ชาย-หญิงคู่หนึ่ง คบกัน เป็นแฟนกันมานาน ยังไม่แต่งงาน
แรกๆก็ดีเหมือนทั่วๆไปแหละ หลังๆก็มีจืดจางบ้าง
ผู้ชายยอมผู้หญิงมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นทะเลาะกันเรื่องอะไร
แม้ผู้หญิงจะผิด ผู้ชายก็จะง้อตลอด
หลังๆเวลาทะเลาะกัน ผู้หญิงมักจะบอกว่า เราเลิกกันเถอะตลอด
ถ้าเป็นทะเลาะกันทางโทรศัพท์ผู้หญิงก็พูดแบบนั้น และตัดสายไป
ปิดโทรศัพท์เป็นวันๆ สองวัน ส่วนผู้ชายก็จะตามโทร คอยโทรคอยส่งข้อความมาง้อตลอด
บางครั้งผู้หญิง ก็ชอบไล่ ว่า ถ้าเจอใครดีกว่าก็ไปเลย แต่ผู้ชายก็ไม่เคยจะไปไหน
ปกติผู้หญิงจะไม่ค่อยแคร์ ไม่ค่อยดูแลใส่ใจ ไม่ค่อยให้ความสำคัญ เวลาไปไหนมาไหน เวลาผู้ชายโทรตามห่วงนั่นนี่
นางก็จะบอกว่ารำคาญบ้าง งี่เง่าบ้าง น่าเบื่อบ้าง แล้วก็วีน และไม่เคยกลับมาขอโทษ เพราะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ
คิดว่าผู้ชายต้องมีหน้าที่ง้อฉัน ถ้ารักฉัน ผู้ชายก็ยอมนะ
แต่คือไม่ว่าจะอย่างไร 2 คนนี้ก็จะกลับมาดีกันได้ และไม่นานก็วนไปทะเลาะกันใหม่
เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ยื่งนานวันยิ่งกนักเข้า
      อยู่มาวันนึง ผู้หญิงได้รับรู้เรื่องที่ไม่เคยคิดฝัน ไม่เคยเผื่อใจมาก่อน คือ ผู้ชายคนนี้ไปคุยกับผู้หญิงหลายคนมาก
และมีอยู่คนนึงที่คิดว่าถึงขั้นลึกซึ้งกัน แต่ผู้ชายปฏิเสธ บอกไม่เคยมี
แต่ผู้หญิงก็ไม่เชื่อหรอก เกิดเป็นคำถามคาใจอยู่จนทุกวันนี้
ผู้หญิงถามว่าทำแบบนี้ทำไม ผู้ชายบอกว่า เพราะเธอชอบขอเลิกและไล่ให้ไปมีคนอื่น เลยลองดู
ผู้หญิงไม่เคยมีใคร ไม่เคยไม่ซื่อสัตย์ และรับไม่ได้กับสิ่งที่ผู้ชายทำจะเลิกคบ แต่ผู้ชายก็มาตามขอโทษ ตามง้อ
จนยอมคืนดี เพราะผู้หญิงก็คิดว่า เป็นความผิดของเธอเองด้วย ที่ร้ายกับผู้ชายมาตลอด
แต่ก่อนที่จะคืนดี ทุกเรื่องที่ผู้ชายทำ คนรอบข้างผู้หญิงรู้หมดและไม่อยากให้กลับไปคบอีก
แต่ผู้หญิงยอมเป็นคนโง่ในสายตาใครๆ เพื่ออยากจะพิสูจน์ผู้ชายคนนี้อีกสักครั้ง
ว่าถ้าผู้หญิงไม่ทำตัวแบบเดิม ผู้ชายจะนอกใจอีกไหม
กลับมาคบกันผู้หญิงก็ยอมปรับตัวดีขึ้น และยื่นคำขาดว่า ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก จะไม่ให้โอกาสอีกแล้ว
ขอบคุณที่อ่านจบจบ
คุณคิดยังไงกับเหตุการณ์นี้คะ
แฟร์ หรือ ผู้หญิงโง่ไหมที่ให้โอกาส
หรือความคิดเห็นแบบเปิดๆก็ได้ค่ะ ไม่จำกัดความคิด