คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สวัสดีค่ะ เรามีประสบการณ์กับตัวเองที่จะมาเล่าให้ฟัง อาจจะทำให้หลายๆคนฮึดที่จะอ่านหนังสือด้วย
ตอนเเรกเราอยากเข้าคณะรัฐศาสตร์ มธมากๆ
-เตรียมตัวตั้งเเต่ม.4เทอมสองหาหนังสือมาอ่าน ศึกษาคะเเนน ศึกษาคณะทุกอย่างเเละวางเเผนเกรดของเเต่ละเทอม
-ไปค่ายเปิดถ้ำสิงห์ตอนม.5
-ระหว่างปิดเทอมม.5 ขึ้นม.6 เราไปเรียนพิเศษที่สยาม เรียนตั้งเเต่ 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่มจนกระทั่งจบคอร์ส พอกลับมาบ้านก็อ่านที่ไปเรียนมาอ่านแกทไทยเเละอิ้งควบคู่ไปด้วย พอเปิดเทอมมอหกด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดก็ไปเรียนที่สยามกิตติ์ทุกวันเสาร์ (ไปเช้าเย็นกลับ) วันอาทิตย์ตอนเช้ากลับมาเรียนพิเศษไทย (เตรียมคะเเนนโอเน็ต) ตอนเย็นอ่านแกท (เราตั้งใจเทเเพท เราเรียนจีนเเต่ไปสอบฝรั่งเศส5555) จันทร์-ศุกร์ตอนเย็นเรียนเอ็นคอนเซ็ป ตอนกลางคืนก็อ่านทุกอย่างสลับกันไปในเเต่ละวัน วันนี้อ่านแกทไทย พรุ่งนี้แกทอิ้ง วันต่อไปรัดสาด เราทำแบบนี้มาต่อเนื่องเรื่อยๆจนกระทั่งหลังปีใหม่ คือช่วงนั้นสอบแกทแพทไปเเล้ว สิ้นเดือนมกราจะเป็นสอบรับตรงของมธ. พอมาถึงหลังปีใหม่ ด้วยความที่ขี้เกียจ (อันนี้เเย่สุดๆ) เราก็อ่านหนังสือน้อยลง เเล้วคือสอบข้อเขียนรัฐศาสตร์มธ.จะมีเรียงความ ทั้งเดือนเราไม่เคยเขียนเรียงความเลย อันนี้เป็นความขี้เกียจที่เจ็บช้ำน้ำใจมากๆ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะเข้ามธให้ได้เเต่ตอนนั้นติดรับตรงที่อื่นเเล้ว ความขี้เกียจที่สะสมมาสองปีมันเริ่มถูกดึงมาใช้ เราเริ่มรู้สึกว่าเคยอ่านมาหมดเเล้ว อ่านมาเยอะเเล้ว พอรู้สึกแบบนั้นทำให้ไม่อยากอ่านหนังสืออีกต่อไป เรามาดูหนัง เล่นเกมเอาสนุก จนกระทั่งเหลืออาทิตย์สุดท้าย คือจะสอบวันเสาร์ที่จะถึงนี้เเล้ว เพิ่งมาเเบบเฮ้ย จะสอบเเล้ว คนอยากเข้าเยอะนะไรงี้ จะมาเร่งอ่านก็ไม่ทัน สรุปคือที่ออกสอบมีที่เราเรียนทั้งหมด เเต่เราลืมเอง ... ผลออกมาคือเราไม่ติด อันนี้รู้ตั้งเเต่เจอข้อสอบเเล้ว เท่ากับสองปีที่ทำมามันสูญมากๆ มาถึงตรงนี้อยากจะฝากถึงน้องๆว่าต่อให้เราอ่านมาเยอะขนาดไหน ต่อให้เหลือเวลาอีกเเค่วันดียว น้องก็ต้องอ่าน ไม่ใช่ว่าพยายามยัดมันลงในสมอง เเบบอ่านหามรุ่งหามค่ำ อยากให้น้องเเบ่งเวลา มีเวลาพักผ่อนด้วย มีเวลาอ่านหนังสือ ในขณะที่เราเล่น เพื่อนๆที่อยากเข้าคณะเราเขาอาจจะกำลังอ่านหนังสือ ตอนนี้พี่ผ่านมาเเล้ว พี่เสียใจนะกับการกระทำที่พี่ทำวันนั้น ทั้งเงินที่พ่อเเม่ส่งให้ไปเรียนพิเศษ คอร์สนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ทั้งค่าเดินทางค่านู้นนี่นั่น รวมๆเเล้วก็เกือบเเสน พอนับเป็นจำนวนเงินมันเยอะมากๆเเต่พอออกมาว่าสอบไม่ติด ไม่ใช่ว่าเราทำเต็มที่ คือตอนนั้นเรายังทำไม่เต็มที่ เพราะเราเอาเวลาที่จะอ่านไปดูหนังเล่นเกม เอาสนุกเเค่สองสามอาทิตย์ เเต่มันพลิกชีวิตเลย ถ้าน้องที่เข้ามาอ่านตอนนี้น้องยังมีเวลา อย่างน้อยก็แกทแพทรอบสอง ขอให้อ่านเรื่องนี้เเล้วเป็นบทเรียน จะได้มีกำลังใจในการอ่านหนังสือ ถ้าน้องหยุดไปเเค่แปปเดียว ที่ทำมาทั้งหมดอาจจะหายไปเลยก็ได้
ปล.ตอนนี้เราซิ่วเเล้วนะคะ จะมาสู้กับน้องๆในแกทแพทรอบสอง มาสู้ไปพร้อมๆกันเนอะ
ตอนเเรกเราอยากเข้าคณะรัฐศาสตร์ มธมากๆ
-เตรียมตัวตั้งเเต่ม.4เทอมสองหาหนังสือมาอ่าน ศึกษาคะเเนน ศึกษาคณะทุกอย่างเเละวางเเผนเกรดของเเต่ละเทอม
-ไปค่ายเปิดถ้ำสิงห์ตอนม.5
-ระหว่างปิดเทอมม.5 ขึ้นม.6 เราไปเรียนพิเศษที่สยาม เรียนตั้งเเต่ 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่มจนกระทั่งจบคอร์ส พอกลับมาบ้านก็อ่านที่ไปเรียนมาอ่านแกทไทยเเละอิ้งควบคู่ไปด้วย พอเปิดเทอมมอหกด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดก็ไปเรียนที่สยามกิตติ์ทุกวันเสาร์ (ไปเช้าเย็นกลับ) วันอาทิตย์ตอนเช้ากลับมาเรียนพิเศษไทย (เตรียมคะเเนนโอเน็ต) ตอนเย็นอ่านแกท (เราตั้งใจเทเเพท เราเรียนจีนเเต่ไปสอบฝรั่งเศส5555) จันทร์-ศุกร์ตอนเย็นเรียนเอ็นคอนเซ็ป ตอนกลางคืนก็อ่านทุกอย่างสลับกันไปในเเต่ละวัน วันนี้อ่านแกทไทย พรุ่งนี้แกทอิ้ง วันต่อไปรัดสาด เราทำแบบนี้มาต่อเนื่องเรื่อยๆจนกระทั่งหลังปีใหม่ คือช่วงนั้นสอบแกทแพทไปเเล้ว สิ้นเดือนมกราจะเป็นสอบรับตรงของมธ. พอมาถึงหลังปีใหม่ ด้วยความที่ขี้เกียจ (อันนี้เเย่สุดๆ) เราก็อ่านหนังสือน้อยลง เเล้วคือสอบข้อเขียนรัฐศาสตร์มธ.จะมีเรียงความ ทั้งเดือนเราไม่เคยเขียนเรียงความเลย อันนี้เป็นความขี้เกียจที่เจ็บช้ำน้ำใจมากๆ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะเข้ามธให้ได้เเต่ตอนนั้นติดรับตรงที่อื่นเเล้ว ความขี้เกียจที่สะสมมาสองปีมันเริ่มถูกดึงมาใช้ เราเริ่มรู้สึกว่าเคยอ่านมาหมดเเล้ว อ่านมาเยอะเเล้ว พอรู้สึกแบบนั้นทำให้ไม่อยากอ่านหนังสืออีกต่อไป เรามาดูหนัง เล่นเกมเอาสนุก จนกระทั่งเหลืออาทิตย์สุดท้าย คือจะสอบวันเสาร์ที่จะถึงนี้เเล้ว เพิ่งมาเเบบเฮ้ย จะสอบเเล้ว คนอยากเข้าเยอะนะไรงี้ จะมาเร่งอ่านก็ไม่ทัน สรุปคือที่ออกสอบมีที่เราเรียนทั้งหมด เเต่เราลืมเอง ... ผลออกมาคือเราไม่ติด อันนี้รู้ตั้งเเต่เจอข้อสอบเเล้ว เท่ากับสองปีที่ทำมามันสูญมากๆ มาถึงตรงนี้อยากจะฝากถึงน้องๆว่าต่อให้เราอ่านมาเยอะขนาดไหน ต่อให้เหลือเวลาอีกเเค่วันดียว น้องก็ต้องอ่าน ไม่ใช่ว่าพยายามยัดมันลงในสมอง เเบบอ่านหามรุ่งหามค่ำ อยากให้น้องเเบ่งเวลา มีเวลาพักผ่อนด้วย มีเวลาอ่านหนังสือ ในขณะที่เราเล่น เพื่อนๆที่อยากเข้าคณะเราเขาอาจจะกำลังอ่านหนังสือ ตอนนี้พี่ผ่านมาเเล้ว พี่เสียใจนะกับการกระทำที่พี่ทำวันนั้น ทั้งเงินที่พ่อเเม่ส่งให้ไปเรียนพิเศษ คอร์สนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ทั้งค่าเดินทางค่านู้นนี่นั่น รวมๆเเล้วก็เกือบเเสน พอนับเป็นจำนวนเงินมันเยอะมากๆเเต่พอออกมาว่าสอบไม่ติด ไม่ใช่ว่าเราทำเต็มที่ คือตอนนั้นเรายังทำไม่เต็มที่ เพราะเราเอาเวลาที่จะอ่านไปดูหนังเล่นเกม เอาสนุกเเค่สองสามอาทิตย์ เเต่มันพลิกชีวิตเลย ถ้าน้องที่เข้ามาอ่านตอนนี้น้องยังมีเวลา อย่างน้อยก็แกทแพทรอบสอง ขอให้อ่านเรื่องนี้เเล้วเป็นบทเรียน จะได้มีกำลังใจในการอ่านหนังสือ ถ้าน้องหยุดไปเเค่แปปเดียว ที่ทำมาทั้งหมดอาจจะหายไปเลยก็ได้
ปล.ตอนนี้เราซิ่วเเล้วนะคะ จะมาสู้กับน้องๆในแกทแพทรอบสอง มาสู้ไปพร้อมๆกันเนอะ
แสดงความคิดเห็น
ชีวิต ม.6 กับการเข้ามหาลัย
ทั้ง แกทแพท กสพท เก้าวิชา รับตรงต่างๆ แอดมิชชั่น โอเน็ตอีก ถถถถถ ชีวิต
ไหนลองเล่าประสบการณ์แต่ละคนตอนนี้หน่อย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การสอบ ไม่ว่าสัมภาษณ์หรือสอบต่างๆ เผื่อรุ่นน้องจะเข้ามาอ่านกัน