เมื่อวาน จขกท ได้ไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทสมัยปริญญาโท คู่นี้คบกันมาห้าปีแล้ว ก็ดีใจแทน แต่เราก็แอบเหงาๆ เพื่อนร่วมเรียนชอบถามว่าทำไมยังไม่มีคู่ เลยบอกเลยว่า แค่แก้ปัญหาและเลี้ยงตัวเองและพ่อแม่ยังไม่ค่อยจะรอด จะมีปัญญาไปเลี้ยงคนอื่นได้ไง เงินเดือนและงานการก็ไม่ได้มีมากมายอย่างใด ในช่วงชีวิตก็มีคนดีๆ น่ารักๆ เข้ามาหลายคน แต่พูดตามตรงว่าสังคมเดี๋ยวนี้มันฉาบไปด้วยความงามเคลือบยาพิษเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่าชีวิตทำงานหรือที่ผ่านมาเจอแต่คนที่โกหก หลอกลวง เจอแต่เรื่องไม่สมหวังเลยคิดว่าอยากอยู่คนเดียว เพื่อนบางคนมีแฟนเห็นมีแต่ปัญหากันทั้งนั้น ไหนจะงาน เงิน เวลา เอาใจใส่ ฯลฯ บางคนก็เข้ากับที่บ้านอีกฝ่ายไม่ได้เลยต้องเลิกกันก็มี จริงๆก็มีเพื่อนแซว จขกท ว่าเรื่องเยอะ แต่ชีวิตจริงๆที่เคยอ่านๆและสัมผัส มันไม่เห็นจะสวยงามเลย ครอบครัวบางคนก็ดูไม่ได้แฮปปี้เต็มร้อย บางทีเห็นคนมีคู่ก็แอบอิจฉานะ แต่มองอีกทีมันก็แค่ด้านเดียวที่เราเห็นเท่านั้น เพราะคงไม่มีใครอยากจะพูดเรื่องแย่ๆในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ จขกท อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับในกระทู้ว่าเพื่อนๆรู้สึกยังไงกับความรักและการมีชีวิตคู่ในยุคเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป
ปล จขกท วางแผนไว้อยากครองเป็นโสด ตัดความรู้สึกอยากตามสัญชาตญาณและดูแลพ่อแม่และสามัคคีกับพี่น้องจนถึงวินาทีสุดท้าย
ระหว่างมีคู่ครองกับอยู่เป็นโสดในยุคนี้ แบบไหนดีกว่ากัน
ปล จขกท วางแผนไว้อยากครองเป็นโสด ตัดความรู้สึกอยากตามสัญชาตญาณและดูแลพ่อแม่และสามัคคีกับพี่น้องจนถึงวินาทีสุดท้าย