"อิริยาบถของสายน้ำ
ที่ไหลผ่านป่าสลับสี
ช่างงดงามยิ่งนัก
สายลมกระซิบพราว
ดอกไม้เบ่งบาน
วันคืนช่างยาวนาน
ก่อนฤดูกาลแห่งเหมันต์"
เดินทางมาหลายสิบเมืองทั่วโลก ผมพบว่าเมืองนั้นคล้ายกับมนุษย์ คือมีบุคลิกเฉพาะตัว บางเมืองสดใสร่าเริงดุจดังดอกไม้บาน บางเมืองเงียบขรึมสง่า
งาม บางเมืองเหงาเศร้า บางเมืองอบอุ่นและโอบกอดเราในยามเหนื่อยล้า บางเมืองสว่างจ้าอำพันดุจแสงดาว ส่องนำทางในค่ำคืนอันมืดมิด
นั่นจึงทำให้เมื่อผมมองย้อนไปถึงทุกนครที่เคยไปเยือน ผมจึงคิดถึงทุกเมือง ที่เคยผ่าน ดุจดังคิดถึงเพื่อนคนหนึ่ง ที่ได้พบกันเพียงไม่นานก็จากกัน และไม่รู้อีกนานเท่าไรจึงจะได้พบกันอีก
คิดถึงถนนทุกสาย ตรอกซอกซอยที่เคยเดินผ่าน โรงแรมที่เคยนอน ขุนเขาที่เคยย่ำเหยียบ โตรกธารแสนกว้างใหญ่ แสงอาทิตย์ให้ไออุ่นในวันคืนที่อากาศหนาวเหน็บ ล้อรถไฟแล่นบดกระทบราง จากกลางวันสู่กลางคืน จากวุ่นวายสู่สงบเงียบ
ผมจักจดจำและคิดถึงทุกหนทุกแห่งที่เคยพบผ่าน
http://ppantip.com/topic/35765647 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 1 อู่หลิงหยวน ประตูสู่หุบเขาอวตาร
http://ppantip.com/topic/35773465 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 2 จางเจียเจี้ย สวรรค์แห่งขุนเขา
http://ppantip.com/topic/35777258 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 3 โบยบินสู่แดนอวตาร
http://ppantip.com/topic/35780462 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 4 เทียนเหมินซาน ประตูสู่นิรภพ
เมืองเก่าเฟิ่งหวงสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี มีสะพาน “หงเฉียว” เป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน เฟิ่งหวงมีแม่น้ำ“ถัวเจียง” ไหลพาดผ่านเป็นเส้นเลือดหลัก ซึ่งนับจากอดีตถึงปัจจุบันชาวบ้านที่นี่ได้ใช้แม่น้ำถัวเจียงเป็นปัจจัยหลายสิ่งหลายอย่างในการดำรงชีวิตต่างๆ ทั้งคมนาคม-สัญจรไปมา, จับปลา-หาอาหาร, หุงต้ม-ประกอบอาหาร, ซักผ้า-ชำระล้างสิ่งของ สร้างสรรค์งานศิลปะ-ภาพวาดกวี แต่งเพลง รวมถึงการเปิดเป็นย่านการค้าริมน้ำ
เมืองเก่าเฟิ่งหวงในอดีตฮ่องเต้จัดสรรให้เป็นถิ่นอยู่อาศัยของชนเผ่าแม้วภายใต้การควบคุมของทางการ ที่ให้อยู่เฉพาะในเขตพื้นที่เมืองเก่าในเขตแนวกำแพงเมืองโบราณที่ปัจจุบันยังมีสภาพสมบูรณ์เป็นมรดกตกทอดมาถึงปัจจุบัน
เดิมเฟิ่งหวงเป็นเพียงชุมชนค้าขายริมน้ำธรรมดา ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนปัจจุบัน แต่จุดเปลี่ยนของเมืองนี้มาจากการที่ “เสิ่น ฉง เหวิน”นักประวัติศาสตร์ นักประพันธ์ ผู้รอบรู้ และกวีนามอุโฆษของจีนชาวเฟิ่งหวง ได้นำภาพมนต์เสน่ห์ของบ้านเรือนเก่าแก่อันเป็นเอกลักษณ์ริมน้ำ ภูมิประเทศ วิถีวัฒนธรรม แห่งเมืองเฟิ่งหวงเขียนเป็นหนังสือ บทกลอน กวี ถ่ายทอดให้คนภายนอกได้รับรู้ โดยเฉพาะ “เปียนเฉิน” ที่ “The Border Town” หนังสือเล่มสำคัญที่เปิดโลกเมืองโบราณเฟิ่งหวงให้โลกรับรู้ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
หลังจากหนังสือเปียนเฉินออกมาสร้างชื่อให้กับเมืองเฟิ่งหวง ทางการจีนก็เข้ามาทำการอนุรักษ์เมืองเก่าแห่งนี้ พร้อมกับการแต่งเติมสีสันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวในรูปแบบเมืองโบราณมีชีวิต ขณะที่บ้านเกิดของเสิ่น ฉง เหวิน หลังท่านเสียชีวิต เมืองเฟิ่งหวงก็ได้อนุรักษ์ไว้ พร้อมเปิดให้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเฟิ่งหวง ให้ชาวจีนได้ศึกษา เรียนรู้อัตชีวประวัติ ผลงาน และคุณูปการอีกหลากหลายที่เสิ่น ฉง เหวิน ได้ทิ้งมรดกอันทรงคุณค่าไว้ให้กับคนรุ่นหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.manager.co.th/qol/ViewNews.aspx?NewsID=9570000060951
[CR] จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 5 เฟิงหวง เมืองเก่า สายน้ำ และม่านแห่งวสันต์
ที่ไหลผ่านป่าสลับสี
ช่างงดงามยิ่งนัก
สายลมกระซิบพราว
ดอกไม้เบ่งบาน
วันคืนช่างยาวนาน
ก่อนฤดูกาลแห่งเหมันต์"
เดินทางมาหลายสิบเมืองทั่วโลก ผมพบว่าเมืองนั้นคล้ายกับมนุษย์ คือมีบุคลิกเฉพาะตัว บางเมืองสดใสร่าเริงดุจดังดอกไม้บาน บางเมืองเงียบขรึมสง่า
งาม บางเมืองเหงาเศร้า บางเมืองอบอุ่นและโอบกอดเราในยามเหนื่อยล้า บางเมืองสว่างจ้าอำพันดุจแสงดาว ส่องนำทางในค่ำคืนอันมืดมิด
นั่นจึงทำให้เมื่อผมมองย้อนไปถึงทุกนครที่เคยไปเยือน ผมจึงคิดถึงทุกเมือง ที่เคยผ่าน ดุจดังคิดถึงเพื่อนคนหนึ่ง ที่ได้พบกันเพียงไม่นานก็จากกัน และไม่รู้อีกนานเท่าไรจึงจะได้พบกันอีก
คิดถึงถนนทุกสาย ตรอกซอกซอยที่เคยเดินผ่าน โรงแรมที่เคยนอน ขุนเขาที่เคยย่ำเหยียบ โตรกธารแสนกว้างใหญ่ แสงอาทิตย์ให้ไออุ่นในวันคืนที่อากาศหนาวเหน็บ ล้อรถไฟแล่นบดกระทบราง จากกลางวันสู่กลางคืน จากวุ่นวายสู่สงบเงียบ
ผมจักจดจำและคิดถึงทุกหนทุกแห่งที่เคยพบผ่าน
http://ppantip.com/topic/35765647 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 1 อู่หลิงหยวน ประตูสู่หุบเขาอวตาร
http://ppantip.com/topic/35773465 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 2 จางเจียเจี้ย สวรรค์แห่งขุนเขา
http://ppantip.com/topic/35777258 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 3 โบยบินสู่แดนอวตาร
http://ppantip.com/topic/35780462 จางเจียเจี้ย หุบเขาแห่งสวรรค์ ตอนที่ 4 เทียนเหมินซาน ประตูสู่นิรภพ
เมืองเก่าเฟิ่งหวงสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี มีสะพาน “หงเฉียว” เป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน เฟิ่งหวงมีแม่น้ำ“ถัวเจียง” ไหลพาดผ่านเป็นเส้นเลือดหลัก ซึ่งนับจากอดีตถึงปัจจุบันชาวบ้านที่นี่ได้ใช้แม่น้ำถัวเจียงเป็นปัจจัยหลายสิ่งหลายอย่างในการดำรงชีวิตต่างๆ ทั้งคมนาคม-สัญจรไปมา, จับปลา-หาอาหาร, หุงต้ม-ประกอบอาหาร, ซักผ้า-ชำระล้างสิ่งของ สร้างสรรค์งานศิลปะ-ภาพวาดกวี แต่งเพลง รวมถึงการเปิดเป็นย่านการค้าริมน้ำ
เมืองเก่าเฟิ่งหวงในอดีตฮ่องเต้จัดสรรให้เป็นถิ่นอยู่อาศัยของชนเผ่าแม้วภายใต้การควบคุมของทางการ ที่ให้อยู่เฉพาะในเขตพื้นที่เมืองเก่าในเขตแนวกำแพงเมืองโบราณที่ปัจจุบันยังมีสภาพสมบูรณ์เป็นมรดกตกทอดมาถึงปัจจุบัน
เดิมเฟิ่งหวงเป็นเพียงชุมชนค้าขายริมน้ำธรรมดา ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนปัจจุบัน แต่จุดเปลี่ยนของเมืองนี้มาจากการที่ “เสิ่น ฉง เหวิน”นักประวัติศาสตร์ นักประพันธ์ ผู้รอบรู้ และกวีนามอุโฆษของจีนชาวเฟิ่งหวง ได้นำภาพมนต์เสน่ห์ของบ้านเรือนเก่าแก่อันเป็นเอกลักษณ์ริมน้ำ ภูมิประเทศ วิถีวัฒนธรรม แห่งเมืองเฟิ่งหวงเขียนเป็นหนังสือ บทกลอน กวี ถ่ายทอดให้คนภายนอกได้รับรู้ โดยเฉพาะ “เปียนเฉิน” ที่ “The Border Town” หนังสือเล่มสำคัญที่เปิดโลกเมืองโบราณเฟิ่งหวงให้โลกรับรู้ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
หลังจากหนังสือเปียนเฉินออกมาสร้างชื่อให้กับเมืองเฟิ่งหวง ทางการจีนก็เข้ามาทำการอนุรักษ์เมืองเก่าแห่งนี้ พร้อมกับการแต่งเติมสีสันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวในรูปแบบเมืองโบราณมีชีวิต ขณะที่บ้านเกิดของเสิ่น ฉง เหวิน หลังท่านเสียชีวิต เมืองเฟิ่งหวงก็ได้อนุรักษ์ไว้ พร้อมเปิดให้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเฟิ่งหวง ให้ชาวจีนได้ศึกษา เรียนรู้อัตชีวประวัติ ผลงาน และคุณูปการอีกหลากหลายที่เสิ่น ฉง เหวิน ได้ทิ้งมรดกอันทรงคุณค่าไว้ให้กับคนรุ่นหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/qol/ViewNews.aspx?NewsID=9570000060951