เนื่องจากบริษัทส่งไปออกงานที่ฝรั่งเศสอีกแล้ว เลยหาเรื่องลาเที่ยวไปในตัวจะได้ประหยัดคาเครื่องบินด้วย (ฮาๆ)
จุดหมายปลายทางของทริปนี้ก็คือ Switzerland เจ้าเก่าเนื่องจากติดใจจากที่ไปมา2ปีก่อนมากๆ รูปทริปเก่าดูได้ตามลิงค์นี้เลยยย
http://ppantip.com/topic/34407185
เริ่มเดินทางจากกรุงเทพวันที่z 8 ตุลาคมด้วยการการบิน Etihad airway ไปลงที่ Zurich ตอนเช้านั่งรถไฟสู่จุดหมายแรกนั่นก็คือเมือง Zermatt
ลืมบอกไปครับ เนื่องจากจะอยู่ที่ Swiss ทั้งหมด 6 วัน 5 คืนผมเลยซื้อ Swiss pass 8 วันมาจากไทย ราคาก็ประมาณ 13,500 บาท (รู้สึกว่าแพงกว่า2 ปี ก่อนแฮะ-*-)
Zermatt
มาถึง Zermatt ช่วงเที่ยงๆก็วางแผนกันเลยว่าจะขึ้นกระเช้า Matterhorn Glacier Paradise ซึ่งเป็นกระเช้าที่สูงที่สุดของยุโรป ราคาตั๋วหลังจากหักส่วนลด Swiss pass แล้วน่าจะเกือบๆร้อย CHF ได้ครับ (ขออภัยที่ทริปนี้ไม่ค่อยจำราคาค่าตั๋วต่างๆไว้เลย -*-)
ก่อนขึ้นก็ได้ศึกษาข้อมูลมาไว้ก่อนแล้วว่าเราสามารถชมวิวเทือกเขา alps ฝั่ง Italy ได้จากที่นี่และก็มีมุมให้ถ่าย Matterhorn แบบใกล้ๆด้วย แต่ผิดคาดครับบ ขึ้นไปฟ้าปิดมีแต่เมฆบัง 5555
<วิวจากสุดสูงสุดของ Matterhorn Glacier Paradise จริงๆมีทางให้ขึ้นไปต่อสำหรับคนที่มาเล่นสกีครับ>
จบวันแรกไปแบบเฟลๆ เพราะว่าฟ้าปิด ไม่ได้รูปสวยๆมาเลย วันที่2เลยตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปถ่ายวิวเมือง Zermatt จากมุมสุดฮิตซึ่งสามารถเห็นวิวเมืองและยอดเขา Matterhorn
จุดถ่ายรูปนี้มีชื่อว่า Riedweg ซึ่งสามารถเปิด google map เดินหาได้เลยครับ ทางเดินเป็นทางลาดขึ้นไป เดินจากใจเมืองก็น่าจะ 20 นาทีได้ครับ
<มุมนี้แนะนำให้มาถ่ายช่วงเข้ามืดครับ ได้ฟ้าสีม่วงๆ แถมไฟในเมือง>
<แนวตั้งมั่งครับ>
<พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ววว>
จากนั้นก็รีบ check out จากโรงแรมเพื่อที่จะได้นั่งรถไฟ Gornergrat Bahn ย้ายขึ้นไปนอนบนเขา 1 คืน โรงแรมที่พักคือ 3100 Gornergrat Kulm Hotel ซึ่งค่าที่พักของโรงแรมนี้แพงมากกก ราคาประมาณ 9พันกว่าๆ (จำได้ว่า 2 ปีก่อนน่าจะ 7พันกว่าๆ แพงขึ้นอีกแล้วว -*-) แต่แรกกับวิวที่จะได้มาก็คือว่าคุ้มค่าครับ
นั่งรถไฟขึ้นมาถึงโรงแรกก็จัดการฝากกระเป๋าและเดิน trekking จาก Gornergrat ลงไปที่ทะเลสาป Riffelsee เพื่อเก็บมุมสะท้อนน้ำของ Matterhorn
ถ้าใครไม่สะดวกเดินก็แนะนำให้นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Rotenboden ก็ได้ครับ ประหยัดเวลาไปเยอะเลย
<Riffelsee and Matterhorn>
จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับขึ้นไปบน Gornergrat เพื่อที่จะได้พักผ่อน และเตรียมรอถ่ายแสงเย็น
อ่อ ลืมบอกไปว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายจาก Gornergrat ลงไป Zermatt คือเวลา6โมงเย็นครับ พี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ยอมจ่ายแพงจะได้ถ่ายแสงเย็น และดาวบนนี้ได้
<แอบเอาวิวจากห้องพักมาให้ชม เข้าตำรา วิวหลักล้าน ห้องพักหลักหมื่น อาหารหลักสิบจริงๆ 555>
พระอาทิตย์เริ่มตกแล้ว ได้แสงเย็นฟ้าใสสมใจ (2 ปีก่อนอยากถ่ายแสงเย็นมาก แต่โดนหมอกกินไปหมดเลยครับ)
<Matterhorn with sunset.>
<Gornergrat Train and Matterhorn.>
<ฟ้าใส ถ่ายอะไรก็ฟินจริงๆ>
นอกจากวิว Matterhorn แล้วยังมียอดเขาอื่นๆที่สวยและน่าสนใจครับ Weisshorn ก็เป็น 1 ในยอดเขาที่ผมชอบมากเลย
<Weisshorn กับฟ้ายามเย็น>
<ฟ้าสวย ถ่ายอะไรก็ฟินครับ>
<อันนี้เป็นรูปของ 2ปีก่อน จะได้รู้ว่าข้างบนนั้นวิวสวยๆไม่ได้มีแค่ Matterhorn ครับ ^^>
<อันนี้เป็นรูปของ 2ปีก่อน จะได้รู้ว่าข้างบนนั้นวิวสวยๆไม่ได้มีแค่ Matterhorn ครับ ^^>
หลังจากถ่ายแสงเย็นเสร็จ คืนนั้นปรากฏว่าฟ้าเปิดยาวๆเลยครับ ก็เลยหาเรื่องถ่ายดาวกัน โหลดโปรแกรมฟรี Star Chart มาเพื่อที่จะได้ดูทิศทางของทางช้างเผือก (ตามที่พี่ๆในพันทิพเคยแนะนำไว้ครับ^^)
<ช้างมา แต่พระจันทร์มาแรงกว่ามากกกก>
ช่วงที่ผมไปพักที่โรงแรม ทางโรงแรมมีกิจกรรมดูดาวพอดีซึ่งจัดโดยคณะดาราศาตร์ของมหาวิทยลัยซักแห่งใน Switzerland นี่แหละครับ ทางโรงแรมได้เชิญแรกเข้าร่วมฟรี เพราะทางโรงแรมนี้มีหอดูดาวเป็นของตัวเองอีกด้วย
<หอดูดาวของทางโรงแรมครับ>
<Gornergrat railway at night.>
Grindelwald
ถัดจากเมือง Zermatt ก็นั่งรถไฟกันมาที่แถบ Interlaken และพักที่เมือง Gridelwald กันครับ มาที่นี่อีกครั้งเป็นรอบที่ 2 เพราะ2ปีก่อนที่มาแทบไม่ได้ถ่ายอะไรกลับไปเลย ฟ้าเน่ามากกก
เป้าหมายแรกเลยก็คือการขึ้นกระเช้าจากเมือง Grindelwald ไปที่เทือกเขา First และเดิน trekking ไปที่ทะเลสาป Bachalpsee ครับ
<วิวบนนั้นสวยมากๆๆๆ>
หลังจากลงที่สถานี First ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของกระเช้า บนนั้นมีกิจกรรมให้ทำเยอะมากครับ ทั้งทาง trekking ที่ค่อนข้างจะหลายเส้นทาง ถ้าใครชอบผาดโผนหน่อยก็จะมี First Flyer ให้เล่นซึ่งก็คือการโรยตัวด้วยสริงจากสถานี First ลงไปอีกสถานีครับ
อีกอันที่พลาดไม่ได้ และไม่เสียเงินก็คือ Clift walk ซึ่งเพิ่งสร้างไม่กี่ปีที่ผ่านมาครับ
<First Clift walk.>
<First Clift walk.>
เดินเล่นที่ Clift walk เสร็จก็มาเดิน trekking ไปที่ทะเลสาป Bachalpsee กันครับ เส้นทางเดินใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที ไม่ใกล้ไม่ไกลครับ แต่วิวระหว่างทางสวยและถ่ายรูปเล่นได้เรื่อยๆเลย
<วิวตรงนี้จะเห็นเมือง Grindelwald เล็กนิดเดียว>
<ลำธารข้างทางครับ ^^>
<ถึงแล้ว วิวสะท้อนน้ำที่ทะเลสาป Bachalpsee>
เสร็จจาก Trekking ที่ First ก็วางแผนกันว่าจะนั่งรถไฟขึ้น Jungfrau แต่ปรากฏว่าไม่ทันเวลาซะแล้ว รถไฟขากลับไม่ทัน เลยเปลี่ยนใจไป Harder Kulm ซึ่งเป็นจุดชมวิวของเมือง Interlaken ครับ
การขึ้นข้างบนก็ต้องซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าแนวๆ ดอยสุเทพครับ ข้างบนเป็นจุดชมวิวและร้านอาหาร เราสามารถเห็นวิวของเมือง Interlaken East, Interlaken West และเทือกเขา Jungfrau จากตรงนี้ได้เลย
<Top of Interlaken>
<ข้างบนมีระเบียงยื่นออกมาให้ชมวิวด้วย>
<Normal Moon>
<ขาวดำ>
ขอจบการแชร์ข้อมูลเพียงเท่านี้นะครับ ถ้ามีคำถามหรือต้องการข้อมูล ยินดีเลยครับ ^^ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มาก ก็น้อยสำหรับเพื่อนๆ
ถ้าข้อมูลขาดตก บกพร่องยังไงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ^__^
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพ
Nikon D800
lens: 20F1.8, 28F 1.8, Tamron 70-200 VC
ปล. ขอแถมรูปจาก Paris หน่อยเน้อ ^^
(32 pics) 2nd time in Swiss (Zermatt, Grindelwald) สวยหมด แถมสดชื่น!!!
จุดหมายปลายทางของทริปนี้ก็คือ Switzerland เจ้าเก่าเนื่องจากติดใจจากที่ไปมา2ปีก่อนมากๆ รูปทริปเก่าดูได้ตามลิงค์นี้เลยยย
http://ppantip.com/topic/34407185
เริ่มเดินทางจากกรุงเทพวันที่z 8 ตุลาคมด้วยการการบิน Etihad airway ไปลงที่ Zurich ตอนเช้านั่งรถไฟสู่จุดหมายแรกนั่นก็คือเมือง Zermatt
ลืมบอกไปครับ เนื่องจากจะอยู่ที่ Swiss ทั้งหมด 6 วัน 5 คืนผมเลยซื้อ Swiss pass 8 วันมาจากไทย ราคาก็ประมาณ 13,500 บาท (รู้สึกว่าแพงกว่า2 ปี ก่อนแฮะ-*-)
Zermatt
มาถึง Zermatt ช่วงเที่ยงๆก็วางแผนกันเลยว่าจะขึ้นกระเช้า Matterhorn Glacier Paradise ซึ่งเป็นกระเช้าที่สูงที่สุดของยุโรป ราคาตั๋วหลังจากหักส่วนลด Swiss pass แล้วน่าจะเกือบๆร้อย CHF ได้ครับ (ขออภัยที่ทริปนี้ไม่ค่อยจำราคาค่าตั๋วต่างๆไว้เลย -*-)
ก่อนขึ้นก็ได้ศึกษาข้อมูลมาไว้ก่อนแล้วว่าเราสามารถชมวิวเทือกเขา alps ฝั่ง Italy ได้จากที่นี่และก็มีมุมให้ถ่าย Matterhorn แบบใกล้ๆด้วย แต่ผิดคาดครับบ ขึ้นไปฟ้าปิดมีแต่เมฆบัง 5555
<วิวจากสุดสูงสุดของ Matterhorn Glacier Paradise จริงๆมีทางให้ขึ้นไปต่อสำหรับคนที่มาเล่นสกีครับ>
จบวันแรกไปแบบเฟลๆ เพราะว่าฟ้าปิด ไม่ได้รูปสวยๆมาเลย วันที่2เลยตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปถ่ายวิวเมือง Zermatt จากมุมสุดฮิตซึ่งสามารถเห็นวิวเมืองและยอดเขา Matterhorn
จุดถ่ายรูปนี้มีชื่อว่า Riedweg ซึ่งสามารถเปิด google map เดินหาได้เลยครับ ทางเดินเป็นทางลาดขึ้นไป เดินจากใจเมืองก็น่าจะ 20 นาทีได้ครับ
<มุมนี้แนะนำให้มาถ่ายช่วงเข้ามืดครับ ได้ฟ้าสีม่วงๆ แถมไฟในเมือง>
<แนวตั้งมั่งครับ>
<พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ววว>
จากนั้นก็รีบ check out จากโรงแรมเพื่อที่จะได้นั่งรถไฟ Gornergrat Bahn ย้ายขึ้นไปนอนบนเขา 1 คืน โรงแรมที่พักคือ 3100 Gornergrat Kulm Hotel ซึ่งค่าที่พักของโรงแรมนี้แพงมากกก ราคาประมาณ 9พันกว่าๆ (จำได้ว่า 2 ปีก่อนน่าจะ 7พันกว่าๆ แพงขึ้นอีกแล้วว -*-) แต่แรกกับวิวที่จะได้มาก็คือว่าคุ้มค่าครับ
นั่งรถไฟขึ้นมาถึงโรงแรกก็จัดการฝากกระเป๋าและเดิน trekking จาก Gornergrat ลงไปที่ทะเลสาป Riffelsee เพื่อเก็บมุมสะท้อนน้ำของ Matterhorn
ถ้าใครไม่สะดวกเดินก็แนะนำให้นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Rotenboden ก็ได้ครับ ประหยัดเวลาไปเยอะเลย
<Riffelsee and Matterhorn>
จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับขึ้นไปบน Gornergrat เพื่อที่จะได้พักผ่อน และเตรียมรอถ่ายแสงเย็น
อ่อ ลืมบอกไปว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายจาก Gornergrat ลงไป Zermatt คือเวลา6โมงเย็นครับ พี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ยอมจ่ายแพงจะได้ถ่ายแสงเย็น และดาวบนนี้ได้
<แอบเอาวิวจากห้องพักมาให้ชม เข้าตำรา วิวหลักล้าน ห้องพักหลักหมื่น อาหารหลักสิบจริงๆ 555>
พระอาทิตย์เริ่มตกแล้ว ได้แสงเย็นฟ้าใสสมใจ (2 ปีก่อนอยากถ่ายแสงเย็นมาก แต่โดนหมอกกินไปหมดเลยครับ)
<Matterhorn with sunset.>
<Gornergrat Train and Matterhorn.>
<ฟ้าใส ถ่ายอะไรก็ฟินจริงๆ>
นอกจากวิว Matterhorn แล้วยังมียอดเขาอื่นๆที่สวยและน่าสนใจครับ Weisshorn ก็เป็น 1 ในยอดเขาที่ผมชอบมากเลย
<Weisshorn กับฟ้ายามเย็น>
<ฟ้าสวย ถ่ายอะไรก็ฟินครับ>
<อันนี้เป็นรูปของ 2ปีก่อน จะได้รู้ว่าข้างบนนั้นวิวสวยๆไม่ได้มีแค่ Matterhorn ครับ ^^>
<อันนี้เป็นรูปของ 2ปีก่อน จะได้รู้ว่าข้างบนนั้นวิวสวยๆไม่ได้มีแค่ Matterhorn ครับ ^^>
หลังจากถ่ายแสงเย็นเสร็จ คืนนั้นปรากฏว่าฟ้าเปิดยาวๆเลยครับ ก็เลยหาเรื่องถ่ายดาวกัน โหลดโปรแกรมฟรี Star Chart มาเพื่อที่จะได้ดูทิศทางของทางช้างเผือก (ตามที่พี่ๆในพันทิพเคยแนะนำไว้ครับ^^)
<ช้างมา แต่พระจันทร์มาแรงกว่ามากกกก>
ช่วงที่ผมไปพักที่โรงแรม ทางโรงแรมมีกิจกรรมดูดาวพอดีซึ่งจัดโดยคณะดาราศาตร์ของมหาวิทยลัยซักแห่งใน Switzerland นี่แหละครับ ทางโรงแรมได้เชิญแรกเข้าร่วมฟรี เพราะทางโรงแรมนี้มีหอดูดาวเป็นของตัวเองอีกด้วย
<หอดูดาวของทางโรงแรมครับ>
<Gornergrat railway at night.>
Grindelwald
ถัดจากเมือง Zermatt ก็นั่งรถไฟกันมาที่แถบ Interlaken และพักที่เมือง Gridelwald กันครับ มาที่นี่อีกครั้งเป็นรอบที่ 2 เพราะ2ปีก่อนที่มาแทบไม่ได้ถ่ายอะไรกลับไปเลย ฟ้าเน่ามากกก
เป้าหมายแรกเลยก็คือการขึ้นกระเช้าจากเมือง Grindelwald ไปที่เทือกเขา First และเดิน trekking ไปที่ทะเลสาป Bachalpsee ครับ
<วิวบนนั้นสวยมากๆๆๆ>
หลังจากลงที่สถานี First ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของกระเช้า บนนั้นมีกิจกรรมให้ทำเยอะมากครับ ทั้งทาง trekking ที่ค่อนข้างจะหลายเส้นทาง ถ้าใครชอบผาดโผนหน่อยก็จะมี First Flyer ให้เล่นซึ่งก็คือการโรยตัวด้วยสริงจากสถานี First ลงไปอีกสถานีครับ
อีกอันที่พลาดไม่ได้ และไม่เสียเงินก็คือ Clift walk ซึ่งเพิ่งสร้างไม่กี่ปีที่ผ่านมาครับ
<First Clift walk.>
<First Clift walk.>
เดินเล่นที่ Clift walk เสร็จก็มาเดิน trekking ไปที่ทะเลสาป Bachalpsee กันครับ เส้นทางเดินใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที ไม่ใกล้ไม่ไกลครับ แต่วิวระหว่างทางสวยและถ่ายรูปเล่นได้เรื่อยๆเลย
<วิวตรงนี้จะเห็นเมือง Grindelwald เล็กนิดเดียว>
<ลำธารข้างทางครับ ^^>
<ถึงแล้ว วิวสะท้อนน้ำที่ทะเลสาป Bachalpsee>
เสร็จจาก Trekking ที่ First ก็วางแผนกันว่าจะนั่งรถไฟขึ้น Jungfrau แต่ปรากฏว่าไม่ทันเวลาซะแล้ว รถไฟขากลับไม่ทัน เลยเปลี่ยนใจไป Harder Kulm ซึ่งเป็นจุดชมวิวของเมือง Interlaken ครับ
การขึ้นข้างบนก็ต้องซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าแนวๆ ดอยสุเทพครับ ข้างบนเป็นจุดชมวิวและร้านอาหาร เราสามารถเห็นวิวของเมือง Interlaken East, Interlaken West และเทือกเขา Jungfrau จากตรงนี้ได้เลย
<Top of Interlaken>
<ข้างบนมีระเบียงยื่นออกมาให้ชมวิวด้วย>
<Normal Moon>
<ขาวดำ>
ขอจบการแชร์ข้อมูลเพียงเท่านี้นะครับ ถ้ามีคำถามหรือต้องการข้อมูล ยินดีเลยครับ ^^ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มาก ก็น้อยสำหรับเพื่อนๆ
ถ้าข้อมูลขาดตก บกพร่องยังไงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ^__^
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพ
Nikon D800
lens: 20F1.8, 28F 1.8, Tamron 70-200 VC
ปล. ขอแถมรูปจาก Paris หน่อยเน้อ ^^