อัพเดทกระทู้ค่ะ อยากบอกว่าเตือนภัยเลยก็ได้
ผช. คนนี้ เขาตั้งใจมาหลอกเรา ด้วยการขายฝัน เราเลิกกับเขาได้ 3 ปีแล้ว หลังจากแต่งงานได้ ราว 1 เดือน
เรื่องต่อจากนั้นคือ เขาได้มรดกจากพ่อมา 1 ล้าน, ใช้หนี้เขา ราว 4.5 แสน ปิดบัตรเครดิตทั้งหมด ราว 1.5 แสน เอาไว้จัดงานแต่ง 3 แสน และเขาเอาไปซื้อของที่อยากซื้อ อ้างว่าจะเอามาทำงาน แต่ไม่จ่ายหนี้เงินสดที่ค้างเราอยู่ ราว 3 แสน ซึ่งหนี้ทั้งหมดไม่รู้เขาพูดจริงไหม แต่สุดท้ายไม่มีเงินเหลือใช้หนี้เรา
พอจะถึงวันแต่งงานอีก 1 เดือน เขาอ้างว่าพี่สาวให้ปิดหนี้รถก่อน เพราะพี่เขาเป็นคนค้ำ เราไม่มีทางเลือก จึงเอาเงินที่จะกู้ตกแต่งบ้าน (บ้านชื่อเรา ใช้หนี้จนถึงทุกวันนี้) มาใช้ในงานแต่งก่อน แต่ไม่ได้ให้ค่าสินสอดแม่ เราะเราต้องเอาไปปิดหนี้บ้านแทน เพื่อไม่ให้หนี้ท่วม (วันนั้น เราเสียใจมาก พ่อแม่เราก็ไม่ชอบใจ เพราะแต่งงานไม่ได้สินสอด เพราะมันคือเงินหนี้บ้านเราเอง)
เราดำเนินการทุกอย่างเอง เรื่องแต่งงาน เพราคนแถวบ้านถามกันมาเยอะ จนพ่อแม่อยากให้แต่ง เราถึงจัดงานโดยไม่ได้อย่ากแต่ง หลังจากแต่งงาน เขาได้ย้ายมาทำงานอยู่ด้วยกัน เป็นพนักงานโลตัส ซึ่งก็ไม่สู้งานค่ะ สุดท้ายลาออก บอกจะไปลงทุนงานเครือข่ายแต่บอกเราไม่มีทุนแล้ว พร้อมขายฝัน เหมือนเดิม เขาออกไอเดียจะเอารถเข้าไฟแนนซ์อีก เรามองแล้วมันจะเป็นหนี้ผูกพันไม่จบไม่สิ้น เราเลยค้าน แต่เขาไม่ฟัง บอกจะเอาเงินไปลงทุน
เขาจึงเอารถเข้าได้เงินมา 250,000 เราขอ 50,000 ไว้เป็นเงินกันหนี้ที่ค้าง 3 แสน เขาต้องใช้น้ำมันเดินทาง ต้องการใช้บัตรเครดิตของเรา วงเงิน 50,000 เราจึงขอมัดจำ 50,000 ไว้ค่าบัตร เราได้เงินติดตัวไว้รวม 100,000 เขาเอาไปลงทุน 150,000 กับงานเครือข่าย
สุดท้ายเขาบอกว่าใช้เงินทุน 150,000 หมดภายใน 1 เดือน เราจึงตระหนักแล้วว่าชายคนนี้ ไม่ธรรมดาแล้ว เราขอบัตรเครดิตคืน ตอนนั้น เขารูดน้ำมันจนเต็มวงเงิน และเขายังทักมาเพื่อจะขอยืมตังที่เราขอกันไว้ 5หมื่นนั้น อ้างว่า ถ้าได้เงินก้อนนี้ จะมีรายได้เท่านั้น เท่านี้เข้ามา เหมือนทุกๆครั้งที่เขาขายฝันเราตั้งแต่รู้จักกัน แต่รอบนี้เราปฏิเสธและขอเลิกกับเขา และเขาก็ไม่ได้ยื้อแต่อย่างใด คิดว่าเขาคงดูดจากเราได้มากพอที่จะทิ้งแล้ว
รวมเวลาทั้งหมด 3 ปี กับการเป็นหนี้บ้าน ล้านกว่า หนี้เขายืมไป 3 แสน ที่เราต้องแบกรับไว้เพียงผู้เดียว จากเป็นคนมีเงินเก็บ ไม่เคยคิกเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่เคยเดือนชนเดือน ไม่เคยเดือดร้อนอะไร
ฝากให้คิดข้อสุดท้าย ถ้ามีคนเตือน ให้ฟังบ้างนะคะ จะได้ไม่เป็นเหมือนเรา
ก่อนที่เราจะเจอผู้ชายคนนี้ เราได้ไปดูดวงที่บูธในโลตัสแห่งหนึ่ง ลุงเขาบอกว่า เราจะเจอผู้ชายคนนึง ต้องระวังให้ดี เขาให้กินอะไรอย่ากิน ให้น้ำอย่ากินเด็ดขาด เขายังบอกอีกว่า เรามีดวงได้ไปเรียนต่อต่างประเศ แต่ต้องรอดจากผู้ชายคนนี้
ด้วยความที่เราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในคำทำนาย จึงเสียเวลา เสียเงิน 3 ปีไปกับผู้ชายคนนั้น
ขอบคุณทุกๆคนที่มาช่วยตอบคอมเม้น หวังว่าเคสเราจะเป็นกรณีศึกษา เพื่ออนาคตที่ดีนะคะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้เป็นกะทู้แรกค่ะ ได้ไปอ่านกะทู้ของหลายๆคนมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบ เลยขอตั้งกระทู้เพื่อถามเรื่องของตนเองจริงๆสักที ถ้าใครพอมีคำแนะนำ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ😀
เราเรียนจบและทำงานได้ 2ปีแล้ว ตอนนี้อายุ 23ค่ะตอนนี้รายได้อยู่ที่ สองหมื่นอัพ ตอนแรกที่อยู่คนเดียวมีเงินเก็บอย่างน้อยห้าหมื่น โดยไม่ได้ลำบากอะไร แต่เมื่อปีที่แล้วเรามีคนอายุมากกว่าเกือบสิบปีมาจีบ ตอนแรกไม่คิดจริงจังด้วย เพราะเขาแก่กว่าเราเยอะ จีบไปจีบมาตจีบติด (เราไม่มีใครด้วยล่ะ) เลยลองเปิดใจคบดู ตอนคุยกันแรกๆ เขาก้มีรายได้เยอะค่ะ เฉลี่ยเกินครึ่งแสนต่อเดือน เขาจะช่วยซับพอร์ทเราหลายๆอย่าง แค่ค่ารถตู้ค่าเดินทาง อาหารเล็กๆน้อยๆ รวมๆไม่ถึงสามพันด้วยซ้ำ (ไม่เคยให้เงินมาใช้นะคะ) แต่มาช่วงต้นปีนี้ เขาเปลี่ยนงาน รายได้ลดลงมาก จนแทบไม่มีรายได้เลย ตอนแรกที่เรายื่นมือเข้าไปช่วย เพราะเรารู้ว่าเขาทำกะเป๋าตังหายตอนกลับบ้าน (ซื่งนั่นมันเงินก้อนสุดท้ายที่เขามี) เราเลยยื่นมือเข้าไปช่วยเล็กๆน้อยๆ ประมาณ สองถึงสามพัน หลังจากนั้นงานเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย แต่รายจ่ายเขายังคงเดิม เขาจะชอบมาบ่นให้ฟังว่าไม่มีตังจ่ายค่างวดรถ ค่าน้ำมันไปหาลูกค้า (เขาทำงานฟรีแลนซ์ค่ะ) เราก็ใจอ่อน เพราะเราพอมีเงินเก็บ และคิดว่าเขาคงฟื้นตัวได้ไม่นาน จนปัจจุบันนี้ เขายังต้องยืมเราใช้ รวมทั้งหมดที่เรายื่นมือไปช่วย ทั้งค่าห้อง ค่างวดรถ ค่าน้ำมัน แสนกว่าแล้วค่ะ แล้วใช่ว่าเราจะอยู่สบายนะ เราทุกข์ใจมาก ทุกวันเรามานั่งคิดๆๆๆๆๆว่าทำไมเราไม่เคยมีความสุขเลย เราคิดถูกไหมที่คบกับเขา แก่กว่าเรา ไม่มีตังเก็บ แถมยืมเราใช้ เขาเคยพาไปบ้านไปเขา หลังจากกลับเขาบอกเราว่า เขาจะบอกทางบ้านมาสู่ขอ ซึ่งเรารู้ว่าเขาไม่มีรายได้ แถมติดหนี้เรา เขาไม่มีเงินมาแต่งเราแน่ๆ เขาจะให้พ่อแม่เขามาขอเรา ซึ่งเขาบอกว่าเป็นธรรมเนียมบ้านเขา พ่อแม่ต้องมาสู่ขอ และออกค่าสินสอดให้ บางทีเรายังคิดว่าถ้าแต่งไป เขาจะมีปัญญาเลี้ยงเราไหม (ที่จริงหาเลี้ยงตัวเองได้)แต่เราคิดถึงอนาคต ถ้ามีลูก เขาจะเลี้ยงทั้งครอบครัวได้ไหม
เรื่องราวก็ประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้เราต้องช่วยเขาทั้งหมด จริงๆเราก็สงสารเขานะ แต่เราก็อยากมีชีวิต ที่สามารถใช้เงินที่เราหามาได้เพื่อนสนองความสุขของตัวเอง ตอนนี้แม้แต่รองเท้าคู่ใหม่ยังไม่อยากซื้อ บอกเลยว่าเราไม่เคยใช้เงินเดือนชนเดือน แถมเรายังเป็นหนี้บัตรเครดิตอีก เราอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก เราไม่กล้าบอกใครเรื่องนี้เลย แม่แต่แม่พ่อ รึพี่ๆเอง เราก็ไม่กล้าบอก เราไม่รู้จะทำยังไง บางทีก็อยากเลิกๆไป แต่กลัวจะไม่ได้หนี้คืน แต่ถ้าคบต่อก็ไม่รู้จะได้คืนไหม เขาดูเป็นคนดีนะ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ติดอย่างเดียวเขายังเลี้ยงตัวเขาเองไม่ได้เลย 😰😒
ใครพอจะมีคำแนะนำ รบกวนเขียนตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ🙏🙏
มีแฟนอายุมากกว่า แต่เขายังมีรายได้ไม่พอรายจ่ายของตนเอง เราควรแต่งงานกับเขาไหม
ผช. คนนี้ เขาตั้งใจมาหลอกเรา ด้วยการขายฝัน เราเลิกกับเขาได้ 3 ปีแล้ว หลังจากแต่งงานได้ ราว 1 เดือน
เรื่องต่อจากนั้นคือ เขาได้มรดกจากพ่อมา 1 ล้าน, ใช้หนี้เขา ราว 4.5 แสน ปิดบัตรเครดิตทั้งหมด ราว 1.5 แสน เอาไว้จัดงานแต่ง 3 แสน และเขาเอาไปซื้อของที่อยากซื้อ อ้างว่าจะเอามาทำงาน แต่ไม่จ่ายหนี้เงินสดที่ค้างเราอยู่ ราว 3 แสน ซึ่งหนี้ทั้งหมดไม่รู้เขาพูดจริงไหม แต่สุดท้ายไม่มีเงินเหลือใช้หนี้เรา
พอจะถึงวันแต่งงานอีก 1 เดือน เขาอ้างว่าพี่สาวให้ปิดหนี้รถก่อน เพราะพี่เขาเป็นคนค้ำ เราไม่มีทางเลือก จึงเอาเงินที่จะกู้ตกแต่งบ้าน (บ้านชื่อเรา ใช้หนี้จนถึงทุกวันนี้) มาใช้ในงานแต่งก่อน แต่ไม่ได้ให้ค่าสินสอดแม่ เราะเราต้องเอาไปปิดหนี้บ้านแทน เพื่อไม่ให้หนี้ท่วม (วันนั้น เราเสียใจมาก พ่อแม่เราก็ไม่ชอบใจ เพราะแต่งงานไม่ได้สินสอด เพราะมันคือเงินหนี้บ้านเราเอง)
เราดำเนินการทุกอย่างเอง เรื่องแต่งงาน เพราคนแถวบ้านถามกันมาเยอะ จนพ่อแม่อยากให้แต่ง เราถึงจัดงานโดยไม่ได้อย่ากแต่ง หลังจากแต่งงาน เขาได้ย้ายมาทำงานอยู่ด้วยกัน เป็นพนักงานโลตัส ซึ่งก็ไม่สู้งานค่ะ สุดท้ายลาออก บอกจะไปลงทุนงานเครือข่ายแต่บอกเราไม่มีทุนแล้ว พร้อมขายฝัน เหมือนเดิม เขาออกไอเดียจะเอารถเข้าไฟแนนซ์อีก เรามองแล้วมันจะเป็นหนี้ผูกพันไม่จบไม่สิ้น เราเลยค้าน แต่เขาไม่ฟัง บอกจะเอาเงินไปลงทุน
เขาจึงเอารถเข้าได้เงินมา 250,000 เราขอ 50,000 ไว้เป็นเงินกันหนี้ที่ค้าง 3 แสน เขาต้องใช้น้ำมันเดินทาง ต้องการใช้บัตรเครดิตของเรา วงเงิน 50,000 เราจึงขอมัดจำ 50,000 ไว้ค่าบัตร เราได้เงินติดตัวไว้รวม 100,000 เขาเอาไปลงทุน 150,000 กับงานเครือข่าย
สุดท้ายเขาบอกว่าใช้เงินทุน 150,000 หมดภายใน 1 เดือน เราจึงตระหนักแล้วว่าชายคนนี้ ไม่ธรรมดาแล้ว เราขอบัตรเครดิตคืน ตอนนั้น เขารูดน้ำมันจนเต็มวงเงิน และเขายังทักมาเพื่อจะขอยืมตังที่เราขอกันไว้ 5หมื่นนั้น อ้างว่า ถ้าได้เงินก้อนนี้ จะมีรายได้เท่านั้น เท่านี้เข้ามา เหมือนทุกๆครั้งที่เขาขายฝันเราตั้งแต่รู้จักกัน แต่รอบนี้เราปฏิเสธและขอเลิกกับเขา และเขาก็ไม่ได้ยื้อแต่อย่างใด คิดว่าเขาคงดูดจากเราได้มากพอที่จะทิ้งแล้ว
รวมเวลาทั้งหมด 3 ปี กับการเป็นหนี้บ้าน ล้านกว่า หนี้เขายืมไป 3 แสน ที่เราต้องแบกรับไว้เพียงผู้เดียว จากเป็นคนมีเงินเก็บ ไม่เคยคิกเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่เคยเดือนชนเดือน ไม่เคยเดือดร้อนอะไร
ฝากให้คิดข้อสุดท้าย ถ้ามีคนเตือน ให้ฟังบ้างนะคะ จะได้ไม่เป็นเหมือนเรา
ก่อนที่เราจะเจอผู้ชายคนนี้ เราได้ไปดูดวงที่บูธในโลตัสแห่งหนึ่ง ลุงเขาบอกว่า เราจะเจอผู้ชายคนนึง ต้องระวังให้ดี เขาให้กินอะไรอย่ากิน ให้น้ำอย่ากินเด็ดขาด เขายังบอกอีกว่า เรามีดวงได้ไปเรียนต่อต่างประเศ แต่ต้องรอดจากผู้ชายคนนี้
ด้วยความที่เราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในคำทำนาย จึงเสียเวลา เสียเงิน 3 ปีไปกับผู้ชายคนนั้น
ขอบคุณทุกๆคนที่มาช่วยตอบคอมเม้น หวังว่าเคสเราจะเป็นกรณีศึกษา เพื่ออนาคตที่ดีนะคะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้เป็นกะทู้แรกค่ะ ได้ไปอ่านกะทู้ของหลายๆคนมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบ เลยขอตั้งกระทู้เพื่อถามเรื่องของตนเองจริงๆสักที ถ้าใครพอมีคำแนะนำ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ😀
เราเรียนจบและทำงานได้ 2ปีแล้ว ตอนนี้อายุ 23ค่ะตอนนี้รายได้อยู่ที่ สองหมื่นอัพ ตอนแรกที่อยู่คนเดียวมีเงินเก็บอย่างน้อยห้าหมื่น โดยไม่ได้ลำบากอะไร แต่เมื่อปีที่แล้วเรามีคนอายุมากกว่าเกือบสิบปีมาจีบ ตอนแรกไม่คิดจริงจังด้วย เพราะเขาแก่กว่าเราเยอะ จีบไปจีบมาตจีบติด (เราไม่มีใครด้วยล่ะ) เลยลองเปิดใจคบดู ตอนคุยกันแรกๆ เขาก้มีรายได้เยอะค่ะ เฉลี่ยเกินครึ่งแสนต่อเดือน เขาจะช่วยซับพอร์ทเราหลายๆอย่าง แค่ค่ารถตู้ค่าเดินทาง อาหารเล็กๆน้อยๆ รวมๆไม่ถึงสามพันด้วยซ้ำ (ไม่เคยให้เงินมาใช้นะคะ) แต่มาช่วงต้นปีนี้ เขาเปลี่ยนงาน รายได้ลดลงมาก จนแทบไม่มีรายได้เลย ตอนแรกที่เรายื่นมือเข้าไปช่วย เพราะเรารู้ว่าเขาทำกะเป๋าตังหายตอนกลับบ้าน (ซื่งนั่นมันเงินก้อนสุดท้ายที่เขามี) เราเลยยื่นมือเข้าไปช่วยเล็กๆน้อยๆ ประมาณ สองถึงสามพัน หลังจากนั้นงานเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย แต่รายจ่ายเขายังคงเดิม เขาจะชอบมาบ่นให้ฟังว่าไม่มีตังจ่ายค่างวดรถ ค่าน้ำมันไปหาลูกค้า (เขาทำงานฟรีแลนซ์ค่ะ) เราก็ใจอ่อน เพราะเราพอมีเงินเก็บ และคิดว่าเขาคงฟื้นตัวได้ไม่นาน จนปัจจุบันนี้ เขายังต้องยืมเราใช้ รวมทั้งหมดที่เรายื่นมือไปช่วย ทั้งค่าห้อง ค่างวดรถ ค่าน้ำมัน แสนกว่าแล้วค่ะ แล้วใช่ว่าเราจะอยู่สบายนะ เราทุกข์ใจมาก ทุกวันเรามานั่งคิดๆๆๆๆๆว่าทำไมเราไม่เคยมีความสุขเลย เราคิดถูกไหมที่คบกับเขา แก่กว่าเรา ไม่มีตังเก็บ แถมยืมเราใช้ เขาเคยพาไปบ้านไปเขา หลังจากกลับเขาบอกเราว่า เขาจะบอกทางบ้านมาสู่ขอ ซึ่งเรารู้ว่าเขาไม่มีรายได้ แถมติดหนี้เรา เขาไม่มีเงินมาแต่งเราแน่ๆ เขาจะให้พ่อแม่เขามาขอเรา ซึ่งเขาบอกว่าเป็นธรรมเนียมบ้านเขา พ่อแม่ต้องมาสู่ขอ และออกค่าสินสอดให้ บางทีเรายังคิดว่าถ้าแต่งไป เขาจะมีปัญญาเลี้ยงเราไหม (ที่จริงหาเลี้ยงตัวเองได้)แต่เราคิดถึงอนาคต ถ้ามีลูก เขาจะเลี้ยงทั้งครอบครัวได้ไหม
เรื่องราวก็ประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้เราต้องช่วยเขาทั้งหมด จริงๆเราก็สงสารเขานะ แต่เราก็อยากมีชีวิต ที่สามารถใช้เงินที่เราหามาได้เพื่อนสนองความสุขของตัวเอง ตอนนี้แม้แต่รองเท้าคู่ใหม่ยังไม่อยากซื้อ บอกเลยว่าเราไม่เคยใช้เงินเดือนชนเดือน แถมเรายังเป็นหนี้บัตรเครดิตอีก เราอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก เราไม่กล้าบอกใครเรื่องนี้เลย แม่แต่แม่พ่อ รึพี่ๆเอง เราก็ไม่กล้าบอก เราไม่รู้จะทำยังไง บางทีก็อยากเลิกๆไป แต่กลัวจะไม่ได้หนี้คืน แต่ถ้าคบต่อก็ไม่รู้จะได้คืนไหม เขาดูเป็นคนดีนะ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ติดอย่างเดียวเขายังเลี้ยงตัวเขาเองไม่ได้เลย 😰😒
ใครพอจะมีคำแนะนำ รบกวนเขียนตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ🙏🙏