สวัสดีค่าาา กระทู้นี้ส้มมีลิปสติกที่พกแท่งเดียวก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์มารีวิวให้ชมกันค่ะ
เชื่อว่าทุกคนต้องพกลิปอย่างน้อย 1 แท่งติดกระเป๋าแน่นอน ไม่ว่าจะไว้เติมระหว่างวันหรือเปลี่ยนลุคก็ตามแต่ถ้าใครเป็นเหมือนส้มที่พกมากกว่า 1 แท่งจะเกิดปัญหาลิปกินพื้นที่ในกระเป๋า! บางทีทำให้กระเป๋าหนักบ้างล่ะเปลืองพื้นที่บ้าง TT
ส้มเลยจะมารีวิวลิปที่พกแท่งเดียวก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์จะเป็นตัวไหนไปชมกันเลย
ลิปสติกที่จะรีวิวในบล็อกนี้ก็คือตัวนี้ค่ะ Etude House Twin Shot lips tint
ลิปสติกที่มี2เฉดสีในแท่งเดียวทั้ง2สีจะเป็นลิปทิ้นท์ค่ะ
ทิ้นท์ฝั่งหนึ่งจะเป็นเนื้อมูส เรียกว่า มูสทิ้นท์
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นลิปทิ้นท์ปกติ เรียกว่า ทิ้นท์ชอต
หัวแปรงของด้านเนื้อมูสจะมีลักษณะแบนๆ ทำให้เกลี่ยสีได้เรียบเนียน
ส่วนหัวแปรงด้านเนื้อทิ้นท์จะมีลักษณะกลมๆ เพื่อใช้สำหรับแตะตรงกลางปาก
เนื้อของมูสทิ้นท์จะเป็นโทนสีนู้ดเนื้อมันวาวให้ความชุ่มชื้นส่วนด้านทิ้นท์จะมีประกายแวววาวสีสันสดใสและติดทนนาน ทั้งสองด้านพิคเม้นชัดมากเนื้อลื่นเกลี่ยเกลี่ยง่ายมากเวลาทาจะรู้สึกว่าเนื้อจะเนียนไปกับปากไม่ทำให้ปากแห้งแตกเป็นแผ่นค่ะ
Etude House twin shot lips tint มีทั้งหมด 9 เฉดสี ส่วนตัวส้มมี 3 สีนะคะเดี๋ยวส้มจะสวอซให้ดูส่วนสีที่ส้มไม่มีขออนุญาตแปะภาพจาก Etude House นะคะ
อย่างที่ส้มบอกไว้ข้างต้นว่าเป็นลิปทิ้นท์ทำให้ติดทนมากต้องใช้eye&lipremoverเช็ดออก(หลายๆรอบ)
ในภาพส้มเช็ดไปประมาณ2-3รอบ
มาดูเทคนิคการทาทิ้นท์ 8 สไตล์ของส้มกับ Etude House Twin Shot lips tint กันดีกว่าค่ะ
1.ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปาก : ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปากก็จะได้ลิปสีสุภาพค่ะ
ตอนนี้เนื้อแมตมาแรงมากๆเราก็ใช้นิ้วแตะๆบนริมฝีปากเพื่อลดความแวววาวก็จะได้ลิปแมตสีสุภาพไม่ทำให้ปากแห้งแล้วค่ะ
2.ทาทิ้นท์ชอตทั่วทั้งปาก
สำหรับสาวสายแซ่บเนี่ยก็ทาทั่วทั้งปากแบบปกติได้เลยแต่ถ้าใครเป็นสายหวานแบบส้มแต่อยากทาลิปสีแดงส้มก็แนะนำว่าไม่ต้องทาเต็มขอบปากตรงขอบปากเราจะใช้นิ้วเกลี่ยให้ฟุ้งๆไม่ดูแซ่บจนเกินไป
3.ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปากและแตะทิ้นท์ชอตตรงกลางริมฝีปาก
วิธีนี้ก็จะได้ลิป3เฉดสีในครั้งเดียวเลยเป็นการทาปากแบบombreเหมือนสาวเกาหลีและเป็นวิธีหลักของลิปตัวนี้เลยค่ะ
4.ทาทิ้นชอตบริเวณด้านในริมฝีปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยออกมาให้ฟุ้งละมุนค่ะ
วิธีนี้ก็เป็นการไล่สีโดยใช้ลิปสีเดียวค่ะ
5.ทาทิ้นชอตทั่วทั้งปากแล้วทาทับด้วยมูสทิ้นท์วิธีนี้จะให้ลุคเหมือนเราทาลิปสติก
*3วิธีสุดท้ายเอาใจสาวๆที่ยังชอบใช้ลิปสติกอยู่ค่ะแต่เราสามารถนำทิ้นท์มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้นะ*
6.ทามูสทิ้นท์ทั่วริมฝีปากแล้วทาทับด้วยลิปสติกสีที่ชอบ
สำหรับใครที่ยังชอบทาลิปสติกอยู่วิธีนี้จะช่วยให้ลิปสติกติดทนมากยิ่งขึ้นแถมได้สีลิปสวยๆด้วยค่ะ
7.ทาทิ้นชอตกลางริมฝีปากแล้วใช้ลิปสติกสีนู้ดทาขอบปาก
เป็นอีกวิธีในการไล่สีแบบสาวเกาหลีโดยใช้ลิปสติกกับลิปทิ้นค่ะ
8.ทาลิปสติกสีที่ชอบแล้วแตะทิ้นชอตตรงกลางปากเป็นกลอส
ลิปทิ้นก็สามารถนำมาใช้เป็นลิปกลอสได้นะคะขั้นตอนแรกก็ทาลิปสีที่ชอบก่อนจากนั้นใช้ทิ้นแตกบริเวณกลางริมฝีปากเล็กน้อยก็จะได้ลิปที่มีประกายแวววาวแล้วค่ะ
ครบแล้วค่ะสำหรับการทาทิ้นท์ 8 สไตล์ของส้มชอบกันไหมคะ?
แค่เรามีลิป1 แท่งก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์แล้วค่ะ
Etude House twin shot lips tint ทำให้เราสามารถสร้างสีสันได้บนริมฝีปากหลากหลายเฉดสีการทาลิปสติกของเราก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วค่ะ
ราคาแท่งละ 570 บาท หาซื้อที่ได้ร้านค้าอีทูดี้เฮ้าท์ ประเทศไทย ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ออฟสยามสแควร์
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาชมนะค่ะหวังว่าจะถูกใจและเป็นประโยชน์ค่ะ
แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่าบะบายยย เยิฟฟฟ ><
[SR] Review : Etude House twin shot lips tint+แชร์เทคนิคทาลิปทิ้นท์ 8 สไตล์
เชื่อว่าทุกคนต้องพกลิปอย่างน้อย 1 แท่งติดกระเป๋าแน่นอน ไม่ว่าจะไว้เติมระหว่างวันหรือเปลี่ยนลุคก็ตามแต่ถ้าใครเป็นเหมือนส้มที่พกมากกว่า 1 แท่งจะเกิดปัญหาลิปกินพื้นที่ในกระเป๋า! บางทีทำให้กระเป๋าหนักบ้างล่ะเปลืองพื้นที่บ้าง TT
ส้มเลยจะมารีวิวลิปที่พกแท่งเดียวก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์จะเป็นตัวไหนไปชมกันเลย
ลิปสติกที่จะรีวิวในบล็อกนี้ก็คือตัวนี้ค่ะ Etude House Twin Shot lips tint
ลิปสติกที่มี2เฉดสีในแท่งเดียวทั้ง2สีจะเป็นลิปทิ้นท์ค่ะ
ทิ้นท์ฝั่งหนึ่งจะเป็นเนื้อมูส เรียกว่า มูสทิ้นท์
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นลิปทิ้นท์ปกติ เรียกว่า ทิ้นท์ชอต
หัวแปรงของด้านเนื้อมูสจะมีลักษณะแบนๆ ทำให้เกลี่ยสีได้เรียบเนียน
ส่วนหัวแปรงด้านเนื้อทิ้นท์จะมีลักษณะกลมๆ เพื่อใช้สำหรับแตะตรงกลางปาก
เนื้อของมูสทิ้นท์จะเป็นโทนสีนู้ดเนื้อมันวาวให้ความชุ่มชื้นส่วนด้านทิ้นท์จะมีประกายแวววาวสีสันสดใสและติดทนนาน ทั้งสองด้านพิคเม้นชัดมากเนื้อลื่นเกลี่ยเกลี่ยง่ายมากเวลาทาจะรู้สึกว่าเนื้อจะเนียนไปกับปากไม่ทำให้ปากแห้งแตกเป็นแผ่นค่ะ
Etude House twin shot lips tint มีทั้งหมด 9 เฉดสี ส่วนตัวส้มมี 3 สีนะคะเดี๋ยวส้มจะสวอซให้ดูส่วนสีที่ส้มไม่มีขออนุญาตแปะภาพจาก Etude House นะคะ
อย่างที่ส้มบอกไว้ข้างต้นว่าเป็นลิปทิ้นท์ทำให้ติดทนมากต้องใช้eye&lipremoverเช็ดออก(หลายๆรอบ)
ในภาพส้มเช็ดไปประมาณ2-3รอบ
มาดูเทคนิคการทาทิ้นท์ 8 สไตล์ของส้มกับ Etude House Twin Shot lips tint กันดีกว่าค่ะ
1.ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปาก : ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปากก็จะได้ลิปสีสุภาพค่ะ
ตอนนี้เนื้อแมตมาแรงมากๆเราก็ใช้นิ้วแตะๆบนริมฝีปากเพื่อลดความแวววาวก็จะได้ลิปแมตสีสุภาพไม่ทำให้ปากแห้งแล้วค่ะ
2.ทาทิ้นท์ชอตทั่วทั้งปาก
สำหรับสาวสายแซ่บเนี่ยก็ทาทั่วทั้งปากแบบปกติได้เลยแต่ถ้าใครเป็นสายหวานแบบส้มแต่อยากทาลิปสีแดงส้มก็แนะนำว่าไม่ต้องทาเต็มขอบปากตรงขอบปากเราจะใช้นิ้วเกลี่ยให้ฟุ้งๆไม่ดูแซ่บจนเกินไป
3.ทามูสทิ้นท์ทั่วทั้งปากและแตะทิ้นท์ชอตตรงกลางริมฝีปาก
วิธีนี้ก็จะได้ลิป3เฉดสีในครั้งเดียวเลยเป็นการทาปากแบบombreเหมือนสาวเกาหลีและเป็นวิธีหลักของลิปตัวนี้เลยค่ะ
4.ทาทิ้นชอตบริเวณด้านในริมฝีปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยออกมาให้ฟุ้งละมุนค่ะ
วิธีนี้ก็เป็นการไล่สีโดยใช้ลิปสีเดียวค่ะ
5.ทาทิ้นชอตทั่วทั้งปากแล้วทาทับด้วยมูสทิ้นท์วิธีนี้จะให้ลุคเหมือนเราทาลิปสติก
*3วิธีสุดท้ายเอาใจสาวๆที่ยังชอบใช้ลิปสติกอยู่ค่ะแต่เราสามารถนำทิ้นท์มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้นะ*
6.ทามูสทิ้นท์ทั่วริมฝีปากแล้วทาทับด้วยลิปสติกสีที่ชอบ
สำหรับใครที่ยังชอบทาลิปสติกอยู่วิธีนี้จะช่วยให้ลิปสติกติดทนมากยิ่งขึ้นแถมได้สีลิปสวยๆด้วยค่ะ
7.ทาทิ้นชอตกลางริมฝีปากแล้วใช้ลิปสติกสีนู้ดทาขอบปาก
เป็นอีกวิธีในการไล่สีแบบสาวเกาหลีโดยใช้ลิปสติกกับลิปทิ้นค่ะ
8.ทาลิปสติกสีที่ชอบแล้วแตะทิ้นชอตตรงกลางปากเป็นกลอส
ลิปทิ้นก็สามารถนำมาใช้เป็นลิปกลอสได้นะคะขั้นตอนแรกก็ทาลิปสีที่ชอบก่อนจากนั้นใช้ทิ้นแตกบริเวณกลางริมฝีปากเล็กน้อยก็จะได้ลิปที่มีประกายแวววาวแล้วค่ะ
ครบแล้วค่ะสำหรับการทาทิ้นท์ 8 สไตล์ของส้มชอบกันไหมคะ?
แค่เรามีลิป1 แท่งก็สามารถเปลี่ยนลุคได้หลากหลายสไตล์แล้วค่ะ
Etude House twin shot lips tint ทำให้เราสามารถสร้างสีสันได้บนริมฝีปากหลากหลายเฉดสีการทาลิปสติกของเราก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วค่ะ
ราคาแท่งละ 570 บาท หาซื้อที่ได้ร้านค้าอีทูดี้เฮ้าท์ ประเทศไทย ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ออฟสยามสแควร์
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาชมนะค่ะหวังว่าจะถูกใจและเป็นประโยชน์ค่ะ
แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่าบะบายยย เยิฟฟฟ ><