่โมงเย็น แล้วจะได้เห็นอะไรน๊อ เพราะช่วงนี้ญี่ปุ่นพระอาทิตย์ตกเร็วมาก 4 โมงเย็น ฟ้าก็มืดไปแล้วและดูจากสภาพอากาศแล้วก็คงไม่ได้ทำอะไรแน่นอน  เราจึงจำเป็นต้องตัดสินใจเปลี่ยนแผนโดยเราจะไปช้อปปิ้งกันที่ Gotemba Outlet ก่อน เพราะมีรอบรถเวลา 11.10 น. ราคาค่าตั๋ว 1,650 เยน จากนั้นจะนั่งรถต่อไป Kawaguchiko เพื่อเข้าที่พัก

คำถาม: ทำไงกับตั๋วรถที่ซื้อเพื่อไป Kawaguchigo
คำตอบ: สามารถไปขอเปลี่ยนแปลงตั๋วได้ที่เค้าเตอร์ที่ซื้อตั๋วนั่นแหละ โดยเสียค่าธรรมเนียมคนล่ะ 100 เยน

*** ถ้าใครมีแพลนจะไป Kawaguchiko ในวันแรกแนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ที่เวปไซต์ http://highway-buses.jp/access/

ตารางรถจาก Shinjuku ไป Kawaguchiko Station


อีกหนึ่งทางเลือก สามารถไปเช็คที่นั่งเพื่อไป Kawaguchiko Station จากสถานี Shibuya ตามตารางรถด้านล่างค่ะ


ข้อมูลเพิ่มเติม http://bus-en.fujikyu.co.jp/highway/detail/id/32/

สถานที่ซื้อตั๋ว อยู่ที่เดียวกับท่ารถเลยค่ะ เรียกว่า “Expressway bus”

นั่งรถไฟ N’EX มาลงที่สถานีชินจูกุ ให้หาทางออกที่เขียนว่า New South Gate (ตรงนี้สังเกตุดูดี ๆ นะคะ อย่าลงไปทาง South อย่างเดียวนะคะ ไม่งั้นอาจจะหลง จนต้องลงมาตั้งหลักใหม่เลย เพราะเป็นมาแล้ว ฮ่าๆ  ) เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาจะเจอกับตู้ฝากกระเป๋า ก็ฝากกระเป๋าไว้ตรงนี้เลย บังเอิ๊ญบังเอิญตู้ว่างแถมเป็นตู้ใหญ่ด้วย สามารถใส่กระเป๋า size 29 นิ้วได้สบาย ด้วยราคา 600 เยน/1วัน



ตู้จะให้หยอดเงินแค่ 1 วันเท่านั้น อ้าวเราจะฝาก 2 วันทำไงดี?

ตู้ตรงนี้สามารถฝากได้นานถึง 3 วัน แต่จะมาคิดเงินเพิ่มตอนที่เรามาเอากระเป๋าออกนั่นแหละ สามารถใช้ได้ทั้งเงินสดและบัตร SUICA

ถ้าจ่ายด้วยเงินสดในใบเสร็จรับฝากกระเป๋าจะมี รายละเอียด เรื่องเวลา เบอร์ตู้ล็อคเกอร์ และ รหัส PIN  เอาไว้สำหรับเปิดเอาคืน เพราะฉะนั้นเก็บใบนี้ไว้ให้ดี ๆ หรือถ่ายรูปเก็บไว้เลยค่ะ


ถ้าฝากด้วยบัตร SUICA  จะไม่มีเลขนะ แต่เวลาเอากระเป๋าออกต้องใช้บัตร SUICA ใบเดิมในการเปิดตู้จ้า

ถ้าตู้ตรงนี้เต็มทำไงดี ก็หาตู้ใหม่ก็ได้ ฮึฮึ ขอบอกว่าแค่คิดอ่ะง่ายแต่เดินหาไม่ง่ายนะคะ แต่เค้าจะบอกว่ามีศูนย์บริการรับฝากอีกที่ในบริเวณใกล้กัน แต่ขอเอาไว้บอกในส่วนของโตเกียวล่ะกันน้า

เมื่อฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราจะออกทางด่าน New South Gate ออกมาแล้วก็มองหาป้าย จะเห็นป้าย ”Expressway bus” จะเห็นป้ายแบบนี้


ให้ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ทางด้านซ้ายมือเพื่อขึ้นไปชั้น 4


ก็จะเจอสถานีขายตั๋วแล้วค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าให้รอรถที่ประตูไหน เราก็ไปยืนรอได้เลยค่ะ เน้นว่ารถออกตรงเวลามากมาให้ทันกันนะคะ




ตั๋วที่เราซื้อจะระบุที่นั่งให้เราเรียบร้อย และมีที่เก็บกระเป๋าเดินทางใต้ท้องรถให้ แต่ขอแนะนำว่าฝากไว้ที่นี่แหละค่า สะดวกสุด ๆ แล้ว ใช้เวลานั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึง Gotemba Station ตอนนี้ยังไม่ถึง Outlet นะ ต้องนั่งรถต่อไปอีก


คำถาม: นั่งรถต่อที่ไหน ใช้เวลานั่งกี่นาที เสียค่าใช้จ่ายหรือไม่
คำตอบ: ลงจากรถที่มาจากชินจูกุให้ยืนรอที่ป้ายรถเมล์ที่ลงได้เลย รถที่ไป Outlet จะมาทุก ๆ 15 นาที จะมีป้ายบอกเวลาอยู่ที่สถานี สำหรับรถที่นั่งไป Outlet ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

เวลารอบรถที่ต่อไป Gotemba Outlet


คำถาม: มีรถที่นั่งตรงมาถึง Outlet โดยที่ไม่ต้องมาต่อรถที่สถานีหรือไม่

คำตอบ: มีค่ะ แต่มีรอบรถถึงแค่เวลา 10.30 ตามตารางเวลาด้านล่าง ถ้าไม่ทันก็มาตามที่เจ้าของกระทู้มาเลยค่ะ


ถึง Gotemba Outlet แล้วค่า ก่อนอื่นแนะนำให้ไปติดต่อที่ information ก่อนนะ นักท่องเที่ยวสามารถยื่นพาสปอร์ตเพื่อขอส่วนลดร้านต่าง ๆ และ guide book ได้ค่ะ จากนั้นเราก็ตะลุยช้อปปิ้งกันเลยค่า รายละเอียดต่าง ๆ รายชื่อร้าน สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.premiumoutlets.co.jp/th/gotemba/REREDSCF9461


Outlet ที่นี่กว้างเลยทีเดียว เดินกันขาลากแนะนำให้เผื่อเวลาสำหรับที่นี่พอสมควร เดี๋ยวจะมาเสียใจแบบเรา ที่ยังช้อปปิ้งไม่สะใจก็ต้องรีบกลับซะล่ะ  ส่วนในเรื่องของราคานั้น บาง brand ไม่ได้ถูกมากมายเท่าไหร่ ใครมาก็เช็คราคากันมาก่อนก็ดีนะคะ อ่อร้านที่นี้ส่วนใหญ่เป็น tax free ซื้อสินค้าเกิน 5,000 เยน ก็สามารถขอ Tax Free ได้แล้วค่ะ แค่ยื่นพาสปอร์ตแล้วเซ็นต์ก็เรียบร้อยแล้ว ไม่ยุ่งยากเลยแหละ



ถึงเวลาต้องเดินทางต่อเพื่อไป Kawaguchiko เราสามารถนั่งรถจาก Outlet ได้เลย โดยมีรอบรถตามเวลาด้านล่างนี้


คำถาม: ต้องจองตั๋วล่วงหน้าสำหรับไป Kawaguchiko หรือไม่
คำตอบ: ไม่ต้องจองก่อนค่ะ อยากกลับรถรอบไหนให้ไปรอที่ป้ายรถเบอร์ 2 ไม่มีการระบุที่นั่ง เมื่อรถมาถึงสามารถขึ้นรถจับจองที่นั่งกันเองเลยค่ะ แนะนำให้ให้มารอก่อนเวลา เพราะที่นั่งมีน้อยมาก ถ้าขึ้นรถช้าอาจจะต้องยืนตลอดการเดินทาง ถึงสถานีปลายทางที่ Kawaguchiko Station ให้จ่ายเงินที่คนขับ 1530 เยน

ถึงสถานีแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้ซื้อตั๋วขากลับ แนะนำให้ติดต่อซื้อตั๋วรถขากลับเข้าชินจูกุไว้เลยเพราะเปอร์เซนต์ที่รถจะเต็มมีสูงมาก ขนาดเรามาจองล่วงหน้ายังไม่มีรอบรถที่เราต้องการกลับเลยค่ะ ต้องเปลี่ยนไปลงชิบูย่าแทน ด้วยรอบรถ 16.00 น. ค่าโดยสาร 1,800 เยน/คน ตั๋วนี้ระบุที่นั่งให้เรียบร้อยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มี่นั่งนะคะ

ตารางเวลาจาก Kawaguchiko Station To Shibuya


ข้อมูลเพิ่มเติม http://bus-en.fujikyu.co.jp/highway/detail/id/32/

สำหรับรอบรถกลับ Shinjuku ตามตารางด้านล่างเลย