เรื่อง "ทำงานในลักษณะไหน" นี่ อ่าน Job dsecription ที่เขาประกาศรับสิครับ ถ้าไม่มี คุณต้องซักไซร้ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะรำคาญ จะโทรไปถาม HR ก่อน หรือจะรอตอนสัมภาษณ์ก็แล้วแต่
เพราะการทำงาน คือการ "ซื้อ-ขาย" คุณสมบัติ คนที่จะไปทำงาน ย่อมต้องมีโอกาสได้รู้ว่างานที่จะไปทำ มีรายละเอียดยังไง ยิ่งคุณซัก ยิ่งแสดงให้เขาเห็น ว่าคุณเป็น Enginneer ที่คิดเป็น เพราะจะทำงาน ก็ต้องดูเนื้องานที่จะได้รับในอนาคต


ถ้าอบรมเป็นงานหลัก โดยไม่มีงานอื่นรองรับ ใครจะว่าไงผมไม่รู้ แต่ความเห็นผมบอกตรงๆ อย่าเลยครับ ไม่ก้าวหน้าครับ
เอาไปอ้างอิงที่ไหนไม่ได้ และประสบการณ์ในการทำงาน ก็ไม่ได้มากนัก
จริงๆ ก็ได้ประโยชน์บ้าง ในการปรับปรุงตัวเอง แต่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการแก้ปัญหางานจริงได้น้อย
ถ้าคุณลาออกจากที่นี่ไป แล้วมาสมัครงานกับบริษัทที่ต้องการ Engineer คอยแก้ปัญหาด้วย บริหารงาน technician บ้างด้วย แต่คนที่กำลังถูกพิจารณาอยู่บอกมีประสบการณ์เป็นนักอบรมทางเทคนิค มา 10 ปี.... ถ้าเป็นบริษัทผม จะหันไปหาคนที่ทำงานจริง แต่ประสบการณ์น้อยกว่าคุณดีกว่า
ไม่มีทางเลือก ไม่มีคนมาสมัครตำแหน่งที่กำลังรับอยู่เท่านั้น จึงมาลอง "เสี่ยง" กับคุณเป็น "ตัวเลือกท้ายๆ"

ถ้าจะแบบนั้น ไปเป็นอาจารย์สอนแล้วทำปริญญาโทไปด้วย แบบนี้ใช้อ้างอิง และได้รับการยอมรับในวงกว่างมากกว่า เอาวุฒิไป upgrade เงินเดือนได้มากกว่าอีกด้วย

แต่ถ้าทำงานกับอุปกรณ์เป็นหลัก และช่วยอบรมเป็นงานเสริม แบบนี้ยิ่งเป็นประโยชน์ ได้ทั้งทางเทคนิค ได้ฝึกรวบรวมเอกสาร ได้ฝึกปรับปรุงบุคลิกภาพตัวเอง ฝึกทักษะการสื่อสารปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น (interpersonal skill) ที่ Engineer ส่วนใหญ่มักจะด้อย ได้ฝึกไปในตัว