Volume Analysis เทคนิคอื่นๆ ..

กระทู้สนทนา
เรื่อง Volume ... มันเป็น Confirmation Indicator ที่ดีมาก  เพราะใช้บอก Activity ของรายใหญ่ ( Smart Money ) ว่ากำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้น  การดู Volume จึงมีนัยยะมากกว่า แค่ดูว่า Volume มากหรือน้อยกว่าเฉลี่ย  หรือ ราคาเพิ่มหรือลดลง  แต่ มันยังใช้เป็นตัวบอกนัยยะอื่นๆอีก ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยคิด  เช่น  อย่างในกรณีที่ แท่งราคาเป็นสีเขียวยาว + volume มาก  คนทั่วไปคงคิดว่า มันเป็น Trend ขาขึ้น   ซึ่งตามความเป็นจริง มันอาจใช่ หรือ ไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้  เพราะ เจ้ามืออาจตั้งขายหุ้นเอาไว้เอง  แล้วเคาะขวาซื้อบางส่วน เพื่อให้รายย่อยเข้าซื้อหุ้นตามขึ้นไป  แล้วเจ้ามือนำหุ้นที่ซื้อไปวางขายต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะระบายหุ้นในมือออกไป โดยราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ  และหุ้นจำนวนมากจะเปลี่ยนมือไปอยู่กับรายย่อยโดยรายย่อยไม่รู้ตัว  ....  

   เราจะพิสูจน์อย่างไร ว่า แท่งที่ราคาขึ้นมาก + volume มาก นั้น เป็นการปล่อยหุ้นของเจ้ามือ .....?     ใช้ Common Sense ครับ ..

   หากเราเป็นรายใหญ่ ที่กำหนดราคาหุ้นได้ ( ในช่วงระยะหนึ่ง ) ... แล้วเราเริ่มซื้อหุ้นที่ราคาต่ำสุด  2 บาท ขึ้นไปถึง 2.20 บาท โดยมี Volume  100 ล้านหุ้น  มากกว่าเฉลี่ยที่เทรดกันวันละ 10 ล้านหุ้นเท่านั้น   ....  แล้วคุณคิดว่า  จะยอมปล่อยให้ราคาหุ้นหลังจากวันนั้น ลงมาต่ำกว่าราคา 2 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุด ที่คุณเริ่มเข้าซื้อหรือไม่ ?    หากยังไม่ได้ขายหุ้นในมือที่ซื้อมาออกไป ?  ....  ลองพิจารณาดู  


   การวิเคราะห์ Volume  ทางเทคนิค ที่นิยมกันมาก จะใช้หลักการ Volume Spread Analysis ( VSA )  ซึ่ง จะวิเคราะห์ ราคา ( ความยาวของแท่งราคาและราคาปิด )  กับ Volume ในวันนั้นๆ  ... แต่ก็มีหลายรูปแบบ  ออกมาให้เห็น  แต่ก็เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือ ต้องการทราบว่า รายใหญ่กำลังทำอะไร และจะเกิดอะไรขึ้นมาตามในอีกไม่ช้า ...   ผมจะลองยกตัวอย่าง รูปแบบทางเทคนิคเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ Volume เพื่อให้เห็นเทคนิคต่างๆ แล้วนำไป ค้นคว้า ศึกษา ต่อยอดต่อไปได้  .... ผมจะพูดถึง  3  เทคนิค คือ   Better Volume /  Weis Wave  /  Vol-X   โดยทั้ง 3 เทคนิค  จะมีที่มาต่างกัน  และให้ข้อมูลปลีกย่อย แตกต่างกัน  ขึ้นกับว่า จะใช้เทคนิคอะไร





1.  ฺBetter Volume   เป็นเทคนิค การแสดงแท่ง Volume  เป็นสีต่างๆกัน 6 สี ขึ้น โดย แต่ละสี จะให้ความหมายไม่เหมือนกัน  ลองอ่านตามภาพประกอบนะครับ  





2. Weis Wave   เป็นการดู การสะสมหุ้น และกระจาย หุ้น ตามหลักการของ  Wyckoff  Market Stages  ....  ( หาข้อมูลเพิ่มได้จากกูเกิ้ล )





3. Vol- X  เป็น อินดิเคเตอร์ ที่แสดง Volume  เป็นจำนวนเท่า เทียบกับ Volume เฉลี่ยย้อนหลัง 125 วัน ( 6 เดือน )  และแสดงราคากำลัง new high ในรอบ 10-20-30 วัน   โดยใช้เทคนิค จากระบบ T3B    เพียงแต่นำราคาและ Volume มาแสดงรวมกัน เท่านั้น




การอ่าน Volume ด้วยเทคนิคบางเทคนิค   มันสามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำและละเอียดกว่า การดูแท่ง Volume ปกติทั่วไป  สามารถบอกได้ว่า แท่งละแท่งนั้น มันน่าจะเป็นจุดเริ่มของแนวโน้มใหม่หรือไม่   และเราควรกำหนดจุด Stoploss /  Cutloss ที่ราคาไหน จึงจะเหมาะสม  ซึ่งการทราบจุด stoploss / cutloss  เพื่อให้เรารู้ว่า เทรดนั้น เรามีความเสี่ยงเท่าไหร่  (ความเสี่ยง =  ราคาซื้อ - ราคา cutloss  + ค่าธรรมเนียมโบรก )  และเมื่อไหร่ เราควรขายหุ้นออกไป เมื่อเห็นเจ้ามือขาย จากเทคนิคนี้ ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่