Hellooooo อันยองฮาเซโย ^^

กลับมาอีกครั้งกับการเขียนรีวิว ครั้งที่ 3 ของเราเเล้วนะคะ ครั้งนี้เปิดพันทิปใหม่เลยเพราะอันเก่าเข้าไม่ได้เสียดาย >< เเละนี้เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งเเรก ความฝันของผู้หญิงตัวน้อยๆ คิคิ ที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศกันเองสักครั้ง ถามว่าทำไมถึงเลือกที่จะไปเกาหลี
ติ่งล้วนๆค่ะ 5555+ เอาละไปกันเถอะ .....

ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เราแพลนกันมาเกือบปีเลยที่เดียวเริ่มจากการที่มีเพื่อนมาชวนไปเที่ยวก่อน ตอนเเรกก็คิดว่าขำๆไม่จริงจังอะไรที่ไหนได้เก็บเงินซิค่ะ รออะไร .... อันดับเเรกเลยเราเเพลนกันก่อนว่าจะไปช่วงไหนตัดสินใจไปในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลา 13-16 ตุลาคม 2016 เช็คราคาตั๋ว ณ ตอนนั้นราคากำลังดีเลย คิดกันไว้ว่าจะไปช่วงกลางเดือนหรือเเบบอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนเพราะ 1 เลยอากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาว 2 ช่วงเดือนตุลาจะมีงาน Seoul Fashion Week 2017 เเต่ตอนนั้นยังไม่รู้วันจัดจริงๆหรอกเเต่เดาๆไว้ว่าไปสักวันมันต้องเริ่มงานเเล้วเเหละ เเต่สรุปยังไงค่ะ นกไงล่ะ จัดวันกลับพอดี เริ่ดดดดดด !!!!

เอาล่ะ ต่อ เราจองตั๋วของ Airasia x กันล่วงหน้ากันมานานถึง 6 เดือนเลยที่เดียว เราได้ตั๋วไปกลับบวกค่าน้ำหนักขาไปเเละขากลับอย่างละ 20 กก. รวมทั้งหมด 3คน ตกคนละ 11,300 บาท ได้ตั๋วเเล้วก็เริ่มหาที่พักกันเราเลือกพักเเถวฮงแด เพราะว่าเดินทางสะดวกของกินเยอะ งานดี ใกล้มหาลัย อันหลังนี้เเหละประเด็น 555+
สรุปท้ายเราได้ที่พักกันที่ Hostel KW Hongdae เราพักกันทั้งหมด 4วัน 3คืน คิดเป็นเงินไทยเเบบเลขกลมๆเลยหาร 3 ตกคนละ 2,200บาท เราจองผ่าน บุ๊คกิ้งดอทคอม โดยที่พักที่นี้เค้าจะทำการตัดบัตรเราเเต่จริงๆเค้าไม่ได้ตัดเลยหรอกค่ะ เค้าเเค่ให้เรายืนยันผ่านบัตรเท่านั้นเเหละให้เราไปจ่ายตอนเช็คอิน
เเต่พอดีว่าเราไม่ได้เเลกเงินไปเผื่อไว้เพราะตอนเเรกคิดว่ามันจะตัดบัตรเราเลยก่อนวันเข้าพัก 7 วันเลยโทรไปทาง booking.com ให้เเจ้งให้เค้าตัดบัตรให้เลย มีอะไรเราโทรไปเช็คที่ บุ๊คกิ้งดอทคอม ได้ตลอดเพราะเราโทรตลอด 5555+ จองครั้งเเรกไปครั้งเเรกกลัวความผิดพลาดมาก สรุปสุดท้ายเค้าก็ตัดบัตรเราเเละเราก็หาร 3 กัน คนละ 2,200 จบ.
เรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองตอน 4 ทุ่มค่ะ รับ wifi ของ smilewifi ที่นัดไว้เเล้วไปต่อเเถวรอเช็คอินประมาณ 5 ทุ่มได้คนเยอะมากๆเลยทีเเรกกะว่ามาสนามบิน 4 ทุ่มนิเร็วไปไหม เเต่พอมาเจอแถวเเล้วดี เอิ่มมมม ดีเเล้วที่มาเร็ว = =‘

กว่าจะถึงคิวเราก็ปา ไป 5 ทุ่มกว่าเเล้ว เมื่อเราเช็คอินเสร็จเราก็จะได้ใบ ขาเข้า - ขาออก มากรองข้อมูล จากนั้นก็ไปยังประตู้ขาออกต่างประเทศ ยื่นพาสปอร์ตกับใบ ขาเข้าให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยัง ตม.ไทย เพื่อสแกนพาสปอร์ตเเละเเต่นิ้วชี้เข้าทำการผ่านประตู้เข้าไปในเกท ส่วนใบขาออกนั้นเก็บไว้เพื่อมายื่นให้ตม.ไทย หลังจากกลับมาจากเกาหลี
สรุปค่าใช่จ่ายครั้งเเรก
- ค่าเครื่องบิน ไป - กลับ + น้ำหนักกระเป๋าไปและกลับเที่ยวล่ะ 20 กิโล = 11,300 บาท/ต่อคน
ถ้าคนที่คิดว่าตัวเองช็อปเยอะเอากระเป๋าอีก 1 ใบไปด้วยหากไม่พอแบ่งขึ้นเครื่องไปเลย
- ค่าที่พัก หาร 3 = 2,200 ต่อคน
- ค่าเช่าเครื่อง wifi = 254 ต่อคน
เราใช้เวลาในการเดินทางออกจากสนามบินตอน 01:55 ถึงที่เกาหลีเวลา 9:00 โมงเช้า ตามเวลาเกาหลี (เร็วกว่าที่ไทย 2 ชั่วโมง ) เเละลงไปขึ้นรถไฟฟ้าเข้ามายังอาคารผู้โดยสารอีกต่อหนึ่งเพื่อไปพบกับ คุณตม. ของเรานั้นเอง
จะบอกว่าก่อนการเดินทางนั้นช่วงก่อนหน้านั้นมีพวกกระทู้รีวิวเรื่อง ตม. ส่งตัวคนไทยกลับเยอะมากกกก ตามอ่านกันจนจิตตกไปช่วงหนึ่งเลย เลยตัดสินใจไม่เสพข่าวมากเพราะมันจะทำให้เรากังวน สิ่งเดียวที่คิดเลยคือเราตั้งใจไปเที่ยวไปติ่งไปตาม เต็มที่ต้องผ่านซิ เอกสารเราก็พร้อมมากถึงเเม้พาสปอร์ตจะขาวสะอาดก็ตาม >,< เอาล่ะ เวลาแห่งความระทึกใจก็มาถึงเมื่อเราต้องเจอกับเจ้าหน้าที่ตม. ออกตัวก่อนว่า ภาษาอังกฤษเรานั้น ฟุต ฟิต ฟอ ไฟ สเน็ค สเน็ค ฟิต ฟิต มากกก

มีความกลัวหน่อยๆ เเต่ใช้ใจข่มเอา เรากับเพื่อนรอคนละเเถวกันเลยด้วยความที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยเรียกเราไปต่อเเถวที่เริ่มขยับเรื่อยๆพอถึงคิวเรา เราได้เจ้าหน้าที่ ตม.เป็นผู้หญิง เข้าไปถึง ยื่นพาสปอร์ตกับใบ Arrival Card ใบนี้แอร์จะเเจกตอนเช้าบนเครื่อง
เรา = มองหน้าส่ง ยิ้มสยามใส่
ตม. = มองหน้า ผายมือให้เเต่นิ้วชี้ เเละ มองกล้อง
เรา = ยิ้มอ่อน เเละทำตามเเต่โดยดี คิดในใจ กูผ่านเเหละ
แอบมองเพื่อนที่เข้าตม.อีกคนออกมาเเล้ว นางได้ ตม.ผู้หญิงเหมือนกัน เเละไม่ถามอะไรเลย ปล.พาสปอร์ตนางไม่ขาวปั๊มมาเเล้ว 1 ครั้ง
ตม. = มองหน้าเราสลับจอคอมไปมา 2 รอบ
เราก็มองหน้านางเเล้วยิ้มมุมปาก เเละทันใดนั้น ....... นางก็ถามขึ้นมา
ตม. = คุณมาที่นี้ครั้งเเรกหรอ (เอาจริงๆฟังไม่ค่อยออกหรอกจับใจความเอาเพราะได้ยินอะไร the first time in korea นี้เเหละ )
เรา : yes ^^
ตม. : อืมมมมมม you traveling alone ?
เรา : ยิ้มเลย คำถามนี้กูซ้อมมา No . I’m traveling with my friend ^^

ตม. : เงียบใส่ ( กดดันกูอีก ) --‘
ส่วนเพื่อนอีกคนที่เจ้า ตม.ก็ออกมาเเล้วเเละนางได้ ตม.ผู้ชาย เเละไม่โดยถามสักคำเหมือนกัน ปล.พาสปอร์ตขาวสะอาด
ตอนนั้นใจเรานิ เต้นเเรงมาก เสียวสุดพูดเลย เเต่ก็ยิ้มๆไว้เเล้วนางก็ถามอีก
ตม. : เพื่อนคุณชื่ออะไร ?
เรา : บอกชื่อจริงเพื่อนทั้ง 2 คนไป
ตม. : เพื่อนอยู่ที่ไหน
เรา : She go out แล้ว (คือเติม แล้ว ด้วย 555+) เเล้วมองไปที่เพื่อน นับ one two ให้นางดู 5555+ ขำตัวเองมา ณ จุดๆนี้
ตม. นางมองหน้าอีกที เเล้วจับที่ปั๊ม ประทับลงพาสปอร์ตให้ โอโห้ Thank You เเล้วรีบเดินไปหาเพื่อนเลย คือรอดเเล้ว ><
เอาจริงๆเราว่าตม. มันสุ่มด้วยเเหละยืนต่อเเถวคนไทยด้วยกันก่อนหน้า 2 คน ช 1 ญ 2 ไม่ถามสักคำ ดวงจะซวยโดนถามซะงั้น เราเเค่มองหน้าเเล้วยิ้มๆเตรียมตัวเเบบ ถามมาซิกรุจะตอบอะไรประมานนี้ อย่าไปหลบสายตาพวกนางเพราะจริงๆเเล้วไม่มีอะไรเลยหากเราเตรียมความพร้อมมีเอกสารพร้อมที่จะยืนยันถึงต้องเข้าห้องเย็นก็จะไม่กลัว เพราะเรามาเที่ยวจริงๆบริสุทธิ์ใจเข้าไว้ยังไงก็ผ่าน ที่สำคัญใครจะไปเที่ยวพยายามอย่าดูรีวิวพวกตม.เยอะมันจะทำให้เรากังวลป่าวๆนะ
เอาล่ะ ลงมารับกระเป๋าเเล้วก็ผ่านด้าน ศุลกากร ยื่นพาสปอร์ตกับใบ Customs Declaration ศุลกากรที่แอร์แจกมาพร้อมกับในผ่านตม. ตอนอยู่บนเครื่อง ให้เจ้าหน้าที่ เเล้วเดินตรงออกมาประตู้มาเเล้วเลี้ยวซ้าย
เพื่อไปลงไป ชั้น B1ลงไปดูป้ายที่เขียนว่า Railroad (AREX) เดินทางไปยังที่พักย่านฮงแดของเรา เราจะลงที่ hongik univ. station แบบธรรมดาจอดทุกสถานีใช้เวลาเดินทาง 45-50 นาที

ข้อมูลการเดินทางหากใครที่คิดจะไปเที่ยวเกาหลีเองเเน่นำให้หาข้อมูลดูไว้เยอะๆเเละบล็อคที่จะเเนะนำคือ seoul cafe คือมีทุกที่เป็นที่ท่องเที่ยว การเดินทาง วิธีเตรียมตัวหรืออะไรทุกอย่างเกี่ยวกับเกาหลี ส่วนใหญ่ทริปนี้เราก็เก็บข้อมูลจากบล็อคนี้เลยมีรูปประกอบพร้อมวิธีการเดินทางด้วย ^^

พอเราลงมายังช้ัน B1 มองไปขวามือเราก็จะเห็นร้านมินิมาร์ทอยู่ จำไม่ได้ว่าเป็น 7-11 หรือ GS25 เข้าไปซื้อบัตร T-money ไว้เพราะส่วนใหญ่ที่เกาหลีจะใช้บัตรนี้เผื่อเดินทางไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า รถเมล์ หรือซื้อของในร้านมินิมาร์ท ก็สามารถใช้บัตร T-money นี้ได้ ราคาที่ซื้อมา ณ ตอนนั้น 4,000 วอน ถ้าบัตรธรรมดาหน้าจะถูกกว่านี้นะเห็นบางคนซื้อได้ราคา 2,500 วอนก็มี

กิน นมกล้วยกับคิมบับรองท้องกันไปก่อนเช้านี้ ^^ นมกล้วยอร่อยมากคือกินทุกวัน ^^
เราเดินทางด้วยรถไฟ Railroad (AREX) ไปยังที่พักของเรา Hostel KW Hongdae ลงสถานี Hongik univ. station
ทางออกที่ 3
*แนะนำโหลด แอพ HongNAVI เป็นแอพที่รวมที่พักย่านฮงแดเอาไว้ในแอพจะมีที่พักแต่ละที่พร้อมรูปภาพวิธีการเดินทางทั้งภาพตอนเช้าและตอนกลางคืน คือดีมากลองเช็คดูระยะใกล้-ไกล ของที่พักจากแอพนี้ได้ค่ะ


เดินออกมาจากทางออกก็จะเจอ บรรยากาศแบบนี้ ไปตามแผนที่นี้เลย วันนี้อากาศเย็นๆ 13 องศาเย็นมากนะสำหรับเมืองร้อนอย่างเรา




เดินตามแอพไปเลยค่ะ



ตรงข้ามหน้าปากซอยที่พักของเรามี เซเว่นด้วยนะ ^^

ที่เห็นเค้ากำลังก่อสร้างอยู่นั้น ตอนที่ไปไม่มีเเล้วนะคะ เป็นตึกเเล้วค่ะ

เดินมาอีกนิดเดียวก็ถึงที่พักเเล้วค่ะ เอาจริงๆจากซับเวย์ไปที่พักเดินไม่ไกลเลยนะคะ เพราะระหว่างทางเดินไปจะเป็นเหมือนสวนสาธารณะ มีร้านอาหาร ร้านขนมอยู่ 2 ข้างทางเลยไม่อดแน่นอนค่ะ มีแต่จะจน 555+

สวนสาธารณะ ระหว่างทาง
พอเข้าไปติดต่อ โอปป้าสุดหล่อแล้วก็ขึ้นไปบนที่พักกันเลยค่ะ บอกก่อนว่าเรามาถึงที่นี้ประมาน เที่ยงๆจริงๆแล้วเค้าให้เข้าห้องพักได้ตอน 14:00 น.
แต่โอปป้าใจดีให้เข้าที่พักก่อนด้วย ^^

มาดูห้องพักกันหน่อยค่ะ

เปิดห้องมาก็จะเจอที่ทำครัวกันเลยเเต่อุปกรณ์ไม่มีอ่ะ ไม่เป็นไรค่ะไม่ซี

ซ้ายมือมาเป็นเตียงนอนค่ะ เตียง 2 ชั้น คนที่เห็นก็คงจะคิดว่าคนที่นอนชั้น 2 หนาวตายเลยอยู่ใต้แอร์ขนาดนั้นเอาจริงๆ เรานอนชั้น 2 เองนั้นแหละค่ะ ด้วยความที่นอนใต้แอร์ไงเลยไม่โดนแอร์บวกกับเปิดฮีตเตอร์ไปอีกอยู่ข้างบนร้อนเลยแหละ ยูว์

ไมโครเวฟ ตู้เย็น ทีวี พร้อมค่ะ

ห้องน้ำเเอบแคบไปนิด เเต่พอรับได้ค่ะ

วิวบนชั้น 4 ของเราค่ะ
ส่วนนี้ก็จะเป็น รหัสเข้าห้องที่พัก รหัสเข้าห้องและรหัส wifi *ขอเบลอข้อมูลตรงนี้ไว้นะ
บรรยากาศบนชั้น 4 ค่ะ ช่วงนั้นอากาศดีมาก ในห้องมีฮีตเตอร์ด้วยเปิดแอร์เปิดฮีตเตอร์
ช่วยให้ห้องอุ่นๆได้
[CR] *~::เที่ยวเกาหลี 4 วัน 3 คืน นี้หรือแพลน อันยองทริป in Seoul ::~*
กลับมาอีกครั้งกับการเขียนรีวิว ครั้งที่ 3 ของเราเเล้วนะคะ ครั้งนี้เปิดพันทิปใหม่เลยเพราะอันเก่าเข้าไม่ได้เสียดาย >< เเละนี้เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งเเรก ความฝันของผู้หญิงตัวน้อยๆ คิคิ ที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศกันเองสักครั้ง ถามว่าทำไมถึงเลือกที่จะไปเกาหลี
ติ่งล้วนๆค่ะ 5555+ เอาละไปกันเถอะ .....
เอาล่ะ ต่อ เราจองตั๋วของ Airasia x กันล่วงหน้ากันมานานถึง 6 เดือนเลยที่เดียว เราได้ตั๋วไปกลับบวกค่าน้ำหนักขาไปเเละขากลับอย่างละ 20 กก. รวมทั้งหมด 3คน ตกคนละ 11,300 บาท ได้ตั๋วเเล้วก็เริ่มหาที่พักกันเราเลือกพักเเถวฮงแด เพราะว่าเดินทางสะดวกของกินเยอะ งานดี ใกล้มหาลัย อันหลังนี้เเหละประเด็น 555+
สรุปท้ายเราได้ที่พักกันที่ Hostel KW Hongdae เราพักกันทั้งหมด 4วัน 3คืน คิดเป็นเงินไทยเเบบเลขกลมๆเลยหาร 3 ตกคนละ 2,200บาท เราจองผ่าน บุ๊คกิ้งดอทคอม โดยที่พักที่นี้เค้าจะทำการตัดบัตรเราเเต่จริงๆเค้าไม่ได้ตัดเลยหรอกค่ะ เค้าเเค่ให้เรายืนยันผ่านบัตรเท่านั้นเเหละให้เราไปจ่ายตอนเช็คอิน
เเต่พอดีว่าเราไม่ได้เเลกเงินไปเผื่อไว้เพราะตอนเเรกคิดว่ามันจะตัดบัตรเราเลยก่อนวันเข้าพัก 7 วันเลยโทรไปทาง booking.com ให้เเจ้งให้เค้าตัดบัตรให้เลย มีอะไรเราโทรไปเช็คที่ บุ๊คกิ้งดอทคอม ได้ตลอดเพราะเราโทรตลอด 5555+ จองครั้งเเรกไปครั้งเเรกกลัวความผิดพลาดมาก สรุปสุดท้ายเค้าก็ตัดบัตรเราเเละเราก็หาร 3 กัน คนละ 2,200 จบ.
เรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองตอน 4 ทุ่มค่ะ รับ wifi ของ smilewifi ที่นัดไว้เเล้วไปต่อเเถวรอเช็คอินประมาณ 5 ทุ่มได้คนเยอะมากๆเลยทีเเรกกะว่ามาสนามบิน 4 ทุ่มนิเร็วไปไหม เเต่พอมาเจอแถวเเล้วดี เอิ่มมมม ดีเเล้วที่มาเร็ว = =‘
- ค่าเครื่องบิน ไป - กลับ + น้ำหนักกระเป๋าไปและกลับเที่ยวล่ะ 20 กิโล = 11,300 บาท/ต่อคน
ถ้าคนที่คิดว่าตัวเองช็อปเยอะเอากระเป๋าอีก 1 ใบไปด้วยหากไม่พอแบ่งขึ้นเครื่องไปเลย
- ค่าที่พัก หาร 3 = 2,200 ต่อคน
- ค่าเช่าเครื่อง wifi = 254 ต่อคน
เราใช้เวลาในการเดินทางออกจากสนามบินตอน 01:55 ถึงที่เกาหลีเวลา 9:00 โมงเช้า ตามเวลาเกาหลี (เร็วกว่าที่ไทย 2 ชั่วโมง ) เเละลงไปขึ้นรถไฟฟ้าเข้ามายังอาคารผู้โดยสารอีกต่อหนึ่งเพื่อไปพบกับ คุณตม. ของเรานั้นเอง
จะบอกว่าก่อนการเดินทางนั้นช่วงก่อนหน้านั้นมีพวกกระทู้รีวิวเรื่อง ตม. ส่งตัวคนไทยกลับเยอะมากกกก ตามอ่านกันจนจิตตกไปช่วงหนึ่งเลย เลยตัดสินใจไม่เสพข่าวมากเพราะมันจะทำให้เรากังวน สิ่งเดียวที่คิดเลยคือเราตั้งใจไปเที่ยวไปติ่งไปตาม เต็มที่ต้องผ่านซิ เอกสารเราก็พร้อมมากถึงเเม้พาสปอร์ตจะขาวสะอาดก็ตาม >,< เอาล่ะ เวลาแห่งความระทึกใจก็มาถึงเมื่อเราต้องเจอกับเจ้าหน้าที่ตม. ออกตัวก่อนว่า ภาษาอังกฤษเรานั้น ฟุต ฟิต ฟอ ไฟ สเน็ค สเน็ค ฟิต ฟิต มากกก
เรา = มองหน้าส่ง ยิ้มสยามใส่
ตม. = มองหน้า ผายมือให้เเต่นิ้วชี้ เเละ มองกล้อง
เรา = ยิ้มอ่อน เเละทำตามเเต่โดยดี คิดในใจ กูผ่านเเหละ
แอบมองเพื่อนที่เข้าตม.อีกคนออกมาเเล้ว นางได้ ตม.ผู้หญิงเหมือนกัน เเละไม่ถามอะไรเลย ปล.พาสปอร์ตนางไม่ขาวปั๊มมาเเล้ว 1 ครั้ง
ตม. = มองหน้าเราสลับจอคอมไปมา 2 รอบ
เราก็มองหน้านางเเล้วยิ้มมุมปาก เเละทันใดนั้น ....... นางก็ถามขึ้นมา
ตม. = คุณมาที่นี้ครั้งเเรกหรอ (เอาจริงๆฟังไม่ค่อยออกหรอกจับใจความเอาเพราะได้ยินอะไร the first time in korea นี้เเหละ )
เรา : yes ^^
ตม. : อืมมมมมม you traveling alone ?
เรา : ยิ้มเลย คำถามนี้กูซ้อมมา No . I’m traveling with my friend ^^
ตม. : เงียบใส่ ( กดดันกูอีก ) --‘
ส่วนเพื่อนอีกคนที่เจ้า ตม.ก็ออกมาเเล้วเเละนางได้ ตม.ผู้ชาย เเละไม่โดยถามสักคำเหมือนกัน ปล.พาสปอร์ตขาวสะอาด
ตอนนั้นใจเรานิ เต้นเเรงมาก เสียวสุดพูดเลย เเต่ก็ยิ้มๆไว้เเล้วนางก็ถามอีก
ตม. : เพื่อนคุณชื่ออะไร ?
เรา : บอกชื่อจริงเพื่อนทั้ง 2 คนไป
ตม. : เพื่อนอยู่ที่ไหน
เรา : She go out แล้ว (คือเติม แล้ว ด้วย 555+) เเล้วมองไปที่เพื่อน นับ one two ให้นางดู 5555+ ขำตัวเองมา ณ จุดๆนี้
ตม. นางมองหน้าอีกที เเล้วจับที่ปั๊ม ประทับลงพาสปอร์ตให้ โอโห้ Thank You เเล้วรีบเดินไปหาเพื่อนเลย คือรอดเเล้ว ><
เอาจริงๆเราว่าตม. มันสุ่มด้วยเเหละยืนต่อเเถวคนไทยด้วยกันก่อนหน้า 2 คน ช 1 ญ 2 ไม่ถามสักคำ ดวงจะซวยโดนถามซะงั้น เราเเค่มองหน้าเเล้วยิ้มๆเตรียมตัวเเบบ ถามมาซิกรุจะตอบอะไรประมานนี้ อย่าไปหลบสายตาพวกนางเพราะจริงๆเเล้วไม่มีอะไรเลยหากเราเตรียมความพร้อมมีเอกสารพร้อมที่จะยืนยันถึงต้องเข้าห้องเย็นก็จะไม่กลัว เพราะเรามาเที่ยวจริงๆบริสุทธิ์ใจเข้าไว้ยังไงก็ผ่าน ที่สำคัญใครจะไปเที่ยวพยายามอย่าดูรีวิวพวกตม.เยอะมันจะทำให้เรากังวลป่าวๆนะ
เอาล่ะ ลงมารับกระเป๋าเเล้วก็ผ่านด้าน ศุลกากร ยื่นพาสปอร์ตกับใบ Customs Declaration ศุลกากรที่แอร์แจกมาพร้อมกับในผ่านตม. ตอนอยู่บนเครื่อง ให้เจ้าหน้าที่ เเล้วเดินตรงออกมาประตู้มาเเล้วเลี้ยวซ้าย
เพื่อไปลงไป ชั้น B1ลงไปดูป้ายที่เขียนว่า Railroad (AREX) เดินทางไปยังที่พักย่านฮงแดของเรา เราจะลงที่ hongik univ. station แบบธรรมดาจอดทุกสถานีใช้เวลาเดินทาง 45-50 นาที
พอเราลงมายังช้ัน B1 มองไปขวามือเราก็จะเห็นร้านมินิมาร์ทอยู่ จำไม่ได้ว่าเป็น 7-11 หรือ GS25 เข้าไปซื้อบัตร T-money ไว้เพราะส่วนใหญ่ที่เกาหลีจะใช้บัตรนี้เผื่อเดินทางไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า รถเมล์ หรือซื้อของในร้านมินิมาร์ท ก็สามารถใช้บัตร T-money นี้ได้ ราคาที่ซื้อมา ณ ตอนนั้น 4,000 วอน ถ้าบัตรธรรมดาหน้าจะถูกกว่านี้นะเห็นบางคนซื้อได้ราคา 2,500 วอนก็มี
เราเดินทางด้วยรถไฟ Railroad (AREX) ไปยังที่พักของเรา Hostel KW Hongdae ลงสถานี Hongik univ. station
ทางออกที่ 3
*แนะนำโหลด แอพ HongNAVI เป็นแอพที่รวมที่พักย่านฮงแดเอาไว้ในแอพจะมีที่พักแต่ละที่พร้อมรูปภาพวิธีการเดินทางทั้งภาพตอนเช้าและตอนกลางคืน คือดีมากลองเช็คดูระยะใกล้-ไกล ของที่พักจากแอพนี้ได้ค่ะ
พอเข้าไปติดต่อ โอปป้าสุดหล่อแล้วก็ขึ้นไปบนที่พักกันเลยค่ะ บอกก่อนว่าเรามาถึงที่นี้ประมาน เที่ยงๆจริงๆแล้วเค้าให้เข้าห้องพักได้ตอน 14:00 น.
แต่โอปป้าใจดีให้เข้าที่พักก่อนด้วย ^^
ส่วนนี้ก็จะเป็น รหัสเข้าห้องที่พัก รหัสเข้าห้องและรหัส wifi *ขอเบลอข้อมูลตรงนี้ไว้นะ
บรรยากาศบนชั้น 4 ค่ะ ช่วงนั้นอากาศดีมาก ในห้องมีฮีตเตอร์ด้วยเปิดแอร์เปิดฮีตเตอร์
ช่วยให้ห้องอุ่นๆได้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น