เกริ่นก่อน พอดีผมมีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้ว ในโซน Kansai 3-16 พ.ย. ก็เป็นการท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป
แล้วก็มาเล่นในห้องบลู หาข้อมูลที่เที่ยวไปเรื่อยๆ ก็มาเห็นกระทู้ๆนึง
http://ppantip.com/topic/35715139
"มีใครไปญี่ปุ่นเดือนหน้า แล้วแพลนยังไม่เต็มมั้ยคะ ไปพิชิตเขาที่ญี่ปุ่นกันมั้ยยย"
ก็สนใจขึ้นมาทันที เพราะชอบแนวๆเดินเขา ธรรมชาติ ทะเลอยู่แล้ว แล้วนี่!! ที่ญี่ปุ่นเชียวว!! ไม่พลาดๆอยากลอง
พอเช็ควันเวลา สถานที่ ภูเขา Daisen (เมือง Tottori) ก็อยู่ในโซน Kansai พอดี ผมพักที่ Osaka
ก็เลยวางแผนใหม่ จองที่พักเพิ่มใกล้ๆบริเวณภูเขา ที่พักชื่อ Daisen Guesthouse Juan(จูออน)
เพราะแผนการคือจะนอนที่ที่พัก แล้วตื่นเริ่มเดินขึ้นภูเขาประมาณตี 3 เพื่อที่จะได้ทันเห็นพระอาทิตย์ขึ้น !!!!!
วางแผนลงตัวแล้วก็คอนเฟิร์มกับเจ้าของทริปนี้ คุณ "BlueAholic" โอเครเดวมาเจอกันวันที่ 8 พ.ย.แล้ว
ที่ Okayama แล้วต่อไป Tottori ลงสถานี Yonago เพราะโฮส ที่พักที่จองไว้จะขับรถมารับ(ใจดีจรุง)
แล้ววันที่ 9 ขึ้นเขา
สำหรับภูเขา Daisen นั่นตั้งอยู่ที่เมือง Tottori แต่จะอยู่ไปทางซ้ายของตัวเมืองตัวสถานี Tottori ไกลพอควร
สำหรับการเดินทางของผมจาก Osaka ก็มาตามรูป ใช้ Kansai Wide Area Pass (8,500 เยน ใช้ได้ 5 วัน มาตามเส้นสีแดง)
นั่ง Shinkansenจาก Shin Osaka ไปยัง Okayama แต่สถานี Yonago เมือง Tottori อยู่เหนือขึ้นไปอีก
พาส KWAP ไม่ครอบคลุมเลยต้องซื้อพาสเพิ่ม ชื่อว่า San'in-Okayama Area Pass (5 วัน 4,500 เยน)
ในส่วนพาสอันหลังนี้แค่ใช้ไป-กลับก็คุ้มค่าพาสแล้วครับ เพราะจาก Okayama -->Yonago
ขบวน LTD. EXP YAKUMO ขาเดียวก็ 5,470 เยนแล้วครับ
พอถึงวันที่ 8 วันนัดหมาย ก็มาเจอกับคุณ "BlueAholic" คนสวย 555
ก็โดดขึ้นรถไฟแล้วก็สนทนากันระหว่างทาง พร้อมกับได้รับแจ้งข่าวจากทางโฮสที่พักว่า....
It's me Hiroko
Here in Mt.daisen is getting cold day by day.
I think that it must be snow when you come.
The temperature is 5 degre at the moment and then I guess the top of the mountain must be minus 2 or 3..
I don't think that it is good idea to go to the top of the mountain, especially sunrise!!
Also I checked the weather forecast, it said that it can be bad weather on 9th.
So I suggest you can start walking here at 7 or 8 am and then go up to the middle of mountain( please don't go the top!!)
and then come back here.
if I have a time to go out with you by my car, I want you to see the beeach forest.
ช่วงวันที่ไปอากาศเปลี่ยนพอดี มีเมฆเยอะ มีฝน ก็ปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี ก็สรุปว่าเดวไปดูสถานการณ์เอาข้างหน้า+เชื่อโฮสเจ้าถิ่น
จากนั่นเราก็มาถึงสถานี Yonago อากาศก็ค่อนข้างหนาวกว่าที่ Osaka มาก ลมก็โชยมาเรื่อยๆ
แล้วโฮสก็มารับ (คิดในใจ ใจดีจัง) "ฮิโรโกะ" บอกก่อนเข้าที่พักอาสาจะขับรถพาไปเที่ยวงานไฟอีก!!!
ทีแรกนึกว่าใกล้ๆ เอาเข้าจริงก็หลายกิโลอยู่ (ใจดีมากกก ถ้าเป็นที่อื่นเช็คอินเสร็จ ก็ตัวใครตัวมัน อย่างมากก็ชวนไปกินข้าว)
งานไฟก็เข้าฟรีอีก !!! เพราะเป็นวันที่เปิดให้เจ้าของที่พักเข้ามาชม จะได้ไปบอกแนะนำต่อให้แขกที่มาพักมาเที่ยวชม
เราทั้งคู่ก็เลยตีเนียนเป็นผู้ติดตามท่านฮิโรโกะ...... ผมพูดแต่ อะโนน อะโนวว คุณ BlueAholic พูดญี่ปุ่นไฟแลบ!!
แล้วท่านฮิโรโกะบอกเราพอมีเวลา จะพาไปออนเซนที่ริมชายหาดอีก!! ปิด 5 ทุ่ม สบ้ายยย ไปโลดดด (ใจดีอีกแล้วว)
ปล. ที่ออนเซนไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียดายครับ แต่ด้านในก็ห้ามถ่ายอยู่แล้ว บรรยากาสก็มีบ่อปรกติ
แล้วจะมีบ่อพิเศษ โอเพ่นแอร์ ยืนยื่นหน้าไปมีระเบียงกระจก มองออกไปอยู่ริมชายทะเลเลยครับ ฟินน(หนาวไข่หด 55)
ระหว่างทางก็ทำราเม็งหกใส่เบาะรถเขาอีกครับ ซุ่มซ่ามจริงๆเรา -_-' ท่านฮิโรโกะก็ไม่ว่าอะไร อิอิ
ก่อนเข้าที่พักก็พาไปซุปเปอร์ในเมือง ตุนของกินสำหรับพรุ่งนี้เช้า เพราะบริเวณที่พักไม่มีร้านสะดวกซื้อเลยครับ
เสดจากซื้อของ ฮิโรโกะก็พามายังที่พักครับ ในใจผมคิดว่าค่าน้ำมันพาเท่วแค่นี้ก็ไม่คุ้มค่ารายได้ที่พักแล้วมั้งเนี่ย.....
พอประตูเปิดนี่แทบอยากกระโดดเข้าที่นอนเลยครับ หนาวมาก ผมจำอุณภมิเป๊ะๆไม่ได้แต่คงราว 3-4 องศา
ที่พักชื่อว่า Daisen Guesthouse Juan ราคาเริ่มต้นสำหรับ 1 ท่านที่ 3,000 เยนครับ
ที่พักจะเป็น 2 ชั้น ด้านล่างเป็นโต๊ะรวมนั่งเล่น มีอาหารสำเร็จรูปขายบางอย่าง พวกบะหมี่ แกงกะหรี่
ส่วนชา กาแฟ ชงฟรีครับ ชงเองเลย
ทางด้านห้องพักก็จะอยู่ที่ชั้น 2 เป็นห้องพักรวม แต่แบ่งเป็นห้องของชาย ของหญิงแยกกัน
มีฮีทเตอร์ ที่นอนพร้อมมาก มีหมอนน้ำร้อนให้ด้วย ตามรูปเลยครับ มีไวไฟ ห้องน้ำ อ่างล้างหน้าตามสไตร์เกสเฮ้าส์ครับ
โดยรวมประทับใจมากครับ นี่ขนาดยังไม่ผ่านคืนแรกไปเลย
เสดแล้วก็มานั่งคุยกับฮิโรโกะ ว่าสรุปเราจะได้ขึ้นเขาช่วงเช้ามืดหรือไม่
สรุปก็คือ "ไม่" อดขึ้นไปตอนเช้ามืดเพราะฟ้าปิดอยู่แล้วเป็นที่แน่นอน และอันตรายเพราะฝนจะตก และจะเริ่มมีหิมะ
หาาว่าไงนะ หิมะ!!! (ผมไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน) ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี ไม่ได้ดูพระอาทิด แต่ได้เจอหิมะ
แต่ฮิโรโกะก็แนะนำให้ไปเดินเล่นบริเวณวัด ศาลเจ้า Daisen-Ji ซึ่งเป็นทางผ่านขึ้นไปยังภูเขา Daisen พอ
ไม่ควรเดินไปจนถึงยอดเขาเพราะอันตราย แล้วเราไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับเดินเขาที่มีหิมะมาด้วย
แล้วเธอก็บอกว่าวันพรุ่งนี้จะมีเพื่อนเธอ(คนญี่ปุ่น) เดินขึ้นเหมือนกัน ไปพร้อมกันเลยก็ได้
แต่พอเช้ามา ฮิโรโกะบอกว่ามีฝน ให้นอนเล่นไปก่อน ส่วนเพื่อนคนที่ว่าก็เริ่มเดินขึ้นเขาไปแล้ว
แล้วสักพัก เพื่อนคนนั้นก็โพสรูปบริเวณวัด ในรูปมีหิมะลงแล้ว พอเราเห็นรูปกันก็อยากออกไปดูทันที
(รูปประมาณนี้ครับ)
จากนั้นก็ไม่รอช้าครับ เสื้อผ้า หน้า ผม อุปกรณ์พร้อม ออกไปลุยทันที
พอไปถึงก็รู้สึกกระดี้กระด้ามากครับ ไม่เคยเห็นหิมะ ซึ่งบริเวณวัดเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางขึ้นเขา Daisen ครับ
พอมาถึงวัด ก็มาเจอกับเพื่อนฮิโรโกะ ลงกลับมาแล้วครับ oO?? ไมไวจัง.. อุปกรณ์ trekking แกครบมากครับ
คุยกันพอจับใจความได้ว่า เดินขึ้นไปสุดไม่ได้ ไปได้แค่ครึ่งทาง ข้างบนเป็นหิมะหมดแล้ว
เพื่อนคนนี้ชื่อ ซาดาโอกะซัง แกจะมาเดินเขาเล่นเป็นงานอดิเรกทุกวันอังคาร(วันหยุดแก ถ้าจำไม่ผิดนะ)
จากนั้นก็แยกย้ายครับ เราไปต่อ เดินไปถ่ายรูปไป หิมะเริ่มเยอะขึ้นตามข้างทาง ชิวมากครับ 555
แล้วสักพักจู่ๆ ซาดาโอกะซังก็ เดินกลับขึ้นมาทันเราครับ oO??? พร้อมกับคนญี่ปุ่นอุปกรณ์ครบมืออีก 2 คน
สงสัยคนที่มาอีก2คนนั้นขอให้นำทาง ก็เลยไปพร้อมกันเลย ทั้งหมด 5 คน ให้แกนำทาง แถมใจดีให้ยืมไม้ค้ำด้วย
เส้นทางก็มีหินเยอะครับ ทางเดินไม่ชันเท่าไหร่แต่อุปสรรคคือหิมะที่พื้นครับ หิมะก็ทำให้ลื่นพอตัว ปรื้ดๆกันไปหลายรอบ
พอถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เป็นลานหิมะหมดเลย แต่กลับมาเจอรถดำอยู่คันนึง "อ่าวเฮ้ยย มาไงง????"
สรุปก็สามารถขับมาตรงจุดนี้ได้ สำหรับผู้ที่ชำนาญพื้นที่ แล้วรถคันนี้ก็เป็นของ จนท. ผู้หญิง
ซึ่งฮิโรโกะเล่าว่า นางมาจอดตรงนี้ แล้วแบกของ30-40โล เดินขึ้นเขาต่อทุกวัน เพราะนางทำงานบนยอดเขา และทำคนเดียว oO!!!!
ชีโซสตรองมากๆ นับถือๆ พออื่มเอมกับบรรยากาศ ก็เดินลงมากันครับ ผมนี่กำน้ำแข็งอยากปาใส่หลังใครสักคน 55
พอกลับลงมาก็ช่วงล่างเปียกเละแทะเลยครับ กลับมาถึงที่พัก ฮิโรโกะเสนอขับพาไปออนเซนใกล้ๆอีก
แล้วเดวจะพาไปเลี้ยงข้าว !!! อ่านไม่ผิดหรอกครับ เธอบอกจะพาไปร้านไปเลี้ยงข้าวพวกผมอีก oO!! (ใจดีอะไรอย่างน้านน)
ก็ไปลงบ่อออนเซนกัน แนวเปิดโล่งอีกเช่นกัน คราวนี้แบล๊คกราวด์เป็นป่าไม้ ธรรมชาติฝุดๆ
อาบน้ำเสด ฮิโรโกะก็ขับรถพามากินซูชิร้านประจำของนางครับ ดูรูปตามนะครับ นี่หน้าร้านเหรอ
แต่พอเข้าไปผิดคาดครับ สะอาดดี เป็นเค้าเตอร์ซูชิ นั่งได้ 5-6 คน พ่อครัวดำเนินการเองทั้งหมดคนเดียวครับ
ซูชิเซทคำโตมากๆ 2-3 เท่าจากขนาดที่ให้ในเมืองเลยทีเดว ไม่ได้โม้
แล้วพอกินเสด นางก็จะจ่ายจริงๆด้วยครับ พวกเราเลยรีบชิงจ่ายก่อนครับ เลี้ยงฮิโรโกะเป็นการตอบแทนที่พาขับรถเที่ยวครับ
จากนั้นนางก็พาเท่วชมวิวต่อยาวๆไปครับ แล้วก็พาแวะร้านผลิตภัณฑ์จากนม ก็เลยเลี้ยงของหวานอีกรอบก่อนกลับ Osaka ครับ
สรุป ทริปนี้เป็นทริปที่ประทับใจมากๆ จ่ายค่าที่พักไป 3,000 เยน แต่รู้สึกเหมือนได้ตอบแทนมา 300,000 เยน
คือเป็นโฮสที่เทคแคร์ลูกบ้านดีมาก ดีเหลือเชื่อ ตอนฮิโรโกะ วนมาส่งที่สถานี ไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่อ รู้สึกอบอุ่นดี
ใครอยากออกทริปเดินขึ้นเขา บรรยาการเงียบสงบ ธรรมชาติ แนะนำให้มาที่ Daisen นี่เลย
แล้วถ้าอยากสัมผัสความอบอุ่นของคนที่นี่ก็แนะนำให้มาพักที่ Daisen Guesthouse Juan เจ้าบ้านใจดีมากก
แล้วก็ขอบคุณ คุณ BlueAholic มากๆ ที่ไปเที่ยวด้วยกัน สนุกมากๆ ถ้าไม่เห็นกระทู้ชวนอันนั้น ผมคงจะพลาดอะไรไปเยอะ อิอิ
ปล. ภารกิจทั้งหมดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะเรายังไม่ได้พิชิตยอดเขา ไว้รอดูต่อภาคต่อไปครับ จบการรีวิวละครับ ขอบคุณครับ
[CR] รีวิวทริปพิชิตภูเขา Daisen ,Tottori Japan +ที่พัก +ของกิน +ความประทับใจ
เกริ่นก่อน พอดีผมมีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้ว ในโซน Kansai 3-16 พ.ย. ก็เป็นการท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป
แล้วก็มาเล่นในห้องบลู หาข้อมูลที่เที่ยวไปเรื่อยๆ ก็มาเห็นกระทู้ๆนึง http://ppantip.com/topic/35715139
"มีใครไปญี่ปุ่นเดือนหน้า แล้วแพลนยังไม่เต็มมั้ยคะ ไปพิชิตเขาที่ญี่ปุ่นกันมั้ยยย"
ก็สนใจขึ้นมาทันที เพราะชอบแนวๆเดินเขา ธรรมชาติ ทะเลอยู่แล้ว แล้วนี่!! ที่ญี่ปุ่นเชียวว!! ไม่พลาดๆอยากลอง
พอเช็ควันเวลา สถานที่ ภูเขา Daisen (เมือง Tottori) ก็อยู่ในโซน Kansai พอดี ผมพักที่ Osaka
ก็เลยวางแผนใหม่ จองที่พักเพิ่มใกล้ๆบริเวณภูเขา ที่พักชื่อ Daisen Guesthouse Juan(จูออน)
เพราะแผนการคือจะนอนที่ที่พัก แล้วตื่นเริ่มเดินขึ้นภูเขาประมาณตี 3 เพื่อที่จะได้ทันเห็นพระอาทิตย์ขึ้น !!!!!
วางแผนลงตัวแล้วก็คอนเฟิร์มกับเจ้าของทริปนี้ คุณ "BlueAholic" โอเครเดวมาเจอกันวันที่ 8 พ.ย.แล้ว
ที่ Okayama แล้วต่อไป Tottori ลงสถานี Yonago เพราะโฮส ที่พักที่จองไว้จะขับรถมารับ(ใจดีจรุง)
แล้ววันที่ 9 ขึ้นเขา
สำหรับภูเขา Daisen นั่นตั้งอยู่ที่เมือง Tottori แต่จะอยู่ไปทางซ้ายของตัวเมืองตัวสถานี Tottori ไกลพอควร
สำหรับการเดินทางของผมจาก Osaka ก็มาตามรูป ใช้ Kansai Wide Area Pass (8,500 เยน ใช้ได้ 5 วัน มาตามเส้นสีแดง)
นั่ง Shinkansenจาก Shin Osaka ไปยัง Okayama แต่สถานี Yonago เมือง Tottori อยู่เหนือขึ้นไปอีก
พาส KWAP ไม่ครอบคลุมเลยต้องซื้อพาสเพิ่ม ชื่อว่า San'in-Okayama Area Pass (5 วัน 4,500 เยน)
ในส่วนพาสอันหลังนี้แค่ใช้ไป-กลับก็คุ้มค่าพาสแล้วครับ เพราะจาก Okayama -->Yonago
ขบวน LTD. EXP YAKUMO ขาเดียวก็ 5,470 เยนแล้วครับ
พอถึงวันที่ 8 วันนัดหมาย ก็มาเจอกับคุณ "BlueAholic" คนสวย 555
ก็โดดขึ้นรถไฟแล้วก็สนทนากันระหว่างทาง พร้อมกับได้รับแจ้งข่าวจากทางโฮสที่พักว่า....
It's me Hiroko
Here in Mt.daisen is getting cold day by day.
I think that it must be snow when you come.
The temperature is 5 degre at the moment and then I guess the top of the mountain must be minus 2 or 3..
I don't think that it is good idea to go to the top of the mountain, especially sunrise!!
Also I checked the weather forecast, it said that it can be bad weather on 9th.
So I suggest you can start walking here at 7 or 8 am and then go up to the middle of mountain( please don't go the top!!)
and then come back here.
if I have a time to go out with you by my car, I want you to see the beeach forest.
ช่วงวันที่ไปอากาศเปลี่ยนพอดี มีเมฆเยอะ มีฝน ก็ปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี ก็สรุปว่าเดวไปดูสถานการณ์เอาข้างหน้า+เชื่อโฮสเจ้าถิ่น
จากนั่นเราก็มาถึงสถานี Yonago อากาศก็ค่อนข้างหนาวกว่าที่ Osaka มาก ลมก็โชยมาเรื่อยๆ
แล้วโฮสก็มารับ (คิดในใจ ใจดีจัง) "ฮิโรโกะ" บอกก่อนเข้าที่พักอาสาจะขับรถพาไปเที่ยวงานไฟอีก!!!
ทีแรกนึกว่าใกล้ๆ เอาเข้าจริงก็หลายกิโลอยู่ (ใจดีมากกก ถ้าเป็นที่อื่นเช็คอินเสร็จ ก็ตัวใครตัวมัน อย่างมากก็ชวนไปกินข้าว)
งานไฟก็เข้าฟรีอีก !!! เพราะเป็นวันที่เปิดให้เจ้าของที่พักเข้ามาชม จะได้ไปบอกแนะนำต่อให้แขกที่มาพักมาเที่ยวชม
เราทั้งคู่ก็เลยตีเนียนเป็นผู้ติดตามท่านฮิโรโกะ...... ผมพูดแต่ อะโนน อะโนวว คุณ BlueAholic พูดญี่ปุ่นไฟแลบ!!
แล้วท่านฮิโรโกะบอกเราพอมีเวลา จะพาไปออนเซนที่ริมชายหาดอีก!! ปิด 5 ทุ่ม สบ้ายยย ไปโลดดด (ใจดีอีกแล้วว)
ปล. ที่ออนเซนไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียดายครับ แต่ด้านในก็ห้ามถ่ายอยู่แล้ว บรรยากาสก็มีบ่อปรกติ
แล้วจะมีบ่อพิเศษ โอเพ่นแอร์ ยืนยื่นหน้าไปมีระเบียงกระจก มองออกไปอยู่ริมชายทะเลเลยครับ ฟินน(หนาวไข่หด 55)
ระหว่างทางก็ทำราเม็งหกใส่เบาะรถเขาอีกครับ ซุ่มซ่ามจริงๆเรา -_-' ท่านฮิโรโกะก็ไม่ว่าอะไร อิอิ
ก่อนเข้าที่พักก็พาไปซุปเปอร์ในเมือง ตุนของกินสำหรับพรุ่งนี้เช้า เพราะบริเวณที่พักไม่มีร้านสะดวกซื้อเลยครับ
เสดจากซื้อของ ฮิโรโกะก็พามายังที่พักครับ ในใจผมคิดว่าค่าน้ำมันพาเท่วแค่นี้ก็ไม่คุ้มค่ารายได้ที่พักแล้วมั้งเนี่ย.....
พอประตูเปิดนี่แทบอยากกระโดดเข้าที่นอนเลยครับ หนาวมาก ผมจำอุณภมิเป๊ะๆไม่ได้แต่คงราว 3-4 องศา
ที่พักชื่อว่า Daisen Guesthouse Juan ราคาเริ่มต้นสำหรับ 1 ท่านที่ 3,000 เยนครับ
ที่พักจะเป็น 2 ชั้น ด้านล่างเป็นโต๊ะรวมนั่งเล่น มีอาหารสำเร็จรูปขายบางอย่าง พวกบะหมี่ แกงกะหรี่
ส่วนชา กาแฟ ชงฟรีครับ ชงเองเลย
ทางด้านห้องพักก็จะอยู่ที่ชั้น 2 เป็นห้องพักรวม แต่แบ่งเป็นห้องของชาย ของหญิงแยกกัน
มีฮีทเตอร์ ที่นอนพร้อมมาก มีหมอนน้ำร้อนให้ด้วย ตามรูปเลยครับ มีไวไฟ ห้องน้ำ อ่างล้างหน้าตามสไตร์เกสเฮ้าส์ครับ
โดยรวมประทับใจมากครับ นี่ขนาดยังไม่ผ่านคืนแรกไปเลย
เสดแล้วก็มานั่งคุยกับฮิโรโกะ ว่าสรุปเราจะได้ขึ้นเขาช่วงเช้ามืดหรือไม่
สรุปก็คือ "ไม่" อดขึ้นไปตอนเช้ามืดเพราะฟ้าปิดอยู่แล้วเป็นที่แน่นอน และอันตรายเพราะฝนจะตก และจะเริ่มมีหิมะ
หาาว่าไงนะ หิมะ!!! (ผมไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน) ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี ไม่ได้ดูพระอาทิด แต่ได้เจอหิมะ
แต่ฮิโรโกะก็แนะนำให้ไปเดินเล่นบริเวณวัด ศาลเจ้า Daisen-Ji ซึ่งเป็นทางผ่านขึ้นไปยังภูเขา Daisen พอ
ไม่ควรเดินไปจนถึงยอดเขาเพราะอันตราย แล้วเราไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับเดินเขาที่มีหิมะมาด้วย
แล้วเธอก็บอกว่าวันพรุ่งนี้จะมีเพื่อนเธอ(คนญี่ปุ่น) เดินขึ้นเหมือนกัน ไปพร้อมกันเลยก็ได้
แต่พอเช้ามา ฮิโรโกะบอกว่ามีฝน ให้นอนเล่นไปก่อน ส่วนเพื่อนคนที่ว่าก็เริ่มเดินขึ้นเขาไปแล้ว
แล้วสักพัก เพื่อนคนนั้นก็โพสรูปบริเวณวัด ในรูปมีหิมะลงแล้ว พอเราเห็นรูปกันก็อยากออกไปดูทันที
(รูปประมาณนี้ครับ)
จากนั้นก็ไม่รอช้าครับ เสื้อผ้า หน้า ผม อุปกรณ์พร้อม ออกไปลุยทันที
พอไปถึงก็รู้สึกกระดี้กระด้ามากครับ ไม่เคยเห็นหิมะ ซึ่งบริเวณวัดเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางขึ้นเขา Daisen ครับ
พอมาถึงวัด ก็มาเจอกับเพื่อนฮิโรโกะ ลงกลับมาแล้วครับ oO?? ไมไวจัง.. อุปกรณ์ trekking แกครบมากครับ
คุยกันพอจับใจความได้ว่า เดินขึ้นไปสุดไม่ได้ ไปได้แค่ครึ่งทาง ข้างบนเป็นหิมะหมดแล้ว
เพื่อนคนนี้ชื่อ ซาดาโอกะซัง แกจะมาเดินเขาเล่นเป็นงานอดิเรกทุกวันอังคาร(วันหยุดแก ถ้าจำไม่ผิดนะ)
จากนั้นก็แยกย้ายครับ เราไปต่อ เดินไปถ่ายรูปไป หิมะเริ่มเยอะขึ้นตามข้างทาง ชิวมากครับ 555
แล้วสักพักจู่ๆ ซาดาโอกะซังก็ เดินกลับขึ้นมาทันเราครับ oO??? พร้อมกับคนญี่ปุ่นอุปกรณ์ครบมืออีก 2 คน
สงสัยคนที่มาอีก2คนนั้นขอให้นำทาง ก็เลยไปพร้อมกันเลย ทั้งหมด 5 คน ให้แกนำทาง แถมใจดีให้ยืมไม้ค้ำด้วย
เส้นทางก็มีหินเยอะครับ ทางเดินไม่ชันเท่าไหร่แต่อุปสรรคคือหิมะที่พื้นครับ หิมะก็ทำให้ลื่นพอตัว ปรื้ดๆกันไปหลายรอบ
พอถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เป็นลานหิมะหมดเลย แต่กลับมาเจอรถดำอยู่คันนึง "อ่าวเฮ้ยย มาไงง????"
สรุปก็สามารถขับมาตรงจุดนี้ได้ สำหรับผู้ที่ชำนาญพื้นที่ แล้วรถคันนี้ก็เป็นของ จนท. ผู้หญิง
ซึ่งฮิโรโกะเล่าว่า นางมาจอดตรงนี้ แล้วแบกของ30-40โล เดินขึ้นเขาต่อทุกวัน เพราะนางทำงานบนยอดเขา และทำคนเดียว oO!!!!
ชีโซสตรองมากๆ นับถือๆ พออื่มเอมกับบรรยากาศ ก็เดินลงมากันครับ ผมนี่กำน้ำแข็งอยากปาใส่หลังใครสักคน 55
พอกลับลงมาก็ช่วงล่างเปียกเละแทะเลยครับ กลับมาถึงที่พัก ฮิโรโกะเสนอขับพาไปออนเซนใกล้ๆอีก
แล้วเดวจะพาไปเลี้ยงข้าว !!! อ่านไม่ผิดหรอกครับ เธอบอกจะพาไปร้านไปเลี้ยงข้าวพวกผมอีก oO!! (ใจดีอะไรอย่างน้านน)
ก็ไปลงบ่อออนเซนกัน แนวเปิดโล่งอีกเช่นกัน คราวนี้แบล๊คกราวด์เป็นป่าไม้ ธรรมชาติฝุดๆ
อาบน้ำเสด ฮิโรโกะก็ขับรถพามากินซูชิร้านประจำของนางครับ ดูรูปตามนะครับ นี่หน้าร้านเหรอ
แต่พอเข้าไปผิดคาดครับ สะอาดดี เป็นเค้าเตอร์ซูชิ นั่งได้ 5-6 คน พ่อครัวดำเนินการเองทั้งหมดคนเดียวครับ
ซูชิเซทคำโตมากๆ 2-3 เท่าจากขนาดที่ให้ในเมืองเลยทีเดว ไม่ได้โม้
แล้วพอกินเสด นางก็จะจ่ายจริงๆด้วยครับ พวกเราเลยรีบชิงจ่ายก่อนครับ เลี้ยงฮิโรโกะเป็นการตอบแทนที่พาขับรถเที่ยวครับ
จากนั้นนางก็พาเท่วชมวิวต่อยาวๆไปครับ แล้วก็พาแวะร้านผลิตภัณฑ์จากนม ก็เลยเลี้ยงของหวานอีกรอบก่อนกลับ Osaka ครับ
สรุป ทริปนี้เป็นทริปที่ประทับใจมากๆ จ่ายค่าที่พักไป 3,000 เยน แต่รู้สึกเหมือนได้ตอบแทนมา 300,000 เยน
คือเป็นโฮสที่เทคแคร์ลูกบ้านดีมาก ดีเหลือเชื่อ ตอนฮิโรโกะ วนมาส่งที่สถานี ไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่อ รู้สึกอบอุ่นดี
ใครอยากออกทริปเดินขึ้นเขา บรรยาการเงียบสงบ ธรรมชาติ แนะนำให้มาที่ Daisen นี่เลย
แล้วถ้าอยากสัมผัสความอบอุ่นของคนที่นี่ก็แนะนำให้มาพักที่ Daisen Guesthouse Juan เจ้าบ้านใจดีมากก
แล้วก็ขอบคุณ คุณ BlueAholic มากๆ ที่ไปเที่ยวด้วยกัน สนุกมากๆ ถ้าไม่เห็นกระทู้ชวนอันนั้น ผมคงจะพลาดอะไรไปเยอะ อิอิ
ปล. ภารกิจทั้งหมดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะเรายังไม่ได้พิชิตยอดเขา ไว้รอดูต่อภาคต่อไปครับ จบการรีวิวละครับ ขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น