สวัสดีค่ะสาวๆ หลังจากตามส่องตามอ่านมานานก็ได้ฤกษ์งามยามดี มารีวิวสิ่งที่โดนใจ เวลาเห็นรีวิวของสาวๆแล้วเราก็อยากเขียนบ้าง เลยนั่งมองปัญหาของตัวเองจะเอาตัวเองเป็นหนูทดลองกับอะไรดี ฮ่าๆ
สรุปแล้วปัญหาหนักของเราตอนนี้คงหนีไม่พ้น เรื่องผมมัน หน้ามันไม่พอยังลามไปที่ผมมันอีกค่ะ เราเป็นคนผมมันแบบ สระผมตอนเช้าวันนี้ออกไปทำงานกลับมาคือมันแล้วอ่ะ จริงๆยังไม่ทันจะกลับบ้าน ผ่านไปครึ่งวันความมันก็กลับมาเยือน ตอนนี้ต้องสระผมทุกวัน แล้วทีนี้ความลำบากคือการไดร์ผมค่ะ เพราะต้องตื่นเช้าเพื่อมาอาบน้ำสระ-ไดร์ผม ทำให้เสียเวลานอนสุดๆ ยิ่งถ้าใช้ Conditioner (ครีมนวดผม) ยิ่งทำให้ผมมันเร็วเลยต้องเสียเวลาล้างครีมนวดออกนานมากเพราะกลัวผมจะมัน ตอนแรกเราไว้ผมยาวค่ะเสียเวลามากกับการเป่าผมตอนเช้าก่อนไปทำงาน เลยหนีปัญหาโดยการไปหั่นผมสั้นค่ะ ลดระยะเวลาการเป่าผมไปได้หน่อย แต่ใช่ว่าปัญหาผมมันจะหมดไปนะคะ เราเลยมองว่าควรหาแชมพูลดผมมันมา Battle กันให้รู้แล้วรู้รอดไป โดยต้องเป็นแชมพูที่หาซื้อได้ง่ายตามซุปเปอร์ทั่วๆไปค่ะ เราเลยเลือกยาสระผมตามนี้มาค่ะ
• Dove Volume Nourishment
• Clear Sakura anti-dandruff shampoo
• Feather Sakura
• Rejoice Silky & smooth
โดยที่เราจะทำการสระผมตอนเช้าวันละแบรนด์ เลือกวันที่ต้องออกไปทำงานเจอมลภาวะเท่าๆกันค่ะ (เราเดินทางโดยใช้ทั้งBTS และรถเมลล์ แต่บางทีรีบๆก็พี่วิน) เราเลยใช้วิธีทดสอบความมันโดยใช้กระดาษซับหน้ามันแบ่งเป็นชิ้นๆ ซับลงบนหนังศีรษะ หลังจากกลับบ้านแล้วนะคะ ^^
นี่เป็นสภาพผมเราก่อนที่จะเริ่มใช้ยาสระผมทั้ง 4 แบรนด์นะคะ ความมันส์ก็ประมาณนี้เลยค่ะ
ที่เห็นอยู่นี่ไม่ใช่เพิ่งสระผมมาแล้วผมเปียกนะคะ แต่ผมเรามันส์มากจริงๆ ค่ะ ศิริรวมอายุที่ไม่ได้สระผมมาแค่สองวันเท่านั้น ยังมันขนาดเน้
มาค่ะวันแรกมาเริ่มกันที่
โดฟค่ะ เราสระตอนเช้าออกไปทำงาน กลับมาเป็นแบบนี้ค่ะ
ผลลัพธ์
ยังคงมีความมันอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่มากเท่าก่อน ดูได้จากกระดาษซับมันค่ะ
มาต่อกันที่
Rejoice เหมือนเดิมค่ะ เราสระตอนเช้าออกไปทำงาน กลับมาเป็นแบบนี้ค่า
ผลลัพธ์
เราว่าอันนี้ไม่ช่วยเท่าไรเลยค่ะ กลับมายังคงมัน(มากกว่าโดฟ)
ต่อกันด้วย
Feather สูตร Sakura ค่ะอันนี้ไปบังเอิญเดินเจอมาอ่านแล้วว่าช่วยเรื่องแก้ผมมันเลยเอามาทดสอบด้วยค่ะ
ผลลัพธ์
อันนี้บอกตรงๆว่า ตกใจมากที่ทำได้ดีเกินคาดมากค่ะ ผมมันน้อยสุดจาก 3 ตัวที่ทดลองใช้เลยค่ะ ดูได้จากกะดาษซับมันค่ะ เหมือนตอนเพิ่งสระผมเสร็จเลยค่ะ กลิ่นหอมมาก ราคาน่ารักแบบคุ้มค่าคุ้มราคา
และสุดท้าย ท้ายสุด
เคลียร์ แอนตี้แดนดรัฟท์ เห็นช่วงนี้มีโฆษณาทางทีวีเยอะเลยต้องเอามาลองสักหน่อย
ผลลัพธ์
เหยคือดีนะ เกือบเริ่ดเท่าแฟซ่าแล้ว มีความดีงามในระดับน่าพอใจ แต่ราคาแอบแพงนิสหนึ่ง
สรุปนะคะ
แชมพูคุมมันลดมันที่ทำให้เราประทับใจสุดคือ
อันดับ 1 Feather Sakura ค่าถ้าเรียกให้ทุกคนอ๋อ คือ แฟซ่านี่เอง ม้ามืดของเราชอบมากค่ะตอบโจทย์คนผมมันแบบเราได้เกินคาดมากเลย กลิ่นหอมโอเค ทุกอย่างลงตัวเอาไปเลย 4.5 ดาววววว
อันดับ 2 Clear anti-dandruff shampoo อันนี้คือดีเช่นกันนะคะ ความมันลดลงแต่ราคาแอบแพงกว่าแฟซ่าค่ะ ให้ 4 ดาวน้า
อันดับ 3 Dove Volume Nourishment โดฟนี่กลิ่นหอมมากๆ เราชอบที่กลิ่นค่ะ ส่วนเรื่องคุมมันยังทำได้ไม่ดีเท่าไรน้า เลยให้ไป 3 ดาวจ้า
อันดับ 4 Rejoice silky & smooth ตัวนี้ตอนแรกเราแอบหวังเรื่องลดความมันไว้ แต่อาจจะไม่ค่อยลดความมันเท่าที่ควรแต่ช่วยในเรื่องผมลื่น เราเลยให้ที่ 2.5 น้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นความเห็นและการทดสอบจากสภาพหนังศีรษะของ จขกท. เท่านั้นนะคะ สำหรับสาวๆ อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไปตามสภาพหนังศรีษะและเส้นผมของแต่ละคนค่ะ แต่มีของดีใครๆก็อยากบอกต่อเนอะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้ากันไปค่ะ ฮิฮิ
[CR] แชมพูแก้ผมมันที่เคยใช้ อันไหนเวิร์ก อันไหนแป้ก
สรุปแล้วปัญหาหนักของเราตอนนี้คงหนีไม่พ้น เรื่องผมมัน หน้ามันไม่พอยังลามไปที่ผมมันอีกค่ะ เราเป็นคนผมมันแบบ สระผมตอนเช้าวันนี้ออกไปทำงานกลับมาคือมันแล้วอ่ะ จริงๆยังไม่ทันจะกลับบ้าน ผ่านไปครึ่งวันความมันก็กลับมาเยือน ตอนนี้ต้องสระผมทุกวัน แล้วทีนี้ความลำบากคือการไดร์ผมค่ะ เพราะต้องตื่นเช้าเพื่อมาอาบน้ำสระ-ไดร์ผม ทำให้เสียเวลานอนสุดๆ ยิ่งถ้าใช้ Conditioner (ครีมนวดผม) ยิ่งทำให้ผมมันเร็วเลยต้องเสียเวลาล้างครีมนวดออกนานมากเพราะกลัวผมจะมัน ตอนแรกเราไว้ผมยาวค่ะเสียเวลามากกับการเป่าผมตอนเช้าก่อนไปทำงาน เลยหนีปัญหาโดยการไปหั่นผมสั้นค่ะ ลดระยะเวลาการเป่าผมไปได้หน่อย แต่ใช่ว่าปัญหาผมมันจะหมดไปนะคะ เราเลยมองว่าควรหาแชมพูลดผมมันมา Battle กันให้รู้แล้วรู้รอดไป โดยต้องเป็นแชมพูที่หาซื้อได้ง่ายตามซุปเปอร์ทั่วๆไปค่ะ เราเลยเลือกยาสระผมตามนี้มาค่ะ
• Dove Volume Nourishment
• Clear Sakura anti-dandruff shampoo
• Feather Sakura
• Rejoice Silky & smooth
โดยที่เราจะทำการสระผมตอนเช้าวันละแบรนด์ เลือกวันที่ต้องออกไปทำงานเจอมลภาวะเท่าๆกันค่ะ (เราเดินทางโดยใช้ทั้งBTS และรถเมลล์ แต่บางทีรีบๆก็พี่วิน) เราเลยใช้วิธีทดสอบความมันโดยใช้กระดาษซับหน้ามันแบ่งเป็นชิ้นๆ ซับลงบนหนังศีรษะ หลังจากกลับบ้านแล้วนะคะ ^^
นี่เป็นสภาพผมเราก่อนที่จะเริ่มใช้ยาสระผมทั้ง 4 แบรนด์นะคะ ความมันส์ก็ประมาณนี้เลยค่ะ
ที่เห็นอยู่นี่ไม่ใช่เพิ่งสระผมมาแล้วผมเปียกนะคะ แต่ผมเรามันส์มากจริงๆ ค่ะ ศิริรวมอายุที่ไม่ได้สระผมมาแค่สองวันเท่านั้น ยังมันขนาดเน้
มาค่ะวันแรกมาเริ่มกันที่โดฟค่ะ เราสระตอนเช้าออกไปทำงาน กลับมาเป็นแบบนี้ค่ะ
ผลลัพธ์
ยังคงมีความมันอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่มากเท่าก่อน ดูได้จากกระดาษซับมันค่ะ
มาต่อกันที่ Rejoice เหมือนเดิมค่ะ เราสระตอนเช้าออกไปทำงาน กลับมาเป็นแบบนี้ค่า
ผลลัพธ์
เราว่าอันนี้ไม่ช่วยเท่าไรเลยค่ะ กลับมายังคงมัน(มากกว่าโดฟ)
ต่อกันด้วย Feather สูตร Sakura ค่ะอันนี้ไปบังเอิญเดินเจอมาอ่านแล้วว่าช่วยเรื่องแก้ผมมันเลยเอามาทดสอบด้วยค่ะ
ผลลัพธ์
อันนี้บอกตรงๆว่า ตกใจมากที่ทำได้ดีเกินคาดมากค่ะ ผมมันน้อยสุดจาก 3 ตัวที่ทดลองใช้เลยค่ะ ดูได้จากกะดาษซับมันค่ะ เหมือนตอนเพิ่งสระผมเสร็จเลยค่ะ กลิ่นหอมมาก ราคาน่ารักแบบคุ้มค่าคุ้มราคา
และสุดท้าย ท้ายสุดเคลียร์ แอนตี้แดนดรัฟท์ เห็นช่วงนี้มีโฆษณาทางทีวีเยอะเลยต้องเอามาลองสักหน่อย
ผลลัพธ์
เหยคือดีนะ เกือบเริ่ดเท่าแฟซ่าแล้ว มีความดีงามในระดับน่าพอใจ แต่ราคาแอบแพงนิสหนึ่ง
สรุปนะคะ
แชมพูคุมมันลดมันที่ทำให้เราประทับใจสุดคือ
อันดับ 1 Feather Sakura ค่าถ้าเรียกให้ทุกคนอ๋อ คือ แฟซ่านี่เอง ม้ามืดของเราชอบมากค่ะตอบโจทย์คนผมมันแบบเราได้เกินคาดมากเลย กลิ่นหอมโอเค ทุกอย่างลงตัวเอาไปเลย 4.5 ดาววววว
อันดับ 2 Clear anti-dandruff shampoo อันนี้คือดีเช่นกันนะคะ ความมันลดลงแต่ราคาแอบแพงกว่าแฟซ่าค่ะ ให้ 4 ดาวน้า
อันดับ 3 Dove Volume Nourishment โดฟนี่กลิ่นหอมมากๆ เราชอบที่กลิ่นค่ะ ส่วนเรื่องคุมมันยังทำได้ไม่ดีเท่าไรน้า เลยให้ไป 3 ดาวจ้า
อันดับ 4 Rejoice silky & smooth ตัวนี้ตอนแรกเราแอบหวังเรื่องลดความมันไว้ แต่อาจจะไม่ค่อยลดความมันเท่าที่ควรแต่ช่วยในเรื่องผมลื่น เราเลยให้ที่ 2.5 น้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นความเห็นและการทดสอบจากสภาพหนังศีรษะของ จขกท. เท่านั้นนะคะ สำหรับสาวๆ อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไปตามสภาพหนังศรีษะและเส้นผมของแต่ละคนค่ะ แต่มีของดีใครๆก็อยากบอกต่อเนอะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้ากันไปค่ะ ฮิฮิ