[CR] ตอนที่ 1 : คนเดียว-เกียวโต l ทริปใบไม้เปลี่ยนสี 10-17 พฤศจิกายน 2559 (Day 0-1 ออกเดินทาง / Kurama)


ฝากติดตามตอนอื่นๆด้วยนะครับ
ตอนที่ 2: Fushimi Inari / Tofukuji / Nanzenji / Eikando http://ppantip.com/topic/35830579
ตอนที่ 3: Kiyomizu-dera / Higashiyama area / Modern art museum / Kamo River http://ppantip.com/topic/35852029
ตอนที่ 4: Arashiyama : https://ppantip.com/topic/36235407
ตอนที่ 5: Takao/Geisha Hunts : https://ppantip.com/topic/36477145
ตอนที่ 6: Kinkakuji / Ryoanji : https://ppantip.com/topic/36480207/comment5


ตอนที่ 0-1 : ออกเดินทาง / Kurama Onsen / Kurama-dera
สวัสดีครับ เนื่องด้วยว่าทริปนี้เกิดขึ้นจากการที่สายการบิน Air Asia X ออกโปรมาบ่อยซะเหลือเกิน
ทุกครั้งเวลาที่มีโปรออกมา มันก็ทำให้จิตใจกระวนกระวาย บวกกับการโดนไซโคบ๊อยบ่อยจากพี่ที่ออฟฟิศที่นางไปมาหลายครั้งมาก แล้วนางก็มักจะพูดจาท้าทายเสมอว่า “ถ้าแกไม่ชอบ ชั้ลให้ถีบเลยอะ” เอาตัวเข้าแลกขนาดนี้
ด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้ เปิดโทรทัศน์ไปเจอสารคดี "เกียวโต" ผมนั่งดูสักพัก ก็มีรู้สึกว่า  
เฮ้ย! ประเทศนี้ มันไม่เหมือนอย่างที่เราคิดเลยนี่หว่า ภาพในหัวของผม คือความวุ่นวาย  ผู้คนเคร่งเครียด ตึกสูงมีป้ายไฟ ทางม้าลายที่คนข้ามเยอะๆ
สารคดีที่ผมเปิดเจอในวันนั้นเปลี่ยนความคิดผมไปเลยครับ…. เมืองเกียวโต ดูสวยงาม วัด ศาลเจ้าเยอะไปหมด ความเป็นสมัยใหม่ อยู่ร่วมกับ วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมแบบเก่าได้อย่างลงตัวมากๆ แต่ที่ดึงความสนใจผมได้มากที่สุด "เกอิชา" ครับ  
ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมตัดสินใจลองไปดูสักครั้งละกัน

ผมกดจองตั๋ว Air Asia X ไปกลับรวม 8,160 บาทไม่รวมอื่นๆ
(เอาจริงๆก็ไม่ได้ถูกนะ โหลดกระเป๋าขากลับ/เลือกที่นั่ง/สั่งอาหาร/ทำประกันเบ็ดเสร็จก็ 10,630 บาท)

ผมจองล่วงหน้าเป็นปีเลยครับ มีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างมาก  
ทำแผนการเดินทางเป็นช๊อตๆ กี่โมงไปไหนอะไรยังไง
แต่พอใกล้วันเดินทางจริง ช่างมันละครับ ผมว่าเที่ยวแบบสบายๆดีกว่า  ตามใจความรู้สึกตัวเองตอนนั้นว่าอยากไปไหนดีกว่า หาข้อมูลแค่ให้รู้ว่าที่ไหนมีอะไรก็พอครับ…

ทริปนี้ผมตัดสินใจไปคนเดียวครับ สบายตัวดี ไม่ต้องรอใคร เอาแต่ใจตัวเองได้ ปรับแผนได้ตลอด เหนื่อยก็กลับห้อง…นอน
แต่ความตื่นเต้นมันอยู่ที่ เป็นครั้งแรกที่ผมออกจากประเทศไทยอันเป็นที่รักไปต่างแดนคนเดียว แอบหวั่นๆเหมือนกันนะครับ

กระทู้นี้ผมเขียนเพราะอยากบันทึกความทรงจำตัวเองนะครับ กลับมาอ่านจะได้นึกออกว่า เดินทางครั้งนี้เจออะไรมาบ้าง
แอบหวังเล็กๆว่าจะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากลองออกเดินทางคนเดียวดู ข้อมูลอาจไม่ได้ละเอียด แต่หวังว่าพอจะเป็นประโยชน์นิดๆหน่อยผมได้ข้อมูลความรู้ จากกระทู้หลายๆกระทู้ในพันทิป ทำให้สามารถเอาตัวรอดแบบชิวๆในต่างแดน ดังนั้นผมขอให้คืนบ้างนะครับ อาจจะไม่ได้มากมายอะไรนักก็ตาม



ค่าใช้จ่าย
ตั๋วเครื่องบิน:    10,630 บาท
ค่าที่พัก :    
K’s House Backpacker 1 คืน (twin room) = 6,500 เยน ประมาณ 2,200 บาท
Piece Hostel Kyoto 5 คืน (Single room) = 24,100 เยน ประมาณ 8,000 บาท
Pocket Money:    70,000 เยน เหลือกลับ 23,000 เยน (ไม่ช๊อปปิ้ง)
Mobile data:     (Sim2fly unlimited max speed 3GB valid 8 days) = 399 บาท (อัพรูป, เปิด Map ตลอด 6-7 วัน ใช้ไปไม่ถึง 1 GB สัญญาณแรงมาก อยู่บนเขาสูงๆสัญญาณ ก็ยังมีครับ)

**ค่าใช้จ่ายสามารถปรับให้ถูกกว่านี้ได้นะครับ เช่นอาจจะนอนแบบ Dorm
(แต่ผมนอนละเมอหนักมากก เกรงใจคนอื่นครับ55) หรือ ตั๋วเครื่องบิน ไม่เลือกที่นั่ง ไม่สั่งอาหาร ไม่โหลดกระเป๋า)


อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายรูป
iPhone SE / Fuji XA-2 + Lens Fujinon 16-50, 50-230 / รูปมีทั้งแต่งและไม่แต่งบ้างครับ



Day 0 : 10 November 2016
ผมเริ่มเดินทาง ไฟล์ท รอบ14:15 ออกจากดอนเมืองบินตรงถึงสนามบินคันไซประมาณ 21:40 เวลาท้องถิ่น

ตลอดเวลาที่แพลนทริป ผมกังวลใจกับการไปถึงไฟล์ทดึกมากๆ กลัวไฟล์ทดีเลย์ กลัวไม่ผ่านตม. กลัวไม่มีรถเข้าเมืองกลัวสารพัดครับ… พอถึงเวลาจริงๆไฟล์ทไม่ดีเลย์  ตม.แถวไม่ยาว ใช้เวลาไม่มากเลยครับ คิดว่าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
(อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่โหลดกระเป๋าและเลือกที่นั่ง Quiet zone (ซึ่งไม่quiet เท่าไหร่มีแต่เสียงแอร์คุยกัน)
ทำให้ได้ลงเครื่องอย่างรวดเร็วและรีบพุ่งตัวไปตม. ให้เร็วที่สุด

ผมตัดสินใจเข้าเมืองเกียวโตคืนที่ไปถึงเลยครับ เพราะมีเวลาไม่มากอยากอยู่เกียวโตให้นานที่สุดไม่อยากเสียไปแม้แต่ครึ่งวัน… พอไปถึงผมนั่ง Airport Limousine Bus วิ่งตรงถึงเกียวโตใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง  สามารถซื้อได้ที่ Vending Machine หน้าที่จอดรถบัสชั้นหนึ่งได้เลย กดเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วเลือกซื้อได้ง่ายๆเลยครับ
จะได้มาเป็นสามใบครับ Kansai Airport-Kyoto, Kyoto-Kansai Airport และใบเสร็จครับ


ผมซื้อแบบ Round trip ขากลับจากเกียวโต-สนามบิน ใช้ได้ภายใน 14 วัน
แต่ขากลับ เกียวโต-สนามบิน ต้องทำการจองครับ…. (จะโทรจองหรือไปที่ Keihan office ข้าง Keihan hotel ที่เป็นจุดรับ-ส่งก็ได้ครับ) ตอนแรกกังวลใจการจองขากลับมากว่าจะสื่อสารยังไงรู้เรื่อง แต่โชคดีที่หาข้อมูลพอรู้ว่ามีออฟฟิศแถวจุดรับ-ส่ง ก็เลยเดินเบลอๆ ลองถามดู สรุปพนักงานจองให้เลยครับ สบายใจหายห่วง


ผมนั่งรถรอบประมาณ 22:00 กว่าๆครับถึง เกียวโตไวมากประมาณ 23:00 ได้ลงรถที่จุดจอด…
ข้อมูลเพิ่มเติม ตามลิงค์เลยนะครับ http://www.kate.co.jp/en/

คืนนี้ผมต้องพักไกลหน่อยครับเดินไปกิโลกว่าๆเพราะที่พักใกล้ๆเต็มหมดละ ผมพักที่ K’s House Backpacker อยู่แถวสถานี Shichijo เดินเปลี่ยวๆตากความหนาว 12 องศา ตาม Google maps ไปเรื่อยๆครับ ประมาณกิโลนึง ก็ถึงที่พักครับ แวะมินิมาร์ทหาอะไรรองท้อง…แล้วรีบเข้านอนดีกว่าครับพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้ารีบไปเที่ยวที่แรกกัน


ถ่าย K's House Backpacker ตอนเช้ามาให้ดูครับ




Day 01:  11 November 2016: Kurama Onsen / Kurma-Dera temple
ผมตื่นสักหกโมงเช้ากว่าๆครับ แปรงฟัน ล้างหน้า  ”ไม่อาบน้ำ” เพราะว่าวันนี้จะไปแช่ออนเซน ทางตอนเหนือของเกียวโต
นั่นก็คือ Kurama ครับ… เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าเสร็จ ก็เดินมาขึ้นรถไฟ…สักประมาณ เกือบชั่วโมงนึง ก็ถึงแล้วครับ

ลืมบอกไปว่าทริปนี้ผมไม่ได้ใช้พาสอะไรต่างๆนานาๆนะครับ เพราะคิดๆดูแล้วไม่ค่อยคุ้มสำหรับผมเท่าไหร่ครับ…. ที่ที่ผมจะไปพาสต่างๆใช้ไม่ค่อยถึงครับ จะมีก็ถ้าวันไหนนั่งรถบัสในเมือง ก็จะใช้ One day City bus pass ครับ 500 เยน ได้ทั้งวัน
นอกจากนั้นผมก็กดตู้ซื้อตั๋วเอาครับ หลักๆผมใช้ Application ของ Arukumachi Kyoto ส่วนตัวชอบ เพราะว่าใช้ง่าย ความแม่นยำผมให้ 98% เลยครับ มีทั้งข้อมูลรถไฟ รถบัส แต่จำกัดข้อมูลในเกียวโตเท่านั้นนะครับ

ได้ตั๋วมาแล้วก็เดินทางไปที่แรกกันเลยครับ….. ผมตั้งต้นจากสถานี Keihan Shichijo เดินทางไป Demachiyanagi แล้วเปลี่ยนสายเป็น Eizan line ไปลงสถานี Kurama ครับ


เดินต่อไปสัก 15 นาที ดูวิวข้างทางของบ้านเค้าก็เริ่มจะฟินละครับ…





ถึงละครับ Kurama Onsen and Ryokan
ที่นี่จะมีที่พักแบบเรียวกังด้วย ซึ่งราคาโหดร้ายมาก… ผมขอแค่อาศัยแช่น้ำร้อนท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บก็เพียงพอให้ได้ไปต่อละครับ




ในส่วนของ บ่อออนเซนที่นี่จะมีทั้ง อินดอร์ แล้วก็ เอาท์ดอร์ ซึ่งผมตั้งใจจะมาแช่ที่ เอาท์ดอร์ ครับ
เพราะเคยเห็นรูปใน อินสตาแกรมแล้ว วิวสตันนิ่งมากๆ…. แต่ว่า คนนอกที่ไม่ได้เข้าพัก จะเปิดให้เข้า สิบโมงครับ เลยต้องนั่งรอสักพักใหญ่ๆ เลยเดินถ่ายรูปใบไม้เล่นๆรอเวลา



และแล้วก็ถึงเวลาครับ สิบโมงงงงง เย้!!
ผมเลือกจะมาที่นี่เช้ามากๆ และวันธรรมดา เพราะออนเซนเป็น All naked
ซึ่งผมมีความอาย ถ้าจะต้องเดินแกว่งไปมาต่อหน้าคนอื่น กะว่าจะหลีกเลี่ยงผู้คน
แต่!!!!!! พอบ่อเปิดปุ๊ป ฝรั่งหนึ่ง ญี่ปุนสอง คิดว่าไทยอีกหนึ่ง อมยิ้ม20
ก็ตามนั้นอะครับ รีบซื้อ รีบไปให้ถึงคนแรก ลงบ่อคนแรก... จะได้ไม่เป็นเป้าสายตา 55

นี่คือวิวที่ถูกกล่าวถึงครับ!
จริงqห้ามถ่ายรูปนะครับ แต่ผมมาถึงคนแรก ยังไม่มีใครเลย ไม่น่าจะเป็นไรน่าาาาา...
ผมก็รีบเปลืองผ้า รีบอาบน้ำ แล้วก็รีบลงไปในบ่อครับ มันดีมากๆครับ กับการ แช่น้ำร้อนๆ ในอากาศ หนาวๆ แล้วได้ฟังเสียงการ้องในความเงียบสงัดจริงๆ วิวข้างหน้าคือ ทิวต้นสนที่มีหมอก คลุมอยู่
ตอนแพลนทริป ลังเลว่าจะมาดีมั้ยเพราะไม่มีไรทำนอกจากแช่ออนเซน  มาถึงจุดนี้ คิดว่าคิดถูกละครับที่มา
สักแป๊ป…. เพื่อนร่วมอุดมการณ์เมื่อสักครู่ ก็ทยอยมากันครับ แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้รู้สึกอายนะครับ เพราะต่างคนต่างไม่ได้สนใจกัน วิวตรงหน้ามันน่ามองกว่าเยอะครับ 55

สักชั่วโมงนึง ผมก็ร่ำลาออนเซนครับ….. แพลนว่าจะกลับไปเดินเมืองๆ แถวดาวทาวน์ รอเวลาเช็คอินอีกที่นึง
ขากลับผู้คนระแวกนี้เริ่มออกมาหน้าบ้านกันละครับ ร้านค้าก็เริ่มเปิดละ หาอะไรรองท้องซะหน่อย เลยแวะกินโซบะสักอย่างนี่ล่ะครับ อ่านไม่ออก

ต่อในคอมเม้นท์นะครับ ^^
ชื่อสินค้า:   เกียวโต, Kyoto
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่