แปลกนะคะ ... ที่สมัยนี้บริษัทชั้นนำและมีชื่อเสียง โดยมีบริษัทแม่อยู่เมืองนอก .....
แต่เหล่าผู้บริหารกลับไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตามแนวนโยบายหรือความคิดใหม่ๆ ที่แม้แต่บริษัทแม่ส่งอีเมล์ออกมา
เพื่อให้พนักงานเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เกิดความสะดวกสบาย ความรู้สึกแบบฟรีสไตล์โดยที่ให้รู้จักเคารพตัวเอง
ว่าถ้าหากต้องเจอลูกค้าเราควรทำตัวอย่างไรบ้าง และเมื่ออยู่ภายในบริษัทเราสามารถเพิ่มความสะดวกสบายวันเบาๆ ให้กับตัวเอง
เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดหรือบรรยากาศในการทำงานให้ดูกระชับและทะมัดทะแมงตามสไตล์ที่เราต้องการ
พูดง่ายๆ ก็คือ บริษัทยอมที่จะให้เราแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสบายๆ รองเท้าผ้าใบในแบบที่คุณชอบ ไม่ได้บ่งบอกหรือผูกมัดว่าต้องเป็น
ลุคบิสซิเนสตลอดเวลา แค่ให้คุณรู้จักให้เกียรติตัวเองก่อนและเวลาที่คุณต้องไปพบลูกค้าขอให้แต่งกายตามสากลที่สุภาพดูเป็นบิสซิเนส...
แต่พอพนักงานทำจริงขึ้นมาตาม... คอนเซ็ปต์หรือไม่รู้ว่าจะเรียกนโยบายได้มั้ย? ที่บอกพนงว่าคุณสามารถใส่ยีนส์ รองเท้าผ้าใบ และเสื้อยืด
(jeans, sneaker shoes and T-shirt) ซึ่งข้อความนี้ที่ส่งมานั้นทำให้พนง รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่บริษัทมีความเปลี่ยนแปลงที่แปลกใหม่
อาจจะดูเหมือนบริษัทชื่อดังอื่นๆ ที่ให้ความสุขแก่พนงมากขึ้น ... แต่ถ้าข้อความนี้ที่ส่งมาให้พนง ไม่ได้หมายความแบบนี้ตรงๆ ละ
เป็นเพียงการสร้างกลยุทธ์ให้พนง รู้จักแต่งกายให้ดูดีขึ้น แต่ไม่ได้อนุญาตให้ใส่แบบนี้จริง ..... จริงหรอ ???
เพราะตอนนี้สิ่งที่พนง บางคนรู้สึกได้คือ เริ่มมีการมาตรวจดูตั้งแต่หัวจรดเท้าและบางคนก็ถูกเรียกไปคุย หรือตักเตือนว่าไม่ให้ใส่เสื้อยืดคอกลม
รองเท้าผ้าใบยังไม่ใช่ (ยังไม่เป็นรองเท้าผ้าใบที่ดูดี) กางเกงยีนส์แบบนี้ยังไม่ได้ .... ไม่ทราบว่าตอนนี้เราอยู่บริษัทชื่อดังชั้นนำ ที่พร้อมจะเดินก้าว
ไปข้างหน้า ... หรือย้ำอยู่กะที่ด้วยทัศนคติและความรู้สึกของใครกันแน่ ว่ารับไม่ได้!!! กับการเปลี่ยนแปลงนี้ ....
แปลกนะที่ทุกวันนี้ ... ไม่รู้ว่าเรามานั่งทำงานหรืออยู่โรงเรียนที่ต้องมีฝ่ายปกครองคอยดักนักเรียนที่แต่งกายไม่เรียบร้อย และตักเตือน...
หัวหน้าบางคนก็พูดดีนะ พยายามใช้คำพูดที่ดี แต่บางคนก็พูดออกมาแย่ๆ ว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ มันเหมือนชุดอยู่บ้าน ไม่ใช่ชุดมาทำงาน
ไม่เรียบร้อยบ้าง (คือเสื้อผ้าก็มีกางเกงยีนส์ไม่มีรอยขาดเลย เสื้อแขนยาว แถมใส่เสื้อทับยาวลงมาปิดก้น เพราะกลัวนั่งและกางเกงในโผล่)
ยังโดนบ่น โดนว่าและพูดใส่ด้วยอารมณ์ ที่ให้ความรู้สึกว่ายิ่งกว่าคุณครูฝ่ายปกครอง... ขนาดพนง จะใส่ยีนส์มาเพราะเค้าบอกว่าใส่ได้
ยังโดนตำหนิว่า ... อย่าพิจารณาจากรูปภาพประกอบที่เมืองนอกส่งมา ให้อ่านข้อความให้เข้าใจว่ามันกำลังบอกว่าอะไร ???
คือไม่เข้าใจ ก็ภาษาอังกฤษมันเขียนว่า Jeans, T shirt and sneaker shoes มันจะมีความหมายแฝงอะไรอีกหรอ.....
และขนาดยังได้ยินมาว่า คนเก่าๆ บางคนที่มาเห็นพนง แต่งกายแบบนี้ก็บอกเลยรับไม่ได้ แต่งกายอะไรกัน????
คือ ถ้าซีกโซนฝั่งนี้จะไม่เอานโยบายหรือคอนเซ็ปต์นี้ .... แจ้งไปยังบริษัทแม่ดีกว่ามั้ย อย่ามามโนและทำเป็นครูฝ่ายปกครอง
และในใจตัวเองก็บอกกันว่า รับไม่ได้ ทำไมแต่งตัวกันแบบนี้ หรือ เวลาเห็นพนง แต่งตัวดีก็ไปทักทายแบบมีนัยยะว่า วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลย
(เพราะพนง คนนั้นใส่ชุดลุคบิสซิเนส) แต่เวลาเค้าแต่งใส่ยีนส์ไม่ทักหรือติชมเลย .....
ถ้าเพื่อนๆ เจอสังคมในที่ทำงานแบบนี้จะทำอย่างไรกันดีค่ะ
มาทำงาน หรืออยู่ฝ่ายปกครอง ... ชีวิตคนทำงาน #ก้มหน้าต่อไปหรือ?
แต่เหล่าผู้บริหารกลับไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตามแนวนโยบายหรือความคิดใหม่ๆ ที่แม้แต่บริษัทแม่ส่งอีเมล์ออกมา
เพื่อให้พนักงานเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เกิดความสะดวกสบาย ความรู้สึกแบบฟรีสไตล์โดยที่ให้รู้จักเคารพตัวเอง
ว่าถ้าหากต้องเจอลูกค้าเราควรทำตัวอย่างไรบ้าง และเมื่ออยู่ภายในบริษัทเราสามารถเพิ่มความสะดวกสบายวันเบาๆ ให้กับตัวเอง
เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดหรือบรรยากาศในการทำงานให้ดูกระชับและทะมัดทะแมงตามสไตล์ที่เราต้องการ
พูดง่ายๆ ก็คือ บริษัทยอมที่จะให้เราแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสบายๆ รองเท้าผ้าใบในแบบที่คุณชอบ ไม่ได้บ่งบอกหรือผูกมัดว่าต้องเป็น
ลุคบิสซิเนสตลอดเวลา แค่ให้คุณรู้จักให้เกียรติตัวเองก่อนและเวลาที่คุณต้องไปพบลูกค้าขอให้แต่งกายตามสากลที่สุภาพดูเป็นบิสซิเนส...
แต่พอพนักงานทำจริงขึ้นมาตาม... คอนเซ็ปต์หรือไม่รู้ว่าจะเรียกนโยบายได้มั้ย? ที่บอกพนงว่าคุณสามารถใส่ยีนส์ รองเท้าผ้าใบ และเสื้อยืด
(jeans, sneaker shoes and T-shirt) ซึ่งข้อความนี้ที่ส่งมานั้นทำให้พนง รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่บริษัทมีความเปลี่ยนแปลงที่แปลกใหม่
อาจจะดูเหมือนบริษัทชื่อดังอื่นๆ ที่ให้ความสุขแก่พนงมากขึ้น ... แต่ถ้าข้อความนี้ที่ส่งมาให้พนง ไม่ได้หมายความแบบนี้ตรงๆ ละ
เป็นเพียงการสร้างกลยุทธ์ให้พนง รู้จักแต่งกายให้ดูดีขึ้น แต่ไม่ได้อนุญาตให้ใส่แบบนี้จริง ..... จริงหรอ ???
เพราะตอนนี้สิ่งที่พนง บางคนรู้สึกได้คือ เริ่มมีการมาตรวจดูตั้งแต่หัวจรดเท้าและบางคนก็ถูกเรียกไปคุย หรือตักเตือนว่าไม่ให้ใส่เสื้อยืดคอกลม
รองเท้าผ้าใบยังไม่ใช่ (ยังไม่เป็นรองเท้าผ้าใบที่ดูดี) กางเกงยีนส์แบบนี้ยังไม่ได้ .... ไม่ทราบว่าตอนนี้เราอยู่บริษัทชื่อดังชั้นนำ ที่พร้อมจะเดินก้าว
ไปข้างหน้า ... หรือย้ำอยู่กะที่ด้วยทัศนคติและความรู้สึกของใครกันแน่ ว่ารับไม่ได้!!! กับการเปลี่ยนแปลงนี้ ....
แปลกนะที่ทุกวันนี้ ... ไม่รู้ว่าเรามานั่งทำงานหรืออยู่โรงเรียนที่ต้องมีฝ่ายปกครองคอยดักนักเรียนที่แต่งกายไม่เรียบร้อย และตักเตือน...
หัวหน้าบางคนก็พูดดีนะ พยายามใช้คำพูดที่ดี แต่บางคนก็พูดออกมาแย่ๆ ว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ มันเหมือนชุดอยู่บ้าน ไม่ใช่ชุดมาทำงาน
ไม่เรียบร้อยบ้าง (คือเสื้อผ้าก็มีกางเกงยีนส์ไม่มีรอยขาดเลย เสื้อแขนยาว แถมใส่เสื้อทับยาวลงมาปิดก้น เพราะกลัวนั่งและกางเกงในโผล่)
ยังโดนบ่น โดนว่าและพูดใส่ด้วยอารมณ์ ที่ให้ความรู้สึกว่ายิ่งกว่าคุณครูฝ่ายปกครอง... ขนาดพนง จะใส่ยีนส์มาเพราะเค้าบอกว่าใส่ได้
ยังโดนตำหนิว่า ... อย่าพิจารณาจากรูปภาพประกอบที่เมืองนอกส่งมา ให้อ่านข้อความให้เข้าใจว่ามันกำลังบอกว่าอะไร ???
คือไม่เข้าใจ ก็ภาษาอังกฤษมันเขียนว่า Jeans, T shirt and sneaker shoes มันจะมีความหมายแฝงอะไรอีกหรอ.....
และขนาดยังได้ยินมาว่า คนเก่าๆ บางคนที่มาเห็นพนง แต่งกายแบบนี้ก็บอกเลยรับไม่ได้ แต่งกายอะไรกัน????
คือ ถ้าซีกโซนฝั่งนี้จะไม่เอานโยบายหรือคอนเซ็ปต์นี้ .... แจ้งไปยังบริษัทแม่ดีกว่ามั้ย อย่ามามโนและทำเป็นครูฝ่ายปกครอง
และในใจตัวเองก็บอกกันว่า รับไม่ได้ ทำไมแต่งตัวกันแบบนี้ หรือ เวลาเห็นพนง แต่งตัวดีก็ไปทักทายแบบมีนัยยะว่า วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลย
(เพราะพนง คนนั้นใส่ชุดลุคบิสซิเนส) แต่เวลาเค้าแต่งใส่ยีนส์ไม่ทักหรือติชมเลย .....
ถ้าเพื่อนๆ เจอสังคมในที่ทำงานแบบนี้จะทำอย่างไรกันดีค่ะ