เรียนสมาชิกหมายเลข 3536143
เบื้องต้นให้ยื่นเรื่องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนกรณีบัตรประจำตัวประชาชนหาย
โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
1.ให้แจ้งบัตรประจำตัวประชาชนหาย ต่อเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียน ทันทีที่บัตรหาย(ไม่ต้องแจ้งความ)
2.ให้ยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่บัตรหาย หากพ้นกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท   
*หมายเหตุ กรณีที่ยื่นทำบัตรประชาชน กรณีสูญหาย ต่างเขตพื้นที่ ที่ตนเองมีชื่ออยู่ ทางนายทะเบียนอาจร้องขอพยานบุคคล เพิ่มเติมได้
เอกสารหลักฐาน ที่ต้องใช้
1.เอกสารที่มีรูปถ่าย ซึ่งทางราชการเป็นผู้ออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับรถ สำเนาทะเบียนนักเรียน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
2.ถ้าหากไม่มีเอกสารที่ทางราชการออกให้ ให้นำเจ้าบ้านหรือผู้ที่น่าเชื่อถือ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปให้การรับรอง
การทำบัตรประจำตัวประชาชนเนื่องจากบัตรหาย จะเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท และสามารถยื่นขอทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ทุกสำนักทะเบียนในประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปภูมิลำเนาที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนั้นเพราะปัจจุบันฐานข้อมูลออนไลน์

ส่วนกรณีสูติบัตรสูญหาย
เบื้องต้นให้ประชาชนติดต่อที่สำนักทะเบียนที่จดทะเบียน หากต้องการคัดต่างพื้นที่จะต้องตรวจสอบที่สำนักทะเบียนโดยตรงว่ามีข้อมูลอยู่ในฐานระบบหรือไม่ โดยนำเอกสารหลักฐานดังนี้เพื่อยื่นคำขอ
1.บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง
2.ใบแจ้งความ (กรณีเอกสารสูญหาย และต้องการใบแทนหรือคัดสำเนาเสมือนฉบับจริง)
3.บัตรประจำตัวของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)
4.หลักฐานแสดงว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขอตรวจคัด
อัตราค่าธรรมเนียม
-การขอคัดสำเนา ฉบับละ 10 บาท
-การขอใบแทน ฉบับละ 25 บาท

ส่วนการขอทะเบียนบ้านกรณีทะเบียนบ้านสูญหายนั้น ต้องดูว่าอยู่ในพื้นที่เขตไหน เพราะต้องขอจากเขตเดิมที่ออกให้ เจ้าบ้านจะต้องเป็นผู้ยื่นเรื่องด้วยตนเอง โดยนำหลักฐานคือบัตรประจำตัวประชาชนในการยื่นเรื่อง พร้อมค่าธรรมเนียม 20 บาท
*ไม่ต้องแจ้งความ ถ้ามาเองไม่ได้สามารถทำหนังสือมอบอำนาจได้

ในส่วนคุณวุฒิการศึกษาสูญหาย (ปพ.3) ให้นำเอกสารหลักฐานดังนี้ไปยื่นที่สถานศึกษาเดิมที่ออกเอกสารใบวุฒิการศึกษา
1.ใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ
2.บัตรประจำตัวประชาชน
3.รูปถ่ายหน้าตรง เสื้อเชิ้ตสีขาว ขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป  (แล้วแต่สถานศึกษากำหนด)
4.สำเนาทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
*หมายเหตุ กรณีที่โรงเรียนยกเลิกกิจการ หรือ ปิดการเรียนการสอนแล้ว ให้ตรวจสอบหน่วยงานต้นสังกัดที่ดูแลรับผิดชอบ
กรณีหากต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องสอบถามกับสถานศึกษาหรือหน่วยงานโดยตรงอีกครั้งซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่

Phitak